แต่สำหรับ "พ่อแม่" กลุ่มหนึ่ง ที่ตอนนี้ไม่คิดเช่นนั้นแล้ว เพราะ "ชีวิตลิขิตเอง" ได้ตั้งแต่ "คลอด" เลยทีเดียว!!!

(เรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

เรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดจาก "โหรอาชีพ" ท่านหนึ่ง

"บุศรินทร์ ปัทมาคม" คอลัมนิสต์เขียนทำนายดวงชะตาลงหนังสือพิมพ์หลายฉบับ นำประสบการณ์จากการทำนายดวงชะตาที่ได้เห็นดวงชะตาคนรวย คนที่มีความมั่นคง มีความเจริญก้าวหน้า และอายุยืน มามากมาย และยาวนานถึง 43 ปี มาวิเคราะห์จนสรุปได้ว่า "เวลาเกิด" มีความสำคัญมาก

"วัน เดือน ปีเกิด มีความสำคัญส่วนหนึ่งแล้ว แต่เวลาเกิดสำคัญเช่นกัน" อ.บุศรินทร์เกริ่นเริ่มต้น

"ในวันหนึ่งวันจะทำให้คนเกิดแตกต่างกันไป 12 ราศี และใน 12 ราศี แยกย่อยละเอียดลงไปอีกราศีละ 9 แบบ เท่ากับหนึ่งวันแบ่งคนที่เกิดแต่ละช่วงเวลาได้ 108 แบบ ดั่งคำโบราณที่ว่า บ้า 108 จำพวก"

108 จำพวกในที่นี้ หมายความว่า นิสัยโดดเด่นของคนคนนั้น เช่น เป็นคนอดทน คนเกียจคร้าน คนโมโหร้าย หรือคนใจเย็น เป็นต้น

"คนเกิดวันเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เวลาเปลี่ยนไปทำให้คนต่างกัน หรือมีสภาพแตกต่างกันไป"

อ.บุศรินทร์อธิบาย และลงลึกไปอีกว่า

จากตรงนี้ ทำให้เกิดความคิดโดยตั้งสมมติฐานว่า ถ้าเด็กเกิดด้วยการผ่าท้องทำคลอด โดยกำหนดเวลาเกิดให้เกิดมาหายใจครั้งแรกในช่วงเวลาที่ดีที่สุด (ฤกษ์ดีระหว่างช่วงเวลาที่พอจะคลอดได้) หัวใจสำคัญคือ ต้องไม่มีดาวพระเคราะห์ดวงใหญ่ตกอยู่ในเรือนชะตาที่เสียเลย

"เด็กที่เกิดมาจะเป็นคนดวงดี ผมเรียกว่า คนมีบุญมาเกิด เวลาเกิดเป็นตัวกำหนดดวงชะตา" น้ำเสียงมั่นใจ เพราะวางฤกษ์เกิดให้เด็กมาแล้วเป็นเวลานานถึง 18 ปี และไม่ได้ให้เปล่า อ.บุศรินทร์ยังติดตามเก็บข้อมูลของเด็กๆ ทุกคน ด้วยการสอบถามและทำแบบสอบถามประเมินว่าเด็กเป็นอย่างไร

"จากการสอบถามพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเด็กที่เกิดทุกคนจะรู้สึกพอใจ 70-90 เปอร์เซ็นต์ และมักพูดตรงกันว่า เด็กจะเป็นคนไม่อยู่นิ่ง และเคลื่อนไหวแบบซุกซนกว่าเด็กคนอื่น มีความเชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังมีบุคลิกลักษณะที่เด่นและท่าทางสะดุดตา สุขภาพแข็งแรงดี ไม่ป่วยง่าย มีไหวพริบปฏิภาณดี ความจำดี ผลการเรียนอยู่ในระดับดี ชอบใช้สมองมากกว่าใช้แรงงาน มีความเป็นผู้นำสูง"

แต่ที่สุดแล้ว ที่เป็นเหมือนกันทุกคน และพ่อแม่ถึงกับส่ายหัว เพราะ "เด็กดื้อมาก!" อ.บุศรินทร์พูดพลางหัวเราะ

"แต่นี่คือลักษณะของเด็กเก่ง เพราะเด็กมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง ดังนั้น พ่อแม่ต้องอดทนมากๆ หน่อย"

อย่างไรก็ตาม อ.บุศรินทร์เตือนว่า ปัจจุบันพ่อแม่นิยมหาฤกษ์เกิดให้ลูก แนะนำให้เลือกหมอดูที่มีความเชี่ยวชาญจริงๆ เพราะฤกษ์เกิดสำคัญมาก และสำหรับพ่อแม่เอง อยากให้ระลึกไว้เสมอว่า แม้ลูกของตัวเองจะเกิดในฤกษ์ที่ดี แต่ก็ใช่ว่าชีวิตเด็กคนนั้นจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ

"ไม่ใช่ว่าเกิดมาฤกษ์ดีแล้ว ดวงจะดีตลอดไป" ชีวิตทุกคนมีขึ้นมีลง และบางคนก็มีจุดอ่อนบางจุด บางเรื่อง จะเอาสวย รวย มีความรู้ไปหมดไม่ได้ ก็ต้องได้อย่างใดอย่างหนึ่ง จบจุฬาฯทั้งหมดคงไม่ได้ ก็อาจจะต้องมีจบราชภัฏ จบ มศว บ้าง

"สำคัญที่สุด คนจะดวงดีได้ต้องเริ่มจากอดทน เมื่ออดทน ขยัน พากเพียร ก็ช่วยพานาวาชีวิตไปสู่ระดับสูงสุดของชีวิตได้" คำสุดท้ายของโหรที่ยึดอาชีพนี้มาตลอด 43 ปี

ทรรศนะ ′พ่อ-แม่′

นางวิไลพรรณ โลหะกมลชัย พนักงานบริษัท มารดาของน้องณฤชล อายุ 4 ขวบ 3 เดือน ที่คลอดตามเวลาฤกษ์ที่ดูดวงไว้ เล่าว่า เธอต้องผ่าคลอดลูกอยู่แล้ว เมื่อต้องผ่าจึงตัดสินใจดูฤกษ์ไปเลย ซึ่งตนเองก็ค่อนข้างเชื่อเรื่องนี้พอสมควร

"เมื่อเรามีลูก เราก็อยากให้ลูกของเราดีทุกอย่าง ถ้าได้ฤกษ์ที่ดีอย่างน้อยก็ทำให้สบายใจว่าเขาจะมีชีวิตที่ดีไม่ลำบาก"

ขั้นตอนการดูฤกษ์คลอดนั้น เริ่มตั้งแต่แพทย์กำหนดว่า เด็กสมบูรณ์แล้วสามารถผ่าคลอดได้ โดยส่วนใหญ่อายุครรภ์ที่ผ่าคลอดได้อยู่ที่ 38-40 สัปดาห์ หลังจากนั้นนำช่วงเวลาที่แพทย์กำหนดไปให้หมอดูดูฤกษ์ หมอดูก็จะเลือกวันและเวลาที่ดีที่สุดให้ แต่กระนั้นใช่ว่าเด็กทุกคนจะได้เกิดตามฤกษ์ที่ขอ เพราะบางคนเจออุปสรรคเยอะ เช่น เจ็บท้องก่อนฤกษ์ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน

"เราเตรียมใจ เพราะหมอไม่แน่ใจว่าจะได้คลอดตามฤกษ์ไหม เพราะมีโอกาสคลอดก่อนฤกษ์สูง"

แต่สุดท้าย...

"เสียงแรกของน้องที่ร้องอุแว้ ก็ตรงกับฤกษ์กำหนดตอนเช้ามืดเวลาตีห้า" คุณแม่พูดไปก็ยิ้มไป

แม้ลูกจะเกิดในฤกษ์ที่ดี แต่วิไลพรรณไม่ได้เลี้ยงลูกแบบตามอกตามใจ ยังคงเลี้ยงตามปกติ

"ตอนนี้ 4 ขวบกว่า จากการสังเกตพัฒนาการของเขาจะไว ทั้งไหวพริบ ปฏิภาณการแก้ปัญหา สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีเจ็บป่วยบ้างเล็กน้อย"

แต่ที่คุณแม่กลัวว่าจะผิดปกติ อยู่ตรงที่ น้องชอบเรียนมาก

"น้องต้องทำการบ้านทุกวัน โดยที่แม่ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญเลย และถ้าวันไหนไม่มีก็จะบอกว่า วันนี้หนูไม่มีการบ้านเลย หนูอยากทำ หรือพอทำเสร็จก็จะบ่นว่า การบ้านหมดแล้วเหรอ หนูอยากทำอีก" พูดพลางหัวเราะ

แต่ที่หนักใจเห็นจะเป็น "ความดื้อ" และ "ความซน"

"น้องเลี้ยงยากอยู่ เลี้ยงลูกคนนี้ต้องมีเหตุผล ต้องอธิบาย เพราะถ้าเขาคิดว่าถูกก็จะต่อต้าน ไม่เชื่อฟัง และน้องก็ซนมาก (ลากเสียงยาว) เวลาไปเจอลูกคนอื่นก็แอบคิดว่า ทำไมลูกคนอื่นเรียบร้อยจังเลย ซึ่งอันนี้ก็คิดว่า คงแล้วแต่ดวงเด็ก แล้วแต่บุญกรรมของพ่อแม่" คุณแม่วิไลพรรณบอก

ด้าน นายไตรวิตต์ ตรีเลิศรัตน์ พนักงานบริษัท คุณพ่อของ ด.ญ.ขวัญทิพย์ อายุ 13 ปี บอกว่า เขามีความรู้ด้านโหราศาสตร์มาบ้างจึงรู้ว่าคนเราถ้าพื้นดวงไม่ดีชีวิตจะลำบาก เมื่อมีลูกจะหาฤกษ์คลอดให้ เพราะเด็กถ้าคลอดมาพื้นดวงดี เขาก็จะเป็นประชากรที่ดี ไม่เป็นปัญหาสังคม

"ตอนหาฤกษ์ให้ลูก ผมเน้นให้หมอดูดูฤกษ์ที่จะทำให้เด็กมีสติปัญญาดี เป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่ มีคู่ครองดี ผมเชื่อว่าถ้าทั้งสามเรื่องดี เดี๋ยวเรื่องอื่นและความสุขก็ตามมาเอง"

สำหรับลูกสาวที่ตอนนี้อายุ 13 ปีแล้ว คุณพ่อบอกว่า เป็นเด็กเรียบร้อย เป็นที่รักของทุกคน แต่เขามีข้อเสียอยู่จุดหนึ่งเพราะดาวอังคารตกที่เสียทำให้ค่อนข้างเป็นเด็กไม่ขยัน แต่ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะเมื่อรู้เช่นนี้ก็ทำให้วางแผนการเลี้ยงลูกได้

"ผมเลี้ยงลูกตามปกติ ไม่มีตามใจ อยากให้เขาลำบากก่อนสบาย เพราะคนถ้าลำบากมาก่อนถึงเวลาสบายไม่มีปัญหา แต่คนสบายและลำบากทีหลังมีปัญหาแน่นอน" คุณพ่อของน้องขวัญทิพย์ทิ้งท้าย