I AM SOMEONE
<<
มกราคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
26 มกราคม 2565

เธอทำให้ฉันเห็นวันพรุ่งนี้ ตอนที่ 5

ระมิงค์เป็นคนสวยมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยมัธยมก็ไปเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้รับการทาบทามให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์แต่เธอปฏิเสธ เพราะอยากเรียนหนังสือมากกว่า ก่อนจบมหาวิทยาลัยยังมีแมวมองหรือโมเดลลิ่งติดต่อให้เธอเป็นดาราด้วยซ้ำ ซึ่งมันคงจะดีถ้าเธอตัดสินใจเป็นดาราเสียตั้งแต่วันนั้น เพราะคงมีรายได้งามไม่ต้องลำบากว่าแก่ตัวไปจะทำอะไรกินอย่างวันนี้ แต่เพราะเธอเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก และมีแฟนแล้วด้วย

รชต แฟนหนุ่มที่คบกันตั้งแต่ปีที่สุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัย เขาไม่ใช่คนหล่อประเภทสาวกรี๊ด แต่เป็นคนที่โปรไฟล์ด้านการเรียนและครอบครัวดี จบมาเป็นวิศวกรอยู่พักหนึ่ง กระทั่งเข้าไปรับช่วงต่อที่โรงงานของครอบครัวในนิคมอุตสาหกรรมแถบชานเมืองจึงดึงระมิงค์ไปทำงานด้วยกันโดยมอบหมายตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบุคคล เพราะทั้งคู่มองอนาคตร่วมกันแล้วว่าจะแต่งงาน และช่วยกันดูแลกิจการของครอบครัวรชต

กว่าเจ็ดปีที่ทั้งคู่ได้ศึกษาดูใจกันจนทั้งสองครอบครัวต่างรู้จักและสนิทสนมกัน ฐานะทางบ้านของรชตจัดว่าดีมากเมื่อเทียบกับระมิงค์ แต่เขาก็ไม่ได้มองเป็นอุปสรรคของการมีชีวิตคู่ เพราะอย่างน้อยก็มีความรู้ความสามารถในการทำงานอยู่

“ป๊ากับม้าของป๊อบยอมรับมิ้งได้ใช่มั้ย” ระมิงค์ถามแฟนหนุ่มในวันที่ตัดสินใจจะแต่งงานกัน
“ป๊อบรักใคร ป๊ากับม้าก็รักคนนั้นแหละ” รชตตอบอย่างจริงใจ
“มิ้งก็รักป๊ากับม้านะ แม่มิ้งบอกว่าบ้านนี้มีน้ำใจกับครอบครัวเรามาก มิ้งสัญญาว่าจะเป็นคู่คิดที่ดีของป๊อบ และช่วยดูแลงานเท่าที่ความรู้ความสามารถของมิ้งมี มิ้งจะไม่ทำให้ป๊ากับม้าของป๊อบผิดหวังในตัวมิ้งเลย” เธอให้คำมั่นกับแฟนหนุ่ม
“ป๊อบมั่นใจว่าป๊อบเลือกคนไม่ผิดแน่นอน” พูดจบก็สวมกอดแฟนสาวพร้อมกับจูบหน้าผากอย่างทะนุถนอม

หลังจากตัดสินใจซื้อบ้าน เพื่อเตรียมสร้างครอบครัวตัวเอง ถัดจากนั้นไม่กี่เดือนก็เริ่มวางแผนจัดงานแต่งงาน และไม่พลาดที่ไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของฝ่ายหญิง ใครๆ ที่ได้เห็นรูปต่างพากันอิจฉาตาร้อนกับความรักของหนุ่มสาวคู่นี้มาก รูปถ่ายพรีเวดดิ้งที่สุดแสนหวานถูกแชร์ไปทั่วโลกโซเชียลอย่างกับคู่รักดารา ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่โชคดีที่จะได้เป็นสามีภรรยากัน

งานมงคลจะถูกจัดขึ้นอีกไม่ถึงสองเดือนหลังจากพรีเวดดิ้ง รชตต้องเดินทางไปยังเมืองกวางโจวเพื่อดูเครื่องจักรในงานเทรดแฟร์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการของเขา ใจจริงก็อยากจะพาระมิงค์ไปด้วยกัน แต่แม่ของเธอไม่ค่อยสบายไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน ระมิงค์ขอผลัดเป็นโอกาสหน้าและเตรียมไปฮันนีมูนทีเดียวเลยดีกว่า

“ฝากดูแลโรงงานและป๊ากับม้าด้วยนะมิ้ง” รชตบอกแฟนสาวขณะมาส่งที่สนามบินก่อนจะเดินทางไปยังจุดหมาย
“แหม พูดเหมือนจะไม่กลับมางั้นแหละ ไปแค่อาทิตย์เดียว จะให้มิ้งดูแลอะไร เดี๋ยวป๊อบก็กลับมาทำหน้าที่ตามเดิมแล้ว”
“แล้วรับฝากมั้ยล่ะ” เขาถาม
“จ้า...มิ้งรอป๊อบอยู่นะ เสร็จงานแล้วรีบกลับ อย่าเถลไถลไปกับสาวจีนที่ไหนล่ะ”
“โอ๊ย ไม่มีๆ สาวไทยที่นี่สวยสุดแล้ว” เขารีบบอกปัด
“คิดถึงนะ อย่าให้รอนาน” ระมิงค์ว่า
“กอดหน่อย” รชตดึงร่างบางๆ ของแฟนสาวเข้ามากอดแน่น
“ไม่เจอกันหนึ่งอาทิตย์ มิ้งดูแลตัวเองดีนะครับ รักมิ้งมากนะ” เขากระซิบข้างหูเธอ
“ทำมิ้งร้องไห้อีกแล้ว” แต่ไม่ทันสิ้นประโยค เสียงสะอื้นของหญิงสาวก็ตามมา

ชายหนุ่มดึงศีรษะแฟนสาวมาจูบเบาๆ ก่อนจะบอกลาอีกครั้ง “คนดีไม่ร้องนะอาทิตย์หน้าก็กลับมาเจอกันแล้ว” เขาปาดน้ำตาให้เธอ “ป๊อบไปนะ...” เขาโบกมือลา และค่อยๆ หันหลังเดินจากไป ปล่อยให้หญิงสาวยืนน้ำตาคลอหน่วยอยู่คนเดียว ไม่รู้ทำไมการเดินทางคราวนี้ของเขามันช่างว้าเหว่และดูเนิ่นนานเสียเหลือเกิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอกับเขาก็เคยห่างกันร่วมสองสัปดาห์ยังไม่รู้โหยหาเท่านี้เลย

การรอคอยที่ด้วยใจจดจ่อเพียงแค่ไม่กี่วันแต่มันเหมือนนานเป็นเดือนเป็นปี ความคิดถึงของกันและกันไม่สามารถชดเชยได้ด้วยการวิดีโอคอลกันทางอินเทอร์เน็ต การฟังเสียงและการมองเห็นไม่อบอุ่นเท่ากับการสัมผัสจับต้องกัน




 

Create Date : 26 มกราคม 2565
0 comments
Last Update : 26 มกราคม 2565 16:33:20 น.
Counter : 612 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]