หนอนจิ๋ว
หนอนจิ๋ว (Microworm) ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้เลี้ยงปลาสวยงามแทบทุกคนต้องเจอะเจอเมื่อถึงคราวเพาะขยายพันธุ์ปลาตัวโปรดนั่นคืออัตราการรอดชีวิตของลูกปลาที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังซึ่งส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดอาหารเนื่องจากลูกปลาวัยอ่อนยังมีปากที่เล็กแคบกินอาหารได้เฉพาะที่มีขนาดเล็กกว่าและลูกปลาส่วนใหญ่มักไม่นิยมบริโภคอาหารสำเร็จรูปจึงกลายเป็นปัญหาที่ไม่เล็กสำหรับคนรักปลาเพราะอาหารสดทั่วไปมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับลูกปลาบางชนิด เช่น ลูกปลาปอมปาดัวร์ลูกปลากัด ลูกปลาม้าลาย ลูกปลาคิลลี่ ลูกปลาหางนกยูง เป็นต้นจึงทำให้ต้องมองหาอาหารชนิดอื่นๆแทน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชื่อของหนอนจิ๋วหรือ microworm( Panagrellus sp.) กลายเป็นที่รู้จักของคนรักปลาสวยงามขึ้นมา หนอนจิ๋ว หรือ microworm (Panagrellus sp.) มันเป็นหนอนที่ไม่ว่าจะโตขนาดไหนก็ยังเป็นหนอนอยู่ดีครับไม่มีการเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นอย่างอื่นเลย ตัวอ่อนเล็กสุดมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ไมครอน ยาว 80 ไมครอนตัวโตมีความยาว 80-140 ไมครอน (0.08-0.14 มม .) ตัวใหญ่สุดก็ยังเล็กกว่าขนคิ้วเราอีก สามารถจะมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นานประมาณ30 ชั่วโมง การสืบพันธุ์ของหนอนจิ๋วเป็นแบบมีเพศโดยเพศผู้จะมีหางหยัก ตัวเล็กกว่า และมีจำนวนน้อยกว่าเพศเมีย ซึ่งแม่ 1 ตัวจะให้ลูก 10-40 ตัวทุก ๆ 1-1.5 วัน ดังนั้น ตัวอ่อนจะเป็นตัวแม่ได้ในเวลา 3 วันซึ่งจะมีการเพิ่มขนาดถึง 3 เท่าในวันแรกและเป็น 5-6 เท่าในช่วง 3 วันต่อมา หนอนจิ๋วจึงเหมาะมากนี่จะมีไว้ใช้อนุบาลลูกปลาครับเพราะเป็นอาหารที่มีชีวิต มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาจึงสามารถดึงดูดความสนใจของลูกปลาได้ดี ทั้งยังอยู่ในน้ำได้นาน สะอาดไม่มีเชื้อโรคและที่สำคัญคือขยายพันธุ์ได้ง่าย ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ไปตลอดครับ สถาบันวิจัยอาหารสัตว์น้ำจืด กรมประมงได้วิจัยเกี่ยวกับหนอนจิ๋ว หรือ Microworms ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Panagrellussp. พบว่าหนอนจิ๋วเป็นอาหารมีชีวิตชนิดใหม่ที่นำมาใช้อนุบาลลูกปลาวัยอ่อนเพื่อทดแทนการใช้อาหารมีชีวิตอย่างอื่นเช่น ไรแดง และโรติเฟอร์ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หนอนจิ๋วมีข้อดีคือสามารถเพาะพันธุ์ได้ง่าย ใช้พื้นที่น้อย สามารถเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิปกติเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่าย มีต้นทุนการผลิตต่ำ ขณะที่ไรแดงและโรติเฟอร์นั้นมีวิธีการเพาะพันธุ์ค่อนข้างยุ่งยากใช้พื้นที่มากและปริมาณผลผลิตไม่แน่นอน จากการศึกษาวิจัยของกรมประมงพบว่าร่างกายของหนอนจิ๋วประกอบด้วยส่วนที่เป็นน้ำ 76% โปรตีน 9.6%ไขมัน 4.8% และส่วนอื่น ๆ อีก 9.6% และยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น โดยเฉพาะอาจีนีนและไลซีนซึ่งมีมากกว่าไรแดงและโรติเฟอร์ถึง 3 เท่าและยังมีกรดไขมันที่จำเป็นสูงกว่าไรแดงและโรติเฟอร์โดยเฉพาะโอไมก้า 6 ถึง 6 เท่า ส่วนประกอบคุณค่าทางโภชนาการ : (60%โปรตีน, 23% กรดไขมัน,7% ไขมัน, 5% ไกลโครเจน, 3% กรดอินทรีย์,และ 2% กรดนิวคลีอิค)อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของสัตว์น้ำวัยอ่อนด้วยดังนั้นจึงเหมาะสำหรับนำมาใช้อนุบาลลูกปลาวัยอ่อนที่จำเป็นต้องกินอาหารมีชีวิตหลังจากอายุ3 วันถึงขนาดตัวเต็มวัย หนอนจิ๋วเลี้ยงง่ายมากๆเลยครับขั้นตอนมีดังนี้ครับ 1. ใช้อาหารเด็กสำเร็จรูปพวกซีรีเร็คหรือเกอร์เบอร์(รสใดก็ได้ หนอนไม่เกี่ยง) ขนมปังแผ่น ( ปังปอนด์ ) ขนมปังเกร็ด ข้าวโอ๊ตเลือกใช้อะไรก็ได้ ดังที่กล่าวมา มาละลายน้ำให้พอแฉะๆใช้น้ำเปล่าๆจะเป็นน้ำดื่มหรือน้ำก๊อกก็ได้ครับโดยไม่ต้องทำการต้มหรืออุ่นแต่อย่างใดจัดการผสมพอให้เปียกทั่วถึงแต่ไม่ถึงกับแฉะจนเหลวผมพบว่าถ้าผสมจนเหลวเกินไปจะทำให้เสียเร็วครับ นอกจากอาหารเด็กสำเร็จรูปแล้วข้าวโอ๊ตหรือแม้แต่รำข้าวผสมนมก็ใช้ได้อาหารเน้นที่เป็นพวกคาร์โบไฮเดรตครับเอาตามแต่ความสะดวกหรือหาซื้อได้ง่ายครับ และถ้านำผงยีส(แบบที่ใช้ทำขนม)มาโรยหน้าไว้บางๆก็จะทำให้มีหนอนมากขึ้น 2. หลังจากเตรียมส่วนผสมแล้วก็นำส่วนผสมนั้นใส่ลงไปในภาชนะอะไรก็ได้หรือถ้าจะผสมไว้ในภาชนะตั้งแต่ต้นก็ไม่มีปัญหาภาชนะนั้นต้องมีฝาปิดชิดแต่ไม่ต้องถึงกับเป็นสูญญากาศทำการเจาะรูขนาดเล็กๆที่ฝาภาชนะ เอาพอให้อากาสถ่ายเทได้ แต่อย่าให้ใหญ่ถึงขนาดมดหรือแมลงวันลงไปได้เพราะว่ามดนั้นจะลงไปกินอาหารและหนอนในขณะที่แมลงวันจะลงไปไข่ทำให้เกิดหนอนแมลงวันซึ่งหน้าตาไม่น่ารักในภาชนะส่วนผสมของอาหารที่เตรียมไว้ควรให้มีความลึกสัก 1-2 ซ.ม.ก็พอ เพราะว่าหนอนจะอาศัยอยู่บนผิวของอาหารเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็นำหัวเชื้อหนอนจิ๋วใส่ลงไปแล้วก็ทำการคนให้เข้ากัน 3. เมื่อเสร็จแล้วท่านควรนำภาชนะไปเก็บไว้ในที่ร่มและในจุดที่เย็นของบ้านสัก 2-3 วันถ้าสังเกตดูให้ดีบริเวณผิวของอาหารจะกระเพื่อมเป็นระลอกขนาดเล็กๆซึ่งเกิดจากหนอนซึ่งจะว่ายไปมาให้ลักษณะตัว S ไม่เกิน1 อาทิตย์ก็จะมีหนอนขนาดเล็กมากๆสีขาวๆมาเกาะอยู่ตามขอบภาชนะเต็มไปหมดถึงตรงนี้ท่านจะใช้ นิ้ว,ไม้ไอติม, มีดหรือภาชนะใดๆก็ได้มาขูดหนอนออกจากขอบภาชนะแล้วก็นำไปจุ่มในขันน้ำสะอาดเพื่อล้างเศษอาหารที่ติดออกมาก่อนแล้วจึงนำที่หยอดตาหรือหลอดฉีดยาขนาดเล็กมาดูดหนอนจิ๋วออกไปให้ลูกปลาของท่านกินครับ 4. นานๆเข้าอาหารจะเริ่มเหลวและส่งกินเปรี้ยวหนอนจะเริ่มขึ้นมาเกาะที่ขอบภาชนะน้อยลง ก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกับที่ทำครั้งแรกแนะนำว่าควรจะทำไว้ 2-3 ชุดพร้อมๆกัน เพื่อกันพลาดถ้าท่านเลือกใช้สูตรอาหารเด็กหรือสูตรข้าวโอ๊ตวิธีที่จะทำให้หนอนจิ๋วอยู่ได้นานขึ้นก็คือต้องหมั่นกวนอาหารอยู่เสมอครับ หนอนจิ๋วนั้นเมื่อลงน้ำแล้วจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 30ชั่วโมง บางครั้งอาจอยู่ได้ถึง3วันเลยทีเดียวครับทำให้ลูกปลาซึ่งกินแต่อาหารที่เคลื่อนไหวมีโอกาสได้เลือกกินนานขึ้นอย่างไรก็ดีหนอนจิ๋วมีขอเสียตรงที่จะจมลงไปอยู่ที่พื้นตู้ทำให้ลูกปลาที่หากินบริเวณผิวน้ำหรือกลางน้ำหลายๆชนิดคลาดสายตาไปได้อย่างไรก็ดีหนอนจิ๋วซึ่งมีขนาดเล็กก็มีประโยชน์และสำคัญมากในการเพาะลูกปลาขนาดเล็กหลายชนิดเช่นปลาม้าลาย, ปลาเรนโบว์, ปลาแพะ และ ปลาคิลลี่โดยเวลานำหนอนจิ๋วมาให้กับลูกปลาที่หากินผิวน้ำและกลางน้ำอย่างปลาม้าลายนั้นท่านควรจะเลี้ยงลูกปลาในภาชนะที่มีน้ำตื้นแต่กว้างและท่านยังสามารถทำการคนๆน้ำให้หนอนปลิวฟุ้งขึ้นมาก็ได้ครับหนอนจิ๋วนั้นได้เปรียบอาหารเป็นสำหรับลูกปลาเช่น ลูกไรน้ำจืดเนื่องจากว่าเป็นอาหารที่เพาะในที่เลี้ยงซึ่งท่านสามารถที่จะหมั่นใจได้ว่าเป็นอาหารที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคแน่นอนครับ ข้อดีในการใช้ 1.มีจำนวนมาก 2.พร้อมใช้ได้ทันทีสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเตรียมข้ามวัน 3.สะอาดปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อพาราสิตเชื้อโรคที่ติดมากับอาหารจากธรรมชาติ 4.อยู่ในน้ำได้นาน 2-3 วัน 5.ไม่ต้องใช้แอร์ปั๊ม 6.ไม่ต้องใช้สารเคมีใดๆ อันจะนำไปสู่การเป็นหมันในปลาที่เลี้ยง 7.ใช้แทนไรแดงร่อนได้เพราะขนาดเล็กมาก 8.ขยายพันธ์เองได้อย่างง่าย 9.ที่สำคัญ ผู้เพาะเลี้ยงไม่จำเป็นต้องเป็นถึง นักวิทยาศาสตร์,นักชีววิทยา,นักเคมี ใครๆก็ทำได้ ข้อเสียในการใช้ 1.ใช้มากเกินไปน้ำอาจเสียได้ 2.นอนอยู่ก้นพื้น ลูกปลาบางชนิดอาจจะกินได้ลำบาก การดูแลและเก็บรักษา * ดูปริมาณน้ำในภาชนะไม่ให้มากหรือแห้งเกินไปจะทำให้หนอนจิ๋วมีปริมาณน้อยลง * อย่านำไปวางไว้ในที่อับชื้นเพราะอาจจะทำให้เกิดเชื้อราซึ่งทำให้หนอนจิ๋วตายได้ * ถ้าเป็นไปได้นำภาชนะที่ได้รับใส่เก็บไว้ในภาชนะใบที่ใหญ่กว่าเพื่อป้องกันแมลงและอุณภูมิที่เปลี่ยนแปลง สนใจหนอนจิ๋วเชิญทางนี้ครับ บทความอ่านเล่นที่จะเปิดวิสัยทัศน์ของคุณให้กว้างไกล
Create Date : 20 กันยายน 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2555 23:11:48 น. |
Counter : 6727 Pageviews. |
|
|
|