It's so good to be me..
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
Oily Skin

ทำแบบทดสอบผิวหนังกันก่อนที่นี้ค่ะ


Oily Skin


What are the characteristics?






โดยเฉลี่ยแล้วทั่วไป ผิวหนังของคนที่มีสภาพผิวมันจะผลิต ประมาณ 2 กรัมของน้ำมัน (sebum) ต่อปี ทำให้พื้นผิวส่วนบนที่ผลิตน้ำมันเนี้ย กลายเป็นผิวหนังที่มีความมัน เงา วาว รูขุมขนก็จะกว้างด้วย (กว้างขึ้นก็เพราะว่า น้ำมันเข้าไปสะสมในรูขุมขน ทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น) สิวเสี้ยนหัวดำ Blackhead (เกิดขึ้นจากที่น้ำมันบนผิวหน้า ทำปฎิกริยากับอากาศ และเกิดปฎิกิริยาoxidationขึ้น) สิวเสี้ยนหัวขาว Whitehead (เกิดขึ้นจากเซล์ลผิวหน้าที่ตายแล้วเกิดการทับถมกันจนกลายเป็นชั้น และหมักหมมอยู่ในน้ำมันบนผิวหน้า เป็นการคั่งของไขมันในรูขุมขน) และบางครั้งน้ำมันบนผิวหน้ามีการอุดตันมากขึ้น ไขมันจะสะสมในรูขุมขนมากขึ้นจนพองโตและแตกสารที่อยู่ภายในต่อมไขมันจะกระจายไปยังหนังกำพร้าและหนังแท้บริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดการอักเสบของสิวขึ้น (แต่สิวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อย่าพึงสรุปว่าตัวเองคือคนผิวมันด้วยการสังเกตุจากสิวเพียงอย่างเดียวนะค่ะ) acne





hormone เหตุผลหลักของสภาพผิวมันนอกจากกรรมพันธ์แล้วก็ยังเป็นได้จากฮอร์โมนในร่างกาย ซึ้งส่วนมากจะมีในวัยรุ่น หรือ สาวๆ ก่อนมีรอบเดือน หรือ ช่วงตั้งครรถ์ ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนี้จะทำให้ผิวหนังขับน้ำมัน(sebum)มากขึ้นเป็นพิเศษ หรืออย่างถ้าเราเครียดฮอร์โมนในร่างกายจะขับสารAdrenaline ซึ่งมีผลกระทบกับฮอร์โมนชนิดอื่นที่กระตุ้นการขับน้ำมัน(sebum)จากเซล์ลผิว หรือจะเป็นฮอร์โมนที่สาวๆได้รับจากยาคุมกำเนิดก็มีผลกระทบต่อเซล์ลผิวหนังเช่นกัน

อีกปัจจัยหลักของสภาพผิวมันก็คือความชื่นของสภาวะในอากาศ และ การดูแลรักษาผิวที่ผิดๆ เช่นคุณโบกครีมจำพวกมอยเจอไรเซอร์มากเกินไปบนผิวชั้นนอก ทำให้เซล์ลผิวหนังชั้นในขับน้ำมันออกมามากขึ้นเป็นการสร้างสภาวะที่สมดุลกัน การขับน้ำมันออกมามากอย่างนี้ก็แน่นอนหล่ะค่ะที่จะทำให้หน้าเราดูเงา มัน วาว และ เยิมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือถ้าล้างความมันบนผิวหน้ามากเกินหรือเช็ดโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จนแห้งตึงเกินไปก็จะทำให้เซล์ลผิวของเราขับน้ำมันออกมามากขึ้นเพื่อทดแทนน้ำมันที่ถูกชะล้างออกไป ก็ยิ่งกลายเป็นหน้ามันขึ้นไปอีกเพราะชะนั้นจึงต้องทำความเข้าใจและดูแลให้ถูกวิธีถึงจะได้ผลลัพท์ที่เราต้องการซึ้งก็คือผิวสุขภาพดีนั้นเอง


แต่อย่างไรก็ดีชาวผิวมันก็ไม่ได้โชคร้ายที่เป็นสิวง่ายเสมอไปนะค่ะ.. ข้อดีของชาวผิวมันก็คือเมื่อชาวผิวมันแก่ตัวลง สภาวะของเซล์ลผิวหนังจะสูญเสียและลดการคงสภาวะของน้ำที่ขับออกมาโดยธรรมชาติ เพราะชะนั้นน้ำมันที่ถูกขับออกมาจะมาช่วยคงสภาพความชุ่มชื่นให้แก่ผิว และสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยให้แกผิวด้วยหล่ะ


How to take a basic care for oily skin


บำรุง รักษา และ ดูแลผิวมันเนี๊ยปัจจัยหลักก็คือลดสภาพการขับน้ำมัน(sebum)ออกจากผิว และดูแลความสะอาดรูขุมขนไม่ให้อุดตัน เพื่อไม่ให้เกิดการสะสม และสันดาบของน้ำมัน (oxidation) และเป็นสาเหตุให้ก่อเกินสิวต่างๆ


Cleansing: การลดสภาพการขับน้ำมัน(sebum)ของเซล์ล ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องใช้น้ำยา เจล ครีมล้างหน้า โทนเนอร์ หรือ สครับ ที่แรง เพื่อจะชะล้างน้ำมันนะค่ะ cleanser พวกนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าหน้าแห้งสะอาดได้แค่เพียงตอนแรกเท่านั้น (Panic respond) แต่ผิวหนังของเราจะแน่นอนผลิตน้ำมันออกมาชดเชยที่โดนชะล้างไปในปริมาณที่เท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ชาวผิวมันควรจะเลือกหา cleanser จำพวกโฟมล้างหน้าหรือเจลล้างหน้าแบบอ่อนๆ (สบู่แรงๆนะก็ไม่ควร แต่อนุโลมให้ได้ ขอเป็นแบบ"ivory soap"99-100% pureแบบที่เค้าใช้กับเด็กอ่อนอะค่ะ อันนี้จะไม่แรงและปลอดภัยด้วย) ที่มีประสิทธิภาพในการทำลาย และ ชะล้างน้ำมันและสิ่งสกปรกบนผิวหน้า โดยที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง หรือจะหาcleanserแบบมีส่วนผสมของเบสเป็น salicylic Acid ช่วยควบคุมแบคทีเรียบนผิวหนัง ยับยั้งการเกิดสิวและ การอุดตันในรูขุมขน (recommended cleansers: Chetaphil Oily skin Cleanser, Clarins Purifying Cleansing Gel for oily skin, Clinique Wash-Away Gel Cleanser, Guelain Evolution Purifying Foaming Gel, The Body Shop Seaweed Purified Facial Wash for normal to oily skin, Lancome Clarifiance Oil-Free Gel Cleanser, Shiseido Pureness Cleansing Gel, Eucerin Gentle Hydrating Cleanser, La Mer The Cleansing Gel, ROC Deep Action Cleansing wash ถ้ามีสิวเล็กน้อย: Aveeno Cleansing Bar for Acne, Clearasil Meditated Deep Cleanser, **Johnson and Johnson Clean and Clear, Neutrogena Oil-Free Acne Wash ถ้ามีสิวอักเสบมาก: Oxy-10 Daily Face Wash, Peter Thomas Roth Medicated BPO)


Toning: และถ้าใครคิดจะหาโทนเนอร์มาเช็ดต่อ เหมือนที่เคยได้ยินมาว่าโทนเนอร์จะช่วยกระชับรูขุมขน.. อืม.. มันก็ไม่จริงเสมอไป เพราะโทนเนอร์บางชนิดก็รุนแรงเกินไปและทำให้ผิวหนังระคายเคืองโดยเฉพาะโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ล ส่วนใหญ่จะทำให้รูขุมขนเล็กลงและกำตัดน้ำมันบนผิวก็จริง แต่เพราะสูญเสียความมันและความชุ่มชื้น(dehydrate the skin)อย่างรวดเร็วผิวของเราจะสร้างและผลิตน้ำมันมาใหม่และปริมาณของน้ำมันบนผิวก็ยังคงเท่าเดิม ถ้าอยากใช้โทนเนอร์พลอยแนะนำให้ใช้โทนเนอร์จำพวก ไม่มีแอลกอฮอล์ล(Alcohol-Free),โทนเนอร์แบบโลชั่น (Lotion Toner) หรือ พวกRosewater, Orange Flower Water แทนจะดีกว่านะค่ะ พวกนี้จะกําจัดน้ำมันได้และยังช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวดีกว่า สำหรับชาวผิวมันควรใช้โทนเนอร์ประมานวันเว้นวันกำลังดีค่ะ (Recommended Toners: Murad hydrating Toner alcohol-free, DDF Aloe Toning complex alcohol-free,Clinique Oil Controller, Lancome TONIQUE DOUCEUR - Alcohol-Free Freshener)


Moisturizing: หลายครั้งที่เคยได้ยินชาวผิวมันเข้าใจกันมาผิดๆว่า "ผิวมันอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องทามอยเจอไรเซอร์ให้หน้ามันกันไปใหญ่" แง๊ววว.. อย่านะขอร้อง อย่าคิดอย่างนั้น (คือบางทีก็ได้ถ้าคุณยังเป็นวัยรุ่นและบริโภคอาหารและน้ำในปริมาตรที่พอเพียง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปได้ยากค่ะ) สภาพผิวมันก็ไม่ได้แปลว่าไม่ขาดน้ำและความชุ่มชื่นนะค่ะ และการทามอยเจอร์ไรเซอร์ประจำวันยังช่วยให้ผิวคุณกระจ่าง และ สุขภาพดีขึ้นด้วย ลองเลิอกหามอยเจอไรเซอร์แบบโลชั่นแทนแบบครีม(ที่จะทำให้เหนียวแหน่ะหน่ะ) หรือแบบเจลที่ซึมเร็ว ลองหาง่ายๆที่เขียนข้างขวดว่าว่า for oily skin, oil-free, waterbased,และ noncomedogenic (ไม่อุดตัน) และทาบริเวณช่วงแก้ม หน้าผากและคอค่ะ อ่อ!!.. แล้วหลีกเลี่ยงมอยเจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ mineral oil นะค่ะ พวกนี้ส่วนใหญ่จะอุดตันรูขุมขนแหล่ะ (Recommened Moiturizers: Shishedo Pureness Moisturizing Gel, Lorac Oil-Free Moisturizer, L'Oreal Plentitude Revitalift Oil-Free Lotion, Nivea Visage No Oil All Moisture Hydrogel, Olay Oil-Free Beauty Fluid .. ปล. มอยเจอไรเซอร์ของชาวผิวมันส่วนใหญ่ จะใช้ร่วมกับชาวผิวธรรมดา หรือ ผิวผสมได้ด้วย แต่ควรเลือกจุดที่จะลงมอยเจอไรเซอร์อะค่ะ เพราะชะนั้นเลยแนะนำยากหน่อย ลองดูกับหน้าของผิวธรรมดาและผิวผสมเป็นการช่วยในการตัดสินใจนะค่ะ)


Sunscreens:การป้องกันผิวหนังจากแสงแดด เป็นสิ่งสำคัญมากอยู่แล้วกับทุกสภาพผิว สำหรับชาวผิวมัน ก็ลองเลือกหา เจล หรือ โลชั่นกันแดดที่มี SPF 15+ ขึ้นไปที่เขียนข้างขวดว่า noncomedogenic (ไม่อุดตัน) และ oil-free ค่ะ อ่อ.. การทำความสะอาดโลชั่นกันแดดของช่วผิวมันนี้คงต้องละเอียดอ่อนหน่อยด้วย เพราะ สารกันแดดจะลงไปอุดตันในรูขุมขนง่าย ควรพิถีพิถันกับการล้างหน้ามากหน่อย หากวันไหนทาสารกันแดดนะค่ะถ้าเป็นไปได้ลองหาใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ Witch Hazel ซึ้งเป็นสมุนไฟรชนิดนึงค่ะ ดูค่ะ (Recommened Sunscreens: Coppertone Oil-Free waterproof Sunblock Lotion SPF15+, Neutrogena Intensify Day Moisturizer, SPF 15+, Oil of Olay Daily UV Protectant, SPF 15+,etc.)


Exfoliating & Scrubing: คือการขัดกำจัดเซล์ลที่ตายแล้วบนผิวชั้นบน เรียกอีกอย่างว่าสครับก็ได้อะค่ะ เมื่อเราขัดผิวเสร็จแล้วล้างหรือช็ดออก น้ำมันบนผิวหน้าส่วนหนึ่ง และ เซล์ลผิวที่ตายที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออก ช่วยให้ผิวสร้างเซล์ลใหม่ที่แข็งแรง และลดการเกิดสิวค่ะ ควรทำเพียงอย่างมากสัปดาละ 1-2ครั้งก็พอแล้วค่ะ (Recommended Exfoliators: Philosophy The Microdelivery Peel, MD Skincare Alpha Beta Daily Face Peel, Biotherm Biopur Pore Refining Exfoliating Gel,etc)


Masking: เลือกใช้ Clay-based Maskค่ะ มาร์คหน้าของชาวผิวมันเป็นการทำความสะอาดผิวอย่างทะลุทะลวง.. อิอิ ฟังดูน่ากลัวเน่อะ คือว่าโคลนมาสค์เนี๊ย จะเข้าไปดูดความมันและสิ่งตกค้างบนผิวหน้าของเราอะค่ะ ช่วยลดการก่อให้เกิดสิว และ ยังทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้หมดจดอีกด้วย มาร์คหน้าแต่ละครั้งก็โคลนลงบนผิวชื้นๆ ทิ้งไว้ประมาณ10นาที แล้วล้างออกค่ะ ควรทำสัปดาละครั้งก็พอแล้วค่ะ (Recommended Masks: La Mer Refining Facial, Peter Thomas Roth Hudrating Nutrating Masque, Murad Purifying Clay Masque, Nu Skin Clay Pack, etc)


Tips for oily skin



  • ล้างหน้าเพียงวันละ2ครั้งต่อวัน และสำหรับเพื่อกำจัดน้ำมันบนผิวหน้า ให้ใช้ระดาษซับมันซับเอา

  • ทุกผลิตภัณท์ที่ใช้ ควรเป็นoil-free

  • เลิกทานเถอะค่ะของมันๆ พวกอาหารฟาสฟู๊ดทั้งหลาย.. ท่องไว้ อยากสวยต้องอดทน

  • หลังเกิดการอักเสบของสิว ลองใช้ยาสีฟังแบบผสมเมททอล หรือ น้ำมันของดอกลาเวนเดอร์แต้มหัวสิว เพื่อลดการอักเสบได้ค่ะ

Credited pictures from imagebank.com


Acknowledgements: The Complete Beauty Book by Helen Foster Don't go to a Cosmetic Counter WithOut me by Paula Begoun, It's not Just About Wrinkles by Neal B' Schulyz, M.D., Beauty by Rona Berg, Total Beauty by Stacey & Fairley)


All Content Copyright2007 © Holding by Makeupguru83, All rights reserved




Create Date : 12 มีนาคม 2550
Last Update : 16 มีนาคม 2550 9:51:16 น. 4 comments
Counter : 1150 Pageviews.

 
อยากสวยต้องอดทน งื้ดๆ ท่องไว้ๆ
พี่อยากลองไอ้ตัว microdelivery peel ของ philosophy จังนะ แต่มันแพง ขอทำใจก่อน


โดย: ลูกแม่ดอกบัว วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:10:59:41 น.  

 
ทานของทอดๆมันๆ มีผลจริงๆค่ะ ยืนยันด้วยคน
อยากสวยต้องอดทนจริงๆ...แต่ แหม ของอร่อยส่วนใหญ่ก็มันๆทั้งน้าน


โดย: bluelagoon IP: 203.113.80.141 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:20:53:42 น.  

 
ดีใจจัง Blog กลับมาซะที จะได้เข้ามาอ่านข้อมูลดีๆ แบบนี้ด้วย ขอบคุณเจ้าของ Blog มากๆ เลยนะ ได้ความรู้เพียบเลย เพราะเป็นคนผิวมันมากถึงมากที่สุด เบื่อตัวเองจริงๆ ต้องนั่งซับหน้าทั้งวันเลยอะ กำลังจะลองใช้ Chetaphill อยู่พอดีเลย
ถามหน่อยนะ ถ้าเราแต่งหน้าอ่อนๆ เราใช้ลุงชูเช็ดเครื่องสำอางค์ก่อน แล้วจะตามด้วย Chetaphill จะสะอาดไหมคะ


โดย: loverose (loverose ) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:10:05:36 น.  

 
ตอบคุณ loverose
ออยชูมันเหมาะกับคนหน้าแห้งมากกว่าอะค่ะ ทางทีดี ถ้าสมมุติใช้มาสคาร่า ใช้ eyemakeup remover เช็ดบริเวณรอบดวงตา หรือ ใช้พวก cold cream เช็ดเครื่องสําอางทั้งหน้า แล้วล้างตามด้วย เจลล้างหน้า ถ้าอยากลอง Chetaphill ก็ โล้ดเลยค่ะ.. เสร็จแล้วตามด้วยเช็ดโทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอร์ฮอล์ลค่ะ..

สะอาดใสกิ๊กแน่ๆ


โดย: MakeUpGuru83 (Ploi) IP: 68.100.224.37 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:9:40:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MakeUpGuru83
Location :
Washington, DC United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add MakeUpGuru83's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.