หากวันนี้คือกรวดทรายที่ไร้ค่า แต่วันข้างหน้าจะเจียระไนให้ได้มาซึ่งเพชรแก้ว
ให้แวววาวกระจ่างตา พร่างพราวกระจ่างใจ และแข็งแกร่งยากนักจะทำลาย

Love Stories เรื่องรักซีรี่ย์แรก ตอนที่ 9


Love Stories เรื่องรักซีรี่ย์แรก




ซีรี่ย์แรก ...รักบทใหม่กับหัวใจดวงเดิม





9.



"หมายความว่าคุณเล็กเข้าใจผิดเรื่องผมกับดา.."


ภาณุปล่อยเสียงครางลอดออกมาทันทีที่ฟังเรื่องจากปากผู้ช่วยเลขาสาวอย่างละเอียด


"เขาเห็นพวกเราในวันที่ผมพาดามาเลี้ยงขอบคุณเรื่องที่ช่วยเหลือให้ข้อมูลของคุณศักดากับคุณเยาว์แล้วตีความคิดไปเองเสร็จสรรพนี่นะ ทำไมถึงไม่ยอมถามสักคำ.."


เกือบจะนึกเคืองน้องสาวประธานบริษัทอยู่แล้วถ้ากานดาไม่เอ่ยสิ่งต่อมา


"ดาเป็นคนทำให้คุณเล็กเข้าใจผิดเองแหละค่ะ.. วันที่คุณณุโทรมาเลื่อนนัดคุณเล็กเพราะจะเคลียร์งาน ดาก็แกล้งโทรไปหาคุณณุทวงรางวัลเรื่องที่ช่วยหาข้อมูลเรื่องคุณศักดิ์กับพี่เยาว์ให้ ..ดารู้ว่ายังไงคุณณุก็คงไม่กล้าปฏิเสธ ยิ่งดาบอกว่าแค่เลี้ยงข้าวเย็นมื้อเดียว เอาร้านใกล้ๆ ที่ทำงาน เสร็จแล้วก็กลับไปทำงานต่อได้ คุณณุก็เลยตอบตกลง ก่อนคุณเล็กจะกลับดาก็แกล้งแหย่ บอกเธอว่ามีนัดกับแฟน ..พอมาถึงที่ร้านนั้น ดาก็เผอิญเห็นคุณเล็กนั่งทานข้าวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ดูแล้วน่าจะเป็นเพื่อนของเธอ แต่คุณณุไม่เห็นเพราะหันหลังให้ ดาได้โอกาสเลยแกล้งตักอาหารป้อน ..คุณเล็กกับเพื่อนมองมาก็ยิ่งเข้าใจว่าแฟนที่ดาพูดถึงก็คือคุณณุนั่นแหละ สักพักพวกเขาก็ลุกกันออกไปโดยคุณณุไม่รู้ตัวเลยว่านั่งทานข้าวอยู่ร้านเดียวกัน .. ดาก็แค่อยากจะแกล้งเพราะหมั่นไส้คุณเล็กอยู่ แถมพอดีคุณใหญ่ใช้ให้คุณณุไปสิงคโปร์ ดาได้ทีทำเป็นว่าโทรศัพท์คุยกับคุณให้คุณเล็กเห็น"


หญิงสาวนึกไปถึงวันแรกที่ชายหนุ่มเดินทาง กะเวลาเขาคงถึงที่หมายแล้ว แกล้งทำเป็นรับโทรศัพท์เดินเฉียดไปใกล้ประตูห้องพักรับรองที่เปิดแง้มอยู่ ยามเห็นอนุชเดินเข้าไปเพื่อจะชงกาแฟ พูดจ๊ะจ๋ากับโทรศัพท์ซึ่งจริงๆ แล้วปลายสายว่าง เอ่ยประโยคชวนให้คิดแค่อย่างเดียวว่ากำลังคุยกับคนรัก


'คุณณุถึงแล้วใช่ไหมคะ รีบกลับมานะคะ ดาคิดถึง แล้วอย่าลืมซื้อของมาฝากดานะคะ ..'


แล้วก็สมใจเมื่อเห็นทีท่าหงอยลงของน้องสาวเจ้านายโดยพริบตา


"ดากะว่าจะให้ทะเลาะกันอีกสักวันสองวัน ก็พอดีถูกยัยขวัญจับได้เสียก่อน ลากมาสารภาพกับคุณณุนี่แหละ" ..ไม่น่าไปแสดงให้เพื่อนตัวดีเห็นได้เลยว่าสะใจที่เห็นยัยน้องเล็กของท่านประธานทะเลาะกับแฟนหนุ่มจนไม่ยอมพบ ไม่ยอมรับโทรศัพท์


"เอ่อ.. คุณณุโกรธดาหรือเปล่าคะ" ..เมื่อจำใจต้องสารภาพเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ผู้ช่วยเลขาสาวก็อดเกรงๆ คนตรงหน้าไม่ได้ ยามที่เห็นเขานิ่งไปเมื่อเธอกล่าวจบ


".. มันก็มีบ้างที่ต้องโกรธเพราะดาทำให้คุณเล็กเข้าใจผมผิด แต่เมื่อคุณเล่าความจริงให้ผมฟังทั้งหมด ก็ถือว่าหายกันก็แล้วกัน ผมว่าตอนนี้ผมสมควรรีบไปอธิบายความจริงให้คุณเล็กเธอฟังมากกว่า.." ชายหนุ่มเป็นคนมีน้ำใจมากกว่าที่จะเอาเรื่องเอาราวอะไรกับใคร


"แต่ขวัญว่าคุณเล็กคงยังไม่ยอมฟังอะไรคุณณุง่ายๆ หรอก ทางที่ดีให้คนต้นเรื่องเป็นคนบอกดีกว่า .. แกแหละยัยดา..ที่สมควรไปสารภาพความจริงกับคุณเล็กเอง" จอมขวัญที่นั่งกำกับเพื่อนอยู่เงียบๆ เอ่ยออกมา


"ยัยขวัญ!! จะบ้าเหรอ!.. คุณเล็กแกจะได้เล่นงานฉันนะสิ แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าหน้าคุณเล็กกับท่านประธานติดหรือเปล่าเลย" อีกฝ่ายถลึงตาใส่เพื่อน


"เอาเถอะครับ.. ผมจะจัดการแก้ปัญหาเอง รอให้เขาใจเย็นลงกว่านี้ เขาคงรับฟังเรื่องที่ผมพูด พวกคุณสองคนไม่ต้องทำอะไรหรอก.."


......


ใช่แล้ว.. วันนั้นเขาตั้ใจจะไปพูดเรื่องนี้ให้อนุชฟังเองนั่นแหละ แต่ดันเจออนันต์ขวางเขาไว้เสียก่อน แถมวันต่อมาก็ต้องรีบเคลียร์งาน และต้องบินกลับไปเรื่องลูกค้าที่สิงคโปร์ต่ออีก ..เขายังไม่อยากเสียงานที่จะทำให้ตนเองขึ้นนั่งแท่นผู้จัดการฝ่ายอย่างเต็มภาคภูมิ จึงทำให้ต้องทุ่มเทกับตรงนั้น และละทิ้งเรื่องหัวใจไว้ก่อน


..หรือมันจะทำให้เขา ลัคกี้อินเกม แต่ อันลัคกี้อินเลิฟ ไปแทนนะ


ภาณุนั่งคิดเรื่องราวต่างๆ ในขณะที่กลับมาเคลียร์งานต่อในห้องทำงานตัวเอง


บางครั้ง.. ชายหนุ่มก็รู้สึกสับสนในตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาควรจะเริ่มทำสิ่งไหนก่อนกันแน่ เพราะนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบริษัทในเวลาเย็นเพื่อมาสะสางงานจากที่บินไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่พนักงานคนอื่นๆ เริ่มทยอยกันกลับแล้วนั้น สายตาของภาณุก็ดันไปเห็นว่าอนุชกำลังเดินตรงไปยังลานจอดรถเพื่อจะไปเอารถขับกลับบ้านตามปกติ สองขาที่กำลังจะก้าวไปยังตึกของฝ่ายผลิตก็หยุด แล้วก็หมุนตัวกลับตามหญิงสาวออกไปแทน แต่แล้วก็ต้องมานั่งผิดหวังเพราะเธอไม่ยอมฟังเขาสักนิดอย่างนี้


หรือมันจะดีกว่า ถ้าประธานบริษัทจะต้องผิดหวังในตัวเขา แต่มันทำให้น้องสาวของท่านไม่เข้าใจเขาผิดเช่นนี้..


ขณะที่กำลังขาดสมาธิกับงานกองสุมอยู่ตรงหน้านั้นเอง เสียงเมโลดี้จากมือถือที่ตั้งรับไว้สำหรับบ้านธนพรชัยเจริญก็ดังขึ้น เป็นผลทำให้ภาณุอดจะยินดีจนรีบหยิบออกมารับแทบไม่ทัน


"น้องเล็ก.. อารมณ์ดีขึ้นแล้วหรือครับ"


"ไม่ใช่ยัยเล็กหรอก นี่พี่เองนะณุ.."


"อ้าว.. คุณใหญ่ มีอะไรหรือเปล่าครับ" ..นับครั้งได้ที่อเนกจะใช้โทรศัพท์บ้านโทรมาหาเขาหรือลูกน้องคนอื่นๆ


"เล็กไม่อยู่กับณุงั้นหรือ..”


“เปล่านี่ครับ ผมยังอยู่ที่ทำงานอยู่เลย ..มีอะไรหรือเปล่าครับ”


“น้องพี่ยังกลับไม่ถึงบ้านเลยณุ ปกติถ้าจะกลับดึกต้องโทรมาบอกก่อนทุกที นี่จะสองทุ่มอยู่แล้วยังไม่มีใครได้รับโทรศัพท์เล็กสักคน พี่นึกว่าอยู่กับณุก็เลยโทรมาถาม เพราะโทรเข้าเครื่องยัยเล็กก็ไม่ยอมรับสาย ไม่รู้ว่าแบตหมดหรือเพราะอะไร .. แล้ววันนี้ณุได้เจอน้องบ้างหรือเปล่า" น้ำเสียงของอเนกเริ่มจะร้อนรนขึ้นเมื่อทราบว่าน้องสาวของตนไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองคิด


"เจอกันแป๊บเดียวเองครับ ผมแยกกับเขาตั้งแต่ก่อนหกโมงแล้วด้วย และก็ไม่เห็นบอกด้วยว่าจะไปไหน ผมยังนึกว่าเขาจะกลับบ้านเลย.. เอาอย่างนี้นะครับคุณใหญ่ เดี๋ยวผมจะโทรถามเพื่อนคุณเล็กให้ ถ้าได้ความยังไงผมจะโทรกลับไปบอกอีกครั้ง .. สวัสดีครับ"


พูดจบก็วางหู ก่อนจะรนรานหาเบอร์โทรศัพท์หอพักของนิศากรที่หญิงสาวคนรักเคยให้ไว้ สังหรณ์ใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก..



"ไม่ได้ติดต่อมาบ้างเลยหรือครับน้องหนึ่ง.. ครับๆ ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าเขาโทรมา บอกว่าให้โทรกลับหาพี่ณุด้วยก็แล้วกันนะครับ สวัสดีครับ.."


ภาณุวางสายลงด้วยความรู้สึกที่เป็นกังวลอีกครั้ง ..หลังจากที่รู้จากอเนกว่าอนุชยังกลับไม่ถึงบ้าน เขาก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้ รีบโทรไปหานิศากรก่อนเป็นอันดับแรก แต่ก็ได้รับเพียงสัญญาณที่ไม่มีคนรับสาย จึงเปลี่ยนไปโทรหาเพื่อนฝาแฝดของคนรักแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวหายไปอยู่ไหน


ไปอยู่ที่ไหนนะเล็ก.. ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ..


ตอนนี้ใจเขาร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีก ยิ่งกังวล.. ความคิดในเชิงร้ายก็ยิ่งตามมา


หรือจะเกิดอุบัติเหตุ..


ใจที่ร้อนทำให้กายไม่สามารถอยู่สุขได้ ภาณุไม่อาจทำงานตรงหน้าได้อีกต่อไป ผุดลุกจากที่นั่ง เดินออกจากห้องทำงานไปยังลานจอดรถ ในขณะนั้นก็เที่ยวได้โทรศัพท์ไปสอบถามทั้งจากโรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีวิทยุ แจ้งเลขทะเบียนรถของอนุช เผื่อว่าจะมีใครพบเห็นว่าเกิดอุบัติเหตุกับรถคันดังกล่าว แต่แม้คำตอบที่ได้รับ คือไม่มีอุบัติเหตุใดๆ เกิดกับหญิงคนรัก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ภาณุคลายกังวลได้เลย ชายหนุ่มยังไม่ทราบอยู่ดีกว่าอนุชไปทำอะไร อยู่ที่ไหน..


หรือจะลองโทรหาเล็กอีกครั้งดี..


ความคิดที่ผุดขึ้นในสมอง ทำให้ยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเป็นฝ่ายกดเบอร์โทรออก เสียงเรียกเข้าคุ้นหูก็ดังขึ้นก่อน ยิ่งมองเห็นว่ามาจากคนที่ต้องการจะโทรหาอยู่แล้ว จึงยิ้มขึ้นอย่างยินดี กดรับด้วยใจที่ชื้นขึ้นเป็นกอง


"น้องเล็ก!.. อยู่ที่ไหนครับ.. กลับถึงบ้านแล้วหรือยัง" ชายหนุ่มรัวคำถามก่อนทันที แต่ทว่า.. เสียงปลายสายกลับไม่ใช่คนรักอย่างที่คิด


"สวัสดีนายภาณุ.. เผอิญว่าฉันไม่ใช่น้องเล็กของนายหรอกนะ" กลายเป็นเสียงทุ้มห้าวแสดงความเป็นบุรุษเพศที่ดังออกมายังปลายสายที่หัวหน้าฝ่ายหนุ่ม


"นั่นใคร!.. คุณเป็นใคร! รู้จักผมด้วยหรือ แล้วคุณเล็กไปไหน ทำไมโทรศัพท์เขาถึงอยู่ที่คุณ.. ผมรู้จักคุณหรือเปล่า" แต่เหมือนเสียงที่ได้ยินจะคุ้นหูชายหนุ่มไม่น้อย


“นึกดูดีๆ สิว่าฉันเป็นใคร” เสียงเค้นหัวเราะดังขึ้นหลังจบประโยค


“คุณศักดา!! ทำไม..”


“ทำไมโทรศัพท์เขาถึงอยู่กับฉันใช่ไหม.. ก็เจ้าตัวเขาอยู่กับฉันนี่แหละ.. ฮึฮึ” หลุดเสียงหัวเราะออกจากลำคอ ก่อนจะกล่าวต่อในประโยคที่ทำให้ภาณุแทบทนฟังอยู่เฉยๆ ไม่ได้ “แล้วอยากรู้ไหมว่าอยู่ในสภาพไหน..”


“แกทำอะไรคุณเล็ก!!..” เสียงของชายหนุ่มกร้าวขึ้น ไม่คิดจะให้เกียรติอีกฝ่ายอีกต่อไป..


“ยัง.. ตอนนี้ฉันยังไม่ได้ทำอะไรคุณเล็กของแกสักนิด แต่ถ้าเราตกลงกันไม่รู้เรื่อง มันก็ไม่แน่ว่าฉันจะเปลี่ยนใจ..” เสียงหัวเราะกรีดใจชายหนุ่มดังขึ้นมาอีกครั้ง


“แกต้องการอะไร!..”


“ก็ไม่มากมายอะไรนักหรอก.. นอกจาก..”



“ตื่นแล้วหรือคุณเล็ก”


มือข้างหนึ่งกดวางสายจากหัวหน้าฝ่ายหนุ่ม มืออีกข้างยกบรั่นดีแก้วโปรดที่มันจะกลายเป็นแก้วสุดท้ายสำหรับชีวิตในเมืองไทยของเขาเมื่อนึกถึงตั๋วเครื่องบินที่นอนรออยู่ในกระเป๋า.. กำลังจะหันกลับมาวางแก้วเหล้าบนโต๊ะวางของตัวเล็กที่อยู่ถัดจากเตียงนอนขนาดกลางในห้องส่วนตัวของคอนโดมิเนียมแถวชานเมืองกรุงเทพฯ ที่แม้กระทั่งคนในครอบครัวก็ไม่รู้ว่าเขามีมันไว้ในครอบครอง ศักดาก็ทันเห็นว่าอนุชเขยิบตัวไปนอนคุดคู้ สองมือกุมแน่นบริเวณท้องน้อย


..กะอีกแค่ค่าปิดปากยามของคอนโดฯ อีกนิดหน่อยทำให้การพาหญิงสาวที่กำลังสลบไสลไม่ได้สติเข้ามาทางประตูด้านหลังแทนประตูหน้าของที่พักแห่งนี้เป็นไปโดยง่าย แต่ก็กำลังจะได้คืนมากกว่าเป็นหลายพันเท่า บวกของแถมที่น่าปรารถนาบางอย่างอีก .. มันคุ้มกว่าการเสี่ยงในเรื่องที่ผ่านๆ มาเสียยิ่งกว่าอะไร


“อาศักดิ์..“ เอ่ยออกมาได้แค่นั้น หญิงสาวก็ต้องหลุดเสียงครางด้วยความเจ็บปวด ยังมึนงงกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่จนไม่สามารถแยกแยะอะไรได้ทันที


“ความจำยังดีอยู่นี่ ..ยังเห็นผมเป็นอาอยู่อีกหรือ” กล่าวพลางเดินก้าวข้ามมายังฝั่งเตียงที่หญิงสาวนอนคู้อยู่นั่น


“คุณอาให้คนไปจับตัวเล็ก!?.. จับเล็กมาทำไม..” นึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ..ถ้าไม่ใช่เพราะความใจร้อนวู่วามของตัวเอง เหตุการณ์เลวร้ายที่เผชิญอยู่นี่ คงไม่เกิดขึ้น


..ภายหลังจากที่ปฏิเสธไม่รับฟังคำใดๆ จากภาณุทั้งสิ้น อนุชก็ขับรถออกมาจากบริษัท หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าถูกตามมาตลอดตั้งแต่หน้าบริษัท เพราะมัวแต่โกรธเมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดถึงหญิงสาวอีกคนให้ฟัง กระทั่งขับรถเตลิดออกนอกเส้นทางกลับบ้าน ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจ มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่ารถที่ตนเองขับมาถูกเบียดจนตกไหล่ทางในถนนสายเปลี่ยวที่ไม่ค่อยจะมีรถราแล่นผ่านมาสักเท่าไหร่แห่งหนึ่ง และด้วยอารมณ์ร้อนบวกกับกำลังโมโหอยู่นั้นจึงผลุนผลันลงจากรถหวังจะไปเอาเรื่องคนขับรถมารยาททรามนั่น แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกประกบด้วยผู้ชายหน้าตาเหี้ยมถึงสามคนเมื่อลงไปพบว่ามีรถมอเตอร์ไซค์อีกคันขี่มาจอดข้างๆ รถคู่กรณีของเธอ .. ถูกจี้ให้ขึ้นรถพวกมัน แต่เมื่อไม่ยอมและพยายามตะโกนเรียกให้คนช่วย เธอจึงถูกหนึ่งในนั้นชกเข้าที่ท้องน้อย จนสลบไม่ได้สติ กระทั่งถูกพามาในห้องนี้ซึ่งน่าจะเป็นห้องชุดที่ไหนสักแห่ง.. มารู้สึกตัวตื่นก็เห็นแต่เพียงนายศักดาคนเดียวที่อยู่ในห้องนี้เท่านั้น


“จับมาทำไมงั้นหรือ.. เพื่อจะได้ไว้เป็นข้อต่อรองแลกกับเงินสิบล้าน แล้วก็..แก้แค้นไงล่ะ พี่ชายคุณทำผมแสบมากนะ ทำมาใจดีบอกว่าให้ผมลาออกเฉยๆ เพราะเห็นแก่ความเป็นคนเก่าของพ่อคุณมาก่อน.. แล้วไง!!.. ไอ้ที่ไม่มีบริษัทไหนรับผมเข้าทำงานเลยสักที่นี่ไม่ใช่ฝีมือที่พี่คุณไปป่าวประกาศบอกหรือ.. ไอ้ภาณุอีกคน.. ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ผมก็คงไม่ถูกพี่คุณไล่ออกอย่างนี้.. บังเอิญดีเหมือนกันที่คุณเล็กเป็นคนรักของมัน งานนี้เท่ากับยิงทีเดียวได้นกสองตัว นอกจากจะได้แก้แค้นบริษัทธนพรชัยเจริญแล้ว ยังได้แก้แค้นไอ้หัวหน้าฝ่ายจอมโอหังนั่นด้วย .. นี่คงหวังจะเป็นผู้จัดการแทนงั้นสิ.. แต่ถ้ามันกลายมาเป็นต้นเหตุให้น้องเจ้าของบริษัทยับเยินไม่มีชิ้นดี ดูสิว่างานนี้มันยังจะได้ขึ้นแท่นตำแหน่งผู้จัดการอีกไหม” เพราะอยากให้ไอ้ลูกน้องเก่าจอมยโสของเขามันเป็นเดือดเลือดพล่านอยู่ไม่เป็นสุขตลอดคืน ศักดาจึงเลือกที่จะโทรไปบอกมันว่าเขาจับอนุชมาเพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินสิบล้านที่จะนอนอยู่ในบัญชีชื่อเขาภายในสิบโมงเช้าพรุ่งนี้ .. อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตทิ้งตัวบนขอบที่นอน ก่อนจะคว้าปลายคางของอนุชให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา


ถ้าเป็นยามปกติ คนอย่างอนุชไม่เคยจะเกรงกลัวสิ่งใดง่ายๆ แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตามุ่งร้าย ทั้งยังน้ำเสียงอาฆาตแค้น หญิงสาวอดที่จะขนลุกชันขึ้นไม่ได้ พยายามจะกระเถิบตัว เบี่ยงศีรษะหนี อีกฝ่ายก็บีบกรามเธอแน่น จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาที่เริ่มจะปริ่มน้ำ เจ็บทั้งบริเวณท้องน้อยและใบหน้าที่ถูกบีบนั่น


ศักดาโยนโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวที่คว้าติดมือมาทิ้งบนที่นอนด้านว่างอย่างไม่ใยดี


“ไม่นึกเหมือนกันนะว่า เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่วิ่งตามพี่ชายต้อยๆ สมัยที่นายอธิปยังอยู่ โตขึ้นมาจะสะสวยใช้ได้ขนาดนี้ สมกับที่เป็นลูกสาวคุณอโณทัยจริงๆ..” เขาชะโงกมาพูดเกือบจะชิดใบหน้าของอนุช จนหญิงสาวได้กลิ่นแอลกอฮอล์ปนมากับลมหายใจ สัมผัสเป่ารดที่สร้างความขยะแขยงแก่เธออย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน


“แกจะทำอะไรฉัน!”


“ทำอะไรงั้นหรือ.. ทำให้พวกธนพรชัยเจริญมันเจ็บปวดเหมือนที่ฉันเป็นอยู่นี่ไง!” อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตตะคอกกลับ


“คุณอา.. อย่า.. อย่าทำอะไรเล็กเลยนะ เล็กขอร้อง..เห็นแก่คุณพ่อ..” แม้จะรังเกียจจนไม่อยากจะนับถือชายกลางคนวัยเดียวกับบิดาตรงหน้า แต่เพราะยังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนต่อต้านเนื่องจากผลจากการถูกทำร้ายร่างกายบริเวณจุดอ่อนสำคัญของผู้หญิง ทำให้อนุชยอมที่จะเอ่ยปากอ้อนวอนแกมขอร้อง ทำใจดีสู้เสือเผื่อว่าอีกฝ่ายยังมีสำนึกที่ดี ยังนึกถึงสมัยที่เคยเอ็นดูเธอตอนเป็นเด็กอยู่บ้าง..


“เห็นแก่พ่อคุณเหรอ!.. และพวกคุณล่ะ เคยเห็นแก่ผมไหม!! ประธานบริษัทมองข้ามผู้จัดการ ไปขอความเห็นจากหัวหน้าฝ่ายที่เป็นลูกน้องผมอีกที .. พี่ชายกลางของคุณก็เหมือนกัน ไม่เคยจะเห็นผมอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ.. ไม่มองเลยว่าอย่างน้อยผมก็เป็นผู้ใหญ่กว่า วิจารณ์งานผมอย่างไม่ไว้หน้าสักนิด” ..ก็ไม่ใช่เพราะพวกธนพรชัยเจริญนี่นะหรือ ที่ทำให้เขาเหมือนสุนัขจนตรอกเช่นทุกวันนี้


ทั้งๆ ที่เริ่มต้นจากศูนย์พร้อมๆ กัน แต่นายอธิปกลับสามารถตั้งตัวได้ก่อน เปิดบริษัทมั่นคง ในขณะที่เขาหมดตัวจากธุรกิจ ทำเป็นเอื้อเฟื้อ ให้เขาเข้ามาช่วยงานในบริษัท .. ไอ้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิตที่มีแต่ชื่อ แต่ไม่มีอำนาจอะไรเลยนี่นะ.. นึกว่าเขาปลาบปลื้มนักหรือ.. และถ้าไม่ใช่เพราะมัน ผู้หญิงที่เขาหมายปองก็คงจะเป็นของเขา ลูกของเธอก็น่าจะเป็นลูกเขา..


ศักดายังเก็บความคับแค้นในใจมาตลอดเกือบสี่สิบปีที่ผ่านมา..


“..แล้วรู้ไหมว่าหลังจากถูกไล่ออกจากบริษัท ฉันต้องเจออะไรบ้าง! ทั้งลูกทั้งเมียทิ้งฉันไปกันหมดเพราะฉันไม่มีเงินจะไปจุนเจือครอบครัว ..เพราะพวกแกทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้!” น้ำเสียงอดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตดูเหี้ยมเกรียมขึ้นมาอีก


“ก็นายทำตัวเอง!.. ถ้าไม่เพราะคิดโกงบริษัทใครเขาจะไปไล่นายออก นายมันเลวเองแท้ๆ..” อนุชโต้กลับ ลืมตัวลืมกลัวเสียสนิทใจ


เพี้ย!!..


เสียงฝ่ามือหนาของนายศักดากระทบกับผิวเนื้ออ่อนๆ บริเวณโหนกแก้มของหญิงสาว เป็นผลให้เธอถึงกลับหน้าคะมำลงบนที่นอน เลือดซึมออกจากมุมปากด้านซ้าย


“ปากดีนักนะแก.. เอาตัวเองไม่รอด แล้วยังจะทำเป็นปากดีอีก”


เขาคำรามเสียงเหี้ยม ตรงเข้ากระชากเสื้อเชิ้ตขาวที่อนุชใส่ทำงานจนกระดุมเสื้อหลุดกระเด็นจากรังดุม หญิงสาวพยายามดิ้นรนต่อสู้ ใช้แรงเฮือกสุดท้ายยันอีกฝ่ายสุดแรงจนเสียหลักผงะหงาย รวบรวมกำลังลุกวิ่งหนีไปยังประตูทางออก แต่ไม่ทันเมื่อนายศักดากระโจนเข้ามาคว้าตัวเธอ กระชากกลับมาโยนบนเตียงโดยแรง กำหมัดซัดเข้าที่ท้องซ้ำตำแหน่งเดิมที่ถูกทำร้ายมาก่อนหน้านี้ ..คราวนี้อย่าว่าแต่แรงจะต่อสู้กับการกระทำอันอุกอาจนี้เลย เรี่ยวแรงแม้จะเปล่งเสียงร้องออกมาอนุชก็มิอาจทำได้ อาการปวดจนตัวงอเป็นกุ้งเป็นเช่นไรมาบัดนี้หญิงสาวก็ได้รู้แล้ว


“อยู่เฉยๆ ดีๆ ไม่ชอบ ต้องให้เจ็บตัวก่อนใช่ไหม..ไงล่ะสิ้นฤทธิ์แล้วหรือยัง”


เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สามารถลุกขึ้นมาทำฤทธิ์ต่อกรอะไรได้อีก เขาก็ผละออกไปยืนข้างเตียงปลดกระดุมเสื้อของตัวเองทีละเม็ดๆ ใช้สายตาโลมเลียอนุชตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะมาหยุดที่ผิวขาวบริเวณไหล่ที่โผล่พ้นคอเสื้อเนื่องจากแรกกระชากจนกระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดไปก่อนหน้านี้ ก้าวขึ้นมาบนที่นอนอีกครั้ง..


น้ำตาไหลออกจากดวงตาของหญิงสาวอย่างเจ็บปวดสุดจะทน ..ให้เธอกลั้นใจตายตอนนี้ดีกว่าตกเป็นของคนใจโฉดเยี่ยงนี้


แม่ขา.. พี่ใหญ่.. พี่กลาง.. พี่ณุ..พี่ณุช่วยเล็กด้วย..







Create Date : 29 มกราคม 2550
Last Update : 29 มกราคม 2550 18:42:42 น. 1 comments
Counter : 233 Pageviews.

 
รู้น่ะว่าอัฟนิยายแต่ยังอ่านไม่ทันหรอก แวะมาบอกว่าคิดถึงน่ะ


โดย: คิดถึงจัง (Donut_ty ) วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:18:53:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Katenipa
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






(รายละเอียดข้อมูลอัพเดตเจ้าของบล็อกติดตามได้ในหน้า "สมุดเยี่ยม" เลยนะคะ ^ ^)




ชักเริ่มจะเปลี่ยนแนวจากบ้าซีรี่ย์เกาหลี มาเป็นย้อนยุคกลับไปสู่หนังจีนกำลังภายใน และวกกลับมาคลั่งไคล้แดนปลาดิบ ณ บัดนาว ^ ^





ตัวฉัน(มั้ง) ^ ^"


มนุษย์(ธรรมด๊า ธรรมดา)เดินดินกินข้าวแกง(รวมถึงอาหารอื่นๆ )ไปตามประสา แค่บางวันอาจอยากกินก๋วยเตี๋ยวบ้างก็เท่านั้น เพศคงไม่ต้องบอกกันล่ะเนอะ คิดว่าเห็นจากรูปถ่าย + เวลาพูดคุย ก็น่าจะรู้(หรือเปล่า - -') ส่วนอายุ.. ความลับดีก่า กรั่กๆ .. แบบหยุดไว้ที่ 18 ส่วนที่เพิ่มมาฝากธนาคารทั้งนั้น เหอๆ .. สำหรับอาชีพ.. ตอนนี้ไม่วิจัยฝุ่นเพิ่มภาวะภูมิแพ้อากาศให้กะตัวเองและเพื่อนๆ แล้วนะ ..เพราะตอนนี้คือ pharmacist เต็มๆ ตัวแล้ว เพิ่งจะเปลี่ยนงานโดยลาออกจากเภสัชกรโรงพยาบาลไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็กำลังจะได้งานใหม่ คิดว่าน่าจะสบายขึ้นเล็กน้อยเพราะเลือกทำพาร์ทไทม์ค่ะ แบบอยากหาเวลาว่างในการทำงานอดิเรกที่ชอบ แต่ไหงงานพาร์ทไทม์ที่ได้กลับกลายว่าทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน วันละ 8 ชม. ไม่ต่างจากงานประจำเลยง่ะ - -"

แล้วตกลงว่าจะได้ว่างไหมยังไม่แน่ใจเลยนี่ เฮ้อ..


อื่นๆ ก็ไม่รู้จะบอกอะไรอีกแล้วล่ะ ปล่อยๆ ให้มันเป็นไปตามวิถีของมันไปแล้วกันเน้อ.. ^ ^


..........

อัพเดตเพลงใหม่..









ยังไม่มีเพลงติดบล็อกใหม่ๆ ไปฟังเสียงผิวปากของอีวานใน Heaven's tree กันค่ะ (ไม่รู้จะชวนหลับหรือเปล่า ^ ^")






ปล. อัพเดตโปรไฟล์ส่วนตัว 26/10/2006 ค่ะ ^ ^


Guestbook




Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Katenipa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.