สามก๊ก 2010 vs สามก๊ก 1994
แตะที่วีดิโอ แล้วกดปุ่ม stop หากต้องการหยุดการเล่นเพลง auto 1994版《三国演义》经典版 唐国强的诸葛亮是经典中的经典. 的确,唐版的诸葛亮太经典了,而且已经深入人心了,不仅是因为时间原因,更主要的是当时三国演义剧组的精益求精,外加唐国强本人的深度剖析,使得他演的诸葛亮不完全是脸谱画的诸葛亮,而更加立体、形象。 支持楼主,支持唐版诸葛亮 Indeed, the Don too classic version of the wise, and has gained recognition, not only because of time reasons, but the main cast of the Three Kingdoms was better, plus the depth of my analysis of Tang Guoqiang, so he played the wise is not entirely mask Zhuge Liang painting, and more three-dimensional image. Support the landlord in support of Zhuge Liang Tang edition (ขอแปะcomment ที่คนจีนที่baidu comment)1994版《三国演义》经典版 Sanguo yanyi 1994 Theme (Japan version)สามก๊ก เวอร์ชั่น1994 เหมือนอ่านบทกวี ที่ลึกซึ้ง ถึงรูปลักษณ์จะดูธรรมดา แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ สามก๊ก เวอร์ชั่น2010 เหมือนอ่านข้อความที่สับสน ถึงรูปลักษณ์จะดูสวยงามอลังการ แต่กลับรู้สึกว่างเปล่า สามก๊ก เวอร์ชั่น 1994 สร้าง 84 ตอน เป็นเวอร์ชั่นที่ใช้เวลาทำถ่ายหลายปี ซึ่งการสร้างละครฟอร์มใหญ่ในสมัยนั้น สมบุกสมบันเอาการ และก็มีอุปสรรคมากเช่นกันด้วยการถ่ายทำที่ยาวนาน ทำให้ยังมีข้อบกพร่องอยู่หลายส่วน และโดยเฉพาะการเปลี่ยนนักแสดงในบทเดียวกัน หลายต่อหลายคน แต่สิ่งที่น่ายกย่อง และประทับใจ ที่เราต้องยกให้เวอร์ชั่น 1994 เป็นเวอร์ชั่นที่ Classic ก็เพราะว่า การทุ่มเท ความตั้งใจ ในการนำเสนอ ให้ความบรรจง ปราณีต ทั้งด้านบทละคร บทสนทนา ตัวละครหลัก การแสดง ดนตรี และบทเพลง การถ่ายทำภาพธรรมชาติ นอกสถานที่ การให้จังหวะและอารมณ์ของนักแสดงที่สื่อออกมา และความเคี่ยวเข็ญของผู้กำกับ ที่ทำให้เวอร์ชั่น 1994 มีเสน่ห์ มีชีวิตชีวา ทั้งสุข ทั้งเศร้า เหมือนลำนำชีวิต ซึ่งเหมือนกับการอ่านบทกวี ที่ลึกซึ้ง สามก๊กเวอร์ชั่น 2010 สร้าง 95 ตอน เป็นเวอร์ชั่นที่ใช้เวลาถ่ายทำแค่ไม่ถึงปี การสร้างละครฟอร์มยักษ์ ด้วยเทคนิค ในยุคสมัย ที่มี CG เป็นตัวช่วย และโทนการถ่ายภาพที่เหมือนภาพยนตร์ มีส่วนปรับปรุงในด้านฉากต่างๆ ให้ดูอลังการมากขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นแค่ปัจจัย ที่ทำให้สามก๊กมีเสน่ห์ แต่มันกลับดูเหมือนเป็นความว่างเปล่า เพราะขาดความลึกซึ้งของความหมายในตัวมันเอง เพราะแม้สร้างมากถึง 95 ตอน แต่ขาดความปราณีต บรรจง ทั้งบทละคร และบทสนทนา จังหวะในการแสดงและสื่ออารมณ์ ซึ่งบ้างส่วนที่เพิ่มเติมก็มีส่วนที่ถือว่าดี แต่การแบ่งช่วงตอนไม่สม่ำเสมอ บ้างตอนยาวมากเกินไป บ้างตอนสำคัญถูกลดทอน ทั้งๆที่เป็นส่วนที่ไม่น่าจะลดทอน ซึ่งเป็นการดำเนินเรื่องราวที่สะเปสะปะ เหมือนผู้กำกับ หาทางให้ตัวเองไม่ถูก จังหวะและการให้อารมณ์ของตัวละคร รับส่งบท ไม่พิถีพิถัน รวมทั้งการตีความของผู้กำกับ ที่ทำให้ สามก๊ก เวอร์ชั่นใหม่นี้ สำหรับเรา มันเหมือนเป็นการอ่านข้อความที่สับสน และไร้ซึ่งเสน่ห์ของสามก๊ก สิ่งที่นำเสนอถึงความไร้เสน่ห์ คือการขาดให้การความสำคัญกับการแสดง และการกระชับจังหวะการสื่อของอารมณ์ ซึ่งทำให้ฉากนั้นไม่สัมพันธ์กัน สิ่งที่เราเปรียบเทียบในขั้นต้น สำหรับเรา คือ บ้านของขงเบ้ง นี่คือสิ่งที่เห็นชัดเจนอันดับแรก ซึ่งสำหรับเรา มันเป็นส่วนสำคัญมากและเป็นการสื่อถึงความเอาใจใส่ และ ความเข้าใจ ที่ทำออกมา มันสัมพันธ์กับ อุปนิสัยของผู้อาศัย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ด้าน ฮวงจุ้ย อย่าง ขงเบ้ง บ้านขงเบ้งในเวอร์ชั่นเก่า นำเสนอได้อย่างได้มีเสน่ห์ ดูเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความสง่างาม และดูอบอุ่นและเป็นกันเอง มีเครื่องประดิษฐ์ แต่ก็ดูเรียบง่าย มีความสงบ และเหมาะสำหรับผู้ที่รักสันโดษ และมีระเบียงนอกบ้านที่ไว้รับแขก และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ บ้านนี้สร้างบนพื้นฐานที่มั่นคง เหมาะกับทุกฤดูกาล ซึ่งบ่งบอกถึงอุปนิสัยของที่อยู่ที่อาศัยในบ้านนี้ บ้านขงเบ้งเวอร์ชั่นใหม่ ขาดการเอาใส่ใจ และขาดความลึกซึ้งในการถ่ายทอดถึงความหมายของสถานที่ บ้านถูกสร้างคร่อมทางน้ำ ด้านหลังเป็นน้ำตก สถานที่สวย แต่ไม่ใช่ที่จะใช้สร้างที่อยู่อาศัย ขงเบ้ง ไม่ใช่เซียน ขงเบ้งเป็นคนธรรมดา แต่ขงเบ้งเป็นผู้ที่เรียนรู้ ศาสตร์ของฮวงจุ้ยด้วย การสร้างบ้านแบบนี้ ทั้งการสร้างคร่อมทางน้ำ และสภาพอากาศ มันไม่สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ย เพราะหน้าหนาว จะอยู่อย่างไร อีกทั้งสายน้ำที่ไหลผ่านตัวบ้านลงด้านล่างอีก ขงเบ้งคงไม่สร้างบ้านเช่นนี้ ผู้กำกับมองข้ามความหมายนี้ไปแล้วเขาก็ไม่เข้าใจ ถึงความหมายที่แฝงอยู่ ไม่เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของบุคคลกับสถานที่ และเขาก็จะไม่เข้าใจว่า จะถ่ายทอด เชื่อมโยง อุปนิสัย ความนึกคิดของตัวละคร ออกมาให้ดีได้ยังไง มุมมองความเห็นของผู้ที่เคยดูสามก๊ก 1994 ฉบับคลาสสิค มาแล้วหลายๆรอบ หรือผู้ที่ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสามก๊กนั้น ก็ย่อมต้องมีผู้ที่มีมุมมองต่อสามก๊ก 2010 ในเชิงเปรียบเทียบ ให้เห็นการให้ความสำคัญของผู้สร้าง ที่ผู้สร้าง ทุ่มเท ศึกษา และคงไว้ซึ่งศาสตร์ต่างๆแห่งการเรียนรู้ ที่มี่อยู่ในละครของเวอร์ชั่น 1994 เป็นการต้องการอธิบายถึงมุมที่แตกต่าง ไม่เช่นนั้น ก็คงไม่มีผู้คนมานั่งถกเถียงกัน แม้แต่อ่านหนังสือ หรือละคร เรื่องราว เดียวกัน ซึ่ง สามก๊ก ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ให้ผู้อ่าน และผู้ดู หยิบมาพูดคุยกัน ซึ่งการพูดถึงมุมมองที่แตกต่างนี้ ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ ต่างประเทศ ก็ยังมีการพูดคุย เกี่ยวกับภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือวรรณกรรม ในมุมมองที่ต่างกันสามก๊ก ฉบับ1994 นี้ ในตอนนั้น ผู้ชมมีความคาดหวังอย่างสูงว่า สามก๊ก จะถูกนำมาสร้างเป็นละครฟอร์มใหญ๋ด้วยความ faithfulness ต่อวรรณกรรม และความรู้สึกของแฟนๆผู้อ่านสามก๊ก ให้เป็นละครที่มีคุณค่าและสามารถเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ผู้สร้างได้ให้ความสำคัญของการถ่ายทอด วรรณกรรมชิ้นเอก ให้ออกมาเป็นละคร ที่เต็มไปด้วยธรรมเนียม วัฒนธรรม อักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์การแสดง ศิลปศาสตร์การดนตรี การร่ายรำ บุคคลิก ลักษณะของตัวละครเอก การฝึกฝนทักษะของนักแสดงต่อตัวละคร และมีฉากบ้างฉากที่เป็นidea ฉากของ Sangukushi (สามก๊กหุ่นกระบอก) เวอร์ชั่นคลาสสิคของญี่ปุ่นปี 1986 ของ Kihachiro Kawamoto ที่งดงามไปด้วยศิลปะ นำมาเสนอให้มีชีวิตชีวา ผ่านตัวละครคน ขอสำคัญผู้สร้างสามารถถ่ายทอดการเล่าเรื่องถึงแก่นความเป็น สามก๊ก ได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่เปิดเรื่อง จนถึงปิดท้าย ที่นำไปสู่การเริ่มต้นแห่งวัฎจักรใหม่ ถึงแม้มีข้อด้อยเรื่องเปลี่ยนตัวนักแสดง กับฉากหลุดๆสามก๊ก ฉบับ 2010 สร้างขึ้นในมุมมองการตีความของผู้กำกับ ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะมีส่วนเพิ่มเติมที่ดี แต่บ้างบทดูขาดความเชื่อมโยง การขาดส่วนของความสัมพันธ์ และเป้าหมายของตัวละคร กับบทละคร เพิ่มเติมในบ้างส่วน ที่สร้างตอนมากกว่า ฉบับเก่า แต่เมื่อเทียบฉากต่อฉากแล้ว การให้สำคัญในการสื่อของตัวละคร ในฉากสำคัญ ขาดความละเมียดละไม เพราะใช้เวลาเพียงสั้นๆ กับฉากที่ควรให้อารมณ์ความสำคัญของฉาก แต่กลับถูกทอนไป ทำให้ฉากๆ นั้นสื่ออารมณ์ออกมาไม่ถึง ตอนเปิดเรื่องและปิดท้ายเรื่องไม่สัมพันธ์และขาดความเชื่อมโยง ข้อเพิ่มเติม ถึงข้อแตกต่างในเวอร์ชั่น 1994 กับ 2010 เรื่องทัศนคติ นั้นมาจากผู้กำกับ กับบทละคร ในเวอร์ชั่น 1994 นั้นมีการadept จาก วรรณกรรม 120 บท เป็นละคร 84 ตอน และผู้กำกับนั้นมีถึง 5 คนที่ผ่านการสร้างละครคุณภาพให้กับทีวีจีนสมัยนั้น อย่าง ไซอิ๋ว ความรักใน...หอแดง นักแสดงส่วนหนึ่งมาจากละครไซอิ๋วและความรักในหอแดง กลิ่นไอของทัศนคติของผู้กำกับในยุค ปี 80-90 นั้นจึงยังคงมีกลิ่นไอโบราณยุค ผสมผสานกับกลิ่นไอศิลปอุปรากรจีน ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อหลอมธรรมเนียม วัฒนธรรม ในยุคนั้นชนิดที่ว่าเล่าเรื่องราวได้ถึงแก่นแท้ของวรรณกรรม ส่วนเวอร์ชั่น 2010 นั้นมีการadept บทละคร จากทัศนคติของผู้กำกับด้วย ด้วยการปรับทัศนคติที่มีต่อตัวละคร นำเสนอในด้านของความรู้สึกออกไป ซึ่งต่างจาก ตัวละครในเวอร์ชั่น 1994 ซึ่งถ่ายทอด ทัศนคติตัวละครจากบทในวรรณกรรม อีกข้อของความแตกต่าง คือการสื่อออกที่แตกต่างกัน ถึง ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และทักษะ ตัวละคร เมื่อเปรียบเทียบธรรมเนียม การประสานมือ การทำการคารวะ นั้น เวอร์ชั่น 1994 ให้ความสำคัญการรายละเอียดในส่วนนี้ผ่านการสื่อ......ของตัวละครต่างๆ ซึ่งในเวอร์ชั่น 2010 เองก็มีการแสดงถึงส่วนนี้ แต่ยังให้ความรู้สึก ด้อยกว่าในหลายๆ ฉาก เมื่อเปรียบเทียบวัฒนธรรม เวอร์ชั่น 1994 ให้ความสำคัญเครื่องแต่งกาย(อาจมีผสมแนวจากญี่ปุ่นในบ้างชุด เพราะได้ร่วมถ่ายทำกับบริษัทของญี่ปุ่น)และการมัดทรงผมและผ้าครอบผม ที่คลุมผมทั้ง บุรุษและสตรี ตามสมัยฮั่นอย่างเคร่งครัด ไม่มีการปล่อยผมเผ้าสลายเหมือนหนังจีนกำลังภายใน แต่จะปล่อยผมในกรณ๊พิเศษเฉพาะเรื่องราวเท่านั้น หรือพวกที่ชนเผ่าจึงปล่อยสยาย ซึ่งเวอร์ชั่น 2010 นั้น เป็นมีการประยุกต์ให้เข้ากับรูปแบบ ร่วมสมัย ซึ่งก็ถือว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ หากแต่รูปแบบเหล่านี้ ไม่อาจถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ ที่ชัดเจน ของยุคฮั่นได้ ส่วนผู้ที่ไม่เคยดูสามก๊กมาก่อน ถ้าดูฉบับ 2010 ก็ได้ความตื่นตากับภาพ ฉาก อลังการ เทคนิค CG กับการเล่าเรื่องที่แทบขยายคำอธิบายในบทสนทนานั้นเลย หรือการแสดงในแบบ modern drama ที่ดูคุ้นเคยกันอยู่ในยุคปัจจุบัน ถือเป็นส่วนที่ง่ายต่อการรับชม มันเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ชมบางคนในยุคนั้น กับผู้ชมบางคนในยุคนี้อาจจะมีทัศนคติและความนิยม ที่ต่างกันไป และมันก็ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผุ้สร้างโดยส่วนมากในยุคปัจจุบันมองที่การตลาดเป็นจุดสำคัญ แม่นางเตียว
Create Date : 10 มกราคม 2554
79 comments
Last Update : 26 สิงหาคม 2556 21:06:05 น.
Counter : 16626 Pageviews.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.199.57 16 มกราคม 2554 21:59:22 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.38 17 มกราคม 2554 21:11:19 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.202.199 17 มกราคม 2554 22:35:04 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.202.199 18 มกราคม 2554 0:49:59 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.155 18 มกราคม 2554 19:02:17 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.249.251 19 มกราคม 2554 19:18:32 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.249.251 19 มกราคม 2554 19:23:42 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.201.99 19 มกราคม 2554 20:58:00 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.201.99 19 มกราคม 2554 21:01:54 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.201.99 19 มกราคม 2554 21:06:44 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.46 20 มกราคม 2554 16:57:06 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.46 20 มกราคม 2554 17:00:23 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.197.68 20 มกราคม 2554 19:15:43 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.46 20 มกราคม 2554 19:58:14 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.197.68 20 มกราคม 2554 23:05:33 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.197.68 20 มกราคม 2554 23:13:24 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.200.54 22 มกราคม 2554 22:25:25 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.243.214 23 มกราคม 2554 11:05:54 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.243.214 23 มกราคม 2554 13:47:24 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.196.118 23 มกราคม 2554 14:04:41 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 180.180.153.188 23 มกราคม 2554 20:44:50 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 180.180.153.188 23 มกราคม 2554 22:37:02 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 180.180.153.188 23 มกราคม 2554 22:37:24 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 180.180.153.188 23 มกราคม 2554 22:37:24 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.240.25 24 มกราคม 2554 17:26:11 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 118.174.122.9 1 กุมภาพันธ์ 2554 20:05:57 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.198.229 4 กุมภาพันธ์ 2554 23:15:13 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.198.229 4 กุมภาพันธ์ 2554 23:17:35 น.
โดย: โจฮวน IP: 118.172.44.77 5 กุมภาพันธ์ 2554 21:01:26 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.202.78 7 กุมภาพันธ์ 2554 17:48:41 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.202.78 7 กุมภาพันธ์ 2554 17:53:01 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.247.98 7 กุมภาพันธ์ 2554 21:16:07 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.194.220 8 กุมภาพันธ์ 2554 18:37:43 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.195.50 8 กุมภาพันธ์ 2554 22:32:19 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 125.27.192.243 13 กุมภาพันธ์ 2554 22:43:04 น.
โดย: จูกัดอี้ IP: 118.174.122.250 24 กุมภาพันธ์ 2554 18:20:25 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.243.89 28 กุมภาพันธ์ 2554 16:48:36 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.28.125 18 ตุลาคม 2554 15:01:40 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.28.125 18 ตุลาคม 2554 15:06:34 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.28.125 18 ตุลาคม 2554 15:22:26 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.28.125 18 ตุลาคม 2554 15:29:26 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.28.125 18 ตุลาคม 2554 15:49:28 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.5.86 19 ตุลาคม 2554 10:28:35 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.5.86 19 ตุลาคม 2554 12:08:09 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.22.208 21 ตุลาคม 2554 9:34:38 น.
โดย: Jayscmu IP: 171.4.75.249 22 ตุลาคม 2554 18:30:10 น.
โดย: แม่นางอิ่ม IP: 118.172.40.36 23 ตุลาคม 2554 14:48:00 น.
โดย: แม่นางอื่ม IP: 101.109.15.191 24 ตุลาคม 2554 9:45:58 น.
โดย: ยีเอ๋ง IP: 76.90.210.181 8 ธันวาคม 2554 8:58:42 น.
โดย: โจฮวน IP: 125.26.248.231 11 ธันวาคม 2554 23:13:36 น.
โดย: นกน้อยเลือกรัง IP: 110.171.8.5 3 มกราคม 2555 1:42:49 น.
โดย: ศิษย์ปลายแถวของอาจารย์ขงเบ้ง IP: 110.164.213.116 24 มีนาคม 2557 0:37:49 น.
โดย: ใบตอง IP: 1.179.146.145 25 กรกฎาคม 2557 11:22:26 น.
โดย: ใบตอง IP: 1.179.146.145 25 กรกฎาคม 2557 12:09:54 น.
โดย: ใบตอง IP: 1.179.146.145 25 กรกฎาคม 2557 12:10:26 น.
โดย: ก้อง IP: 27.55.76.156 7 กุมภาพันธ์ 2560 23:45:49 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [? ]
เวลาว่างๆ เราก็มักจะ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย ที่ชอบก็คือฟังเพลง ดูหนัง ส่วนหนังสือนานๆ จะจับสักครั้ง ต้องอ่านเป็นเรื่องสั้น หรือ บทความ ตอนๆ ถ้าอ่านยาวๆ เลย ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่คะ นิสัยก็ติงต๋อง บ้าๆ บอๆ ^^
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
มันมองเห็นความแตกต่างได้หลายจุดมากเลย
ตามความเห็นรู้สึกว่าของเก่าดีกว่าเนอะ