การ์ตูน กับ ภาพยนตร์



Photobucket


ภาพยนตร์เรื่อง V FOR VENDETTA

เป็นภาพยนตร์ที่เราประทับใจ และชอบในตัวละคร V (ออกแนวนักต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ) แต่ทำไม Alan Moore ผู้เขียน ถึงไม่ยอมแม้กระทั่งจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ David Lloyd ผู้วาดและผู้ช่วยคิดภาพคาแรคเตอร์ V ถึงชอบภาพยนตร์เรื่องนี้

เราเองก็ซื้อ comics 10 issues version classic แต่ Alan กับ David บอกว่าพวกเขาชอบตอนที่มันถูกตีพิมพ์เป็นตอนๆ ขาว/ดำ ใน นิตยสารรายเดือน Warrior ในยุค 1980 มากกว่า.... อาจจะเป็นเพราะมันเป็น Noir

แล้วมันต่างกันกับที่ พี่น้องWachowski ได้เขียนบทในภาพยนตร์ ยังไง......


V for vendetta - comic


Photobucket

เรื่องนี้ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนของ Alan Moore /David Lloyd

<เรื่องราว ในcomic
เกี่ยวกับหญิงสาวอายุ16 ปี นาม Evey ที่เธอต้องสุญเสียครอบครัวจาก สภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ และสงคราม

เธอต้องอยู่คนเดียวทำงานในโรงงานเล็กๆ ที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลใหม่ พวกขวาจัด ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่ต้องทำงานกลางคืนด้วยเพื่อเลี้ยงตัว แล้วคืนแรกของเธอก็ต้องพบกับพวกตำรวจนักรีดไถ่ ที่ต้องการตัวเธอ ฟรีๆ โดยใช้ความเป็นเจ้าหน้าที่บังคับเธอ

แต่แล้วก็มี Hero โผล่ขึ้นมาช่วยเธอไว้ได้ แต่ Hero นี้ ใส่หน้ากาก Guy Fawkes (ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักปฎิวัติ ผู้วางแผนระเบิดรัฐสภา ในสมัยพระเจ้า เจมส์ที่ 1 )

แล้วชีวิตเธอก็มาพัวพัน กับคนผู้นี้ เขาบอกเธอว่า ชื่อ V โดยที่เธอไม่เคยได้รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่

V อาศัยอยู่ใน Shadow Gallery ที่ซึ่งเต็มไปด้วยหนังสือ และศิลปะ ต้องห้าม แต่อุดมการณ์ของ V ก็สร้างความอึ้งให้เธอ

คาแรกเตอร์ของ V ผู้นี้มีความลึกลับ แปลกประหลาด แต่เขา รักหนังสือ และงานศิลปะ ทั้งภาพยนตร์ เพลง และ Shakespeare

แต่อีกด้าน V เป็นคนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเกลียด โกรธ แค้น และพร้อมที่ใช้มันขึ้นมาทำลายทุกอย่าง โดยบ้างครั้งก็ไม่ได้สนถึงความถูกผิดที่ทำไป ทั้งฆ่าคน ทั้งระเบิดตึกกับพฤติกรรมสุดโต่ง

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ V ให้ Evey ไปเป็นเหยื่อล่อ นักบุญ เพราะชอบเด็กสาวๆ แล้ว V ก็ฆ่านักบุญคนนั้น ส่วน Evey ก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเอง และเธอไม่ต้องการ ฆ่าคน

การกระทำของ V หลายอย่างที่สร้างความอึ้ง ทั้งการบุกเขาไปยึด(คนเดียวเนี่ยนะ) ที่สถานีโทรทัศน์ NTV NBS และออกข่าวปลุกระดม และฆ่าเจ้าหน้าที่ไปหลายคน

และ ต่อมาเขาก็ทำการระเบิดตึก แฝดของ สถานีโทรทัศน์ แห่งนั้น พร้อมด้วยการบรรเลงเพลง The 1812 Overture การกระทำของ V ที่เป็นเหมือนการแสดงการเฉลิมฉลองที่เผด็จการต้องฝ่ายแพ้

**********



Evey นั้นถูก หล่อหลอม ให้แข็งแกร่ง โดยมี V เป็นผู้ทิ้งให้เธอไปผจญชะตากรรม แล้วเขาก็เฝ้าติดตามดูเธอ

Evey ได้พบรัก กับ Deitrich หนุ่มที่พัวพันกับพวก กลุ่มอิทธิพล เพราะเธอไม่มีใครอีกแล้ว แต่แล้วความสุขของเธอก็อันตธาน เมื่อคู่รัก ถูกเก็บจากพวกกลุ่มอิทธิพล

Evey ต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้ง หลังจากที่เธอ เคยสูญเสีย ครอบครัวไปแล้ว เธอ รู้สึก ผิดหวัง และอยากจะแก้แค้น เธอจึงออกไป เพื่อแก้แค้น กับคนที่ฆ่าคู่รักของเธอ แต่ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร เธอก็ถูกจับตัวไป ..........

มาปรากฏอีกครั้งว่า เธออยู่ในห้องขังเดี่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่ค่อยสอบสวนเธอ ...โดยให้ข้อหาเธอว่า เธอร่วมมือกับ V เพื่อต่อต้านรัฐบาล และ
สังหารคน โดยบอกให้เธอยอมสารภาพว่า V อยู่ที่ไหน เธอก็จะเป็น อิสระ

แต่ Evey ก็ไม่ยอม เธอถูกทรมาน แล้ววันนึงเธอก็พบกับจดหมายที่คนข้างห้องขัง ส่งทางช่องเล็กมาให้เธอ เธอจึงเปิดอ่าน ....

**********



Valerie

.มันเป็นข้อความจาก Valerie เหยื่อผู้เคราะห้ร้ายคนหนึ่ง... เธอเล่าชีวิตของเธอ ก่อนที่เธอจะถูกจับมาที่นี่ ว่าเธอเป็น คาทอลิก และเกิดมีความรู้สึกรักผู้หญิงด้วยกัน ตั้งแต่ชั้นมัธยม แต่คุณครูประจำชั้นบอกเธอว่า มันคงเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบของวัยเท่านั้น Sarah เป็นแบบนั้น แต่ Valerie ไม่เป็น

Valerie เธอมีความรู้สึก ไม่เปลียนแปลง ที่รักผู้หญิงด้วยกัน แล้วเธอก็ได้เป็นนักแสดง แล้วพบรัก กับ Ruth ผู้หญิงที่แสดงเป็นชาย ..เธอทำให้พ่อกับแม่เสียใจ แต่เธอก็เลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับ Ruth...

แล้วพวกเธอถุกจับไป เพราะพวกเธอเป็นพวกถูกมองว่าทำลายสังคม แล้วถูกส่งไปเพื่อทดลองทางเคมีชีวภาพ เธอ ร่วมทั้งคนที่รักในเพศเดียวกันอีกคนหลายที่ต้องตายที่ต้องตายกันไปทีคน จากการทดลองนี้

Valarie บอกในจดหมายว่าเธอไม่เคยเสียใจ ที่ได้รัก Ruth
เธอมีความสุขมากที่ได้อยู่ ruth ตลอดเวลา 3 ปี เธอมีดอกกุหลาบ ที่ ruth ปลูกให้เธอ

แต่ตอนนี้อีกไม่นานก็คงจะตายเช่นกัน เธอจึงอยากให้คนที่ยังอยู่ หาทางรอด และไม่ยอมแพ้ อย่ายอมให้คนอื่นเอาเสรีภาพในใจของตนเองไป. และขอให้คนที่อ่านจดหมาย ที่เธอไม่เคยรู้จัก ได้ออกไปที่นี่ และหวังว่าโลกคงจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และสักวันผู้คนก็จะได้กลับมามีกุหลาบอีกครั้ง.......

Evey อ่านแล้วน้ำตาไหล จูบจดหมายฉบับนั้น

แล้วเมื่อถึงเวลาที่ Evey ต้องให้คำตอบ...เธอบอกปฎิเสธ อย่างเยือกเย็น ว่าเธอพร้อมตาย.... เมื่อถูกตัดสินใจโทษ Evey กลับพบว่ามีเจ้าหน้าที่มาปล่อยเธอ บอกว่า เธอ เป็นอิสระ แล้ว......

ส่วนต่อไป ก็คงจะให้เป็น ไคลแม็กซ์ สำหรับคนที่ยังไม่เคยดูแล้วกัน....

**********




Theme ใน comic
ในการ์ตูน ของ Alan Moore /David Lloyd เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรก ที่เราซื้อมาอ่าน อ่านแล้วก็ต้องบอกว่า ทึ่ง มาก เป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาดี บทพูดเยอะมาก และรายละเอียดเยอะ ในฉากประกอบ เฟรม ที่ Alan อ้างอึงมาจากความเป็นจริงส่วนใหญ่

ซึ่งผู้ที่จะถ่ายทอดรายละเอียดภาพวาดในแต่เฟรมนี้ได้ ก็คงต้องใช้พลังเยอะเหมือนกัน เราเองก็อ่านแต่ละเฟรมนานเหมือนกัน และต้องทำความเข้าใจด้วย

เคย อ่านสัมภาษณ์ของ Alan เขาพูดว่าเขาเองก็รู้ว่าตัวเขามีแรงกดดันต่อคนวาดเหมือนกัน เพราะAlan เป็นคนที่เขียนรายละเอียดเยอะ
และแต่ละอย่างเขามักอ้างอิงจากความเป็นจริง และช่วงของประวัติศาสตร์ เขาถึงเปิดใจบอกกับคนที่ร่วมงานกับเขา พูดกับเขาได้นะ เพราะไม่อยากให้มีปัญหาร่วมงานกัน..

V For Vendetta ไม่ใช่ การ์ตูน ธรรมดา แบบมี Action Hero แต่เป็นการ์ตูน ที่มีเนื้อหา เสียดสีการเมือง และถ่ายทอดอารมณ์ความนึกคิด และความมืดมนออกมาด้วย Theme ที่รุนแรง และการนำเสนอเรื่องราวด้านมืดของมนุษย์แบบไม่ยั้ง ทั้ง ยา , SEX , กลุ่มอิทธิพล , การทรยศ , การเมือง

Alan ได้เสนอ ภาพของ ทั้ง 2 ฝั่ง ภาพผู้นำ และภาพผู้ต่อต้าน ให้คนอ่านให้ได้เห็นการกระทำและความเป็นไปของทั้ง 2 ฝ่าย
การกระทำการต่อต้านใด ๆ ก็ตาม มันมีผล 2 ด้าน มีทั้ง ดี และ ไม่ดี สังคมก็ยังคงวุ่นวายไม่จบสิ้น

ภาระกิจสุดท้ายของ V เป็นการอำลา Evey แล้วเขาก็ปามีดให้ Finch ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แล้ว V ก็ปล่อย Finch ไป

และจบด้วย Evey เป็น V คนใหม่แล้วเธอที่เธอสานต่อ เจตนาของ V แต่เธอเป็น V ที่จะใช้ความดีเพื่อช่วยเหลือสังคมแบบนั้น
โดยการเริ่มต้นใหม่ของ V (โดย EVEY สวมหน้ากาก V ) คือเริ่มต้นขัดเกลาผู้ที่มีอำนาจ หรือ ผู้ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการเมือง แบบนั้น ไม่ใช้ความรุนแรง หรือฆ่าคนแบบไร้เหตุผล… แต่ในขณะที่อีกด้าน ผู้คนในสังคมก็ยังคงต่อสู้กันแย่งชิงกันต่อไป

**********


คราวนี้ มาที่ภาพยนตร์บ้าง ....

Theme ในภาพยนตร์ และการนำเสนอ


Photobucket


ในภาพยนตร์นี้ เหตุการณ์ถูกแปลงให้มาเป็นยุคปัจจุบัน (เหตุผลคือ ต้องการเสียดสีรัฐบาลยุค ของ จอร์ช บุช) การนำเสนอเรื่องราวของผู้นำ เผด็จการ ที่ควบคุมสื่อทุกอย่าง และจัดการทุกคนที่ต่อต้านรัฐบาล


Evey

ในเรื่องนี้ ก็ถูกล่อหลอมจาก V เช่นกัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แนวออกจะเป็น Romance กันมากกว่า ในหนังสือการ์ตูนของ Alan

V

คาแรกเตอร์ ยังคงความ โหดเหี้ยม เหมือนในหนังสือ และในขณะเดียวกัน ก็ยังคงความ Classic โดยเฉพาะ การเป็นคนที่พูดมาก
รักศิลปะ และชอบบทกวีของ Shakespeare อารมณ์ขันแบบร้ายลึก และนักวางแผน และปฏิวัติ แบบสุดโต้งของเขา

เพียงแต่ในหนังสือ ภาพของ V จะนิ่งมากและดูเย็นชากว่า เหมือนเป็นตัวแทน เป็น สัญลักษณ์ ที่อยู่ในคนทุกคน

แต่ยังไง เราก็คิดว่า V ในการ์ตูน ก็เป็นคนๆ หนึ่ง ที่มีชีวิต จิตใจที่จมอยู่กับความทุกข์และความหลังอันขมขื่น และอาจจะเดาอีกว่า อาจจะเป็น Ruth

แต่โดยส่วนตัวคิดว่า เพราะมาเป็นภาพยนตร์ ต้องมีการเคลื่อนไหว ดังนั้น คาแรกเตอร์ของ V ในภาพยนตร์ จะดูมีชีวิตชีวา มากขึ้น

**********


โดยที่ยังคง Scene ที่ดึงทั้งภาพ และ คำพูด มาจาก การ์ตูน ที่ Scene หลัก ๆ หลาย Scene ซึ่งความรู้สึกโดยส่วนตัว เราว่า ทำได้ ดีมาก คะ
Scene ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังสือ :-

*Scene ที่เปิดตัว V & Evey แล้วทั้งคู่เจอกัน

*Scene ที่ V ยึดสถานีโทรทัศน์ และออกอากาศ เป็น Channel V (มี logo V จริงๆ ) ฮาก๊ากกก แต่บทพูด นี้เปลี่ยนเป็นต่อต้านผู้นำเพียงแค่คนเดียวที่ตั้งใจจะโจมตี ว่างั้น (ในการ์ตูน V จะเป็น Anarchist ที่ต่อต้านระบบผู้นำเผด็จการทุกคน)

*Scene เปิดตัว V กับ Evey

*Scene จด หมายของ Valerie

*Scene ที่ V พบกับ Dr. Delia

*Scene นักบุญ Lilyman

*Scene ที่ Evey เป็นอิสระ

*Scene Domino

ตัวละครในการ์ตูนหลายตัวถูกตัดทิ้ง และเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องบ้างส่วน ซึ่งบ้างฉากได้เปลี่ยนฉากการระเบิดตึก NTV NBS ตึกแฝด ในการ์ตูน

ซึ่งส่วนนี้ ได้ย้ายการระเบิดตึกรัฐสภาในตอนต้น ไปเป็นการระเบิดตึกรัฐสภาในตอนท้าย เพื่อให้เป็น Theme ของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ตามอุดมการณ์ของ V ที่ยึดแบบฉบับของ Guy Fawkes


**********



บทสรุปในภาพยนตร์


อย่างที่บอกว่า ภาพยนตร์ถูกดัดแปลงเพื่อใช้เสียดสี การเมือง ในสมัยรัฐบาล บุช ดังนั้น ภาพของผู้นำ จะเป็นเผด็จการ ที่ไม่ได้เกิดเลย
คือเป็นเผด็จการ จริงๆ เหี้ยมโหด และปิดบังความจริง ต่อประชาชน โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ควบคุมสื่อต่างๆ ในการนำเสนอ ผิดให้เป็นถูก
และมีหน่วยสอดแนม ข่าวคราวของประชาชนอยู่ตลอด



ความสัมพันธ์ของตัวละคร V กับ Evey

Photobucket

V ยังคงความเหี้ยมโหด เป็นนักวางแผนกำจัด และแก้แค้น เหมือนเดิม Evey และ V เหมือนทั้งคู่เองก็ได้เรียนรู้จากกันและกัน และมีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน

ซึ่งส่วนนี้ถือว่า เป็น ส่วนที่ Adaptation ได้ดีคะ Evey ทำให้ V ได้คิด และ V ก็ทำให้ Evey ได้คิด เช่นกัน เพียงแต่ขาดน้ำหนักไป

Photobucket

**********



บทพูด
อันที่จริงบทพูดในเรื่องนี้ถือว่าเป็นบทพูดที่ดีมาก เลยคะ บางประโยคนี่มาจาก comic เลย และบางประโยคที่ Andy และ Larry แต่งขึ้นก็
เป็นส่วนที่ดีมาก ที่ถ่ายทอด คาแรกเตอร์ของ V ให้เป็นผู้มีความรู้ และเจ้าเล่ห์มาก โดยเฉพาะเสน่ห์ของ V ที่พูดบทกวี เหมือนเป็นนัยว่าเขา นักแสดง อะไรแบบนั้น

ยกเว้นบ้างประโยคที่ทาง Andy และ Larry เขียนขึ้น ที่ดูจะชักชวนเกินไป หรือชัดเจนเกินไป จนอาจจะทำให้ คนดูโดยเฉพาะชาวอเมริกัน รับไม่ได้ ก็คือ ประโยค

“...A building is a symbol, as is the act of destroying it. Symbols are given power by people. A symbol, in and of itself is powerless, but with enough people behind it, blowing up a building can change the world.”

ประโยคนี้ กับอีกประโยค คือ :-

Evey: “ Because V is right , We do not need the building rightnow , we need hope”

แม้จะเป็นประโยคสนับสนุนการกระทำการระเบิดรัฐสภาก็ตาม และอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า V เป็น อนาธิปไตย แต่สำหรับเรา สองประโยคนี้ เหมือนประโยค ตกม้าตาย ของเรื่องเลย…. เพราะมันชัดเจนซะเหลือเกิน

บทพูดที่เป็นบทสรุปไคลแม็กซ์ของเรื่อง ขาดความสัมพันธ์และสนับสนุนกับช่วงตอนที่ Evey เป็นอิสระ กับภาพที่ว่า Evey เป็น V คนใหม่ ที่ชุ่มชื้นเหมือนสายฝน ต่าง กับ V ที่ร้อนด้วยไฟแค้น

ประโยค สำคัญ ๆในหนังสือ ที่ Alan Moore เขียนอยู่หลายประโยค ที่ถ่ายทอดผ่านตัวละคร V และ Evey และต้องการให้ตัวละคร ตัวนี้พูด ว่า เธอ จะไม่ใช่ V ในยุคที่ต้อง เข่นฆ่า ผู้คนอีกต่อไป....

**********


น่าเสียดายมากคะที่ Andy และ Larry ไม่ได้ใส่คำพูดที่เป็นเหมือนหัวใจหลักของ Alan ลงในภาพยนตร์ โดยเฉพาะฉากในการ์ตูนที่ V บอกให้ Evey เด็ดแค่ดอกกุหลาบดอกเดี่ยว แล้วส่งให้เขา ไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็นอะไร เขาจะแก้แค้นคนที่ฆ่าคนรักของเธอให้เอง

แต่ Evey มองดอกกุหลาบ เธอเอื้อมมือไป แต่เธอไม่ได้เด็ดและบอกกับ V ว่า ปล่อยให้มันงอกงามอย่างนี้ ดีกว่า (เธอไม่ต้องการแก้แค้น)

คือว่าในภาพยนตร์ขาดน้ำหนักในด้านนี้ไป เพราะ Evey แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ V แต่น้ำหนักน้อยไป และ V ก็แสดงให้เห็นว่า เขายอมรับว่าตัวเองมืดมนเกินไป ที่จะกระทำการเพียงเพื่อแก้แค้นให้ตัวเอง มากกว่าจะทำเพื่อคนอื่นๆ ด้วยความบริสุทธิ์จริงๆ ไม่เหมือน Evey

แต่น้ำหนักน้อยไปอีก เลยทำให้ การกระทำสุดโต่งของ V ในภาพยนตร์ ถูกนำเสนอว่า เป็นการสนับสนุนการกระทำของ V ในด้านของการขึ้นมาต่อสู้เพื่ออิสรภาพ

ซึ่งดูเหมือนเล่ากันคนและอย่างกับความคิดของ Alan Moore

**********


ในแง่ของ David Lloyd

ในการดัดแปลงนี้ David Lloyd ถึงจะผิดหวังในตอนแรกที่เห็นบท แต่เขาก็ยอมรับมันได้ว่า ใน idea เริ่มแรกของ V for Vendetta เขาต้องการเห็น Guy Fawkesไม่ควรจะถูกเผาทุกปี เพื่อฉลองแผนการปฎิวัติ ที่ล้มเหลว แต่จริงๆ David คิดว่า Guy ควรได้รับการสนับสนุนและยอมรับว่าเขาเป็นนักต่อสู้ แบบนั้น.....

David จึงเสนอภาพวาด ตัวละครที่สวมชุดเสื้อคลุมและสวมหน้ากาก Guy Fawkesให้ Alan ในตอนนั้น ซึ่ง Alan เองก็ชอบ idea ที่จะใช้ตัวละครนี้มาก

David ให้การสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะเขาคิดว่า มันเป็นหนังที่ทำได้ดี และยังคงความเป็น Theme ที่ต้องการเสียดสีการเมืองและรัฐบาล (อย่างชัดเจน)

**********


ในแง่ของ Alan Moore...

Alan มีภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนเป็นผู้ชายดิบ ๆ ดูน่ากลัว ดุ เอาใจยาก
การพูดจาของเขาออกจะเป็นคนที่อดจะพูดเชิงเสียดสีก็มันเป็นอารมณ์ของเขาอยู่แล้ว

จากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ Alan หลายๆ บท ก็เลย มีความรู้สึกว่า
Alan เป็นคนที่มีเหตุผลนะ ถ้าเข้าใจ และให้ความจริงใจเขา เขาเป็นคนที่มีความคิดดีมาก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เรียกว่า เป็นศิลปินตัวจริงเลย เขาต้องการความจริงใจ มากกว่าคำพูดหวานๆ

ดังนั้น การที่ Alan ปฎิเสธ หรือให้สัมภาษณ์ว่าเขาตัดขาดจากภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาจาก หนังสือของเขา ว่าเขาไม่แคร์มัน เพราะมันไม่ใช่งานของเขา เหมือนเขาผิดหวังมาเยอะแล้ว จริงๆเราคิดว่ามันมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่ Alan ผิดหวัง ไม่ใช่แค่บทดัดแปลง เพราะ Alan เองก็ดูจะเคยเข้าใจเรื่องนี้

เพียงแต่เขาไม่ต้องการเป็นผู้สนับสนุน ที่ถูกหยิบยกชื่อว่าเพราะเขาเป็นผู้เขียน เท่านั้น

ตัว Alan รักเรื่องราวเหล่านั้นที่เขาเขียน นั้นมีรายละเอียด แฝงด้วยชีวิตและอารมณ์ บ้างครั้งมีความรุนแรง และมืดมน และเหมาะเป็นหนังสือมากกว่า และงานของเขาก็ไม่เหมาะกับ Hollywood ที่มี production ตระการตา แต่บ้างครั้งมันกลับถูกสร้างขึ้นโดยไร้ซึ่งจิตวิญญาณ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวที่ Alan เขียนจะเน้นที่เรื่องราวของประเทศอังกฤษ และ V For Vendetta ก็ถูกเขียนขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจในรัฐบาลยุค มาร์การ์แรต แทกเชอร์ ในยุคนั้น และคงความเป็นอังกฤษไว้

**********


ความเห็นโดยส่วนตัว


Photobucket

ที่ประทับใจเรื่องนี้ เพราะ


+ความมีเสน่ห์ ตัวละคร V

+การเป็นเงาของกันและกันของ V และ Evey
+ production ของภาพยนตร์

+เพลงประกอบที่เยี่ยมและเข้ากับ scene มาก

+การ adaptation ที่เข้าขั้นดี ถือว่ามีจิตวิญญานของเรื่อง เพราะประมวลและแสดงภาพให้เห็นว่า V เป็นเหมือน สัญลักษณ์ของคนทุกคนที่ ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่ออิสรภาพ

+บทพูดดี

แต่ยังขาดในส่วนเหล่านี้ :-


+บทพูดดี แต่ตกม้าเพราะ 2 ประโยคที่พูดไป ซึ่งเป็นการชี้นำเกินไป และน่าเสียดายที่ขาดบทพูดตาม Alan ในส่วนสำคัญไปหลายส่วน

+หนังใส่ความ Romance ระหว่าง Evey กับ V มากไปหน่อย ช่วงท้าย ตอนฉากเต้นรำทำได้ดี แต่บทพูดช่วงที่Evey จะออกจากบ้าน V และ
ช่วงที่ Evey กลับมา และตอนท้าย น่าจะใช้บทพูดตามการ์ตูนของ Alan Moore

+การให้น้ำหนักฝั่ง ผู้นำเผด็จการ น้อยเกินไป เพราะมีแต่ภาพความเป็นผู้นำเผด็จการ

เลยน่าเสียดาย ที่ทำให้ภาพยนตร์ขาดความเป็น Drama ลึกๆ ไป

**********






Create Date : 04 กรกฎาคม 2551
Last Update : 7 กรกฎาคม 2551 23:36:57 น. 1 comments
Counter : 1800 Pageviews.

 
ขอมาระบายด้วยท่านเตียว
แหม! ช่างเป็นเรื่องบังเอิญทีเดียว ข้าพเจ้าก็ประทับใจหนังเรื่องนี้มาก ๆ ได้ไปดูเรื่องนี้ด้วยความไม่ตั้งใจ คือได้บัตรฟรีของ Seed มา 2 เรื่อง แต่ตัดสินใจดูเรื่องนี้ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้รายละเอียดใด ๆ มาก่อนเลย แต่พอหนังจบเท่านั้นละ พูดกับพี่ไม่หยุดปากเลย รู้สึกชอบเนื้อหามาก ๆ V ก็เท่ห์สุด ๆ เนื้อหาชวนติดตามและแปลกใหม่ ลุ้นมากเลยตอน V เสียสละตัวเองไปกับรถไฟอ้ะ และตื่นตาตื่นใจสุด ๆกับฉากระเบิดพร้อมเสียงเพลงปลุกใจ รัก V ไปเลย คงเป็นเพราะได้ไปดูที่โรงอ่ะนะ เลยยิ่งสนุกมากเพราะได้ดูอย่างเต็มตา ยอมรับว่าตั้งแต่ดูหนังมาหลายเรื่อง ประทับเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว พอ VCD ออกมาก็รีบเช่ามาดูซ้ำและซื้อเก็บไว้ ทุกวันยังขอบคุณตัวเองและ Seed เลยที่ทำให้ได้ไปดูหนังเรื่องนี้ ไม่งั้นคงพลาดหนังดีแน่ เพราะต้องยอมรับนะว่ากระแสไม่ค่อยแรง และไม่ค่อยมีคนรู้จักอ่ะนะท่าน


โดย: เทียนฟง IP: 118.174.221.62 วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:17:37:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เก้าเกสร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




เวลาว่างๆ เราก็มักจะ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย ที่ชอบก็คือฟังเพลง ดูหนัง ส่วนหนังสือนานๆ จะจับสักครั้ง ต้องอ่านเป็นเรื่องสั้น หรือ บทความ ตอนๆ
ถ้าอ่านยาวๆ เลย ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่คะ
นิสัยก็ติงต๋อง บ้าๆ บอๆ ^^


Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
4 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เก้าเกสร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.