Week 31: เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 อย่างเต็มตัว



กลับมาอัพเดทอีกแล้วค่ะ

วันนี้ไปพบคุณหมอมาตามนัด พอเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 คุณหมอจะเริ่มนัดถี่ขึ้น จากเดือนละครั้งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง (นัดทุก 2 สัปดาห์) โดยจะเป็นการติดตามดูความเปลี่ยนแปลงของแม่ และดูความแข็งแรงของลูกโดยวัดจากอัตราการเต้นของหัวใจค่ะ ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดี

ส่วนการบ้านที่ได้เพิ่มมานอกจากการดื่มนมวันละ 2 แก้ว ทานวิตามินบำรุงเลือดวันละ 2 เม็ด และการเล่านิทานให้ลูกฟังทุกวัน คือ คุณหมอให้นับลูกดิ้นแล้วค่ะ เนื่องจากลูกตัวโตขึ้นและมีโอกาสที่สายสะดือไปพันคอเวลาเคลื่อนไหวตัว

การนับลูกดิ้น
คุณหมอให้แบ่งการนับเป็น 3 ช่วงเวลา เช้า (ตื่นนอน-เทียง) กลางวัน (เที่ยง- เย็น) และกลางคืน โดยแต่ละช่วงกำหนดให้จับเวลา 1 ชั่วโมง โดยเป็นช่วงที่ลูกตื่น ให้นับครั้งและเปรียบเทียบจำนวนที่ลูกดิ้นแต่ละช่วงเวลาในแต่ละวัน ว่าจำนวนใกล้เคียงกันหรือไม่ (ควรมีจำนวนครั้งที่ใกล้เคียงกันในแต่ละวัน เพื่อจะดูว่าลูกแข็งแรงปกติหรือมีสายสะดือพันคอ ถ้าวันไหนลูกเงียบหรือการดิ้นลดลงไปมากๆ มักจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ให้รีบไปพบหมอ)

การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่:: น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาไม่เยอะค่ะ วันนี้ชั่งนน.คุณแม่ได้ 57 กิโลกรัม ในขณะที่คุณลูกน้ำหนักประมาณ 1.5 กก. แล้ว จากความเจริญเติมโตของเด็กที่รวดเร็วในช่วงไตรมาสนี้ ทำให้ร่างกายแม่ก็ต้องคอยปรับตัว แต่อาการปวดขาที่เคยบ่นเมื่อครั้งก่อนได้หายไปแล้วค่ะ เพราะต้องเดินอย่างมีสติ ต้องคิดอยู่เสมอว่ามีลูกอยู่ในท้องจะเดินเร็วหรือทำกิจกรรมผาดโผนเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว.. แต่อาการที่พบในช่วงนี้คือเท้าบวมเป่ง ซึ่งคุณหมอบอกว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่มีปัญหาอะไร

ปัญหาเท้าบวม (หลังจากมานั่งวิเคราะห์แล้ว) น่าจะเกิดจากสาเหตุหลักๆ คือ
1. เกิดจากการหมุนเวียนเลือด และปฏิกิริยาการกักเก็บของของเหลวในร่างกาย - เป็นปกติของหญิงตั้งครรภ์ทุกคน แต่ก็ยังสงสัยว่าเพื่อนที่ใกล้จะคลอดไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย
2. เกิดการกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน - คุณแม่เริ่มสังเกตได้ว่าวันไหนก็ตามที่เดินเยอะ หรือ นั่งทำงานหย่อนเท้าเป็นเวลานานติดกันหลายชั่วโมง ทำให้เท้าเป่งบวม (ข้อนี้น่าจะเป็นต้นเหตุมากกว่า)

แต่ในกรณีที่เท้าบวม ตัวบวม หน้าบวม พร้อมกัน นี่คือสัญญาณไม่ดีแล้วค่ะ อาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษและเป็นอันตรายกับแม่และเด็กในท้อง ต้องรีบไปตรวจวัดความดันทันที

นอกจากเท้าบวม(เป็นครั้งคราว) แล้ว อีก 1 ปัญหาของ(ว่าที่)คุณแม่คือ ปวดตามข้อนิ้วมือ โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนใหม่ๆ และตอนลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน จะปวดมาก และในระหว่างวันก็ยังปวดแต่ไม่มากเท่าตอนเช้า ไม่สามารถเปิดขวดน้ำได้ ไม่สามารถกำมือแน่นๆได้ และเวลาเขียนหนังสือก็จะปวดมาก (เพราะฝืน) และถ้าไม่ได้ขยับมือเป็นเวลานานก็จะปวดค่ะ วิธีแก้คือพยายามบริหารมือ ทำท่า "กำ แบ กำ แบ" ไปเรื่อยๆ หรือสะบัดมือบ้าง  ก็พอทุเลาความเจ็บลงไปได้บ้างค่ะ แต่คุณหมอก็แนะนำว่า ให้เพลาๆ กิจกรรมที่ใช้มือ ซึ่งช่วงก่อนคุณแม่จะตรวจข้อสอบของนิสิตหนักมาก เขียนคอมเม้นท์ในงานนิสิต จนปากกาหมดไป 2 แท่ง (คิดว่ากิจกรรมนี้เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดอาการดังกล่าว) ตอนนี้ปิดเทอมแล้ว ลาพักผ่อนเตรียมคลอดแล้ว คงไม่ได้จับปากกาอีกนานนน.....

วันนี้มีแต่เรื่องคุณแม่มาอัพเดท ส่วน(ว่าที่)คุณพ่อก็ยังคงไม่ลืมบทบาทการเล่านิทานทุกๆ คืน ตอนนี้เริ่มมีการเล่าสลับเป็นภาษาอังกฤษบ้าง ไทยบ้าง วันละเรื่อง และที่สำคัญเอาใจคุณแม่เก่งขึ้นเยอะเลยค่ะ 




Create Date : 30 กรกฎาคม 2559
Last Update : 30 กรกฎาคม 2559 17:35:13 น.
Counter : 664 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

peach gal
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กรกฏาคม 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31