"ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี"
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
นั่งคุยกับปุยเมฆ

เมื่อหัตถ์แห่งรัตติกาลโอบกอดท้องฟ้า ถึงเวลาเสี้ยวจันทร์ก็เริ่มส่องแสงสว่างกระจ่างนภา พร้อมระยิบระย้าเจิดจ้าไปด้วยหมู่ดาวสกาวแสงเงินยวง อยู่ในห้วงรัตติกาลอีกเนิ่นนานกว่าที่อรุณจะมาเยือน เราเองนั่งอยู่บนยอดผาชมธรรมชาติสูดอากาศเย็นชื่นระรื่นใจโดยหายใจยาว ๆ ลึก ๆ หลาย ๆ ครั้ง หวังอากาศบริสุทธิ์บำรุงกายและจิตใจ ท่ามกลางเสียงเรไรมาบรรเลงเพลงป่าหลายเพลามาแล้วก็ยังร้องไม่จบสักที

แถมยังมีหิ่งห้อยต่างทยอยสบทบบินร่วมกันไปราวกับดวงไฟสว่างไสวยิ่งลมโชยมาแต่ไกลก็พัดพากลิ่นหอมหวนของปวงดอกไม้ต่าง ๆ ช่างเป็นสิ่งที่สุนทรีย์ยิ่งนักทำให้เรายิ่งหลงรักธรรมชาติเสียนี่กระไร

แม้ขณะยามราตรีนี้อาจมีใครหลับใหลไปแล้ว หรือเราเองหลับแล้วฝันไปกับสิ่งที่ได้ยินได้สัมผัสแต่เราก็ได้สำรวจตรวจสอบแล้วว่าเรามิได้ฝันไป

ขณะเรากำลังซึมซับความละเมียดละไมของธรรมชาติเราเพ่งพินิจคิดก่อนเอ่ยถามบางดวงดาวว่า ดาวเอยเจ้าโชคดีนักหนาที่เจ้าอยู่บนฟากฟ้าอันไกลแสนไกล หากเจ้าได้อยู่บนผืนดินหรืออยู่ในระยะทางที่มนุษย์สามารถครอบครองจับจองเจ้าได้แล้วล่ะก็ ป่านนี้มนุษย์คงจะนำเจ้ามาผลิตเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ นำมาอวดโอ่โชว์ว่าใครจะมั่งมีกว่าใครเป็นแน่แท้

แม้พระจันทร์เองก็ถูกเหยียบย่ำมาแล้วขนาดอยู่ไกลในอวกาศก็มิอาจจะพ้นเนื้อมือมนุษย์ได้ต่างแข่งขันประชันกันว่าใครจะไปถึงดวงจันทร์ก่อนกันแทนที่จะพัฒนาโลกให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขให้ปลอดภัยจากการคุกคามของมวลมนุษยชาติ

หยุดเสียเถิดเราป่วยการเปล่าที่เราจะมานั่งพูดเรื่องไร้สาระแต่เรายังคงเพ่งมองไปยังเสี้ยวจันทร์พรึมพรำกับตัวเองแล้วพินิจพิจารณากับเสี้ยวจันทร์ทองล่องลอยอยู่บนนภา ใจเราก็ละเมอเอ่ยบอกกับเสี้ยวจันทร์ว่า ข้าขอบใจมากนะที่วันนี้ข้าได้เจอกับเจ้าอยู่เป็นเพื่อนยามหงอยเหงาในค่ำคืนนี้

และแล้วก้อนเมฆน้อยกำลังลอยมาแต่ไกลเหตุใดเจ้าดูเศร้าสร้อยนักหรือว่าเหนื่อยหนักกับการอวยทานหยาดฝนแด่สกลโลกตอบข้าสักทีเถิดเจ้าเมฆเอยอย่าเมินเฉยเหมือนปวงดวงดาวและเสี้ยวจันทร์ที่ปล่อยให้ข้าบ่นบ้าอยู่คนเดียวเลย

“จะหยุดคุยกับเจ้าก็ได้นะ” เมฆเอ่ยเสียงแผ่วเบา

“แล้วเหตุใดเจ้าถึงดูเศร้าสร้อยนักล่ะ ขณะที่เจ้าล่องลอยไป” ข้าถามเจ้าเมฆพลางสื่อดวงตาสงสัยใคร่รู้


“ข้านะเหรอ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าโดดเดี่ยวมานานแสนนานแล้วอยากมีความรักกับเขาเสียบ้างนะ ถึงจะมีชีวิตที่เป็นอิสระก็ตามทีแต่มันก็รู้สึกหงอยเหงาเศร้าใจในอารมณ์ แม้จะมีหยาดละอองน้ำ สายลม ท้องฟ้า แสงแดด เป็นเพื่อนข้าในตอนกลางวันและมีพระจันทร์ กับหมู่ดวงดาวสกาวนภาในยามราตรี แต่ข้าก็มีความรู้สึกว้าเหว่ในใจยิ่งนัก ข้าเกิดมาทำกรรมอันใดเล่าเจ้าพอจะรู้หรือเปล่าเหตุใดเรื่องราวชีวิตข้าถึงเป็นแบบนี้” เสียงเมฆสะอึกสะอื้นขณะที่กล่าวจบ

“ข้าไม่รู้หรอกนะ แต่เจ้าก็ควรจะภูมิใจมิใช่หรือ กับการที่เจ้ามีหน้าที่ภาระอันใหญ่หลวงที่สละหยาดฝนแด่สกลโลกถึงแม้ว่าใครจะมองไม่เห็นความดีของเจ้าก็ตามทีเถอะนะ แต่ข้ามองเห็น อีกอย่างเจ้าล่องลอยไปตามทิศต่าง ๆ ของกระแสลมเจ้าก็เจอเพื่อนมากมายมิใช่หรือ เจ้ามิได้อยู่เดียวดายสักหน่อย” ข้าตอบกลับเมฆบ้าง

“เจ้าพูดอย่างนั้นก็ถูกของเจ้านะ แต่มันไม่เหมือนกันนี่นา ความรักแบบมิตรภาพกับความรักรู้สึกที่มีใครเคียงข้างมันต่างกันมากนะรู้ไหม ถึงแม้ข้าจะเคยได้โอบกอดขุนเขาเพียงชั่วขณะก็ตามทีเถิด” เมฆก็ยังระบายความในใจออกมา


“ถึงต่างกันแล้วยังไงล่ะ เจ้าเกิดมาโชคดีนักหนาเพียงใดแล้วที่เป็นเมฆนะกับการที่เจ้าไม่เหมือนต้นไม้ไม่เหมือนอย่างอื่นอย่างน้อยก็ยังมีใครรักและต้องการเจ้าโดยที่เจ้าอาจจะไม่รู้หรอก ฟังแล้วก็อย่าพึ่งตกใจล่ะ จะให้ข้ายกตัวอย่างก็ได้นะ เช่น สัตว์น้ำ ต้นไม้นานาชนิดและอะไรอีกมากมายเกินกว่าที่ข้าจะบรรยายออกมาหมดได้ ” ข้าพูดกับเมฆด้วยน้ำเสียงดุดัน

“แล้วข้าควรจะทำอย่างไรดีล่ะกับชีวิต” เมฆเอ่ยขอความคิดเห็น


สำหรับเจ้าแล้วข้าว่าเจ้าควรทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยเจ้าก็มีคุณค่าในตัวเองเจ้าจงเร่งรีบสะสมละอองของหยาดน้ำทั้งหลายแล้วแจกจ่ายให้กับผืนดินถิ่นแห้งแล้งแบ่งปันมิตรภาพตราบชีวิตเจ้าจะหาไม่ และอย่าได้มีความเห็นแก่ตัวเหมือนปุยเมฆอื่น ๆ ที่ไม่มีความเมตตาต่อผืนดินถิ่นแห้งแล้งข้อนี้เจ้าควรจะจำไว้

ส่วนความเป็นไปสำหรับความรักของเจ้าก็จะได้รับผลตอบแทนจากสิ่งที่เจ้ากระทำถึงแม้เจ้าจะไม่ได้ความรักอย่างที่เจ้าต้องการ ก็ตามทีแต่เจ้าก็ยังได้รับความรัก ยังดีกว่าที่ไม่มีความรักจากใครมิใช่หรือ

“ข้าเข้าใจแล้วนะ ขอบใจที่เตือนสติข้า” เมฆเอ่ยเสียงชัดเจนกว่าครั้งแรก

และอีกอย่างเจ้าก็เลิกเศร้าสร้อยได้แล้วดูนั่นสิแสงอรุณมาเยือนตรงขอบฟ้า ปลุกสรรพสัตว์นานาชนิดให้คิดออกทำมาหากินเลี้ยงชีวิตไปอีกวัน ลองตั้งใจฟังสิเสียงนกบรรเลงเพลงพงไพรเสียงหวานละไมยิ่งนัก อีกทั้งลมไหวนำความหอมของดอกไม้ขจรขจายปนกับอากาศบริสุทธิ์ โดยที่มีสายหลอกหยอกล้อเล่นกับสายลม และเจ้าเห็นไหมว่าน้ำค้างกำลังเดินทางไปหาเจ้าแล้วเตรียมตัวรับไว้ในอ้อมกอดของเจ้าด้วยล่ะเจ้าเมฆน้อย นี่ก็เช้าแล้วข้าจะไปตามทางของข้า บางทีพรุ่งนี้เราอาจจะได้เจอกันใหม่ก็ได้นะ



Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2550 5:12:30 น. 3 comments
Counter : 476 Pageviews.

 
เขียนได้ดีจังเลยค่ะ
ตอนแรกเห็นชื่อ นั่งคุยกับปุยเมฆ..
ก็นึกว่าจะใช้คำแบบทั่วไปซะอีก
ขออนุญาตแอดเฟรนด์บล็อกนะคะ จะได้เข้ามาอ่านได้อีก

ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: นางฟ้าสอบตก วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:53:06 น.  

 

มาแอบฟังคนนั่งคุยกับปุยเมฆค่ะ


โดย: แซนด์ซี วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:53:30 น.  

 

ปุยเมฆน้อยแวะมาอ่านนะ

ให้ข้อคิดได้ดีนะ ขอบคุณนะที่เขียนให้อ่านนะ



สุขสันต์วันแห่งความรักและสวัสดีปีใหม่จีนนะ ขอให้รวยๆๆ เฮงๆๆ นะ



ปล."บางทีพรุ่งนี้เราอาจจะได้เจอกันใหม่ก็ได้นะ"



โดย: ปุยเมฆน้อย IP: 71.56.138.69 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:51:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

maejitr
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add maejitr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.