Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
วัดศรีโคมคำ

วัดศรีโคมคำ




วัดศรีโคมคำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในลานนาไทย เรียกว่า "พระเจ้าองค์หลวง" หรือ "พระเจ้าตนหลวง" ขนาดหน้าตักกว้าง 16 เมตร สูง 18 เมตร มีประวัติที่กล่าวถึงอย่าง พิสดารว่า มีพญานาคนำทองคำมาให้ ตายายคู่หนึ่ง ที่ตั้งบ้านอยู่ริมกว๊านพะเยา เพื่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งตา ยายคู่นี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 33 ปี (พ.ศ. 2034-2067) และกาลต่อมาเรียกว่า "พระเจ้าองค์หลวง" ในปัจจุบัน พระเจ้า องค์หลวงมิใช่เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรลานนาไทย ด้วย ในเดือนพฤษภาคมทุกปี จะมีงานนมัสการพระเจ้าองค์หลวง มีประชาชนมา ร่วมงานเป็นจำนวนมาก และสำหรับ คนต่างถิ่นจะถือเป็นประเพณี เมื่อไปถึงเมืองพะเยาแล้ว มักไปนมัสการพระเจ้าองค์หลวงเป็นอันดับแรก


ชื่อวัดโดยทางราชการ วัดศรีโคมคำ ชื่อที่ชาวบ้านเรียก หรือชื่อเดิม วัดพระเจ้าตนหลวง ตั้งอยู่เลขที่ 692 ถนนพหลโยธิน หมู่ที่ 1 ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ จำนวน 74 ไร่ 08 ตารางวา ที่ธรณีสงฆ์มี 6 แปลง มีเนื้อที่ทั้งสิ้นจำนวน 169 ไร่ 35 ตารางวา มีประวัติความเป็นมาของวัด

วัดศรีโคมคำ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา ห่างจากตัวเมืองไปทางเหนือประมาณ 1,000 เมตร เริ่มก่อสร้าง องค์พระประธาน (พระเจ้าตนหลวง) เมื่อ พ.ศ. 2034 มาสำเร็จบริบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2037 ประมาณ 33 ปี จัดเป็นวัดโดยสมบูรณ์ การก่อสร้างในสมัยนั้น พระยาเมืองตู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ผู้อุปถัมภ์

ในกาลต่อมาหัวเมืองต่าง ๆ ของล้านนาไทยหลายหัวเมืองถูกข้าศึกพม่าเข้ารุกราน ทำให้ประชาชนแตกกระจัดกระจายต้องสูญเสีย ประชาชนและทรัพย์สินแก่พม่า แม้ทรัพย์สินของพระศาสนาก็ต้องทอดทิ้งปล่อให้ปลักหักพัง บ้านเมืองรกร้างว่างเปล่าอยู่ประมาณ 56 ปี ถึง พ.ศ. 2387 ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งนายพุทธวงศ์ เมืองลำปาง เป็นพระยาประเทศอุดรทิศ ขึ้นมาครองเมืองพะเยา ทรงตั้งนายมหายศ เป็นพระยาอุปราช ครั้นพระยาประเทศอุดรทิศถึงแก่อนิจกรรมไป ทรงโปรดเกล้าฯ นายมหายศขึ้นครองเมืองพะเยาแทน ทรงตั้งเจ้าบุรีรัตน์ ขึ้นเป็นพระยาอุปราชแทน ท่านทั้งสองได้เริ่มบูรณะองค์พระธาน และบูรณะวัดพระศรีโคมคำขึ้นใหม่ เริ่มก่อสร้างพระวิหารและเสนาสนะขึ้น มีสภาพเป็นวัดสมบูรณ์ ต่อจากนั้นเจ้าผู้ครองเมืองพะเยาอีกหลายองค์ เช่น เจ้าหลวงอินทะชมพู เจ้าหลวงขัตติยะ เจ้าหลวงชัยวงศ์ จนถึง องค์สุดท้าย คือ พระยาประเทศอุดรทิศ (มหาชัย ศีติสาร) ครองเมืองพะเยา ทุกองค์ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระศรีโคมคำ



ประวัติพระเจ้าตนหลวง



จุลศักราช 835 พุทธศักราช 034 ล้วงไก๊ เดือน 8 ขึ้น 15 ค่ำ เม็งวันพุธไต เมืองเหม้ายามกองงาย ยกเสาอินทขิล (เสากระดูก สันหลังของพระเจ้าตนหลวงฝังขึ้นด้านหลังตามดวงชาตามีดังนี้)
ลัขณาอยู่ราศีเมถุน 1-4 อยู่ราศีพฤษภ 2 อยู่ราศีพฤศจิก 3 อยู่ราศีกันย์ 5 อยู่ราศีตุลย์ 6 อยู่ราศีเมษ 8 ราหู อยู่ราศีกุมภ์ ในยุคสมัยพระยายอดเชียงรายครองเมืองเชียงใหม่ พระเมืองยี่ครองเมืองพยาว สองตายายแรกก่อสร้างพระพุทธรูปพระเจ้าตนหลวง ก่อสร้างมานานได้ 4 ปี พระยายอดเชียงราย และพระยาเมืองยี่ทั้ง 2 พระองค์ก็มาถึงแก่พิลาลัยไปในปีเดียวกัน
พระเมืองแก้วราชโอรสพระยายอดขึ้นครองเมืองเชียงใหม่ ฝ่ายเมืองพยาวพระยาหัวเคียนราชโอรสของพระยาเมืองยี่ขึ้นครอง เมืองพยาวแทน ครองได้ 20 ปี ก่อสร้างพระพุทธรูยังไม่เสร็จ พระยาหัวเคียนก็ถึงแก่อนิจกรรมไป พระยาเมืองแก้ว จึงตรัสสั่งให้ พระยาเมืองตู้ ราชโอรสพระยาหัวเคียนขึ้นครองเมืองพยาว สองตายายผัวเมียก่อสร้างพระเจ้ตนหลวงอยู่เรื่อย ๆ จนถึงจุลศักราช ได้ 886 ตัว พุทธศักราช 207 ในปีกาบสันเดือน 8 ขึ้น 15 ค่ำ ยามกองงายเอาเขบ็คหน้าแล้วเสร็จบริบูรณ์ รวมก่อสร้างพระพุทธรูป เจ้าตนหลวงนานได้ 33 ปี เมื่อก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเมืองตู้จึงส่งราชสาสน์ไปทูลพระเมืองแก้วที่เมืองเชียงใหม่ สร้างวิหาร ทรวงก่อสร้างในปีรวาย เสร็จเดือน 8 เพ็ญ จึงให้มีการฉลองสมโภชองค์พระเจ้าตนหลวงแล้ว จึงเบิกบายรวายศรี ชื่อว่า "พระเจ้า ตนหลวงทุ่งเอี้ยงเมืองพยาว"
พระเมืองแก้วกับพระเมืองตู้ จึงพระราชทานชาวบ้านให้อยู่รักษาวัดรวม 20 ครอบครัว แล้วกฎหมายเขตแดน วัดพระเจ้าตน หลวง ตำนานว่าไว้ดังนี้ คือ
- ด้านทิศเหนือติดต่อกับดอยพระธาตุจอมทอง
- ด้านทิศใต้ติดกับวัดอุ่นหล้า
- ด้านทิศตะวันออกนับแต่วัดอุ่นหล้าไป 1,000 วา และ
- ด้านทิศตะวันตกออกไป 500 วา
เพื่อเป็นที่อภัยแก่นก กระแต ปู ปลา ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในพุทธอันตรเขต เหตุไม่ให้คนทั้งหลายกระทำร้าย ต้นไม้เป็นต้น อันอยู่ในโขงอารามแห่งนี้
พระธรรมวิมลโมลี เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ
ถอดความจากจารึกหน้าพระวิหาร



จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วัดศรีโคมคำ ตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา เลขที่ ๖๙๒ ถนนพหลโยธิน ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองพะเยา สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 20 ประดิษฐานพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในแผ่นดินล้านนา




ประวัติ
วัดศรีโคมคำ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา ถนนพหลโยธิน ห่างจากตัวเมืองไปทางเหนือประมาณ ๑,๐๐๐ เมตร ด้านทิศใต้ - ทิศตะวันตก ติดกับกว๊านพะเยา ทิศเหนือ – ตะวันออก ติดกับถนนพหลโยธิน เริ่มก่อสร้างองค์พระประธาน (พระเจ้าตนหลวง) ราวพุทธศตวรรษที่ 20 เสร็จสมบูรณ์เมื่อ พุทธศักราช ๒๐๖๗ ใช้เวลาสร้างโดยประมาณ ๓๓ ปี การก่อสร้างในสมัยนั้นมีพระเมืองตู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยาเป็นผู้ทรงอุปถัมภ์ กาลเวลาต่อมาราวปีพุทธศักราช 2100 หัวเมืองต่าง ๆ ของล้านนาไทยหลายหัวเมืองอาทิ นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ลำพูน ถูกข้าศึกพม่าเข้ามารุกราน ทำให้ประชาชนชาวบ้านชาวเมืองทิ้งบ้านทิ้งเมืองหนีเข้าป่า รวมไปถึงทรัพย์สินก็โดนข้าศึกยึดเอาไปเสียสิ้น แม้กระทั่งทรัพย์สินทางพระศาสนาก็ถูกทอดปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นสิ่งเก่าแก่เสียหายปรักหักพัง พระราชอาณาจักรล้านนานับแต่พุทธศตวรรษที่ 21 ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านับสองร้อยปี บ้านเมืองก็รกร้างว่างเปล่าไร้ผู้คนอาศัย เมืองพะเยาได้ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่าเป็นเมืองร้างอยู่ประมาณ ๕๖ ปี จนกระทั่งพุทธศักราช ๒๓๘๗ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรง โปรดเกล้าแต่งตั้งให้เจ้าพุทธวงศ์ เจ้าหลวงนครเชียงใหม่องค์ที่ ๔ เป็นพระยาประเทศอุดรทิศ ขึ้นมาครองเมืองพะเยา ทรงตั้งเจ้ามหายศ เป็นพระยาอุปราช ครั้นพระยาประเทศอุดรทิศถึงแก่พิราลัย ไปทรงโปรดเกล้าฯ เจ้ามหายศ ขึ้นครองเมืองพะเยาแทน และตั้งเจ้าบุรีรัตน์ขั้นเป็นพระยาอุปราชแทน ท่านทั้งสองได้เริ่มบูรณะปฏิสังขรณ์องค์พระประธานพระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำขึ้นใหม่ เริ่มก่อสร้างพระวิหารหลวงรวมไปถึงเสนาสนะขึ้นมาใหม่ ให้มีสภาพสมบูรณ์คงทนแข็งแรง และได้ทำนุบำรุงวัดศรีโคมคำนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไปจนกระทั่งถึงเจ้าผู้ครองเมืองพะเยาอีกหลายพระองค์ เช่น เจ้าหลวงอินทะชมพู เจ้าหลวงขัตติยะ เจ้าหลวงชัยวงศ์ จนถึงเจ้าหลวงองค์สุดท้าย คือ เจ้าหลวงมหาชัยศีติสาร พระยาประเทศอุดรทิศ เจ้าหลวงเมืองพะเยาทุกพระองค์ได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดศรีโคมคำ พระวิหารหลวงหลังเก่าที่สร้างมาช้านาน ทรงรื้อแล้วก่อสร้างใหม่ โดยให้นายพัฒน์เป็นช่างก่อสร้างก่อสร้าง ได้ทำการบูรณะมาเป็นเวลานานแต่ก็ยังไม่เสร็จกระทั่งนายช่างพัฒน์มาถึงแก่กรรมจึงได้ทอดทิ้งการบูรณะไว้ชั่วคราว ครั้นต่อมาการปกครองบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงจากเจ้าผู้ครองเมืองมาเป็นระบบการปกครองเป็นมณฑล เมืองพะเยาตอนแรกขึ้นกับนครลำปาง ซึ่งขึ้นกับมณฑลพายัพ ต่อมาได้ย้ายมาขึ้นกับเมืองเชียงราย พอถึงสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนอำนาจการบริหารปกครองประเทศใหม่โดยยกเลิกมณฑลเปลี่ยนมาเป็นจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ตำแหน่งเจ้าผู้ครองจึงได้เลิกร้างไป พระยาประเทศอุดรทิศเจ้าเมืองพะเยาลำดับต่อมา กราบบังคมลาออกจากตำแหน่งทางการ จึงตั้งนายคลาย บุษยบรรณ มาเป็นนายอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดเชียงราย พระยาประเทศอุดรทิศถึงแม้จะพ้นจากตำแหน่งทางราชการแล้วก็ยังให้การอุปถัมภ์วัดศรีโคมคำเฉกเช่นเดิม มิได้ทรงทอดทิ้ง ขณะนั้นได้ทราบกิตติศัพท์ว่า ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยเกิดขึ้น ท่านสังกัดอยู่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนท่านมีบารมีธรรมสูง ทำการสร้างและบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณวัตถุ-สถานไปทั่วถ้วนแผ่นดินล้านนา โดยเริ่มต้นจากลำพูน-เชียงใหม่ มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดถ้วนทั่วแผ่นดินล้านนาไทย จึงได้ประชุมปรึกษากัน ทางฝ่ายคณะสงฆ์เมืองพะเยาโดยมีพระครูศรีวิราชวชิรปัญญา เจ้าคณะแขวงเมืองพะเยาขณะนั้น เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทางฝ่ายบ้านเมืองมีพระยาประเทศอุดรทิศ อดีตเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา และนายคลาย บุษยบรรณ นายอำเภอเมืองพะเยา พร้อมด้วยพ่อค้า คหบดี ประชาชนต่างก็มีมติเห็นชอบพร้อมเพรียงถ้วนทั่วกัน จึงได้ไปอาราธรา พระคุณเจ้าครูบาศรีวิชัยมาเป็นประธานในการก่อสร้างพระวิหารหลวงใหม่ วัดศรีโคมคำ โดยใช้ให้พระปัญญา วัดบ้านปิน และจ่าสิบตำรวจเอกอ้าย พูนชัยไปอาราธนานิมนต์ท่านมาสร้างพระวิหาร ท่านได้สอบถามถึงประวัติความเป็นมาของพระเจ้าตนหลวงว่าเป็นมาอย่างไร เมื่อได้รับทราบตำนานแล้วว่าวัดศรีโคมคำ เป็นโบราณสถานอันเก่าแก่คู่บ้านคุ่เมืองพะเยามาแต่กาลก่อนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจน ท่านได้กล่าวว่า "พระเจ้าตนหลวงนี้เป็นพระบ้านคู่เมืองแผ่นดินล้านนาว่าจะมาปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่าเลยก็หาดูควรไม่" ท่านมีเงื่อนไขว่า ให้คณะสงฆ์และราชการ คหบดี พ่อค้า ประชาชนชาวพะเยาเตรียมวัสดุ อาทิ อิฐ ปูน ทราย หิน เหล็ก ไว้ให้พร้อม พระครูศรีวิราชวชิรปัญญา เจ้าคณะแขวงเมืองพะเยา จึงได้ประชุมปรึกษาคณะสงฆ์ เจ้าคณะหมวด เจ้าอาวาส ภิกษุสามเณรทุกวัดวาอาราม เข้ามาตั้งปางกระท่อม ปั้นอิฐก็ได้ประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ ก้อน ทราย กิน โดยขอความร่วมมือผู้มีกำลังศรัทธา ต่างก็หามาไว้จนครบถ้วนแล้วไปอาราธนาท่านมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวัสดุอุปกรณ์ครบถ้วยแล้ว ท่านรับนิมนต์ทันทีแล้วเตรียมเอาพระภิกษุผู้ชำนาญการก่อสร้างมาเป็นบริวาร ออกเดินทางมาจากจังหวัดลำพูนตามลำดับเส้นทานจนถึงเมืองพะเยา เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๔ เหนือ วันที่ ๒๘ ธันวาคมพ.ศ. ๒๔๖๕ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เริ่มลงมือรื้อพระวิหารหลังเก่าจนเสร็จเรียบร้อย วันเสาร์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ตรงกับวัน ๗ ฯ ๒ ค่ำ ปีจอ จุลศักราช ๑๒๔๘ วางศิลาฤกษ์ ลงเสาพระวิหารใหญ่ ต่อจากนั้นก็เทเสาพระวิหารต้นอื่นต่อไป ขุดรายฝาผนัง ก่อฝาผนัง และก่อกำแพงล้อมรอบ สร้างศาลาบาตร(ศาลาราย)รอบกำแพงวัดสร้างพระอุโบสถ พระวิหาร พระพุทธบาทจำลอง สร้างพร้อมกันทั้งหมดทุก ๆ หลังในคราวเดียวกัน การก่อสร้างทั้งหมดได้สำเร็จเสร็จสิ้นภายในปีเดียวเหมือนเนรมิตขึ้น คิดค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน ๑๑๓,๐๐๐ รูปี (รูปีหนึ่งคิดราคา ๗๕ สตางค์)

ครั้นเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ได้ทำบุญสมโภชฉลองพระวิหารพร้อมกับเสนาสนะอื่น ๆ ที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว การทำบุญฉลองพระวิหารใช้เวลานานถึง ๑ เดือนเต็ม หลังจากพิธีทำบุญสมโภชฉลองพระวิหารแล้วเสร็จ พระคุณเจ้าครูบาศรีวิชัย ก็ได้เดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ต่อ เพื่อสร้างวิหารวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มอบหมายให้พระครูบาแก้ว คนฺธวํโส เป็นผู้รับภาระดูแลรักษาโบราณสถาน-วัตถุและพระวิหารวัดศรีโคมคำ เมืองพะเยาแทน



Create Date : 03 กรกฎาคม 2552
Last Update : 3 กรกฎาคม 2552 12:42:23 น. 2 comments
Counter : 650 Pageviews.

 
อยู่ส่วนไหนของพะเยาเอ่ย
เราก็อยู่พะเยาเหมือนกันนะคะ


โดย: เด็กริมกว๊าน วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:24:09 น.  

 
พี่แนนคะ วัดศรีโคมคำ คือชื่ออย่างเป็นทางการของวัดพระเจ้าตนหลวงไงคะ


โดย: ลูกน้ำกว๊าน วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:32:14 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ลูกน้ำกว๊าน
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกท่าน นะคะ




อยากมีและอยากรู้จัก เพื่อนที่มีที่มาต่างกัน และอยากร่วมแชร์ ประสบการณ์ให้คนอื่น ได้รับรู้บ้าง เพื่อนๆชาว บลอคแกงค์เป็นอะไรที่ ใช่เลย ที่คอยอยู่ด้วยกัน ตลอดเวลา พอเรา เปิดดูครั้งใดก็จะมีคน นั่งเขียนบลอก นั่งอยู่ที่ หน้าจอ คอยเป็นเพื่อน กันเสมอ รัก ทุกคนใน บลอกแกงค์ ค่ะ
: Users Online
Friends' blogs
[Add ลูกน้ำกว๊าน's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.