หากวันนี้คือกรวดทรายที่ไร้ค่า แต่วันข้างหน้าจะเจียระไนให้ได้มาซึ่งเพชรแก้ว
ให้แวววาวกระจ่างตา พร่างพราวกระจ่างใจ และแข็งแกร่งยากนักจะทำลาย

Love Stories เรื่องรักซีรี่ย์แรก ตอนที่ 10

Love Stories เรื่องรักซีรี่ย์แรก




ซีรี่ย์แรก ...รักบทใหม่กับหัวใจดวงเดิม





10.



ก๊อก.. ก๊อก.. ก๊อก..


“ใครวะ!!..”


มือที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้ายออกจากรังดุมถึงกับชะงัก เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ศักดารู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อย ลุกจากเตียง กำลังจะเดินไปที่ประตู ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นมาจึงเดินอ้อมไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งคว้าสิ่งของบางอย่างขึ้นมายัดไว้ที่ขอบกางเกงด้านหลัง หันมาติดกระดุมเสื้อคืนลวกๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้อง


“ใคร?..” ศักดาตะโกนถามกับอินเตอร์คอมหน้าห้อง


“ผมพิเชษฐ์..พนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ครับ”


“มีอะไร?” เขาถามกลับไปอีกเมื่อมองจากช่องที่ประตูแล้วพบว่าเป็นยามคนเดียวกับที่ยอมให้เขาเอาเงินฟาดหัวไปเมื่อสักชั่วโมงที่ผ่านมานี้


“คือมีเด็กมาเล่นซนที่ลานจอดรถแล้วปาก้อนหินไปโดนกระจกรถคุณศักดิ์แตกน่ะครับ ผมก็เลยรีบขึ้นมาแจ้ง และก็ให้เพื่อนที่จะมาเปลี่ยนเวรคืนนี้ล็อคตัวไว้อยู่ที่ป้อม ไม่งั้นเดี๋ยวจะหนีกันไปได้..” อีกฝ่ายตอบกลับผ่านอินเตอร์คอมเช่นเดียวกัน


“อะไรกันวะ!!..” อดีตผู้จัดการฝ่ายสบถออกมาอย่างหัวเสีย เปิดประตูพรวดออกไป ใจหวังจะไปเอาเรื่องไอ้เด็กแสบที่ทั้งทำข้าวของเขาเสียหาย ทั้งขัดจังหวะเวลาแสนสุขของเขา


โครม!!


เพียงแต่ทันทีที่เปิดออกไป ก็มีหมัดลุ่นๆ สวนกลับมากระแทกเอากลางแสกหน้า จนเขาผงะเซถอยหลัง คอเสื้อถูกกระชากพร้อมทั้งหมัดที่สองก็ตามมาติดๆ ไม่ให้ตั้งตัว


“ไอ้เลว!.. ไอ้หมาลอบกัด!! ทำได้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้..” เสียงตะคอกอย่างโกรธเคืองที่ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนจากบุรุษผู้สุภาพอย่างภาณุดังออกมา ยิ่งมองตรงเข้าไปยังประตูห้องนอนที่เปิดกว้างออกแล้วเห็นร่างที่นอนตัวงอด้วยความเจ็บปวดในสภาพคอเสื้อเชิ้ตเปิดกว้างเพราะถูกกระชากจนกระดุมกระเด็นหลุดหายจนแทบจะเห็นขอบเสื้อชั้นในของเจ้าตัว ความโมโหยิ่งพุ่งปรี๊ดขึ้นหน้า ชายหนุ่มยิ่งซัดอีกฝ่ายไม่นับ จนกระทั่งร่างที่ถูกเขาประทุษร้ายล้มคว่ำลงกับพื้น จึงเริ่มได้สติ รีบถลันเข้าไปในห้องนอน ปล่อยให้พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เขาบังคับให้พาขึ้นมา ยืนตะลึงมองการกระทำที่ผ่านมาอย่างทำอะไรไม่ถูก


“น้องเล็ก!!..”


เสียงตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงที่คุ้นหู อนุชพยายามลืมตามองอย่างค่อนข้างลำบาก ก็พอดีที่อีกฝ่ายถึงตัว พยายามประคองเธอขึ้นมาอย่างเบามือที่สุด


“พี่ณุ..” เสียงครางเรียกเบาๆ ในลำคอเนื่องจากความไม่เอื้ออำนวยของร่างกาย ไม่มีกระทั่งแรงจะโผเข้าหาดังใจ น้ำตาของอนุชได้แต่ไหลพรากออกมาอย่างสุดกั้น ภาณุจึงรั้งร่างของหญิงสาวเข้าไปโอบไว้ทั้งตัว กอดปลอบขวัญทั้งหญิงสาวและตัวเขาเอง ..โล่งอกที่ยังไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับหญิงคนรัก


ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทตัวนอกของตนออกเอาไปคลุมให้อีกฝ่าย มองเห็นมุมปากที่มีคราบเลือด แทบอยากจะปาดเข้าใส่คนที่บังอาจทำเช่นนี้กับดวงใจของเขาอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่าหญิงสาวในอ้อมกอดต้องการการปลอบโยนมากขนาดรั้งชายเสื้อเขาแน่น ภาณุจึงได้แต่หันกลับมามองร่างที่พยายามจะหยัดตัวขึ้นอย่างยากลำบากด้วยสายตาเคียดแค้นอย่างไม่เคยส่งให้ใครมาก่อน แล้วจึงหันไปออกปากกับยามหนุ่มแทน


“ฝากนายช่วยเฝ้าไว้ก่อน เดี๋ยวตำรวจก็น่าจะตามมา”


รปภ. หรือยามที่มีชื่อว่าพิเชษฐ์นั้น จึงได้ตรงเข้าไปช่วยดึงคนที่เป็นเจ้าของห้องนี้ให้ลุกขึ้นเพื่อจะจับตัวและเฝ้าไว้อย่างที่ภาณุบอก ซึ่งเพราะชายหนุ่มสัญญาว่าจะไม่เอาความเรื่องที่เขาเห็นแก่เงินช่วยเหลือให้นายศักดาพาผู้หญิงที่กำลังหมดสติคนหนึ่งขึ้นห้องได้โดยง่าย บอกจะให้การว่าเขาไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย ดังนั้นตอนนี้ให้พิเชษฐ์ทำอะไร เขาก็ยินดีที่จะทำทั้งนั้น


สั่งเสร็จ ภาณุก็หันกลับไปจะช้อนตัวหญิงสาวขึ้นอุ้มเพื่อจะพาออกไปจากห้องพักนี้เสียที ไม่คิดจะอยู่มองหน้าคนโฉดนานไปกว่านี้ เพราะเกรงว่าตนเองอาจจะทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาทำอะไรคนที่ถูกเขาซัดหมอบไปแล้วนั่นอีก กลัวว่า.. แทนที่จะเป็นแค่สั่งสอน อาจจะกลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาไป ยังไงซะกฎหมายก็จะต้องลงโทษนายศักดา คราวนี้พี่ชายของอนุชคงไม่ปล่อยให้รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับที่ผ่านมาอีกแล้ว ในเมื่อใช้ไม้อ่อนแล้วถูกลอบกัดแบบนี้ อเนกคงใช้ไม้แข็ง ไม่มีทางโอนอ่อนอภัยให้อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตอีกต่อไปเป็นแน่


หัวหน้าฝ่ายหนุ่มจึงไม่คิดจะสนใจอดีตหัวหน้าตนเองอีกต่อไป คิดว่ายังไงซะเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เขาฝากให้พี่ชายของอนุชจัดการแจ้งให้แทนคงจะตามมาในไม่ช้า แต่ภาณุไม่ทันจะนึกเลยว่า.. งูเห่าพิษ..ถ้าไม่ตีจนแน่ใจว่ามันตายไปแล้ว ก็อย่าเพิ่งได้ไว้วางใจ เพราะเมื่อมันฟื้นแรงกลับคืนมา มันก็รอโอกาสย้อนฉกกลับคนที่ตีมันนั่นแหละ ฉันใดก็ฉันนั้น.. เมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แค่จับที่ต้นแขนหลังจากที่พยุงนายศักดาขึ้นได้แล้วและไม่คิดจะล็อคตัวเช่นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวผู้ร้าย พอเผลอ ร่างที่ไม่น่าจะหลงเหลือเรี่ยวแรงอะไรอีก ก็สะบัดตัวอย่างแรง จนมือที่ยึดไว้หลวมๆ ของยามหนุ่มหลุดออก อีกทั้งเกือบจะล้มเพราะตั้งหลักไม่ทัน และทันทีที่ฝ่ายนั้นหลุดพ้นจากพันธนาการ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยวนาที..


เปรี้ยง!..


เปรี้ยง!!



“ม่ายยยยย!!.......”


“เล็ก.. ยัยเล็ก..”


อเนกตรงเข้าไปข้างเตียง คว้าตัวและร้องเรียก ทันทีที่เห็นร่างบางของน้องสาวที่ผวาตื่นขึ้น ตะโกนร้องอย่างสุดเสียง


“พี่ใหญ่..” อนุชโผเข้าหาอีกฝ่ายทันที “พี่ใหญ่.. พี่ณุ.. พี่ณุ..” เอ่ยออกมาได้แค่นั้น ก็ร้องไห้โฮออกมา เหตุการณ์ต่างๆ ไหลทะลักเข้ามาในความทรงจำ


หญิงสาวจำได้ว่า ขณะที่ภาณุกำลังจะช้อนตัวเธออุ้มขึ้นจากเตียงนั่นเอง เธอก็ได้ยินเสียงกระสุนปืนดังขึ้นสองนัดซ้อน แล้วร่างของชายหนุ่มที่บดบังเธอจากวิถีแห่งมัจจุราช ค่อยๆ ทรุดลงตรงหน้า แล้วเสียงกรีดร้องสุดท้ายก็ออกจากปากตนเอง ก่อนจะหมดสติตามไปอีกคน .. หลังจากนี้จะมีเหตุการณ์วุ่นวาย ใครจะทำอะไรอีก เธอก็ไม่รับรู้จนกระทั่งฟื้นมาเห็นหน้าพี่ใหญ่ของตนในตอนนี้


“ใจเย็นๆ เล็ก.. ใจเย็นๆ ก่อน”


“พี่ณุถูกยิง.. พี่ณุบังไม่ให้กระสุนปืนมาโดนเล็ก พี่ใหญ่.. พี่ณุจะตายไหม พี่ณุ..” ภาพเลือดสดๆ ที่ทะลักออกมาจากตัวชายคนรักต่อหน้าต่อตาก่อนจะล้มลงในอ้อมแขนเธอเองนั้น ทำให้อนุชกลัวว่าจะฟื้นตื่นมาแล้วพบว่าเขาอาจจะไม่ได้อยู่กับเธออีกต่อไปแล้ว


“หมอกำลังช่วยอยู่นะเล็ก หมอกำลังผ่าตัดให้เลือดภาณุอยู่.. พี่เชื่อว่าเขาต้องฟื้น พี่ณุของเล็กไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ ภาณุต้องอยู่คอยปราบพยศเราต่อไปอีกนาน .. แต่ตอนนี้เล็กนั่นแหละที่ต้องพักก่อน เชื่อพี่เถอะ เล็กนอนหลับ ตื่นมาอีกที พี่ณุเขาก็ฟื้นขึ้นมาพอดี” อเนกพยายามรั้งร่างน้องสาวให้นอนลงตามเดิม ลูบศีรษะเบาๆ อย่างปลอบโยน สักพักฤทธิ์ของยาที่ยังคงเหลืออยู่ในร่างกายจึงทำให้หญิงสาวหลับลงไปอีก แม้ว่าจะมีคราบน้ำเกาะพราวอยู่ที่ขนตางอนนั้นก็ตาม .. ชายหนุ่มไม่คาดคิดเหมือนกันว่า น้องสาวผู้เก่งกล้า ไม่กลัวใคร และเอาแต่ใจตัวอย่างเหลือร้ายนั้น ยามมีความรักแล้วรู้สึกว่าจะสูญเสียสิ่งที่รักไป จะกลายเป็นคนอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้.. เขาก็ได้แต่ภาวนาว่า เหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าการที่น้องเล็กของเขาถูกจับตัวไปแล้วเกือบถูกข่มขืนจะไม่เกิดขึ้น .. ผู้ที่ช่วยน้องเขาให้รอดพ้นมาได้ ก็สมควรจะปลอดภัยกลับมาเช่นเดียวกัน


ประธานบริษัทหนุ่มยังคงอยู่เฝ้าน้องสาว จนกระทั่งภรรยาพามารดาและนิศากรตามมาสมทบและอยู่เฝ้าอนุชแทน เขาจึงเลี่ยงไปรอฟังข่าวที่หน้าห้องไอซียูซึ่งภาณินและพงศกรก็ยังยืนรออย่างใจจดใจจ่อเช่นเดียวกัน


ทั้งที่คิดว่าเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ในขึ้นวิกฤต แต่ก็นับว่ามีเรื่องให้อเนกอดที่จะให้นึกขำขึ้นไม่ได้ อนันต์..น้องชายของเขาอาสาเป็นผู้บริจาคเลือดให้หัวหน้าฝ่ายผลิตของเขา เข้าไปนอนให้เลือดอยู่ในห้องผ่าตัดด้วย .. ทำไมเขาจะไม่รู้.. น้องชายกลางของเขานี่แหละที่เป็นตัวการหนึ่งให้สองคนนั่นทะเลาะกันยืดเยื้อมาเป็นอาทิตย์ ไม่รู้ว่าที่ทำเพราะสำนึกผิด หรือเห็นแก่มนุษยธรรมกันแน่


..และถ้าผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ อเนกเริ่มจะเล็งเห็นแล้วว่า น่าจะมีบางคนที่นิสัยเปลี่ยนไป อย่างน้อยๆ มีให้เห็นแล้วสองคนด้วยกัน น้องชายกับน้องสาวของเขานี่แหละ..


นึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา.. พอภาณุรู้ว่าอนุชถูกนายศักดาจับตัวไป โดยขอข้อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสิบล้าน ชายหนุ่มก็โทรมาบอกเขาทันที ซึ่งพวกเขาทั้งหมดไม่มีใครคิดสักคนว่าเมื่อได้เงินสิบล้านแล้ว อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตจะยินยอมปล่อยอนุชให้กลับมาอย่างดีโดยจะไม่มีอะไรในร่างกายที่บุบสลาย เขาเองก็กังวลพอๆ กับภาณุว่านายศักดาอาจจะทำอะไรน้องเล็กเขามากกว่าแค่การจับเป็นตัวประกันแลกเปลี่ยนเงินเฉยๆ .. ทั้งๆ ที่ร้อนรนแต่ก็ไม่อาจทำอะไรต่อไปได้ พวกเขาอับจนหนทาง ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวนายศักดาที่ไหน โทรเข้าบ้านก็ไม่มีคนรับสาย จะแจ้งตำรวจเรื่องคนหายก็ยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง จะให้เจ้าหน้าที่ช่วยคลำทางก็กลัวว่าจะกระโตกกระตากให้อีกฝ่ายรู้ และยิ่งทำอะไรรุนแรงอาจถึงขึ้นชีวิตของน้องสาวเขา บางที..สุนัขจนตรอกอาจจะตัดสินใจทำอะไรโดยไม่สนว่าตัวเองจะเป็นอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะเท่าที่ผ่านมา นายศักดาก็ทำให้เห็นว่าทำได้ทุกอย่าง กระทั่งจับตัวคนไปทั้งคน เย้ยกฎหมายได้อย่างหน้าตาเฉย เขาก็ทำมาแล้ว นับประสาอะไรจะไม่กล้าทำอะไรที่เลวร้ายมากกว่านั้น


แต่ก็ยังถือว่าโชคยังเข้าข้างพวกเขาอยู่ ในช่วงเวลาที่ท้อเพราะไม่รู้จะตามรอยอนุชไปทางไหน กานดาก็เป็นคนโทรมาบอกให้ภาณุฟังว่า เธอได้รับโทรศัพท์จากเยาวพา..อดีตหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่ติดร่างแหถูกให้ออกไปพร้อมนายศักดานั่น ว่าเป็นคนโทรเล่าให้ฟังถึงแผนการที่จะบินออกจากเมืองไทยของศักดาหลังจบงานนี้ รวมทั้งแหล่งกบดาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นสถานที่ที่ทั้งคู่เคยใช้เป็นที่พลอดรักกันนั่นแหละ เยาวพากลับใจได้..ไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกกับอเนกโดยตรง จึงได้แต่โทรบอกให้กานดา เพราะเป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อน ผู้ช่วยเลขาฯ เขาเองก็เถอะ.. ต่อให้เป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์ ไม่ค่อยสนใจอะไร ได้แต่ชายหูชายตากับผู้ชายไปวันๆ หรือแม้แต่จะหมั่นไส้อนุชแค่ไหน เธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำที่ถึงขนาดปล่อยให้เกิดเรื่องร้ายกับน้องสาวเขาทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอก ประกอบกับสำนึกในเรื่องที่ตนเคยทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดกับหัวหน้าฝ่ายผลิตของเขา หญิงสาวก็เลยตัดสินใจโทรเล่าให้ภาณุฟัง


ทว่าวิศวกรหัวหน้าฝ่ายผลิตของเขาใจร้อนเกินไป พอทราบเรื่อง โทรมาบอกเขา ตนเองก็ตัดสินใจล่วงหน้าไปยังคอนโดฯ นายศักดาก่อน ปล่อยให้พวกเขาเป็นคนแจ้งตำรวจและตามไปที่หลัง และเมื่อไปถึงก็ทันเห็นชายหนุ่มที่บุกเดี่ยวโดนยิงเข้าไปหนึ่งนัดพอดี นายตำรวจมือปราบที่นำพวกเขามาจึงตัดสินใจยิงปืนไปหยุดไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทำร้ายใครเพิ่มมากไปกว่านี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าจับกุมนายศักดาในข้อหากังขังหน่วงเหนี่ยว มีอาวุธในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งดูจะร้ายแรงที่สุด ที่อาจจะทำให้หมอนั่นไม่ได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันได้ง่ายๆ อีกต่อไป ส่วนเยาวพาและยามที่เขาเจอในที่เกิดเหตุก็ถูกกันไว้เป็นพยาน ทีนี้ก็ได้แต่รอ.. ว่าขอให้เป็นแค่พยายามฆ่า อย่าให้ต้องกลายเป็นการฆ่ากันไปจริงๆ เลย.. เพราะคงไม่ใช่แค่การฆ่าภาณุให้ตายเท่านั้น น้องสาวของเขาก็อาจจะถูกฆ่าให้ตายทั้งเป็นเช่นกัน



“เมื่อไหร่พี่ณุจะรู้สึกตัวคะ หมอบอกว่าพี่ณุหายแล้วไม่ใช่เหรอ.. แต่สามวันแล้วนะคะพี่ณุ.. สามวันแล้วที่พี่ณุยังนอนหลับอยู่อย่างนี้..”


อนุชยกแขนข้างว่างของร่างที่ยังหลับสนิทขึ้นแนบหลังมือ ที่มาบัดนี้ซูบลงไปถนัดตากับใบหน้าตนเอง นัยน์ตาคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ


..ทั้งๆ ที่คณะแพทย์บอกว่าภาณุพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่สามวันผ่านมาชายหนุ่มก็ยังคงนอนหลับไหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขาหลับราวกับร่างไร้วิญญาณ.. ราวกับปรารถนาจะนอนสงบนิ่งอยู่อย่างนั้นตลอดไป


“ไหนพี่ณุเคยบอกว่าเราจะกลับไปเป็นอย่างเมื่อก่อนไงคะ แต่ไม่ทันไร.. พี่ณุก็จะไม่ยอมอยู่ปราบเด็กดื้อคนนี้แล้วหรือไง .. กานดาเขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้เล็กฟังแล้วนะคะ เล็กรู้แล้วว่าเล็กเข้าใจผิดไปเอง ตอนนี้เล็กก็ทำผิดอีกแล้วใช่ไหมคะ เพราะเล็ก.. พี่ณุจึงต้องเป็นแบบนี้ เล็กทำตัวไม่ดีอีกแล้วใช่ไหม พี่ณุถึงได้ไม่ยอมตื่นมารับฟังคำขอโทษจากเล็กเสียที..” ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่เคยเห็นร้องไห้ให้กับเรื่องอะไรสักเท่าไหร่ ยกเว้นก็แต่ตอนที่คิดว่าภาณุหลอกลวงในครั้งนั้น มาบัดนี้น้ำตาก็ไหลออกมาได้ง่ายๆ อีก หรือที่จริง.. เธอเองก็มีอีกด้านที่เป็นคนอ่อนแอแฝงอยู่ในตัวลึกๆ


ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าการผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดี โชคดีที่กระสุนไม่ได้ถูกอวัยวะสำคัญจนทำให้ชายหนุ่มถึงแก่ชีวิต เพียงแต่ร่างกายเขายังอ่อนแอ เนื่องจากเสียเลือดมาก อีกทั้งความอิดโรยที่มีมาก่อนหน้านี้จึงทำให้ฟื้นตัวได้ช้ากว่าปกติ.. แต่ทั้งที่ก็รู้ว่ายามนี้ภาณุแค่ยังหลับอยู่เท่านั้น แต่อนุชก็ยังไม่อาจพึงใจ หญิงสาวอยากเห็นเขาฟื้นลืมตาตื่นขึ้นเสียที อยากจะเป็นคนแรกที่เขาตื่นขึ้นมาพบ.. อยากจะพูดขอโทษในความดื้อดึงของตนให้ชายหนุ่มได้ต่อว่าในความไร้เหตุผลนั้น.. อยากได้ยินเสียงทุ้มๆ เช่นเดียวกับที่เขาพูดหวานๆ ใส่จนทำให้เธอหน้าแดงไปเสียทุกครั้ง .. อยากได้ยินอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ภาณุนอนนิ่งๆ ไม่รับรู้อะไรอยู่อย่างนี้






Create Date : 29 มกราคม 2550
Last Update : 29 มกราคม 2550 18:47:35 น. 3 comments
Counter : 244 Pageviews.

 



มาอ่านตอนแรกจ้า


โดย: icebridy วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:19:52:01 น.  

 
เพิ่งตอน 10 เองเหรอจ๊ะเนี่ย...


โดย: ดวงตะวัน (Doungtawan ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:20:05:07 น.  

 
แวะมาอ่าน และมาทักทาย ยังคิดถึงน้องเล็กอยู่ค่ะ


โดย: ดาว..กลางวัน (ดาว..กลางวัน ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:22:07:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Katenipa
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






(รายละเอียดข้อมูลอัพเดตเจ้าของบล็อกติดตามได้ในหน้า "สมุดเยี่ยม" เลยนะคะ ^ ^)




ชักเริ่มจะเปลี่ยนแนวจากบ้าซีรี่ย์เกาหลี มาเป็นย้อนยุคกลับไปสู่หนังจีนกำลังภายใน และวกกลับมาคลั่งไคล้แดนปลาดิบ ณ บัดนาว ^ ^





ตัวฉัน(มั้ง) ^ ^"


มนุษย์(ธรรมด๊า ธรรมดา)เดินดินกินข้าวแกง(รวมถึงอาหารอื่นๆ )ไปตามประสา แค่บางวันอาจอยากกินก๋วยเตี๋ยวบ้างก็เท่านั้น เพศคงไม่ต้องบอกกันล่ะเนอะ คิดว่าเห็นจากรูปถ่าย + เวลาพูดคุย ก็น่าจะรู้(หรือเปล่า - -') ส่วนอายุ.. ความลับดีก่า กรั่กๆ .. แบบหยุดไว้ที่ 18 ส่วนที่เพิ่มมาฝากธนาคารทั้งนั้น เหอๆ .. สำหรับอาชีพ.. ตอนนี้ไม่วิจัยฝุ่นเพิ่มภาวะภูมิแพ้อากาศให้กะตัวเองและเพื่อนๆ แล้วนะ ..เพราะตอนนี้คือ pharmacist เต็มๆ ตัวแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนงานโดยลาออกจากเภสัชกรโรงพยาบาลไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็กำลังจะได้งานใหม่ คิดว่าน่าจะสบายขึ้นเล็กน้อยเพราะเลือกทำพาร์ทไทม์ค่ะ แบบอยากหาเวลาว่างในการทำงานอดิเรกที่ชอบ แต่ไหงงานพาร์ทไทม์ที่ได้กลับกลายว่าทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน วันละ 8 ชม. ไม่ต่างจากงานประจำเลยง่ะ - -"

แล้วตกลงว่าจะได้ว่างไหมยังไม่แน่ใจเลยนี่ เฮ้อ..


อื่นๆ ก็ไม่รู้จะบอกอะไรอีกแล้วล่ะ ปล่อยๆ ให้มันเป็นไปตามวิถีของมันไปแล้วกันเน้อ.. ^ ^


..........

อัพเดตเพลงใหม่..









ยังไม่มีเพลงติดบล็อกใหม่ๆ ไปฟังเสียงผิวปากของอีวานใน Heaven's tree กันค่ะ (ไม่รู้จะชวนหลับหรือเปล่า ^ ^")






ปล. อัพเดตโปรไฟล์ส่วนตัว 26/10/2006 ค่ะ ^ ^


Guestbook




Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Katenipa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.