สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
19 กรกฏาคม 2554 สวัสดีโลกกว้าง
7 สิงหาคม 2554

ผ่านมาเกือบสามสัปดาห์ ตอนนี้กำลังเลี้ยงน้ำปายอยู่คะ

ทำให้ไม่มีเวลาจะ Up Blog และ ลืม ด้วยคะ (แหะ ๆ)

แต่มีคน ๆ หนึ่งที่จะทำให้วันนี้ต้องรีบมา Up Blog โดยด่วน

นั่นก็คือ พี่จอม คะ

ขอบคุณคะพี่จอมที่คอยติดตามข่าวคราวกัน



วันที่ 19 กรกฎาคม คือ กำหนดคลอด

ในวันที่ 16 ก็ไปหาหมอที่คลีนิกเพื่อแจ้งกำหนดคลอด

แต่พ่อป๊อกก็ยังอยากให้คลอดวันที่ 24 เพราะอยากได้ชื่อที่ชอบคือ

พงษ์พันธุ์ ซึ่งเป็นชื่อของปู่พงษ์ กับพ่อสรพงษ์

บวกกับนามสกุลตัวแรก คือ พันธุ์ศิริ

แต่ใช้ในวันอังคารไม่ได้เพราะ ง เป็นกาลกิณี

หมอตอบว่า ถ้าแม่ทนไหวก็ได้ แต่แม่ตอบเลยว่า ไม่ไหวแล้ว

จะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว

ผลการอัลตราซาวน์ในวันนี้ หมอบอกว่าน้ำหนักลูกประมาณ 2.8-2.9

ซึ่งเป็นเพียงการคำนวณโดยประมาณ


แม่ต้องไปนอนโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 18 โดยปู่พาไปส่ง

เพราะพ่อป๊อกไม่ว่างต้องไปทำงาน เลิกงานแล้วพ่อจะรีบมา

ช่วงบ่ายจึงเป็นป้าปุ้ยเป็นคนไปอยู่เป็นเพื่อนแม่

และตอนเย็น พี่น้ำปิงก็มาเยี่ยมแม่ด้วย


วันที่ 19 แม่ตื่นตั้งแต่ตี 5 คืนนั้นแทบไม่ได้นอน เพราะความกังวล

ไม่กลัวว่าจะต้องบล๊อคหลัง อยากให้วางยาสลบเหมือนครั้งแรก

แถมตอนตี 2 กว่า ก็เริ่มมีนัำเดิน คงจะเป็นกำหนดคลอดของ

หนูจริง ๆ จะเนี้ย แต่น้ำยังไหลออกไม่มากแม่จึงไม่ได้บอกพ่อและ

พยาบาล เมื่อตื่นมาแม่อาบน้ำและเตรียมพร้อม

พยาบาลเข้ามาใส่สายฉี่ให้ตอนประมาณ 6 โมงกว่า

แม่เกลียดการใส่สายฉี่มาก มันเจ็บ และทรมานเวลาปวดฉี่

เพราะโดยปกติคนเราจะอั้นฉี่ไว้ แต่เวลาเสียบสายฉี่จะไม่ให้อั้น

เพราะจะทำให้มันล้นออกมานอกสาย ทำให้แม่ยังต้องเดินเข้า

ห้องน้ำเวลาปวดฉี่อยู่ แต่ครั้งนี้โชคดีที่อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้ผ่าแล้ว

ไม่ต้องทนทรมานนาน ๆ เพราะหลังจากผ่าแล้วร่างกาย

ก็จะปล่อยฉี่โดยที่ไม่ต้องสึกตัวเลย

เวลา 8.00 น. พ่อกับแม่กำลังดูรายการ คนสู้โรคทางช่อง ThaiPBS

พ่อกับแม่ได้ออกโทรทัศน์ด้วยละ เพราะเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน

เราไปร่วมกิจกรรมที่สถานีกับเกี่ยวกับเรื่องโรคภูมิแพ้

เพราะตอนนั้นพ่อมีอาการหอบหนัก เราจึงตัดสินใจช่วนกันไป

เผื่อว่าจะมีช่องทางรักษา

ซึ่งก็ได้พบกับคุณหมอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ซึ่งท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ คือ คุณหมออรพรรณ

ไม่น่าเชื่อว่า เราพากันไปหาหมอที่ดัง และเก่งตั้งไกล

แต่หมอที่เก่ง ๆ ใกล้บ้านนิดเดียวก็มี กลับไม่รู้มาก่อนเลย


ขณะที่กำลังลุ้น ๆ ดูตัวเองในโทรทัศน์อยู๋นั้น เตียงเข็นก็มารับ

แม่กำลังโทรบอกให้ยายดูพ่อกับแม่ในโทรทัศน์อยู่เลย

เพราะยายก็ชอบดูรายการนี้เป็นประจำ


เมื่อไปถึงที่่ห้องผ่าตัด แม่ได้รับแจ้งว่าต้องผ่าโดยการบล๊อกหลัง

ทำให้แม่เริ่มกังวลมากขึ้น เพราะกลัวเกิดความผิดพลาด

ย่าของลูกเคยเล่าให้ฟังว่า เคยมีกรณีผิดพลาดทำให้เป็นอัมพาต

และเสียชีวิตหลังจากคลอดได้ 1 ปี

ระหว่างที่รอเวลา แม่เริ่มฟุ้งซ๋าน แม้จะทำสมาธิเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ

และสุดท้ายก็ปลอบใจตัวเองว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

มีบุญหรือกรรมก็จะได้รู้กัน แต่ก็ยังขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง

ให้เราสองแม่ลูกปลอดภัย


พยาบาลอธิบายถึงวิธีการต่าง ๆ ในการบล็อคหลัง

ซึ่งจะทำให้รู้สึกชาตั้งแต่ราวนมลงไป เป็นเวลาประมาณ 4 ชม.

โดยหลังจากฉีดยาแล้ว 1 ชั่วโมงจะเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่ราวนม

ไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงปลายเท้า

ระหว่างการผ่า แม่จะรู้สึกถึงการดึง รั้ง และจะแน่นหน้าอก

เมื่อหมอดึงหัวของลูกออกมา



เมื่อเวลาผ่าตัดมาถึง แม่ต้องนอนตะแคงข้าง และคุู้เข่า

เพื่อให้หลังงอมากที่สุด เพื่อให้หมอฉี่ยาเข้าไขสันหลัง

แม่พยายามตั้งสติ แต่พอโดนเข็มก็ยังสะดุ้งจนหลังแอ่น

จนพยาบาลต้องเตือน เมื่อยาถูกฉี่เข้าไปแล้ว

พยาบาลก็รีบจับนอนหงายให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะเริ่มชา

แม่รู้สึกวาบ ๆ เมื่อพยาบาลเช็ดแอลกอฮอล์

และทำการทดสอลฤทธิ์ยาก่อนผ่า เพื่อให้แน่ใจว่ายาออกฤทธิ์แล้ว

โดยใช้แอลกอฮอล์เช็ดที่แขน เปรียบเทียบกับจุดอื่น ๆ

ซึ่งรู้สึกถึงการสัมผัส แต่ไม่รู้สึกว่าเย็น

จากนั้นก็เริ่มใส่เครื่องช่วยหายใจ และขึงผ้าบังตา

แต่ตื่นเต้นและกลัวมาก ถ้ารู้สึกแบบนี้จะรู้สึกถึงการสัมผัส

เวลาที่หมอกีดมีดลงไปหรือเปล่า แม่จะตกใจไหม

เมื่อไหร่หมอจะเริ่มกีด สลับกับการทำสมาธิ

พุท โธ ๆๆๆๆๆๆ

แต่ใจก็ไม่สงบซักที ซักพักบุรุษพยาบาลก็บอกแม่ว่า

"จะแน่นหน้าอีกนิดหนึ่งนะ"

แม่งง ไหนบอกว่าถ้าหัวลูกออกมาแล้วจะแน่นหน้าอก

แต่นี้หมอยังไม่ได้ผ่าเลยนี่นา และแล้วก็ได้ยินเสียงนั้น

อุแว้ อุแว้ แม่รีบหันไปมองที่พยาบาลคนหนึ่งเดินออกมา

และเดินออกไปจากห้องพร้อมเสียงนั้น

อ่าว ผ่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไม่เอาลูกมาให้ดูก่อนหรอ

"ผู้ชายนะ" บุรุษพยาบาลบอกแม่

"สมบูรณ์ไหมคะ" แม่ถาม

"ดูคร่าว ๆ ก็สมบูรณ์ดีนะ" บุรุษพยาบาลตอบ

แม่เริ่มหายกังวลในสองเรื่อง คือการผ่า และลูก

จากนั้นหมอก็เริ่มเย็บแผล เครื่องช่วยหายใจถูกเอาออก

แม่รู้สึกหายใจไม่ออก จนบอกบุรุษพยาบาลก็ได้รับคำอธิบายว่า

จะรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องประมาณ 1 ชั่วโมง

ก็คลายกังวล และเคลิ้มหลับ แต่หูก็ยังได้ยินเสียงหมอคุย

เมื่อเย็บแผลเสร็จ หมอก็เดินมาบอกแม่ว่า

"หมอตัดไส้ดิ่งออกให้ด้วยนะ"

แม่พยักหน้าเข้าใจด้วยอาการเพลีย

เมื่อออกมาจากห้องผ่าตัด ต้องพักดูอาการครึ่งชั่วโมงก่อน

แม่เริ่มมีอาการคันตามตัว ซึ่งเป็นผลข้างเคียง

พยาบาลก็มาฉีดยาแก้คันให้ และแม่ก็ผลอยหลับไปอีก


เมื่อถูกเข็นออกมาเพื่อกลับห้อง ก็ได้เห็นพ่อป๊อกนั่งรออยู่

"เห็นลูกไหม" แม่ถาม

"เห็นแป๊บเดียวเอง" พ่อป๊อกตอบ

ย่าของลูกเดินมาสมทบ "หนักตั้ง 3 โล 4 แนะ"

แม่ตกใจเลย โอ้โห หนูหนักขนาดนั้นเชียว มิน่าหละ

แม่แทบจะเดินไม่ไหว เพราะแม่ตัวก็เล็ก หนูหนักตั้ง 3.4 กก.


แม่รีบโทรไปหายายเมื่อมาถึงห้องพัก เพื่อไม่ให้ยายกังวลใจ

ยายเครียดมาก เพราะกลัวไม่จะตกเลือดอีก

ยายบอกให้แม่ สังเกตุอาการตัวเองให้ดี มีเลือดออกมากหรือเปล่า

จะได้รีบแจ้งพยาบาลได้ทัน


พี่น้ำปิงก็มาด้วยนะ พี่มองแม่ด้วยสายตางง ๆ

ย่ารอรับน้ำปายมาตอน 11.30 น. แม่ยังขยับตัวได้ไม่มาก

จะต้องนอนเฉย ๆ จนถึง 16.00 น. แต่เริ่มขยับร่างกายได้บ้างแล้ว


น้ำปายคลอดเวลา 9.34 น. น้ำหนัก 3400 กรัม ความยาว 54 ซม.

หนูตัวใหญ่กว่าพี่น้ำปิงมาก พี่น้ำหนัก 2900 กรัม ความยาว 50 ซม.

ขนาดว่าความยาว 54 ซม. แล้วขาหนูยังโก่งอีก คงเพราะขนาดท้อง

ของแม่มันเล็ก ทำให้อยู่ต้องอึดอัด ขาโก่งอีกต่างหาก

น้ำปายตัวเหลืองอีกเหมือนกัน เพราะหนูเลือดกรุ๊ป B เหมือนพ่ออีกแล้ว

ทำให้ต้องส่องไฟหลายวัน จนได้ฉายาว่า "เด็กแก่ที่สุดในตึก"












Create Date : 07 สิงหาคม 2554
Last Update : 14 มิถุนายน 2556 11:15:59 น.
Counter : 819 Pageviews.

2 comments
  
ยินดีต้อนรับสู่โลกกว้างจร้า..หนุ่มน้อย..โตไวๆเด้อ..
โดย: ShiroOgon วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:22:34:35 น.
  
ขอบคุณครับพี่ได้อ่านในวันแม่พอดีเเห็นความลำบากของคนเป็นแม่น้ำตาจะไหล ดีใจนะครับน้ำปายสุขภาพแข็งแรงไม่รู้น้ำปิงเห็นน้องแล้วเป็นไงบ้างยืนมองใหญ่เลย.....ขอให้โตขึ้นเก่งๆฉลาดๆเป็นเด็กดีของแม่และทุกคนนะน้ำปาย
โดย: พี่จอม IP: 223.206.91.150 วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:16:33:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MalaiM
Location :
พระนครศรีอยุธยา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]