เด็กวัย 4 -5 ปี มีความมั่นใจในตัวเองมาก เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น สนใจสิ่งรอบตัวที่แปลกใหม่ ฝึกทักษะใหม่ๆ เพราะอยากทำอะไรให้สำเร็จทุกอย่าง ต้องการแสดงความคิดและแสดออกในสิ่งที่คิดซึ่งเต็มไปด้วยจินตนาการ
พัฒนาการทางร่างกายและการส่งเสริม
เด็กวัยนี้มักจะชอบเล่นแบบโลดโผน เพราะมีพัฒนาการทางร่างกายที่ดีขึ้น สามารถทรงตัวได้ดีขึ้น จึงมักคิดว่าเป็นเรื่องท้าทายและมักจะทำอะไรที่ยากๆ เพื่อทดสอบกำลังของตัวเอง
พัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่เด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- ก้าวสลับเท้าขึ้นลงบันไดได้คล่อง
- ชอบหมุนตัว แกว่งตัว ตีลังกา ชอบวิ่ง กลิ้ง ปีนบันไดและต้นไม้
- กระโดดขาเดียวได้ไกล 4 -6 ก้าว
- กระโดดจากที่สูง 2 ฟุต โดยเท้าทั้งสองข้างลงพร้อมกัน
- ใช้มือจับลูกบอลได้ดี แทนที่จะใช้แขนรับ
- ถีบรถจักรยานสามล้อและเลี้ยวกลับรถได้
พัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดเล็กเด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- ต่อบล็อคเป็นหอคอยสูงๆ ได้
- ใช้กรรไกรได้ดี ตัดกระดาษตามเส้นได้
- วาดรูปคนได้ มีส่วนหัว ลำตัว แขน และขา จะค่อยๆ พัฒนาการจนเติม ผม หู มือ และเท้า ได้
- คัดลอกตัวอักษรตามแบบง่ายๆ ได้
- ร้อยลูกปัดเป็นสร้อยคอได้ แต่ยังไม่สามารถสนเข็มได้
การส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายของเด็กวัย 4 5ปี
-
-
-
- ให้เด็กได้ทำอะไรด้วยตัวเอง เช่น ใส่เสื้อผ้า ติดกระดุมเสื้อ และผูกเชือกรองเท้าเอง
- หากิจกรรมให้ด็กทำ เช่น ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน ดัดลวด ดัดเชือกเป็นรูปทรงต่างๆ หรือต่อภาพจิ๊กซอว์ เป็นต้น
- พาลูกออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ฝึกทักษะการเคลื่อนไหว ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่
- ฝึกให้รับผิดชอบงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น เช็ดโต๊ะ เก็บรองเท้า พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้ทำงานประสานกันระหว่างวายตากับมือได้ดีอีกด้วย
- ถ้าเด็กเข้าใจว่าความพยายามของตนไม่เป็นไปตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ เด็กจะเลิกล้มความพยายามทที่จะทำอะไรใหม่ๆ
- ทันที ถ้าเด็กคนนั้นเก็บความรู้สึกนี้ไว้จนโต อาจก่อเป็นปมด้อยในภายหลังได้
สุขภาพฟันของเด็กวัย 4-5 ปี
ในช่วงวัย 4-5 ปี เด็กจะมีฟันน้ำนมครบ 20 ซี่ เด็กๆ จะชอบกินขนม ของขบเคี้ยวที่มีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ จะทำให้ฟันผุง่าย ดังนั้น เด็กๆ ควรได้รับการดูแลและแปรงฟันอย่างถูกวิธีและสะอาด เพราะการเสียฟันน้ำนมก่อนเวลาที่ฟันแท้จะขึ้น ทำให้ฟันแท้เกหรือซ้อนกันได้
การส่งเสริมพัฒนาการสุขภาพฟันของเด็กวัย 4 - 5 ปี
-
-
-
- ควรดูแลความสะอาดในช่องปากของเด็ก โดยเป็นผู้แปรงฟันอย่างถูกวิธีให้เด็กที่มีอายุ ต่ำกว่า 5 ขวบ และควรพูดคุยให้เด็กเห็นความสำคัญของการแปรงฟันและรักษาฟันให้แข็งแรง
- หัดให้เด็กแปรงฟันเอง และผู้ใหญ่ช่วยแปรงซ้ำในตอนสุดท้ายเพื่อให้ฟันสะอาด และต้องระวังไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟัน
พัฒนาการทางภาษาและการส่งเสริม
เด็กอายุ 4 5 ปี อยู่ในระยะโครงสร้าง (Structure Stage) การรับรู้และการสังเกตของเด็กวัยนี้ดีขึ้นมาก เด็กจะคอยสังเกตการณ์การใช้ภาษาของคนรอบข้าง และทดลองใช้ด้วยตนเอง
พัฒนาการทางภาษา เด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- บอกชื่อ นามสกุล และที่อยู่ได้
- รู้จักเพศของตัวเอง
- ชอบถามทำไม เมื่อไร อย่างไร และถามความหมายของคำ และมักเป็นคำถามที่มีเหตุผลมากขึ้น
- เด็กวัยนี้สามารถขยายคำศัพท์ เด็กวัยนี้สามารถขยายคำศัพท์จาก 4,000 - 6,000 คำ และสามารถพูดได้ 5-6 ประโยคต่อคำ สามารถเล่าเรื่องซ้ำ 4 -5 ลำดับขั้น หรือ 4 -5 ประโยคในเรื่องหนึ่งได้
- เข้าใจคำถามง่ายๆ และตอบคำถามนั้นได้ แม้ในเด็กบางคนอาจจะยังพูดติดอ่าง แต่ก็สามารถแก้ไขได้
- ชอบเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่คิดขึ้นมาเอง ให้คนอื่นๆ ฟัง ทั้งพ่อแม่ คนรอบข้าง และเพื่อน
- คิดคำขึ้นมาใช้โต้ตอบกับผู้ใหญ่ได้
- มักให้ความสนใจในภาษาพูดของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคำแสลง หรือคำอุทาน
- ชอบเรื่องสนุก ตลก ชอบภาษาแปลกๆ ชอบฟังนิทานมาก และชอบฟังเพลง มักจะคอยฟังเวลาที่ผู้ใหญ่คุยกัน จดจำคำศัพท์ และบทสนทนาเหล่านั้น โดยเฉพาะคำแสลงหรือคำอุทาน
- สามารถบอกชื่อสิ่งของในภาพที่เห็นได้ หรือเล่าเรื่องที่พ่อแม่เคยอ่านให้ฟังได้ และจะเล่นเป็นสุนัข เป็ด หรือสัตว์ต่างๆ ในเรื่องนั้น พร้อมทำเสียงสัตว์เหล่านั้นประกอบได้
- สับสนระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องเล่าในหนังสือเด็ก
การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็กวัย 4-5 ปี
-
-
-
- ควรตอบคำถามของเด็กด้วยคำตอบ สั้น เข้าใจง่าย และใช้ภาษาที่ถูกต้อง
- ไม่ควรถือป็นอารมณ์เมื่อเด็กพูดคำหยาบ ไม่สุภาพต่างๆ ควรมีท่าทีไม่สนใจถ้อยคำเหล่านั้น ไม่นานเด็กจะเลิกพูดไปเอง
- สร้างทักษะพื้นฐานอื่นๆ ทางภาษาที่เกี่ยวข้องกับสติปัญญา เช่น อ่านหนังสือให้เด็กฟังเป็นประจำ
- ควรสอนให้เด็กเข้าใจจำนวนจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น ขนม 1 ชิ้น นก 2 ตัว และสอนการเพิ่มหรือลดจำนวนจากภาษาที่ใช้ เช่น "ได้เพิ่มมาอีก" หรือ "บินหายไป" เป็นต้น ความเข้าใจพื้นฐานจากสิ่งเหล่านี้ จะเชื่อมโยงไปสู่ความหมายของสัญลักษณ์ และการเรียนรู้คณิตศาสตร์ขั้นต่อไป
- เมื่อเด็กเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่คิดขึ้นมาเอง และแต่งเติมเสริมต่อ ควรปล่อยให้เด็กเล่า และไม่ตำหนิติเตียน
พัฒนาการทางสติปัญญาและการส่งเสริม
ความพร้อมของพัฒนาการด้านสติปัญญา ของเด็กวัย 4-5 ปี มีมากขึ้น เมื่อสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) พัฒนาและทำงานได้ดีขึ้น เด็กๆ จะสามารถควบคุม ยับยั้งชั่งใจ อธิบายความต้องการ หรือความคับข้องใจของตนเองได้มากขึ้น แล้วความซน ดื้อ และ เจ้าอารมณ์จะค่อยๆ ลดลงไปเอง
เด็กวัยนี้จะมีการมองโลกอย่างหลากหลายมุมมอง (Multicausal thinking) เริ่มเข้าใจเหตุและผลที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นผล
จากพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็กวัยนี้
พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- นับ 1 3 ได้ถูกต้อง และ ท่องจำเลข 1 30 ได้
- เรียงบล็อก 5 อัน ตามลำดับจากใหญ่ที่สุดไปเล็กที่สุด
- บอกชื่อและจับคู่แม่สีได้
- แยกแยะความต่างระหว่างเส้นขวาง เส้นตั้ง และเส้นนอนได้
- บอกได้ว่าอันไหนที่ใหญ่ที่สุด และยาวที่สุดในสิ่งของสามอย่าง
- เข้าใจเรื่องขนาดได้ลึกซึ้งขึ้น
- ใช้คำที่บอกตำแหน่งได้ เช่น ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างใต้ ข้างบน ข้างใน ข้างนอก ฯลฯ
- มีความเข้าใจเรื่องเวลาเพิ่มขึ้น เช่น วัน เดิน นาที เวลาเข้านอน ฯลฯ
- เป็นนักสังเกตการณ์ที่ดี โดยเฉพาะเรื่องที่ตัวเองมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
- เล่นของเล่นได้นานขึ้น เพราะมีสมาธิดีขึ้น
การส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กวัย 4 - 5 ปี
-
-
-
- ออกกำลังกาย เช่น ปั่นจักรยาน ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของสมอง เมื่อใช้สายตามอง ขาออกแรงปั่น ใช้สมองส่วนควบคุมการทรงตัว ทุกส่วนจึงได้ทำงานประสานกัน และยังนำออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงสมองอีกด้วย
- การเล่นต่อบล็อกหรือชุดตัวต่อเสริมทักษะ เป็นรูปร่างต่างๆ การใช้นิ้วและมือทำให้สมองทำงานต่อเนื่อง และเด็กมีสมาธิดีขึ้นด้วย
- เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกในเรื่องการอ่าน ชวนกันตั้งคำถามและให้เด็กคิดหาคำตอบ ให้คำชมเมื่อเขาแสดงวิธีคิดใหม่ๆ
- ฝึกให้เด็กคิดเป็นภาพเพื่อเพิ่มศักยภาพของสมอง เช่น การบวกเลข จะกระตุ้นสมองซีกซ้ายเพียงอย่างเดียว ควรกระตุ้นสมองซีกขวาให้ทำงานไปพร้อมกัน
- เปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ดีต่อการเรียนและการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ เพราะจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับทางเดินของประสาทที่ใช้ความคิด จิตใจสงบ กล้ามเนื้อสมองผ่อนคลาย พร้อมสำหรับการเรียนรู้
- การเรียนหรือการเล่นดนตรี จะช่วยให้การเรียนคณิตศาสตร์ดีตามไปด้วย เพราะดนตรีทำให้เด็กรู้จักตัวเลขจากการนับจังหวะ บวกลบค่าของเวลา เข้าใจเรื่องของสัดส่วน และรู้จักค่าของตัวโน้ตแต่ละตัวที่ไม่เท่ากัน
พัฒนาการทางสังคมและการส่งเสริม
เด็กวัยนี้ต้องการสัมผัสสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าผู้คน อาหาร เสื้อผ้า การเล่น และของเล่นใหม่ๆ มีความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบรุนแรง แสดงพฤติกรรมขัดแย้งกับคนอื่น เพื่อเรียกร้องการตอบสนองทางสังคมจากเพื่อนๆ และเป็นเพราะการทำงานของ สมองส่วนหน้าซึ่งทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ จึงแสดงออกรุนแรง แต่ก็จะค่อยๆ ลดลงไปเอง
-
-
-
- การปฏิเสธหรือต่อต้านอำนาจของผู้ใหญ่แสดงออกด้วยคำพูด ท่าทาง หรือบางครั้งอาจใช้ความเงียบ แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน หรือทำเป็นไม่เข้าใจคำถาม
- การเลียนแบบ เลียนแบบการพูด กิริยาท่าทางจากเด็กคนอื่น หรือผู้ใหญ่ที่รู้สึกผูกพัน หรือเลียนแบบจากผู้ที่สัมผัสตัวเขาอย่างนุ่มนวลหรือ เลียนแบบจากผู้ที่ต้องการจะเลียนแบบด้วย
- การแข่งขันจะเริ่มในวัยประมาณ 4 ปี เด็กอยากให้ตนเองได้รับการยอมรับมากกว่าคนอื่นๆ
- การทะเลาะวิวาท แสดงออกด้วยการเตะ ตี กัด ร้องไห้ หรือแย่งชิงของเล่นกลับคืน
- ความเห็นใจหรือรู้สึกสงสารแสดงออกด้วยการพยายามจะช่วยเหลือผู้อื่น เช่น ช่วยเพื่อนที่หกล้ม ช่วยทำแผลให้เพื่อน เป็นต้น
- การยึดตนเองเป็นศูนย์กลางเด็กต้องการให้ตัวเองเป็นใหญ่ ต้องได้ทุกสิ่ง ต้องการให้คนอื่นยอมรับในสิ่งที่ทำอยู่ และจะเริ่มลดการยึดตนเองลงเมื่อเด็กได้เข้ากลุ่มกับเพื่อน ได้เล่นรวมกับคนอื่น เด็กจะเกิดการเรียนรู้และยอมรับคนอื่นมากขึ้น
พัฒนาการทางสังคมของ เด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- เข้าใจความจำเป็นของการให้ และรับ
- รู้จักการอดทนรอคอย และลำดับก่อนหลัง
- ตอบสนองต่อกฎเกณฑ์ เช่น มีกฎว่าไม่ตีหรือทำร้ายเด็กคนอื่น หรือ เล่นได้แค่หน้าบ้าน
- สนใจและอยากเล่นเป็นกลุ่ม และเกาะกลุ่มกันมากขึ้น มีการแข่งขันระหว่างกลุ่ม
- ชอบมีเพื่อน และอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ จะคุยและเล่นจนไม่ยอมเลิก
- ถ้าเล่นด้วยกันเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากกว่า 2 คน โดยเฉพาะจำนวนเลขคี่ เช่น 3 คนมักจะกีดกันเด็กคนที่ 3
- เด็กจะคุ้นเคยกับการเล่นรวมกันเป็นกลุ่ม เด็กๆ จะรู้วิธีการจัดการกันเองในกลุ่ม จัดการปัญหาทะเลาะเบาะแว้งได้ดีพอสมควร
- ชอบกระซิบและมีความลับ
- ชอบเล่นกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ เล่นกับเพื่อนได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เพื่อนสนิทมักเป็นเพศเดียวกัน
- ชอบเล่นสมมุติ
การส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมของเด็กวัย 4-5 ปี
-
-
-
- แม้ว่าเด็กวัยนี้จะจัดการปัญหาทะเลาะเบาะแว้งได้ดีพอสมควร ผู้ใหญ่สามารถเข้าไปไกล่เกลี่ยหรือให้คำแนะนำได้บ้าง
- การพาลูกออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน นอกจากจะช่วยส่งเสริมด้านมิติสัมพันธ์แล้วช่วยให้เด็กรู้จักการแก้ปัญหาด้วย
- ฝึกให้รับผิดชอบงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เช่น เช็ดโต๊ะ เก็บรองเท้า เพื่อเรียนรู้การแก้ปัญหาและรู้จักวางแผน
พัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจและการส่งเสริม
เด็กวัยนี้ รู้จักคิดและมีเหตุผลมากขึ้น แต่ก็ยังมีความกลัวอยู่ ซึ่งเป็นความกลัวจากจินตนาการของเด็กเอง
พัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของเด็กอายุ 4 - 5 ปี
-
-
-
- เด็กวัยนี้จะมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย เดี๋ยวรักมาก เกลียดแรง ร่าเริง น่ารัก หรือเดี๋ยวอาจจะพูดจาไม่ดี
- อ่อนไหวต่อคำชมและคำตำหนิ
- ไม่หยิบของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
- ชอบออกนอกกฎเกณฑ์
- ชอบส่งเสียงดัง ขี้โม้ โอ้อวด
- มักพูดคำหยาบ โดยที่ยังไม่เข้าใจความหมาย
- ชอบดูดนิ้วหัวแม่มือตอนจะนอน สำหรับเด็กบางคนการดูดนิ้วเป็นการคลายเครียดเท่านั้น
- ร้องไห้คร่ำครวญไม่ยอมแยกจากแม่ไปนอนคนเดียวทั้งที่เคยทำได้มาก่อน
- เด็กผู้ชายชอบจับอวัยวะเพศเวลาหงุดหงิด
- สนใจเรื่องการแต่งงาน
- ซักถามว่าเด็กออกมาจากท้องแม่ได้อย่างไร ชอบสงสัยว่ามีการซื้อขายเด็กได้ไหม
- เริ่มรู้จักสิ่งดี และ สิ่งไม่ดี
การส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของเด็กวัย 4 - 5 ปี
-
-
-
- หากเด็กรู้สึกมีปัญหาที่แก้ไม่ได้ จะต้องช่วยเหลือโดยให้คำแนพนำที่หนักแน่น ต้องคอยพูดด้วยเหตุผล
- เมื่อเด็กอาละวาด พูดด้วยเหตุผลแล้วยังไม่เชื่อฟัง อาจต้องบังคับหรือควบคุม
- คอยดูแลและทำให้หายกลัว เมื่อเด็กมีความกลัวมากเกินไป เพราะเด็กอาจยังไม่สามารถแยกความคิดจินตนาการของตนเองจากความจริงได้ หรือมีเหตุซ้ำเติม เช่น ได้ฟังเรื่องน่ากลัว ถูกขู่ให้กลัว หรือฟังนิทานหวาดเสียว
- งดการดูโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์เรื่องผีที่น่ากลัว
- ต้องเข้าใจอารมณ์ของเด็กอยู่เสมอ เพราะเด็กวัยนี้ จะมีอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
- กระตุ้นให้เด็กคิดหาเหตุและผลที่หลากหลาย โดยใช้คำถามแบบปลายเปิด เช่น แล้วเป็นยังไงอีก
- หากเด็กพูดคำหยาบ คำด่า ไม่ควรดุหรือลงโทษ ควรอธิบายให้เด็กฟังว่า ไม่มีใครชอบฟังคำพูดแบบนี้
- เมื่อเด็กถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องเพศ ความแตกต่างของหญิงชาย หรือ ถามว่า เด็กมาจากไหน ควรตอบอย่างง่ายๆ ด้วยท่าทีสบายๆ และถูกต้องเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ควรตอบแบบหลอกเด็ก เพราะจะยิ่งทำให้เด็กสับสนในเรื่องนั้นๆ