แม่รักลูกเองไม่ต้องจ้าง..ห่วงลูกเองไม่ต้องจ้าง..หวังดีต่อลูกเองไม่ต้องจ้าง...คุ้มครองลูกเองไม่ต้องจ้าง
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
28 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
ม.6 แล้วคร๊าบบบ/ ผมจะเรียน...........ตอนที่1


เด็ก มอ.6 มักต้องเจอะเจอกับคำถามนี้
เรียนต่ออะไร อยากเป็นอะไร

ครับ  มอ.6แล้วต้อง มองอนาคตแล้ว จะเข้าคณะอะไรดี แพทย์ เภสัช  วิศวะ  สามอันดับยอดฮิตของเด็กสายวิทย์  แพทย์ เก่งอังกฤษ เก่งชีววิทยามีความจำดี  เภสัช วิชาเคมี มาอันดับหนึ่ง  วิศวะ  เน้นฟิสิกซ์ คณิตศาสตร์   

ผมจะเป็นโปรแกรมเมอร์ ผมจะสร้างเว็บไซด์  ผมจะสร้างเกม  ดังนั้นผมจะเรียนวิศวะคอม หรือวิทย์ศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์

ประโยคข้างบนคือ อดีตครับ  ตั้งแต่ ม.3  ผมคิดว่า...
ผมจะรียน วิศวคอม  ผมคิดว่า ใช่ 

จากความรู้เกี่ยวกับการซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่ผมได้เรียนรู้จากร้าน คอมพิวเตอร์ (แม่ตาลส่งผมไปเป็นเด็กฝึกงานประมาณประถม 5 ) เพราะ เห็นผมสนใจด้านนี้ (ปิดเทอม แม่มีกิจกรรมให้ผมมากมายแล้วผมจะเล่าให้ฟัง)ผมสามารถลงโปรแกรมได้ ซ่อมพื้นฐานได้ตั้งแต่ ยังไม่ขึ้น ม.ต้น  ผมคิดว่าผมชอบการทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ ผมชอบรียนรู้ระบบต่างๆของคอมพิวเตอร์  จากนั้นผมได้ศึกษาเพิ่มเติมจาก หนังสือ จากคอมพิวเตอร์ เรื่อยมา


บางครั้งเราไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เราชอบ นั้น มันใช่หรือไม่ 
จนกว่าจะได้ลงไปสัมผัสด้วยตัวเอง


การเข้าค่ายของนักเรียนคือการเตรียมความพร้อมของบันไดขั้นต่อไปในอนาคต
การเข้าค่าย คือการหาตัวช่วยมายืนยันว่า สิ่งนี้ใช่ ตัวเราหรือไม่ใช่





เมื่อปิดเทอมภาคแรก ของ ม.5  ผมไปเข้าค่าย หุ่นยนต์ ของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  การเข้าค่ายในครั้งนั้น ทำให้ผม ได้ประสบการณ์มากมาย ทั้งการทำงานร่วมกัน การอยู่ร่วมกัน กับเพื่อนต่างสถาบัน

พวกผมต้องสร้างหุ่นยนต์ โดยอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เขียนคำสั่งด้วยภาษาซี ตรงประเด็นนี้ ผมทำได้ดีด้วยมีความสนใจ อยู่ แต่เมื่อถึงการต่อแผง วงจรไฟฟ้า ผมกลับนั่งงง ในขณะที่เพื่อนที่มาจาก โรงเรียน สายอาชีวะ กลับทำเสร็จเรียบร้อยก่อนที่รุ่นพี่จะบรรยายจบเสียอีก  นับว่าเป็นข้อแตกต่างระหว่างเด็กสายสามัญและสายอาชีพอย่างเห็นได้ชัด  ในเรื่องของประสบการณ์ตรง ลงมือจริง ในขณะที่เด็กสายสามัญอย่างผม คงเน้นแต่ด้านทฤษฎี และด้านวิชาการ




จากวันที่ไปค่ายจนถึงเปิดเรียน มัธยม 6
เป้าหมายผมยังอยู่ที่เดิม
วิศวะคอมพิวเตอร์  

แต่ความสนใจที่หลากหลายของผม ยังวิ่งต่อไป  

เมื่อตอนที่ผมเล่นเทนนิส  ผมคิดอยากเรียนคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์

พอผมอ่านหนังสือ  "รู้แล้วเหยียบไว้ ของ วิน   เอี่ยมอ่อง  นักมายาจิต
ผมก็อยากเรียนคณะจิตวิทยา

ผมชอบถ่ายรูป
ผมชอบฟังเพลง
ผมชอบเล่นกีตาร์
ผมชอบอ่านหนังสือ

ผมจมอยู่หน้าคอม เพื่อตัดต่อเพลง
ผมโหลดโปรแกรมใหม่ ๆ มาใช้ 

คุณครู เรียกใช้ เมื่อคอมพิวเตอร์มีปัญหา 
มีงานโรงเรียน คุณครู เรียกหา เพื่อให้เป็นตากล้อง




ผมยังคงคิดว่าผมชอบ วิศวะคอมพิวเตอร์





สิ่งที่แน่นอน คือความไม่แน่นอน    ประโยค ที่ฟังแล้วแสนจะเชย 
แต่นั่น!........คือความจริง

จะด้วยเหตุ หรือปัจจัย ตัวแปร อะไรก็ตาม  ปิดเทอมปลาย ของม.5  ขณะที่ผมเิดินดูสินค้า
ในร้านขายเครื่องเขียน แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลกในระหว่างที่ผมไปเรียนพิเศษที่นั่น 

ชื่อร้าน  "ดินสอน้ำ" แค่ชื่อร้านก็กระแทกใจผม

ร้านดินสอน้ำขายอุปกรณ์เครื่องเขียน ปากกา สมุด กล่องดินสอ 

ที่มีดีโซน์ แตกต่างจากร้านอื่น  

                 ผมซื้อสมุดเพียงเพราะ ถูกใจหน้าปก

นี่แหละ.... สิ่งที่ผมชอบ ออกแบบ สินค้าเครื่องใช้ต่าง ๆ 
        ให้ดูมีสไตล์

รวดเร็วเท่าใจคิดหลังจากค้นข้อมูลจาก อากู๋ แล้ว

  "แม่....." ผมส่งเสียงไปตามสายโทรศัพท์ทันที 

"ผมจะเรียนออกแบบผลิตภัณฑ์...บล่า...บล่า"  

ออกแบบผลิตภัณฑ์ อยู่ในคณะสถาปัตยกรรม สาขาการออกแบบ ของมหาวิทยาลัยเทคโนลาดกระบัง   อยู่ในมัณฑนศิลปของศิลปกรอยู่ใน วิจิตรศิลป์ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่..................


ปัญหาคือ...................การสอบดรออิ้ง


*
*
*

"หนังสือพื้นฐานสถาปัตย์ หน้าปกสีดำ" หนังสือเล่มนี้ 

อาจารย์ แม่...โอ๊ะ   ไม่ใช่ครับ  อาจารย์ชิ้ง เพื่อนแม่ ผู้คร่ำหวอด ในวงการศิลป์ มื้อปั้นเด็กวิจิตรศิลป   เด็กถา'ปัดมาแล้วหลายรุ่น  แนะนำมาว่า

"ให้ซื้อหนังสือเล่มนี้ มาอ่าน ฝึกวาดภาพตามคำแนะนำไปก่อน เปิดเทอมมาคุยกัน"



"จากผลงาน..ขอวิจารณ์ตรง ๆนะ" อาจารย์ชิ้ง เอ่ยขึ้นหลังจากดูฝีมือดรออิ้งของผม

"ให้ 20  จาก 100"  ตรงมากเลยครับ  หัวใจผมหล่นวูบ เสียงวิ้ง... วิ้งดังก้องในหู

"แต่....ถ้ารักจริง ตั้งใจจริง ฝึกกันได้" อาจารย์ชิ้ง ให้กำลังใจ

"กลับไปถามตัวเองดูว่า ชอบจริงหรือเปล่า  เราต้องใช้เวลาอยู่กับศิลป ทั้งชีวิต หากเดินสายนี้
ทุก ๆวันต้องทำงานศิลป  เป็นวิชาชีพเฉพาะตัว ต้องทุ่มเท กายใจ  จะทำได้มั๊ย"

ผมยังคงนั่งนิ่ง

"ตอนครู เป็นเด็ก ครูนั่งวาดรูป ตลอดเวลา กระดาษวาดรูปรอบตัว เต็มโต๊ะ  ครูมีความสุขที่ได้วาดรูป"

อาจารย์ชิ้ง มองหน้าผม ด้วยแววตาปรานี "แล้วต้นล่ะ....มีอะไร ที่ต้นใช้เวลาอยู่กับมัน ขลุก อยู่กับมันได้ตลอดเวลา โดยไม่เบื่อ  มีหรือเปล่า"

ผมคิดไม่ออก จนครูชิ้งเอ่ยมาว่า  "ครูรู้มาว่า เธอมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ "



ปิ๊งงงง.....หนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เต็มโต๊ะ เข้าร้านหนังสือ ตรงดิ่งไปแผนกคอมพิวเตอร์ หน้าจอคอมของผมคือ โปรแกรม ต่าง ๆที่ผมสนใจ

ผมชอบตัดต่อเสียงเพลง ตัดต่อภาพ

ผมเดินยิ้มออกมาจากห้องพักครู 


ผมคิดว่าผมรู้แล้วนะครับ

(มีต่อ...ตอน2) 




ขอบคุณนายต้น ผู้เล่าเรื่อง เป็นแรงบันดาลใจ
ขอบคุณของแต่งบล็อกจากเนยสีฟ้า

อ่านเรื่องของผมตอนแรกครับ ตามลิงค์


ตอนผมจะเรียน ภาคจบ  //www.bloggang.com/mainblog.php?id=mama-thon




Create Date : 28 มิถุนายน 2556
Last Update : 4 กรกฎาคม 2556 14:21:10 น. 35 comments
Counter : 1833 Pageviews.

 
แวะมาเยือนตอนบ่ายๆขอรับ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:44:42 น.  

 
ขอบคุณสำหรับโหวตที่บล็อกนะคะ ^^


สวัสดียามบ่ายค่า ...

อ่านเพลินเลยค่ะ อิอิ
นายต้นจะค้นพบตัวเองหรือยังไม่รู้

แต่ที่แน่ ๆ ค้นพบแล้วตอนนี้คือนักเขียนเรื่องเล่าฝีมือฉกาจฉกรรจ์
เขียนได้น่าอ่าน ชวนติดตาม ...คุณแม่นายต้นนี่เอง เอาโหวตไปเลยค่า อิอิ ...

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Fanclub Blog ดู Blog
ตาลเหลือง Parenting Blog ดู Blog



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:06:29 น.  

 
อ่านแล้วอยากส่งกำลังใจให้น้องต้น
ไม่ว่าอยากทำอะไร
ขอให้ทำด้วยความสุข
และสนุกกับการเรียนรู้

จบหมอแล้วเล่นดนตรีเก่งก็มีเยอะ
จนบัญชีแล้วเป็นนักกีฬาที่เก่งก็มากครับ

ทุกการเรียนรู้บนโลกนี้
ใช้ปรัชญาเดียวกัน
คือสอนให้เรารู้จักแก้ปัญหาจากง่ายไปหายากด้วยวิธีการต่างๆ
จนกว่าจะค้นพบวิธีหาคำตอบที่ถูกต้องได้ครับ

ถ้ารู้เคล็ดลับนี้แล้ว
จะเรียนอะไร จบมาจะทำงานอะไร
ก็ไม่ยากที่จะมีความสุขและประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองทำครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:17:07 น.  

 
ปล. พู่กันเดียวนั้น
เวลาผมเขียน
ส่วนใหญจะเขียนรูปก่อนครับพี่
แล้วค่อยมาเขียนคำ
บางทีก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องวาดรูปอะไร
เขียนๆๆๆๆ แบบไม่ได้เรียงลำดับภาพครับ

แต่บางทีก็อาจเขียนคำก่อน
แล้วค่อยมาเขียนภาพ

แต่ผมชอบแบบแรกมากกว่าครับ
เพราะไม่มีเนื้อหาหรือถ้อยคำมากำหนดรูปแบบของภาพ

พู่กันเดียวส่วนใหญ่ภาพจะซ้ำๆนะครับพี่
ไม่ค่อยมีรูปอะไรแปลกๆ
เป็นเส้นสาน เป็นวงกลมเสียส่วนใหญ่ครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:18:48 น.  

 
มันมีหลายปัจจัยนะในเรื่องอาชีพในอนาคตน่ะ

ผมเคยอ่านบทความที่พระอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า ถ้าเอาความชอบของเราไปประกอบอาชีพ จริงอยู่เราไม่เบื่อ แต่เราอาจจะไม่สนุกกับมันอีกเลย เนื่องจากความกดดันจากสภาพแวดล้อม จากที่เราสนุกกับมันจะกลายเป็นเฉยกับมันไป เรื่องนี้ก็พูดยากเหมือนกัน


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:27:22 น.  

 
4854084775006823373151686879201n49umg.jpg
-----------------------
แวะมาทักทายหลังจากหายไปทำงานที่ระยองเสีย๖วัน เมื่อวานกลับมาก็ไม่ค่อยสบาย สงสัยกินทุเรียนมากไปหน่อย5555หวังว่าคุณตาล คงสบายดีนะคะ คิดถึงอยู่เสมอค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:36:58 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะ
แหม มันเป็นอะไรที่ตัดสินใจยากจริงๆ ค่ะช่วงนั้นเนี่ย ถ้ามีเป้าหมายที่แน่นอนก็ดีไป แต่ถ้าเลื่อนลอยอย่างหนูนี่ก็ไปตามยถากรรมค่ะ แหะๆ งานที่ทำตอนนี้ก็ทำเพราะเรียนมา ป่านนี้แล้วก็ยังไม่รู้เลยค่ะว่าอยากทำอะไรกันแน่ ช่างเลื่อนลอยจริงๆ ชีวิต
---
แหะๆ อยากจะเล่นน้ำเหมือนกันค่ะ แต่พอดีต้องนั่งรถอีกนาน มาถึงบ้านโป่งฝนก็หยุดตกแล้ว วันนั้นเลยโดนแต่ละอองฝน แย่จริงๆ

เพราะมัวแต่นั่งชื่นชมกับหนังสือนี่แหละค่ะ กว่าจะจัดเสร็จก็เลยปาไปหลายวัน พอถึงวันเพื่อนกลับก็เลยต้องรีบโกยเข้าตู้ เพราะกระจายเต็มห้องไปหมด ยังไม่ห่อปก ยังไม่ใสถุงครบเลย คิดว่าค่อยรื้อมาทำใหม่ แต่มีความสุขจริงๆ ค่ะ ได้อยู่กับหนังสือ (นิยาย) เนี่ย
หลับฝันดีนะคะ


โดย: ประกายพรึก วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:15:54 น.  

 
เขียนแล้วผมอ่าน ทำให้คิด....
ผมว่าคงมีหลายคน ที่กำลังค้น
หาตัวเอง ว่าชอบสิ่งไหน สิ่งไหน
ที่เรียนมาแล้วใช้ทำงานได้แล้วก็
ทำเงินได้พออยู่หรือทำให้มีฐานะดี

บางคนเรียนเพื่อจบ สาขาที่จบมา
ไม่มีงานรองรับเช่น...ไม่พูดดีกว่า

ไว้อัพบล๊อกเมื่อไรผมจะมาอ่าน
การตัดสินใจของน้องต้น

เอ..มาฉุกคิด น้องต้นเขียนเองหรือเปล่าครับข้างบน ผมว่า
เล่าเรื่องได้ดีมาก เกิดไปอีกทาง
แล้ว 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:22:21 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 1
เข้ามาอ่านแล้วได้อะไรเยอะมากค่ะพี่ตาล



โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:04:46 น.  

 
เดี๋ยวเขาก็จะค้นพบเอง

บางทีก็ต้องลองผิดลองถูกบ้าง
แต่สุดท้ายสิ่งที่ชอบคือหนทางสุดท้ายจริงๆ



โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:11:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ตาล








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:38:59 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ตาล

ไม่ว่าจะเลือกเรียนอะไรก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องต้น เรียนเก่งๆ นะคะ

เช้านี้เอาก๊วยจั๊บญวนมาฝากนะคะ



โดย: นุ้ย (ปริยาธร ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:50:55 น.  

 
จริงๆแล้วผมใช้พู่กันเดียวฝึกเรื่องของสมาธิเป็นหลักครับพี่ตาล

ความสวยงามของเส้นเป็นเรื่องรองลงมา

ความหมายในภาพจะรองรับความหมายของถ้อยคำมากกว่าครับ

รูปบางรูปผมเขียนซ้ำๆกันด้วยซ้ำ
เช่น ขีดเส้นตรง 1 เส้น หรือ ภาพวงกลม
เพียงแต่ด้วยสมาธิและจังหวะการเขียน
วงกลมนับร้อยนับพันวง
ก็จะไม่เหมือนกันเลยแม้แต่วงเดียวครับ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:11:04:18 น.  

 

ทานข้าวเที่ยงหรือยังคะพี่ตาล



โดย: อุ้มสี วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:11:35:24 น.  

 
~ ที่จริงอ้อน่าจะเรียนสัตว์แพทย์นะถ้างั้น เพราะสัตว์ทำให้อ้อนั่งอยู่ได้นานๆโดยไม่เบื่อ เอ๊ะไม่ได้ อ้อเกลียดการลาจาก เป็นสัตว์แพทย์อ้อคงนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่าวันละหลายรอบๆ เป็นอ้อแบบนี้คงดีและเหมาะสุดเแล้ว เพราะแบบนี้ อ้อถึงได้เจอพี่ ฮี่ ฮี่ เลี่ยนได้อีก 5555555555 ~


โดย: ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:19:39 น.  

 


สวัสดีค่ะ

ระยะนี้ปอป้าเจอมรสุมชีวิตหลายอย่าง
เสร็จจากงานศพลูกได้หนึ่งเดือน คิดว่าจะได้พักผ่อนเสียที
แต่คุณแม่ก็ต้องมาผ่าตัดตาด่วน ไม่อย่างนั้นตาจะบอด

เหนื่อยแค่ไหนก็ยังสู้ได้อยู่ค่ะ เพราะกำลังใจมากมายจากเพื่อนทุกคน
ที่สำคัญอาศัยพระธรรมคอยประคับประคองจิตใจตลอดมา
โชคดีที่ได้เห็นได้รู้พระธรรมมาก่อนที่จะเห็นทุกข์
พอทุกข์จริงทั้งหลายประดังเข้ามาก็เลยรับมือไหว

ขอให้ทุกท่านหาโอกาสศึกษาพระธรรมไว้บ้าง
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ทุกข์มาเยือน เราจะได้มีสติรับมือกับทุกข์นั้นได้
ทุกสิ่งผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน
คิดได้เช่นนี้ ชีวิตก็มีความสุขแล้วค่ะ

ขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ปอป้าเสมอมา...นะคะ

ป.ล. เผลอแป๊บเดียว ม.๖ แล้วคร้าบบบบ...



โดย: พรหมญาณี วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:41:32 น.  

 
ระหว่างความชอบกับความถนัด
ทำให้ตัดสินใจเลือกเข้าเรียนต่อคณะฯไหนดี?
ยากเหมือนกันเนาะ
มาเป็นกำลังใจครับ


โดย: moresaw วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:37:14 น.  

 
แวะมาส่งกำลังใจให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกค่า
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ ทำไงดี อิอิ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:02:51 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณตาล
วันนี้ตะลอนอยู่นอกบ้านค่ะ มีงานมีภารกิจตลอดทั้งวันเลย
แอบเล่นบล็อกผ่านมือถือค่ะ แวะเข้ามาบ้านคุณตาลแล้ว
แต่ต้องปิดทิ้งไป เพราะอ่านได้แค่ไม่กี่บรรทัดก็ต้องเงยหน้ามาเจรจา
พอจะอ่านต่อก็มีโน่นนี่นั้นมาขัดจังหวะทุกทีไป
มันช่างขัดใจเสียเหลือเกิน หุหุ

กลับมาถึงบ้านรีบเปิดคอม
แล้วค่อยๆ แวะเวียนทักทายบ้านเพื่อนทีละหลังที่ยังตกค้างอยู่
นอกนั้นตอบผ่านมือถือไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ
รู้สึกวันนี้ใช้เวลาได้คุ้มค่าจริงๆ เอิ๊กๆ
อ้าวว มัวโม้จนลืมบันทึกของน้องต้นเลย แห่ะๆ

อ่านแล้วทึ่งกับความสามารถของน้องต้น
ด้วยวัยอันน้อยนิดแต่มีความสามารถเกินตัวจริงๆ ค่ะ
โหยยย หากปอยมีปัญหาเรื่องคอมพิวเตอร์
ปอยให้น้องต้นมาดูแลแก้ไขได้ไหมเอ่ย อิอิ
จะได้ฝึกปรือวิชาไปในตัวด้วยไงค่ะ แหม๊ เอาเชียว อิอิ

พอขึ้น ม.6 แล้ว อะไรๆ ก็ดูจะรวดเร็วไปหมดเลยนะคะ
โน่นก็สนใจ นี่ก็อยากจะเรียน แหม รักพี่เสียดายน้องจัง
ปอยก็หวังว่าน้องต้นคงจะเลือกคณะที่ชอบได้ตรงใจนะคะ
แล้วจะติดตามอ่านบันทึกตอนต่อไปค่ะ
อยากรู้แล้วสิค่ะ ว่าน้องต้นจะตัดสินใจอย่างไร
แต่ตอนนี้ส่งกำลังใจให้ก่อนเลยค่ะ


เมื่อไม่กี่วันปอยเองก็ไปวัดหลวงพ่อมาเหมือนกันค่ะ
ปอยผ่านฉลุยเลย แต่คนที่เดินนำหน้าปอยไปไม่ผ่านค่ะ
ใส่เสื้อรัดรูป แล้วเสื้อด้านหลังก็เปิดโชว์แผ่นหลังด้วย
สรุปต้องใส่เสื้อคลุมเข้าไปค่ะ คนที่โดนใส่เสื้อคลุมเยอะมากเลยค่ะคุณตาล
รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เขาเคร่งมากเลยนะคะ
ไปวัดหลวงพ่อทีไร คนเยอะทุกที







โดย: แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:28:48 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ตาลกิ่งมาซะดึกมากมายต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า วันนี้กิ่งสอนยาวเลยค่ะกลับบ้านเข้าเน็ตไม่ได้อีกกว่าจะได้ก็ดึกมากมายค่ะ

ขอบคุณกำลังใจที่ให้นะคะ ตามมาอ่านบันทึกของน้องต้นอ่านแล้วขอให้กำลังใจน้องต้นนะคะ เพราะเด็กวัยนี้กำลังสับสนว่าจะไปเรียนทางไหนดีแต่น้องต้นโชคดีที่เจออาจารย์แนะนำได้ดีค่ะให้วาดรูปให้ดูก่อนถึงจะพบว่าตัวเองถนัดมากน้อยแค่ไหน และตอนนี้น้องต้นกำลังค้นพบตัวเองแล้ว จะเลือกอะไรดีน้อ อิอิ ขอเป็นกำลังใจให้น้องต้นนะคะ

กิ่งโหวตและไลท์ให้เลยค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Fanclub Blog ดู Blog
ตาลเหลือง Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

หลับฝันดีค่ะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:52:45 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณตาล

เป็นกำลังใจให้น้องต้นนะครับ
สิ่งที่แน่นอน คือความไม่แน่นอน
ลูกสาวเขียนภาพพิมพ์เขียวได้ดีมาก
แต่อยากเรียนวิศวมากกว่าสถาปัตย์
เอาไปเอามาไม่เอาสักอย่าง

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตาลเหลือง Parenting Blog ดู Blog


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:0:22:14 น.  

 
สวัสดีครับคุณตาล

เรื่องการเลือกคณะเรียนในช่วงเข้ามหาลัยนี่ สำคัญมากทีเดียว

อ.เต๊ะ เห็น นศ.หลายคนเข้ามาแล้วก็ออกไป เนื่องจากเรียนในสาขาที่ไม่ชอบ หรืออีกอย่างคือชอบแต่ยากเกินความสามารถ
เพราะฉะนั้นต้องตัดสินใจให้ดีๆ

อ.เต๊ะ พอจะแนะนำได้เรื่องนึงก็คือ
การเรียนในคณะที่เกี่ยวกับการออกแบบ เช่น สถาปัตย์ หรือ ออกแบบผลิตภัณฑ์นั้น เป็นคณะที่ นศ.จะต้องมีความพร้อมทั้ง
2ด้านคือ ศาสตร์ และศิลปะ
นศ.จะได้เรียนได้ฝึก กระบวนการคิดอย่างมีระบบ เป็นวิทยาศาสตร์ มีเหตุผล ที่มาที่ไป
แล้วยังต้องสามารถ แสดงแนวคิดในการออกแบบ ในรูปของศิลปะ
นั่นคือต้องมีฝีมือในการวาดการเขียน ด้วยมือ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงนี้ หลานต้นคงจะถนัดอยู่แล้ว
อีกประการคือ คณะที่เกี่ยวกับการออกแบบนี่ จะมีลักษณะเด่นคือ การบ้าน โปรเจค แต่ละวิชาจะแยะมากๆ นศ ส่วนใหญ่ กลางคืน จะไม่ค่อยได้หลับได้นอนกันเท่าไร เพราะฉะนั้นสุขภาพก็ต้องพร้อมด้วยนะครับ

สุดท้าย อ.เต๊ะ ขอเอาใจช่วยให้หลานต้นเลือคณะได้ตรงกับความถนัดและความสามารถนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Blog
ตาลเหลือง Parenting Blog ดู Blog




โดย: multiple วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:09:53 น.  

 
พี่ดีคะ เอเชียทีค ต้องทำใจกับคนเยอะนิดนึงนะคะ กลัวพี่ดีผิดหวัง แต่หนูไปหลายครั้งแล้วก็ไม่เลวร้ายเกินไปค่ะ คนละบรรยากาศกับเมกาบางนา แต่หนูชอบริมน้ำไงคะ เลยปลื้ม...

พอมีรับตรงมาเรื่อยๆ ก็จะมีคำถามมาเรื่อยๆ ติดหรือยัง เรียนที่ไหน ถ้าไม่ได้สอบก็จบไป แต่ถ้าสอบเราก็จะเจอคำถามอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ถามแม่ด้วย ถามลูกด้วย

สนามแรกของเด็กกรุงเทพฯ ก็นี่เลยค่ะ มศว. ค่าสมัครดุเดือดมาก ค่ะ 600 บาท หมอกไม่ได้สอบ... แต่เด็กส่วนมากอยากไปลองเพราะเป็นสนามแรก ถ้าผลออกมาว่าติด เทอม 2 เด็กๆ ก็เรียนกันแบบสบายๆ ได้เลยค่ะ ถือว่ามีที่เรียนแล้ว


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:18:28 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ตาล







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:32:42 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณตาล
ลุงกล้วยก็โดนหมาไล่งับน่องประจำครับ เคยใช้ประทัดเม็ดปาใส่ไม่ได้ผลฮ่าๆต้องปั่นหน้าตั้งอ่ะ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:35:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะพี่ตาล

ทานทะเลครกด้วยกันนะคะ



โดย: นุ้ย (ปริยาธร ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:7:04:47 น.  

 
แวะมาทักทาย ยามสายครับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:11:10:48 น.  

 

น้องต้นเขียนได้ถูกใจป้าเลย น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ สำบัดสำนวนก็ดี ไม่เยิ่นเย้อเยอะแยะ สั้นกระชับ เหมาะกับยุคสมัยคะแนนเต็มเท่าไหร่ป้า++ให้อีก



โดย: deco_mom วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:09:21 น.  

 
ผมเองสมัยเรียน
คิดว่าตัดสินใจเองได้หมดแล้วนะครับ
ว่าอยากเรียนอะไร
แต่สุดท้ายเรียนจบมาก็ทำงานไม่ตรงสายครับ 555

ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไร

ผมว่าที่สุดแล้วเรียนอะไรก็ได้
ถ้าประยุกต์เป็น
ตั้งใจเรียนรู้ หมั่นฝึกฝน
จะทำอะไรก็น่าจะทำได้

บางครั้งงานอดิเรก
อาจกลายมาเป็นอาชีพก็ยังได้ครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:40:10 น.  

 
สวัสดีครับคุณตาลเหลือง

เป็นเรื่องแปลกนะครับที่สิ่งที่ชอบอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด (สำหรับอนาคต)

พี่ชายผมเคยว่าให้ฟังว่า หากเราทำสิ่งที่ดีกว่าแม้ไม่ชอบ หากสำเร็จแล้วค่อยเอาเงินเอาทองไปทุ่มเทกับสิ่งที่ชอบเป็นงานอดิเรก

แต่ผมก็ยังเลือกทำสิ่งที่ชอบอยู่ดี แม้ไม่เจริญก้าวหน้านักจากปัจจัยต่าง ๆ แต่ก็ดีใจที่ได้ทำสิ่งที่ชอบ แล้วพอหันดูคนอื่นที่ทำสิ่งที่ไม่ได้ชอบนักแต่ประสบความสำเร็จแล้วเขาก็ทำสิ่งที่ชอบเป็นงานอดิเรกแบบสบายใจ

มาคิดอีกทีบางครั้งก็คิดว่า .... เอ...เราคิดผิดหรือเปล่านะเนี่ย

แต่ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็คงกลับไปแก้ไม่ทันแล้วละ และแม้ว่าจะไม่สบายนักกับชีวิต แต่เวลากลัดกลุ้มทีไรก็สามารถมาขลุกกับงานที่เราชอบให้หายกลุ้มได้ทุกทีละน่า

ดูให้ดีแล้วเลือกสักอย่าง อายุยังน้อยจะเปลี่ยนไปทางไหนก็ยังมีเวลา สำคัญที่ว่าทำอะไรก็ให้เต็มที่ก็แล้วกันครับ รถยังมีเกียร์ถอยเลย


โดย: find me pr วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:05:55 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ระยะวัยนี้ตัดสินใจยากกว่าสมัยพี่ตุ๊กละกันอย่าป้าเลย

สมัยก่อน เลือกชีวิตง่ายกว่านี้เพราะที่ต้องเลือกแคบกว่านี้มากมายค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:36:31 น.  

 

แวะมาทำหน้าที่จร้า



โดย: deco_mom วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:36:43 น.  

 
อยากบอกป้าดีว่าอาการแบบนายต้นอุ๊ก็เป็นค่ะ
แต่อาจจะไม่มีอะไรมากมายให้ค้นหาเหมือนเด็กสมัยนี้นะคะ
เพียงแค่ตอนนั้นยากที่จะตัดสินใจเรียนอะไร
แต่ก็เลือกได้ไม่มากนักหรอกนะคะ
ถึงแม้จะชอบและสอบเข้าเรียนได้แต่ปัจจัย ณ ตอนนั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้อุ๊เลือกเรียนสิ่ที่จบมาค่ะ
บางอย่างมาหาความรู้เอาด้านนอก ตามความชอบความถนัดของเราก็ได้ แต่ถ้าได้เรียนได้ศึกษาเพิ่มเติมจากสิ่งที่เราชอบอยู่แล้วอะไรๆมันก็คงง่ายมากค่ะ

ขอให้นายต้นเจอทางสว่างนะคะ สว่างในใจ อย่าได้มืดมนตอนตัดสินใจไปแล้วนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ มองดูหลายๆอย่าง ปรึกษาหลายๆคน
เชื่อว่านายต้นตัดสินใจได้แน่นอนค่ะ

ป้าดี สบายดีนะคะ อย่าได้เครียดกับนายต้นค่ะ
รักษาสุขภาพนะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:16:31:29 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ตาล



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ตาลเหลือง Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:15:50 น.  

 
สวัสดีครับพี่ตาล

ขอบคุณคำคมดีดีที่นำมาฝากที่บล้อกนะครับ

ชอบมกาเลยครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กรกฎาคม 2556 เวลา:8:27:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ตาลเหลือง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ตาลเหลือง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.