I AM SOMEONE
<<
พฤษภาคม 2565
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
17 พฤษภาคม 2565

เธอทำให้ฉันเห็นวันพรุ่งนี้ ตอนที่ 24

ระมิงค์นั่งรถไฟฟ้าไปลงย่านชานเมือง แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปหาพิชาเพื่อนสนิทอีกคน พิชาเปิดร้านเบเกอรี่และเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นในย่านนั้น บรรยากาศในร้านสีนวลตาดูอบอุ่นน่านั่ง ระมิงค์เดินไปส่องดูเพื่อนที่กำลังง่วนอยู่กับการคิดเงินลูกค้าผ่านกระจกใสหน้าร้าน พิชาเงยหน้าขึ้นมาเห็นพอดี เธอยิ้มให้ระมิงค์แล้วกวักมือเรียกเพื่อนให้เข้ามาไวๆ

สองสาวนั่งหลบมุมมาคุยกันใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ชงเครื่องดื่ม พิชาไม่ตอบรับการไปดูตัวเจนโดยไม่ลังเล ระมิงค์ผิดหวังเล็กน้อยที่เพื่อนรักปฏิเสธ ทั้งที่เธออุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงที่

“เอาตรงๆ นะมิ้ง ฉันไม่สนับสนุนให้แกรักเด็ก” พิชาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขึงขัง ทำเอาคู่สนทนาหน้าสลด
“จากประสบการณ์แย่ๆ ของแกใช่มั้ย” ระมิงค์สันนิษฐาน
“อื้อ...จะว่างั้นก็ได้” พิชาพยักหน้า “แม้ว่าจะมันจะผ่านมานานเป็นปีแล้ว แต่สำหรับฉันมันก็เหมือนเพิ่งเจ็บหมาดๆ แผลยังไม่หายสนิท”
“บอกเพื่อนให้เป็นวิทยาทานหน่อย” ระมิงค์ขอคำอธิบาย
พิชาเติมนมสดลงในถ้วยกาแฟของเธอแล้วคนให้เข้ากันก่อนจะเล่า “วันที่เราสองคนตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เพราะคิดว่าอายุที่ห่างกันเป็นรอบจะไม่เป็นอุปสรรคถ้าเรารักกันมากพอ ตอนที่ศึกษาดูใจกันก็เป็นอะไรที่ลงตัวไปหมด ทั้งไลฟ์สไตล์ ทั้งทัศนคติ และการทำงานที่มันไปด้วยกันได้จนมองข้ามเรื่องอายุไปได้เลย”
“ฉันจำได้ เคยเจอแกกับเขาตอนคบกันใหม่ๆ ยังนึกอิจฉาคู่นี้น่ารักแฮะ เหมือนคู่รักวัยรุ่น แกก็พลอยดูเด็กลงไปด้วย”
“อาจเป็นเพราะฉันพยายามลดความเป็นผู้ใหญ่ลงด้วยล่ะมั้ง ก็แอ๊บนั่นแหละ แต่ฉันคงพยายามมากเกินไปจนเสียความเป็นตัวเองไปเยอะ”
“ยังไงที่ว่าเสียความเป็นตัวเอง”
“ฉันไม่เคยเอาใจใคร ปกติก็มีแต่เอาแต่ใจตัวเองเสียมากกว่า พอมีแฟนเด็กก็เลยต้องไปเอาใจเขาแทน ดูแลทุกอย่างทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้าหน้าผม จนบางที่ยังคิดว่านี่เราจะเป็นแม่หรือเป็นเมียกันแน่วะ เข้าไปก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวเขามากไปหรือเปล่า แต่ก็ถามเขาแล้วนะ เขาว่าเขารู้สึกดี และถามกลับมาว่า ฉันมีความสุขกับสิ่งที่ทำหรือเปล่า ถ้ามีความสุขก็ทำต่อไป แล้วพอได้อยู่ด้วยกันฉันยิ่งรู้สึกเป็นแม่มากขึ้นไปอีก ขาดแต่ให้เงินไปใช้เท่านั้นเอง”
“นี่ถ้าเขายังเรียนอยู่ แกคงส่งเรียนจนจบ”
“เออก็คงงั้น ดีที่รู้จักกันตอนทำงานแล้ว”
“แล้วชีวิตคู่กับเด็กมันพลิกผันยังไงถึงไม่รอดล่ะ ตอนแกเลิกกันฉันก็ไม่ได้ถาม เพราะชีวิตฉันก็เกือบไม่รอด ไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจใยดีชีวิตคนอื่นเลยว่ะ”
“เอาเข้าจริงอายุก็เป็นอุปสรรคนั่นแหละ โดยเฉพาะเรื่องสังขาร ถ้าหญิงอายุน้อยกว่าชายไม่เท่าไหร่นะเว้ย แต่ถ้าชายอายุน้อยกว่านี่สิ”
“เรื่องอย่างว่าเหรอ” ระมิงค์เดา
“อืม...พอวันหนึ่งฉันเริ่มอิ่มตัวกับการเที่ยวกลางคืน เหนื่อยกับการปาร์ตี้สังสรรค์บ่อยๆ เริ่มเสียดายเงินจากการทำงานแทบตายต้องมาหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง สามสิบกว่าแล้วร่างกายก็อยากพัก ฉันชอบการอยู่บ้านมากขึ้น ดูแลบ้าน แต่งบ้าน ว่างๆ ก็ไปช้อปปิ้ง หรือนั่งชิลล์ตามร้านกาแฟบ้าง ใช้ชีวิตกลางวันแล้วพักผ่อนเข้านอนกลางคืนตามนาฬิกาชีวิตดีกว่าเยอะ”
พิชานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเล่าต่อ “ส่วนเด็กก็ยังคงสนุกกับชีวิตกลางคืนและเพื่อนของเขา กลับเข้าบ้านมาดึกๆ ตีหนึ่งตีสอง เมามาเกือบทุกคืนฉันก็เข้านอนไปแล้ว ฉันไม่สามารถลุกขึ้นมาทำกิจกรรมตามความต้องการของเขาได้ ฉันยังไม่ได้หมดอารมณ์แต่ฉันเหนื่อยและไม่พร้อม ก็ปฏิเสธเรื่อยๆ พอเวลามันไม่พอดีกัน ความต้องการของร่างกายไม่เท่ากัน ก็ทำให้เราเริ่มหมางเมินกันมากขึ้น เขาไม่พอใจที่ฉันไม่สามารถตอบสนองเขาได้เหมือนตอนคบกันใหม่ๆ สุดท้ายการนอกใจนอกกายก็เป็นบทสรุป”
“ทำไมถึงรู้ว่าเขานอกใจ”
“พอฉันสะกิดบ้างเขาก็ไม่เอาแล้ว แล้วฉันเริ่มระแคะระคายจากปฏิกิริยาที่คุยกันน้อยลง อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แต่คุยกันวันละไม่ถึงสิบคำ ถามไรก็ไม่ตอบ เขาเริ่มไม่โอเคกับสิ่งที่ฉันเคยทำให้ ดูออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ มันก็รู้สึกได้ว่าเปลี่ยนไป บางวันไม่กลับบ้านเลย ไม่มีเหตุผลไม่มีข้ออ้าง ฉันก็ไม่อยากถามให้เจ็บ เพราะฉันรู้ว่าฉันเองที่บกพร่องเรื่องบนเตียง”
“ตัดสินใจเลิกเลยเหรอ”
“เกือบสองปีที่อยู่ด้วยกัน เขาทำให้ฉันมีความสุขมากกว่าทุกข์นะ แต่พอทุกข์มันทุกข์เกินกว่าจะรับไหวหรือว่าแก้ไขอะไรได้แล้ว ถ้าทะเลาะกันฉันว่ายังปรับความเข้าใจกันได้นะ แต่ถ้านอกใจแล้วล่ะก็แปลว่าหมดรักแล้วจริงๆ มันก็ต้องจบ ฉันบอกเขาตรงๆ ถ้าไม่รู้สึกเหมือนเดิมแล้วก็ไปเถอะ ฉันไม่รั้งไว้ เราไม่ได้จดทะเบียนกัน ไม่มีลูกด้วยกัน ไม่มีอะไรผูกมัด ไปอยู่กับคนที่ให้ความสุขมากกว่าฉัน วันนั้นเขาก็เก็บข้างของออกไปเลยเหมือนรอคำๆ นี้จากฉันอยู่ ฉันโคตรเจ็บเลยว่ะ แต่ไม่ร้องไห้ให้เขาเห็นนะ” แต่ตอนนี้น้ำตาเธอกำลังเอ่อและเสียงเครือ
“สองปีมันก็มีความทรงจำมากมายแหละฉันเข้าใจว่าลืมยาก แต่แกใจเด็ดมากนะ” ระมิงค์เท้าคางฟังเพื่อนเล่าต่ออย่างตั้งใจ
“ฉันไม่อยากเสียเวลาและไม่อยากให้เขาเสียโอกาสด้วย รักเขาก็ต้องให้เขาไปเจอสิ่งที่ดีกว่า ก่อนหน้านี้เคยอยู่คนเดียวได้ พอเขาไปแล้วก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้เหมือนเดิม ชีวิตคู่พังก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างต้องพังทั้งชีวิตนี่หว่า เสียใจได้แต่อย่าเสียสติ ฉันบอกตัวเองแบบนี้แหละ”
“นั่นมันฉันเองที่เสียสติ” ระมิงค์ว่าตัวเอง
“ชีวิตคู่ของแกไม่ได้พังสักหน่อย ใครเจอแบบแกก็ต้องช็อคเป็นธรรมดา แต่สำหรับแกมันเป็นฝันร้ายที่ยาวนาน แค่ปลุกตัวเองให้ตื่นก็เจอกับโลกความจริงแล้วก็ลุกขึ้นสู้กับมันซะ”
“ฉันขอบใจนะที่เตือนสติ แล้วขอโทษที่รื้อฟื้นเรื่องเจ็บๆ ของแก”
พิชาหยิบทิชชูมาซับขอบตาที่รื้นด้วยน้ำตา “ไม่เป็นไร ฉันเล่าให้แกฟังเป็นวิทยาทาน เผื่อแกจะเอาไปคิดเองว่า แกควรรักกับเด็กหรือเปล่า บางทีเด็กก็ต้องการแค่ความสนุก มีความใคร่มากกว่าความรัก วันหนึ่งเขาก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมกับเขามากกว่าอยู่แล้ว จะมาเอาผู้หญิงสูงอายุทำไม”
“แกทำให้ฉันกลัวนะพิชา” สีหน้าของระมิงค์เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันก็ไม่ได้อยากทำให้แกเสียเซลฟ์หรอก แต่แกอยากรู้ฉันก็เล่า ที่ผ่านมาฉันไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ใครฟัง เพราะฉันอายความรู้สึกตัวเองที่ไปตกหลุมรักเด็กแล้วปีนขึ้นมาไม่ไหว ทำเป็นวุ่นวายไม่มีเวลาให้เพื่อนๆ แต่ความจริงแล้ว ฉันต้องหาทางออกให้กับชีวิตตัวเองว่าจะเอาไงดีวะ อกหักตอนแก่มันไม่เท่สักเท่าไหร่หรอกว่ะ”
“มันผ่านมาแล้วน่า แกเก่งมาก” ระมิงค์ปลอบใจเพื่อน พิชาจิบกาแฟที่ทิ้งไว้จนเย็นชืดแล้ว
ส่วนระมิงค์กุมขมับข้างหนึ่งเบ้ปากถามตัวเอง “เอาไงต่อดีวะเรา”
“ฉันไม่สนับสนุน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแกต้องเชื่อฉันนี่ ฉันไม่เคยรู้จักเด็กของแก เขาอาจจะดีกว่าที่ฉันเจอก็ได้ แกเป็นคนสัมผัสเอง แกย่อมรู้ดีกว่าฉันแน่นอน”
“เครียดเลยว่ะ”
“เอาน่าอย่ากังวลเพราะเรื่องฉันเลย คนละคนกัน เออ เดี๋ยวให้ชิมขนมที่เพิ่งออกมาใหม่ ฉันคิดสูตรเอง แกวิจารณ์ให้หน่อย” พิชาเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน แล้วก็เดินไปหยิบจานขนมที่เธอทำเองหน้าตาน่ากิน เพื่อให้ระมิงค์หันเหความสนใจไปเรื่องอื่นบ้าง



Create Date : 17 พฤษภาคม 2565
Last Update : 17 พฤษภาคม 2565 16:01:05 น. 2 comments
Counter : 405 Pageviews.  

 
อ่าน เก็บรักไว้ จบไป 1 เรื่อง
เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูฝัน เพิ่งอ่านไปได้ 2 บท
ค่อยๆตามอ่านครับ





โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 17 พฤษภาคม 2565 เวลา:23:18:59 น.  

 
ขอบคุณนะคะที่ติดตาม


โดย: Alex on the rock วันที่: 18 พฤษภาคม 2565 เวลา:19:13:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]