สวัสดีค่ะ หลังจากที่พาไปชม ต้นไม้ ดอกไม้ ใบหญ้า ที่ปราสาทเขาพนมรุ้งแล้ว วันนี้อุ๊จะพาไปชมดอกไม้ที่รีสอร์ทค่ะ
รีสอร์ทแห่งนี้ที่อุ๊กับพี่รินไปพักมีชื่อว่า "โนนทองรีสอร์ท" รีสอร์ทที่นี้มีต้นไม้ ดอกไม้ เยอะแยะเต็มไปหมดเลยค่ะ ไม่รู้ว่าดอกอะไรบ้าง ไปชมกันดีกว่า
เริ่มต้นด้วยดอกกล้วยไม้สีเขียวนี่เลยดีกว่านะคะ ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรเหมือนกัน ไม่เคยเห็นมาก่อน ปกติเห็นแต่สีขาวกับสีม่วงค่ะ
ตามมากล้วยไม้สีขาว แต่ช่อแบบนี้อุ๊ก็ไม่เคยเห็นอีกนั่นล่ะค่ะ ไม่รู้พันธุ์อะไรอีกเช่นกัน
และกล้วยไม้ที่เห็นอยู่บ่อยๆ และทั่วไปค่ะ
ดอกพุดค่ะ หรือดอกพุดพิชญา
พุดพิชญา
เป็นไม้ชนิดทั้งต้นเตี้ย ต้นสูง และต้นใหญ่ ให้ดอกเต็มกิ่งเป็นช่อดอก ช่อละ 5 - 10 ดอก ดอกบานทน ตั้งแต่แรกแย้มไปจนสู่บานเต็มที่ ใช้เวลา 4 - 5 วัน ดอกตูมในช่อดอกอื่นๆก็ค่อยทยอยโต และทยอยกันบานไปเรื่อยๆ จึงทำให้ดอกติดต้นตลอดเวลา
ต้นพุดพิชญา
เป็นต้นไม้ใหม่นำเข้าจากประเทศศรีลังกา มีชื่อทองถิ่นว่า อิดด้า (Inda) มีความหมายว่าดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ประเทศศรีลังกาเป็นเมืองพุทธศาสนา สีขาวเป็นสีที่สัมพันธ์กับศาสนาพุทธ จึงเป็นดอกไม้บูชาพระพุทธรูป โดยเฉพาะสักการะพระเขี้ยวแก้ว โดยจัดดอกไม้ใส่กรวยใบตองหรือจัดใส่พาน ต้นพุดพิชญาเข้าประเทศไทยครั้งแรกเมื่อสีบปีมาแล้ว ผู้นำเข้าคือ คุณปราณี คงพิชญานนท์ เธอชอบความงามบริสุทธิ์ ความที่ลักษณะของดอกสีขาวเหมือนกลุ่มดอกพุดในบ้านเรา เธอจึงนำชื่อดอกพุดมาสมาสเข้ากับวลีนามสกุล ออกมาเป็นชื่อใหม่ว่า พุดพิชญา พุดพิชญาเป็นไม้ชนิดทั้งต้นเตี้ย ต้นสูง และต้นใหญ่ ให้ดอกเต็มกิ่งเป็นช่อดอก ช่อละ 5 - 10 ดอก ดอกบานทน ตั้งแต่แรกแย้มไปจนสู่บานเต็มที่ ใช้เวลา 4 - 5 วัน ดอกตูมในช่อดอกอื่นๆก็ค่อยทยอยโต และทยอยกันบาน
ไปเรื่อยๆ จึงทำให้ดอกติดต้นตลอดเวลา ลักษณะดอกเป็นกลีบแยก 5 กลีบ เกสรตรงกลางสีเหลืองมีฝอยเกสรสีขาวล้อมรอบ เมื่อดอกบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว ก้านดอกยาวประมาณ 1 นิ้วสีขาวกระจ่างของดอกพุดพิชญาคือเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร สีขาวที่ไม่เจือปน จึงดูขาวโดดเด่น ในยามค่ำคืนสีดอกพุดพิชญาดูเหมือนจะเรืองแสง จึงเห็นกระจ่างในความมืด ซึ่งเป็นลักษระพิเศษของดอกไม้นี้ ใบรูปไข่ หน้าใบ สีเขียวเข็ม หลังใบสีเขียวอ่อน ใบไม่ร่วงหรือเรียกว่าไม่ผลัดใบ
ดอกแพงพวยสีขาวค่ะ
แพงพวยสีม่วงค่ะ
แพงพวย มีหลากหลายสี เช่น สีขาว สีชมพู สีแดง แต่ที่พบเห็นได้บ่อยมาก และอยู่ทั่วไป คือ สีม่วงอมชมพูตรงกลางดอกจะมีสีแดง แต่ละชนิดมีสีสวยงามแตกต่างกันไป เป็นไม้ประดับในสวน หรืออยู่ในกระถางแขวนก็ดูเก๋ไก๋ แตกเป็นพุ่มสวยงาม แต่สีขาวมีชื่อเรียกว่า แพงพวยฝรั่ง มีสรรพคุณทางยาอีกด้วย
ชื่ออื่น ๆ : นมอิน (สุราษฎร์ธานี) , ผักปอดบก (ภาคเหนือ) ,แพงพวยบก,แพงพวยฝรั่ง (กรุงเทพมหานคร) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Catharanthus roseus (L.) G.Don ชื่อสามัญ : Cape Periwinkle, Bringht Eye, Indian Periwinkle, Madagascar Periwinkle, Pinkle-pinkle, Pink Periwinkle, Vinca วงศ์ : APOCYNACEAE เป็นไม้ล้มลุก สูง 0.5-0.9 เมตร โคนต้นค่อนข้างแข็ง ใบ ใบเดี่ยว ปลายมนหรือเว้าเข้าเล็กน้อย โคนมนสีเขียวเข้มเป็นมันก้านและเส้นกลางใบมีสีขาว ดอก มีหลายสี เช่น ขาว ม่วง ชมพู ฯลฯ กลีบดอกเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เกสรตัวผู้ 5 อัน ผล เป็นฝักยาว 2-3 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกได้ ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ : ใบ - บำรุงหัวใจ ช่วยย่อย ราก - แก้บิด ขับพยาธิ ใช้ห้ามเลือด รักษามะเร็งในเม็ดเลือด ทั้งต้นสดหรือแห้ง - แก้เบาหวาน ลดความดัน รสจืด เย็นจัด ใช้แก้ร้อน ขับปัสสาวะ แก้บวม ถอนพิษสำแดง ถอนพิษต่างๆ แก้ไอแห้งๆ เกิดจากร้อน แก้อาการตัวเหลืองอันเกิดจากพิษสุรา แก้โรคหนองใน หัด ผื่นคันและแผลอักเสบอื่นๆ วิธีใช้และปริมาณ : ทั้งต้นแห้ง 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือใช้ต้นสดคั้นเอาน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอกหรือสุมไฟให้เป็นถ่านผสมพอก
ชวนชมหรือลั่นทมยะวาค่ะ เป็นพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงามสะดุดตา มีรูปทรงของต้นและกิ่งก้านที่สวยงามและอ่อนช้อย นุ่มนวล เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้งจนได้รับสมญาว่า Desert Rose หรือ "กุหลาบทะเลทราย" นอกจากนี้ชวนชมยังเป็นชื่อที่มีความไพเราะ เป็นศิริมงคลตามความเชื่อของคนไทย แม้แต่ชาวจีนซึ่งเรียกชวนชมว่า "ปู้กุ้ยฮวย" หรือ "ดอกไม้แห่งความร่ำรวย" ก็ยังมีความหมายไปในทางศิริมงคลเช่นกัน
ต้น เป็นไม้เนื้ออ่อน อวบน้ำ ต้นและกิ่งเป็นลำกลม ผิวค่อนข้างเรียบสีเขียวอมเทา เปลือกบาง แตกกิ่งก้านไม่เป็นระเบียบ ส่วนโคนของลำต้นพองออกมีขนาดรูปทรงใหญ่เล็กแตกต่างกันไปเรียกว่า " โขด "มีไว้สำหรับเก็บน้ำเพื่อรักษาสมดุลของต้น
การเลี้ยงโขด อดีตนิยมปลูกเพื่อให้มีดอกไว้ชื่นชม ปัจจุบันนิยมให้มีโขดใหญ่ สัดส่วนสวยงามเนื่องจาก ชวนชมสายพันธุ์ลูกผสมจากต่างประเทศโดยเฉพาะสายพันธุ์ฮอลแลนด์จะมีโขดเป็นจุดเด่น โขดเป็นส่วนหนึ่งของรากใช้สะสมอาหาร การให้โขดใหญ่จำเป็นต้องหมั่นเปลี่ยนกระถางเมื่อชวนชมมีอายุได้ขนาด เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้โขดเจริญเติบโต
การปลูกเลี้ยง เหมาะกับดินโปร่งร่วนซุย ผู้ปลูกเลี้ยงส่วนใหญ่จึงนิยมเติมวัสดุปรุงดิน เช่น ใบก้ามปู กาบมะพร้าวสับ เปลือกถั่วลิสง แกลบดิน และทรายหยาบเพิ่มลงไปในดินเพื่อให้มีความร่วนซุย การให้น้ำไม่ต้องมากเพราะมีลำต้นอุ่มน้ำ จึงทนต่อสภาพแห้งแล้ง และเป็นพืชที่ไม่ต้องการปุ๋ยมาก
การขยายพันธุ์ ทำได้ทั้งการปักชำกิ่ง การเสียบยอด การตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด ชวนชมที่สมบูรณ์จะออกดอกดกและติดฝักดี ฝักหรือผลมีลักษณะคล้ายบูมเมอแรง(ถ้าวันหลังมีรูปจะนำมาเพิ่มค่ะ) ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อฝักแก่จะมีสีน้ำตาลตะเข็บแนวเชื่อมจะแตกออก ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลอ่อนเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดข้าวเปลือก มีขนสีน้ำตาลอ่อนเป็นพู่ติดอยู่ที่ปลายแหลมทั้งสองข้าง ขนที่ปลายทั้งสองจะช่วยให้เมล็ดปลิวไปตามลมได้ไกล
ลีลาวดีลูกศรหรือใบหอกสีขาวค่ะ
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก
ลักษณะเด่น โคนใบสอบแคบ ปลายคล้ายรูปหัวใจ หรือลูกศร จากลักษณะใบดังกล่าวจึงได้ชื่อว่าลีลาวดีลูกศร
ต้นสูงประมาณ 3-4 เมตร เป็นไม้ที่ชอบแดดจัด น้ำปานกลาง
แรกปลูกต้องใช้ไม้พยูงค้ำยันสักระยะเพื่อให้ต้นแข็งแรง
ผลัดใบในหน้าหนาว และออกดอกขาวสะอาดตลอดปี
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลจาก กูเกิ้ลค่ะ
ส่วนปราสาทเขาพนมรุ้งรอก่่อนนะคะ คงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนค่ะ