......*1* ติดเชื้อ...
จ๊ากๆๆๆๆๆๆ...น้องบัวเอาเชื่อ TAG....มาฝากให้ซ่ะแระ

เอ๋....จะเขียนเรื่องอะไรดีน๊า...ติ๊กตีอกๆ ติ๊กตีอกๆ..

ไม่กล้าเปิดเผยค่า...ขี้อาย..ขี้เกรงใจ..ขี้ไปหมดทุกอย่างๆๆคริๆๆ

แต่ไหนไหน...ก้อไหนไหน..แระ..ก้อจะขอเขียนเรื่องราวของจขบ..เล้กๆน้อยๆเนาะ
และเรื่องที่เขียนเนี้ยน๊า...ไม่เคยบอกใครน๊า..เป็นฟามลับสุดโต๊ง..แต๊ๆน๊าเจ้า

ข้อแรก....ชื่อ gripenator ..นั้นได้แต่ใดมา


เป็นคนชอบออกกำลังกายหรือเล่นกีฬามากค่า..ตั้งแต่เด็กๆแระ..แถมยังมีอายุใช้แรงงาน..เป็นครูพละ..แล้วก้อเคยได้ยินคนอื่นเขาเมาส์แตกกันว่าครูพละ.ถ้าอายุมากๆก้อต้องอ้วนเป็นพะโล้.เข้าเด้กเล่นกีฬาตัวเองเอาตัวเองไม่ไหวจะสอนเขาได้อย่างไร.จึงคิดเสมอว่าเ
ต้องรักษาทรวดทรงไมให้เป็นอย่างคนอื่นเมาส์กันจึงหันมาเล่นกีฬา.การเล่นกีฬาหรือการอออกกำลังกาย.ต้องออกกำลังกายทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นแขน..มือ..ขา..เท้า..ข้อต่อทุกส่วนของร่างกายต้องออกแรงประสานสัมพันธ์กันและต้องมีการทพสอบสมรรถภาพทางร่ายกายด้วย.ต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่างรวมทั้งอุปกรณ์ทดสอบความแข็งแรงของมือที่เรียกว่า hand grip . ปิ้งคำว่ากริ๊มทันที.จึงน้ำชื่อนี้มาเป็นชื่อของตนเองนะบัดนาว.แต่ชื่อกริ๊มมันสั้นไปหน่อยจึงเติมให้มันยาวอีกนิด.แต่ความหมายคือกันหมายถึงเครื่องมือใช้ทดสอบความแข็งแรงขชองมือ.หรือถ้าเป็นที่จับของแร๊กเก๊ตเทนนิส.แบดมินตัน.ก้อเรียกว่ากริ๊มเหมือนกันนะคะ...จบข่าว












ข้อสอง...การเข้ามาวิ่งเล่นในโลกไซเบอร์

วันหนึ่งปลายปี2547..ณ.ห้องทำงาน.หัวหน้างานไม่อยู่และเจ้าหน้าที่ลาป่วยเหลือตัวเราเฝ้าคนเดียวโต๋เต๋..กำลังนั่งดุทีวีก้อมีนักเรียนเช้ามาในห้องทำงานและขอใบรับรองกิจกรรมตัวเราก้อบอกเด็กว่าเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ให้มาวันพรุ่งนี้เด้กมานั่งหน้าเศร้าสพุดเสียงอ่อยๆว่าถ้าไม่ได้ใบรับรองก้อหมดสิทธิเข้าไปเรียนต่อที่อื่นหมดเขตรับสมัครวันนี้พอดี.ด้วยความสงสารเด้กจึงบอกเด็กว่าครูใช้คอมไม่เป็นใบรับรองอยู่ในนั้นถ้าอยากได้ก้อมาเปิดแล้วค้นหาเอาออกมาให้ครูเดียวจะดำเนินการให้.เด้กยิ้มทันที่รีบมาเปิดคอมและค้นหาได้ใบรับรองตามต้องการก้อรีบไปจัดการเดินเรื่องให้เสร็จสิ้น.เด้กกล่าวขอบคุณแล้วบอกจะรีบไปสมัครเข้าเรียนต่อเขาดีใจมากเราพลอยดีใจไปกับเด็กด้วย.หลังจากเด็กออกจากห้องไปแล้วก้อนั่งคิด...รู้ไหมว่าคิดอะไร..
คิดอายเด้กไง..เด้กคงหัวเราะคณูใช้คอมไม่เป็นครูเชยๆๆๆๆๆๆๆๆมากๆสมัยนี้ใครใช้คอมไม่เป็นเขาให้ไปเข้าฝึกอบรมการใช้คอมกันแล้วเรามัวคิดว่าไม่เป็นไรมีเจ้าหน้าที่ทำงานไม่เป็นไม่เป็นไรไม่ได้แล้วน๊ะ.จึงจัดการสั่งตนเองให้หัดเคาะๆๆจิ้มๆๆเครืองคอมตรงหน้า.ต้องหัดฝึกฝนหัดใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่ามานั่งๆเฉยแบบนี้..
ตอนนี้พอเข้าใจเจ้าเครืองนี้บ้างหัดมาเข้าเวบหาเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น....เพราะอายเด้กนะเนี่ย..แต่ตอนนี้ปรากฎว่ามีเด้กอีกเหมือนกันเมาส์ให้ได้ยินว่าเคยเห็นแต่เด้กวัยรุ่นเข้ามาเล่นบลีอคเลยเวบไม่เคยเห็นผู้สุงวัยเล่นเลยทำไมครูถึงกล้าเล่นเนาะ....ตอบอย่างไรดีเนี้ย...ฮาๆๆ






ข้อสาม....ทำไมต้องมาเป็นครูพละ


ตอนเด็กๆใฝ่ฝันอยากเป็นคุณหมอเพราะชอบฟังนิยายเรื่องหนึ่งมีคุณหมอแสนดีเป็นนางเอกติดอกติดใจเป็นอย่างมากแต่ตัวเองเป็นคนขี้โรค3วันดี4วันไข้ร่างกายก้อไม่แข็งแรงวันหนึ่งมีอาการไข้ตัวร้อนจัดพ่อพาซ้อนมอไซค์ไปหาหมอช่วงนั้นหน้าหนาวอากาศเย็นมากนั่งมอไซค์อากาศเย็นหนาวจนตัวชาปวดเข้าถึงกระดุกไปถึงโรงพยาบาลตัวแข็งทือสะลึมสะลือแบบคนชีอคไปแล้วนั่นเองหมอจัดแจงฉีดยาให้ทันทีแล้วให้นอนโรงบาล2คืนดูแลรักษาฉีดยาตลอด
ฉีดก้นบ้างฉีดแขนบ้างยังมีรอยเข็มฉีดยาให้เห็นตอนนี้.เกิดอาการกลัวเข็มฉีดยาทันที.ก่อนกลับบ้านหมอได้แนะนำให้ว่าต้องรู้จักไปออกกำลังกายบ้างไปวิ่งเล่นเล่นกีฬา.ร่างกายจะได้แข็งแรงจะไม่ต้องมาหาหมอฉีดยา.ก้อพยายามทำตามหมอบอกเลยติดเป็นนิสัยที่อยู่ว่างไม่ได้ต้องออกไปยืดแข้งยืดขา.กลายเป็นว่าชอบที่จะไปเรียนทางด้านการกีฬาซ่ะงั้นไม่ไปทางหมอแล้ว.อาการเจ็บป่วยบ่อยๆก้อหายไปร่างกายก้อแข็งแรงขึ้นถึงแม้ว่าจะไม่เต็มร้อยนักแต่ก้อยังดีกว่าตอนเป็นเด้ก.เคยไปเจาะเลือดเพื่อจะบริจาคโลหิตแต่หมอเขาก้อไม่เอาเขาบอกว่าเม็ดเลือดยังไม่แข็ง
แรงพอมีความเข้มข้นของเม็ดเลือดน้อย.
ไม่ได้เป็นหมอไม่เป็นไร.แต่ทำงานอยู่ห้องพยาบาลน๊ะ
ให้งานบริการเกี่ยวกับสุขภาพให้กับเด็กๆเหมือนกัน
คริๆๆๆ..จบข่าว..





ข้อสี่.......เรื่องของความรัก


การเป็นครูพละเนี้ยต้องมีลุคแบบแมนๆเดินแบบสาวมั่นมากๆ..ใส่เสื่อยืดกางเกงวอร์ม ตัดผมสั้น..เดินทะมัดทะแม่ง..พุดหวานไม่เป็น
ดังนั้นใครเห็นคิดว่า...ทอมแน่ๆ..แต่ไม่ใช่นะคะขอบอก
โรงเรียนที่สอนก้อระดับ ปวช และปวส อุตสาหกรรม
มีทั้งหญิงและชาย..
วันหนึ่งขณะนั่งพักในห้องพักครู..นั่งคนเดียว
มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งเอาจดหมายมาให้ก้อถามว่าใครส่งใบลาหรอเอตอบว่าใช่เดินออกไป.ก้อแกะจดหมายอ่าน
ตีกใจเป็นจดหมายสารภาพรักของเด้กที่ว่ามารักครูว่ารักมานานอดใจไม่ไหวขอสารภาพความในใจ..อ่านแล้วขนสแตนอัพ....ไม่รู้ทำอย่างไรไม่กล้าบอกหรือปรึกษาเพื่อนครูด้วยกันอายว๊ะ..ต่อมาอีกวันมาอีกแล้วคนเดียวกันแระมาส่งให้อีก.คราวนี้ไม่รับจดหมายวีนแตกจนเด้กร้องไห้วิ่งหนีออกไป.แหมไม่รู้ทำอย่างไรเห็นเธอร้องไห้ก้อเสียใจนั่งกลุ้มใจทำไงดีว๊า..ขืนเป็นแบบนี้ไปเข้าห้องสอนจะมองหน้ากันได้ไง.นั่งคิดนอนคิด2-3วันก้อตัดสินใจเรียนเด้กคนนั้นมาคุยด้วยบอกเด้กไปแล้วให้เธอคิดใหม่ให้พยายามสนใจเรียนอย่าคิดเรื่องแบบนี้และบอกว่าครูไม่ชอบลักษณะแบบนี้ด้วยเป็นครุและลุกศิษย์คิดแบบนี้ไม่เหมาะสมไม่ถุกต้อง
ร่ายยาวๆๆจนให้เอเข้าใจ.คิดว่าคงเป็นครั้งเดียวที่ไหนได้ที่บ้านมีเด้กสาวข้างบ้านก้อเอาจดหมายสารภาพรักมาให้อีกแระเป็นจดหมายรำพันพรรณาว่ารักนักรักหนา.ป๊าด..อกจะแตก..แหมๆๆทำไมถึงมารักกันแบบนี้น๊ะ..ไม่เข้าใจ..ต้องออกไปคุยกับเธอบอกว่าไม่ได้รักเธอแบบนี้.คิดเป็นน้องสาวไปเที่ยวไปเล่นกันแบบพี่กะน้องน๊ะ
หลังจากนั้นพยายามทำตัวห่างๆออกมา...
โชคดีครอบครัวเธอย้ายไปที่จังหวัดอื่น..ไม่งั้นก้อไม่รู้ทำหน้าไงมันขัดๆเขินๆพิกล...และรับทราบว่าทั้งคู่ก้อได้แต่งงานมีครอบครัวมีลูกน่ารักๆ..ก้อดีใจด้วย..คงเป็นเพราะวันรุ่นกำลังสับสนในตนเองแล้วมาประทับใจคนที่ใกล้ชิดแลวยึดว่าเป้นความรักเนาะ..ถ้าเราเข้าใจและอธิบายให้เด้กๆทราบถึงเรื่องของธรรมชาติคงไม่มีผลทำให้เด้กเกิดความผิดปกติทางเพศไปได้..ใช่ไหมค่ะ







ข้อห้า.....เฉียด


ช่วงที่สอบบรรจุเป็นครูใหม่ๆจะมีการส่งครูใหม่ไปเข้าอบรมบ่อยๆตามที่ต่างจังหวัด.ในเดือนตุลาคมมีการส่งครูเข้าฝึกอบรมที่จังหวัดชลบุรี.เราคนเหนือคุ้นกับภูเขาพอได้ไปเห็นทะเลก้อดีใจยกใหญ่.เรื่องเกิดขึ้นเมือตอนเย็นของการอบรมหลังจากทานอาหารเสร็จก้ออยาอกไปเดินเที่ยวชมทะเลก้อออกปากชวนเพื่อนๆไปเดินเล่นกันปรากฎว่าเพื่อนๆไม่ไปแต่มีพี่คนหนึ่งนั่งทานข้าวด้วยไม่สนิทเพิ่งรู้จักในงานนี้ก้อบอกว่าจะไปเป็นเพื่อนเราดีใจเห็นเขาเป้นผุ้ใหญ่ท่าทางใจดีก้อตกลงไปกะเขา.เดินออกไปเขาบอกว่าไปเกินขึ้นเขาตรงโน้นจะทำให้เห็นทะเลตอนพระอาทิตย์ตกดินสวยมากเราก้อว่าไปๆก้อเดินตามเขาไปเดินไปเรื่อยๆเขาหันมาคุยเป้นระยะๆพอเดินได้เกือบบนยอดเขาเขามาจับข้อมือบอกว่าเหนื่อยไหมพี่จุงไปหรือจะให้พี่อุ้มขี่หลังพี่ได้น๊ะ.เราบอกว่าไม่ต้องเดินไหวพยายามบิดมือไม่ไห้เขาจับมือเขาแข็งมากเราบอกว่าเดินคนเดียวได้ไม่เป็นไรเขาเข้ามาโอบเอวชี้ให้ดูทะเลตรงนั้นไงสวยไหม.เราพยายามใจเย็นบอกว่าเห็นๆสวยดีแต่จะกลับลงไปแระน๊ะมืดแระกลัวอันตรายเขาก้อบอกว่าอย่าเพิ่งกลับนั่งคุยกันหน่อยไหมมีเรื่องอยาอกจะคุยด้วยก้อบอกว่าไปคุยที่ข้างล่างดีกว่าตรงนี้ไม่เหมาะสมเขาไม่ยอมบอกว่าจะคุยตรงนี้หรือไปใต้ต้นดีเขาพยายามพาใต้ต้นไม้ข้างทาง.ก้อบอกว่าไม่ดีไม่เอาจะกลับลงข้างล่างพร้อมบิดมือไปมาพอดีมีชาวบ้านเดินขึ้นมาบนเขา2-3คนเขาก้อปล่อยมือเราจึงวิ่งลงมาทันที่เขาตะโกนบอกว่าอย่าเพิ่งไปคุยกันก่อน.เราวิ่งหน้าตั้งแรงมีเท่าไหร่วิ่งสุดโต้ง..มานั่งหอบแหกที่พักเพื่อนคนอื่นๆเห็นก้อถามเอ๊ามาแล้วหรอพี่..ไปไหนไม่ลงมาด้วยกัน..
เราได้นั่งมองหน้าคนถามไม่รู้ตอบเขาว่าไงดี..กลัวแล้วก้ออายด้วย...ตั้งแต่นั้นมากไม่ไปไหนกะคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยอีกเลย..กลัว..แล้วจ้า...เฉียด.........กึยส์ๆๆๆๆๆ

จบข่าว........








Create Date : 16 มกราคม 2550
Last Update : 7 ธันวาคม 2550 16:43:05 น.
Counter : 608 Pageviews.

3 comments
  
อะนะ ข้อสี่นะ อย่าว่านะ คริๆๆ น้องคนนี้ก็ชอบนะสาวๆนะ น่ารักๆยิ่งชอบเหมือนกันอ่ะคะเดี๋ยวจะพาเลี้ยงข้าวเลย คริๆๆ
เห็นอะไรน่ารักแล้วหัวใจสั่นอ่ะ


ปล. ขี้อายเหมือนหนูมิตเตอร์หรอจ๊ะ คริๆๆ

สุดนางแมวก็มองเห็นแล้วนะ คริๆๆ

โดย: แสงไร้เงา วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:2:02:30 น.
  
.. ขำข้อ 4 อ่ะคุณรุ่ง หัวเราะแทบตาย 5555 มีสาวๆมาหลงรักด้วย เราก็เคยมีเหมือนกันนะ แต่เป็นช่วงวัยรุ่นน่ะ ตอนนี้ไม่มีแล้ว จากเคยออกห้าวๆเริ่มหันมารักสวยรักงามไว้ผมยาวเป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้ว

แต่เอ..เรื่องนี้ไม่น่าจะตั้งหัวข้อว่าเรื่องความรักเลยนี่ ไม่ใช่ซะหน่อย ถ้าเรื่องความรักมันต้องเป็นเรื่องของหัวใจของคุณรุ่งเองสิถึงจะถูก ใช่รึป่าว

ได้รู้แล้วว่าเป็นครูพละ สวัสดีค่ะคุณครู ไปก่อนนะคะ
โดย: printcess of the moon วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:13:19:22 น.
  
แอบมาดูหนุ่มหล่อ...
โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:10:31:12 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

gripenator
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online

hawaiihawaii
ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน ต้อนรับพ้องเพื่อน ทั่วทุกๆคน
hawaiihawaii
มกราคม 2550

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
16 มกราคม 2550
All Blog
Friends Blog
[Add gripenator's blog to your weblog]