เมื่อนักวิทยาศาสตร์คุยกันถึงเรื่อง" วันโลกาวินาศ ARMAGEDDON "



ก่อนอื่น ลองชมตัวอย่างบางตอนของภาพยนต์ เพื่อความเข้าใจและ

ทำไมหลายคนที่ดูหนังเรื่องARMAGEDDON (วันโลกาวินาศ) จึงร้องไห้





วีดีโอข้างบนนี้เป็นตอนที่แฮร์รี่ สแตมเปอร์ (แสดงโดยบรูซ วิลลิส)จุดระเบิดนิวเคลียร์

เพื่อทำลายลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งชนโลก





เนื้อเรื่อง


ลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่กำลังพุ่งตัวเข้าหาโลกด้วยความเร็ว 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมง

แดน ทรูแมน ผู้อำนวยการองค์การนาซาพบว่า โลกมีเวลาเหลือเพียง 18 วันเท่านั้น


ทางเดียวที่จะแก้ได้คือ ต้องฝังหัวระเบิดนิวเคลียร์ที่แกนกลางของดาวหางดวงนี้

ซึ่งผู้ที่จะทำภารกิจนี้ได้ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการจุดเจาะเท่านั้น

ซึ่งแดนเลือกเอาทีมของแฮร์รี่


แฮร์รี่ สแตมเปอร์ (แสดงโดยบรูซ วิลลิส)

นักขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล ผู้ไม่ค่อยสบอารมณ์กับลูกทีมหนุ่มฝีมือดีที่ชื่อว่า เอ.เจ.

เพราะว่าเอ.เจ.เป็นคนมุทะลุและมาชอบพอกับ เกรซ ลูกสาวคนสวยเพียงคนเดียว

จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก แฮร์รี่และเกรซ ค่อนข้างหมางเมิน

แต่ทีมของสแตมเปอร์ถือได้ว่าเป็นทีมขุดเจาะน้ำมันเบอร์หนึ่งของโลก




----------





ที่มาของเรื่องที่เขียนในบล๊อควันนี้ก็คือ


นางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ นักฟิสิกส์ 1ในทีมงานนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

กำลังทำการวิจัยโดยจะนำลูกอุกกาบาตจากประเทศอินเดีย มาทดลองยิงที่ห้องปฎิบัติการในอังกฤษ

ได้โทรมาถามว่า



ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > นิ!อีตาซื่อบื้อ วันนี้มีอะไรขอถามหน่อยซิ!


MM : > ถามอะไรเหรอ?




ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > ถ้าเราจะทำลายลูกอุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่1ลูก กับ ลูกอุกกาบาตที่มีขนาดเล็กๆหลายลูก

อย่างไหนยากง่ายกว่ากัน



MM : > ยังไงเหรอ?






ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > ก็ถ้าเราจะต้องใช้ระเบิดนิวเคลียร์ทำลายลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่มาก1ลูก

กับทำลายลูกอุกกาบาตเล็กๆหลายลูก อย่างไหนยากง่ายกว่ากันนะ



MM : > ระเบิดนิวเคลียร์เลยเหรอ??







ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > อืมม ใช่แล้ว

และการที่จะรวบรวมระเบิดนิวเคลียร์ให้ได้เท่ากับ 1,000 เมกกะตัน ภายในเวลาประมาณ10ปี

เธอว่าทำได้หรือเปล่า?


ระเบิดนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีการสร้างขึ้นมาเป็นของรัสเซียมีขนาด 50 เมกะตันนะ




MM : > ตกลงจะรวบรวมแร่ที่จะทำระเบิดนิวเคลียร์หรือว่าหัวรบนิวเคลียร์นะครับ






ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > ลูกอุกกาบาตขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ไมล์ที่วิ่งด้วยความเร็ว

แล้วระเบิดนิวเคลียร์ขนาด1,000 เมกกะตันสามารถทำลายมันได้หรือเปล่า?



MM : > เดี๊ยวก่อนนะ นึกก่อนว่าขนาด10ไมล์นี้มันเท่าไหนกัน

อ้อ..ลูกนี้ก็คงใหญ่ได้เท่ากับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางจากบางเขนไปมีนบุรี






ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > ไอ้บ้านนอก แกนี้ เปรียบเที่ยบอะไรของแก


MM : > อ้าว! ก็10ไมล์มันเท่ากับราวๆ16กิโลเมตร

เราเคยขับรถเล่นเห็นป้ายบอกทางว่า จากบางเขนไปมีนบุรีมีระยะทาง16กิโลเมตรนะ





ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > เออ! แล้วลองคิดซิว่ามีวิธีใดบ้างที่จะทำลายมัน


MM : > OK! OK! เดี๊ยวเรารวบรวมเป็นคำพูดให้ใหม่นะ

เธอนิพูดอะไรฟังยากจัง





ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > ทำไมนักฟิสิกส์พูดอะไร ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ


MM : > เอาว่า ตามนี้ใช่หรือเปล่า?


นักวิทยาศาสตร์กำลังคิดที่จะหาวิธีทำลายดาวหางหรือลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ10ไมล์

วิ่งด้วยความเร็ว22,000 ไมล์ต่อชั่วโมงจะพุ่งเข้าชนโลก

อาจเป็นไปได้ในอีกประมาณ10ปีข้างหน้าตามที่มีการทำนายไว้

และกำลังคิดว่าต้องรวบรวมหัวรบนิวเคลียร์ให้ได้1,000เมกกะตันเพื่อทำลายมัน

โดยที่ยังมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มอื่นๆกำลังคิดหาวิธีต่างๆนาๆเช่นเดียวกัน






ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > อืมม ถูกต้อง แล้วเธอคิดว่าจะรวบรวมได้หรือเปล่า?

และแต่ละประเทศจะยอมสียสละระเบิดนิวเคลียร์เพื่อช่วยโลกหรือเปล่า?

หรือว่ามีวิธีการใดที่จะทำลายลูกอุกกาบาตขนาดใหญ่นี้ ไหนลองคิดทีซิ!

ดาวหางนี้จึงมีชื่อเรียกว่า"อมาเกดอน"นะ



MM : > ได้ซิ! เดี๊ยวเราจะช่วยโลกเอง

แต่ขอไปหาดูหนังจากคลิปวีดีโอที่คนเขามาโพสไว้ก่อนนะ





ค๊อปเตอร์ใบไม้ : > เรื่องจริงมันไม่เหมือนในหนังหรอกนะ

แต่เป็น1ในหนังที่เราดูแล้วร้องไห้


MM : > ทราบแล้ว แต่ขอไปดูอีกที หนังมันนานมากแล้วด้วย จำไม่ได้









เมื่อไปserchดู พบข้อความของหลายคนที่ชมภาพยนต์เรื่องนี้แล้วคอมเม้นท์ทำนองเดียวกัน คือร้องไห้

ในฉากที่พ่อลูกคุยกันหรือช่วงตอนอื่นๆตามเหตุผลของแต่ละคน




ที่นี้มาถึงตัวเราเองบ้าง ...

ครั้นเมื่อเราเปิดดูตั้งแต่ต้นจนมาถึงตอนที่แฮร์รี่ สแตมเปอร์ จุดระเบิดนิวเคลียร์

บอกตามตรงว่าเรานิ่ง ยังไม่รู้สึกจะร้องไห้เหมือนกับอีกหลายคนเลย



แต่พอถึงภาพในดวงตาของแฮร์รี่ ที่กำลังจะตาย (นาทีที่7.33ถึง7.40ของวีดีโอ)

แล้วเห็นเป็นภาพของตัวเองกับลูกสาวตัวเล็กๆครั้งในอดีตไล่มาจนลูกสาวโตเป็นสาว




เท่านั้นละ

ในใจเราคิด "นี้มันคือภาพแบบเดียวกับฉัน มันเป็นภาพลักษณะเดียวกันเลย

มันเป็นภาพที่เกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติของคนที่กำลังจะตาย"



พร้อมพูดกับตัวเองว่า

"ฉันผ่านการเห็นภาพก่อนตายแบบนี้มาแล้ว ฉันผ่านการเฉียดตาย ฉันเห็นภาพแบบนี้มาแล้ว

ภาพมันผุดขึ้นมาเองในเสี้ยววินาทีเท่านั้น

เป็นภาพของตัวฉันเองตั้งแต่เด็กๆจนโตขึ้น มันรันอย่างเร็วมาก ไม่ตกหล่นเลย"


ถึงตรงนี้ น้ำตาเราก็เริ่มเกิดขึ้นบ้าง







หลายคนอาจจะงง ... ทำไมถึงบอกว่าเป็นภาพลักษณะเดียวกันกับที่จขบ.เคยประสบมา




อยากเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีมาแล้ว

จขบ.ขับรถยนต์ส่วนตัวตามคันหน้าในระยะไม่ห่าง ด้วยความเร็วประมาณ100กม/ชม

ตอนนั้นเพิ่งขับรถเป็นใหม่ๆด้วย




แล้วอยู่ๆรถคันหน้าก็เบรคอย่างกระทันหัน เนื่องจากมีคนวิ่งตัดหน้าข้ามถนน


เราจึงเบรคตาม


แต่ปรากฎว่า รถของเราเสียหลัก วิ่งตะแคง2ล้อ และกำลังจะชนกับรถคันหน้า


ในเสี้ยววินาทีนั้น เรารู้ทันทีเลยว่า เราคงไม่รอดแน่


ก็ปรากฎเป็นภาพของเราขึ้นมาเหมือนกับการได้เปิดชมวีดีโอของตัวเองตั้งแต่ยังเด็กๆจนโต แบบไม่ตกหล่นเลย


ภาพที่เห้นมันเร็วและไวมากๆ


ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่เสี้ยงวินาทีนี้ เรายังสามารถที่จะนึกคิดอะไรได้อีกมากมาย


เราภาวนาในใจว่า.. ขออย่าให้ลูกต้องทรมารเลย อะไรจะเกิดก็เกิดไปเถิดตามบุญตามกรรม



ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ ..

ภาพของเรานอนอยู่ในโรงพยาบาล ร่างกายถูกพันเหมือนมัมมี่ และเต็มไปด้วยเลือด


พร้อมนึกถึงมารดาที่เสียชีวิตไปแล้วขึ้นมาทันทีว่า .... "แม่ครับ ช่วยผมด้วย"








ทันใดนั้น รถของเราที่วิ่ง2ล้อก็สะบัด วิ่งขึ้นแซง เฉียดท้ายรถคันหน้าไปทางด้านขวาเพียงแค่เซนติเมตร


แล้วก็ชนกับเกาะกลางข้างถนนอย่างแรง เสียงดังลั่น โครม!!!

และก็กำลังพุ่งลอยข้ามไปตกถนนอีกฝั่งที่มีแต่รถบรรทุกวิ่งสวนมา




จากนั้นรถที่ลอยอยู่ด้วยความเร็วก็หล่นบนเกาะกลางถนนและพุ่งไปข้างหน้าได้อีกสักระยะโดยไม่ตกไปอีกฝั่ง




เราจึงยังมีชีวิตมาเล่าให้ฟัง






ปล. นี้เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น จากนับสิบกว่าครั้งของเรา









และไม่แน่นะ.. วันหนึ่งข้างหน้าที่วิกฤตสุดๆ คนที่มีชะตาชีวิตจากการเฉียดตายมานับครั้งไม่ถ้วน

อาจจะเป็นผู้คิดวิธีช่วยโลกให้รอดพ้นจากลูกอุกกาบาตนี้ก็เป็นได้









แต่ตอนนี้ขอไปนั่งสมาธิก่อนนะ ...
















free counters







 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
14 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 18:46:52 น.
Counter : 1110 Pageviews.

 

ตื่นๆๆมีเรื่องแล้ว คิดออกอ่ะป่าวอ่ะจ๊ะ อิอิ

 

โดย: คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน 4 กุมภาพันธ์ 2554 0:53:33 น.  

 

^

ตื่นอะไรเหรอครับ

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 0:56:22 น.  

 

สวัสดีวันตรุษจีนค่ะ

จะว่าไปก็มีอยู่คั้งนึง นอนอยู่ดีๆ(ในความรู้สึกนะ)
จู่ๆเหมือนจิตกำลังลอยออกจากร่างกาย
แล้วก็เหมือนโดนไฟช๊อต
แล้วจิตนั้นลอยกลับเข้าร่าง
เหมือนออกไปแค่ครึ่งนึงเท่านั้น
ทุกวันก็ยังไม่เคยหาเหตุที่เป็นเช่นนี้

 

โดย: toeyao 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:01:32 น.  

 

toeyao

^

อืมม อันนี้เราก็ไม่รู้นะ ต้องรอให้ท่านผู้รู้เข้ามาอธิบาย

เมื่อก่อน เรานอนหลับๆตื่นๆ มันก็มีลักษณะอาการคล้ายคุณ

ในลักษณะวิญญาณเข้าร่างไม่ได้ ร้องยังไงก็ไม่มีคนได้ยิน

แต่หลังๆเรานอนเอาผ้าปิดตา อาการเหล่านี้ก็หายไป

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:16:23 น.  

 

โห แป้กเลยเรามุขนี้ แปลว่ามะเคยดูตลกเมืองไทยเลยใช่ป่ะ

 

โดย: คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:19:11 น.  

 

: คนอ่อนไหวกับใจอ่อนหวาน

^

เรื่องที่เขียนตามข้างบน ไม่ใช่เล่นมุขหรือเขียนตลกๆนะครับ

เป็นเรื่องจริงทั้งหมด

และเราก็ไม่รู้ว่าตลกเมืองไทยเป็นอย่างไร เราไม่เคยดูทีวีมานานมากๆๆๆๆๆๆ

อืมม ...เดี๊ยวรอท่านผู้รู้เข้ามาอธิบายในแต่ละเรื่องดีกว่ามั๊ยครับ

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:26:37 น.  

 

ใช่ค่ะ ระยะทางจากบางเขนถึงมีนบุรี ๑๖ กม.
โดยมี กม.๘ เป็นศูนย์กลาง
จาก กม.๘ ไป บางกะปิ ๘ กม.
จาก กม.๘ ไปมีนบุรี ๘ กม.
จาก กม.๘ ถึงหลักสี่ ก็ ๘ กม.ค่ะ

นึกว่ามันจะถึงวันโลกาวินาศแล้วจริงๆ
ยังอยากอยู่อีกน่ะ แม้มันจะมีแต่ข่าวเรื่องไม่สู้ดีทุกวัน

การระลึกถึงแม่ ในวินาทีคับขัน เป็นอัตโนมัติของคนรักแม่ค่ะ
และพลังรักของแม่ ช่วยลูกได้เสมอ แม้ท่านจะไม่อยู่ด้วยแล้วก็ตาม

สวัสดีวันตรุษจีนที่เพิ่งผ่านค่ะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:26:56 น.  

 

nart (sirivinit

^

โห....นึกว่าจะอธิบายทางด้านวิทยาศาตร์ของนางฟ้าค๊อปเตอร์ใบไม้ หรือเรื่องไม่น่าเชื่อของเรา

แต่เป็นการอธิบายเรื่องหลักกิโลเมตร ทำเอาจขบ.ท้องแข็งเลยนะครับ 555


อืมม ...เป็นไปได้นะ เรื่องพลังรักของแม่ช่วยลูก


กราบขอบคุณมากนะครับสำหรับคอมเม้นท์ น่ารักเชียว

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 1:32:52 น.  

 

เรื่องที่ก่อนตายแล้วเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เด็กเหมือนดูวิดีโอเร็ว ๆ เคยมีนักวิทยาศาสตร์บอกว่ามันเป็นการทำงานของสมองส่วนหนึ่งที่มันจะเกิดขึ้นตอนเฉียดตาย

บางคนจะเห็นอุโมงค์แสงสว่างจ้าอะไรทำนองนั้น ถ้าเป็นทางแพทย์/วิทยาศาสตร์ก็เป็นการทำงานของสมองอีกนั่นแหละ

ส่วนเรื่องนั่งวิปัสสนาแล้วสมองโล่งสุขใจอะไรนั่นก็เป็นการปล่อยสารอะไรในสมองออกมาอีกเหมือนกัน เคยมีเพื่อนฝรั่งคนนึงเสพยาตอนสาว ๆ เฮี้ยว ๆ และตอนหลังมานั่งสมาธิ แกบอกว่ารู้มั้ย ความรู้สึกโปร่งโล่งนั่นมันเหมือนกัน เราก็ อึม... คงจะแสดงว่าการนั่งสมาธิทำให้ร่างกายปล่อยสารนั้นออกมา เพราะฉะนั้นเราไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าการทำสมาธิเราสามารถควบคุมตัวเองได้ แต่เสพยาเราควบคุมไม่ได้ ..อันนี้คิดเองนะ ต้องถามนักวิทยาศาสตร์อีกที

 

โดย: ... IP: 58.8.10.141 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:01:25 น.  

 

...

^

สวัสดีครับคุณ ... (สามจุด)

เรื่องก่อนตายแล้วสมองส่วนหนึ่งทำงาน ทำให้เราเห็นภาพในอดีตอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ อันนี้เป็นเหตุผลที่น่าฟัง

ส่วนการนั่งสมาธิกับการเสพยา อันนี้คงแตกต่างกันมั้งครับ ... อย่างแรกมีสติ อย่างที่สองขาดสติ
แต่ถ้าจะตอบได้เคลียร์ต้องลองปฎิบัติดูทั้งสองอย่าง

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะครับ

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:15:28 น.  

 

เคยได้ยินเหมือนกัน เวลาที่คับขัน เราจะนึกถึงแม่โดยอัตโนมัติ คงเป็นพลังขับเคลื่อนในตัวเรา ที่รู้สึกแบบนั้นโดยที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน..

 

โดย: ostojska 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:43:51 น.  

 

ostojska

^

สวัสดีครับคุณเอ้ นักเดินทางทั่วโลกตัวจริงเสียงจริง

แต่ก็แปลกดีนะ เพียงแค่เสี้ยววินาที สมองของคนเราสามารถนึกคิดอะไรได้หลายอย่าง... ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:48:04 น.  

 

ขอให้คิดออกนะคะคุณMM ว่าจะช่วยโลกยังไง

แต่เรื่องนี้มันช่างน่าสะเทือนใจ ทิพย์ก็คิดอยูํ่ไม่ห่างเหมือนกันเรื่องโลกของเรา และหนังเรื่องนี้ก็เคยดูแล้ว ก็เสียใจตอนพ่อบอกลาตายลูกสาวนั่นเหมือนกันค่ะ

ดีนะคะนี่ที่ ค๊อปเตอร์ใบไม้ ได้เป็นทีมหนึ่งในการคิดค้นวิธีช่วยโลก แต่ประเทศไหนจะยอมเสียนิวเคลียร์ให้โลกจะมีมั้ยหนอ
เพราะต่างก็คิดจะเป็นใหญ่กันทั้งนั้น
ไม่แน่นะ การขอความร่วมมือจากประเทศอื่นๆ อาจทำให้พวกเขาคิดว่า ต้องการเป็นมหาอำนาจแทนน่ะสิ ถึงอยากให้พวกเขายอมยกนิวเคลียออกจากประเทศ หรือปัญหาหลายๆอย่างตามมา ประมาณนั้น ต้องมีบางประเทศแหล่ะ ที่เห็นแก่ตัว เราว่า

เรื่องที่คุณMM เคยประสบเหตุการณที่มีภาพลอยมาบนหน้านั้น
ที่นะคะ ที่ไม่เป็นและรอดมาเล่าให้พวกเราฟัง

ไงก็ขอให้นั่งสมาธิสำเร็จค่ะ

 

โดย: ทิพย์ (Siriporn&Flemming ) 5 กุมภาพันธ์ 2554 4:49:58 น.  

 

ทิพย์ (Siriporn&Flemming )

^

เรื่องที่เล่าให้ฟังเป็นเพียง1ในสิบกว่าครั้ง และแต่ละเหตุการณ์ก็แตกต่างกันไป

เราเชื่อมั่นว่า เมื่อถึงเวลาที่วิกฤตสุดๆ คนที่จะช่วยให้ผ่านพ้นเหตุการณ์อันเลวร้ายได้ นอกจากจะมีชะตาชีวิตที่ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมานับต่อนับแล้ว ยังต้องเป็นผู้ที่ปฎิบัติดีและมีจิตอันใสบริสุทธิเท่านั้น


 

โดย: MM (ongchai_maewmong ) 5 กุมภาพันธ์ 2554 11:11:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


MM Story
Location :
Singapore / Bangkok / Sapporo - Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




free counters
New Comments
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add MM Story's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.