คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
รองเท้าสึก...ที่โรม อิตาลี 4 ...อำลาโรม

วันที่ห้า

ตื่นเช้า...นอนพลิกไปพลิกมา ว่าเหลืออีกสองวันก็จะกลับแล้ว เดินรอบกรุงโรมจนรองเท้าสึก//www.pantip.com/cafe/richtext/อย่างที่บอก แข้งขาปวดไปหมด แก่แล้วไม่เจียมสังขารก็แบบนี้แหละ แถมอากาศร้อน แดดจ้า เดินกลางแดดทุกวัน ถ้าอยู่เมืองไทยเขาคงถามว่าไปทำนามาหรือเปล่า ? เพราะจากผิวเผือก ๆ ขาวเหลือง เริ่มเปลี่ยนเป็นสีกาแฟใส่นมเล็กน้อย สีแบบนี้มิเชลชอบ ตามแบบฝรั่ง...แต่ไทยไม่ชอบจ้า

หลังจากเดินมาสี่วันเข้าซอยนั้นออกซอยนี้จนแผนที่ ๆ ซื้อมายับไปหมด แรก ๆ คิดอยากจะไปเที่ยวที่อื่นโดยนั่งรถไฟไป แต่มิเชลร้องจ๊าก...ว่าเที่ยวแบบนั้นไปคนเดียวเถอะ โรมนี่มันใหญ่กว่าที่คิด ที่ผ่าน ๆ มา ยังดูได้ไม่หมดจะกระโดดเป็นกบ ดูแบบชะโงกทัวร์นั้นไม่เอาแน่ ๆ ตกลงแม่บุญเลยจ๋อยรับประทาน หยุดคิดไปเลย ...

ตกลงหลังอาหารเราเลยเอาแผนที่มากางดูว่าที่ไหนบ้างที่ยังไม่ได้ไป ในข้อมูลที่เขียนมีที่น่าดูอีกที่อีกฝั่งแม่น้ำ เขียนไว้ว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจ...แบบนี้น่าลอง
อีกแห่งคือ Galleria Borghese ที่มีรูปั้นสวย ๆ จากศิลปินชื่อดังของอิตาลี เราไปถึงสิบโมง ตอนไปซื้อตั๋ว เขาถามว่าได้จองไว้ก่อนหรือเปล่า หากไม่ได้จองมีสิทธิ์เดินชมได้หนึ่ง ช.ม เพราะหลังจากนั้นมีกรุ็ปทัวร์จองมา เลยต้องรีบดูรีบออก แต่เป็นสถานที่ ๆ เราเดินดูอย่างอิ่มเอิบใจ เพราะมีอะไรน่าสนใจสมกับที่มีคนอยากมาชมจริง ๆ


Photobucket


ออกจากที่นี่ก็นั่งรถเมล์ แล้วไปต่อ รถใต้ดินไปลงถึงที่ ๆ ใกล้ที่สุดที่เราเล็งไว้ แล้วเดินลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำ จนไปถึงแถบที่เรียกว่า Trastevere ทีแรกมิเชลอยากไปดูสวนสาธารณะที่เขาเขียนไว้ว่า น่าไปชม แต่แหม่...เดินไปถึงที่ดันปิด ..


Photobucket


Photobucket



.ตกลงเลยเบนเข็มไปแถวย่านเก่า ถูกใจที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เดินกันแบบสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ ดูตึกรามบ้านช่องเก่า ๆ ทาสีส้ม สีแดง ตัดกันกับสีเขียวของต้นไม้ที่ปลูกให้เลื้อยพันไปตามฝนัง สวยจนต้องกดชัตเตอร์แบบไม่ต้องนับ ไปเลือกเอาทีหลังว่างั้นเถอะ

Photobucket


ที่ลานกว้าง...ใกล้ๆ กันเป็นโบสถ์ใหญ่ เก่าแก่ของแถบนั้น มิเชลชวนเข้าไปดู โบสถ์ที่อิตาลีนี่ ถ้าไม่เข้าไปชมคงจะเสียดาย เพราะแต่ละแห่งล้วนใหญ่โต สวยงาม ภายในมีภาพวาด หินอ่อนที่แกะสลักกันแทบทุกอณูพื้นที่ ดูแล้วก็ได้แต่ทึ่งในความมีศิลปะ ไอ้ที่แกะฟักทองแบบแม่บุญนี่่ชิดซ้ายตกขอบไปเลย เพราะหินอ่อนทั้งก้อนที่แกะได้อย่างอ่อนช้อยมีชีวิตชีวา มันแข็งนะหินอ่อนเนี่ย..ไม่เหมือนฟักทองที่สามารถพลิกมือ นำพามีดให้ลงลวดลายให้พริ้วเหมือนใจ แต่หินที่ต้องค่อย ๆ แกะ ค่อย ๆ ทุบแล้วค่อยมาขัดมาเกลาให้งดงาม แค่คิดก็หมดอารมณ์จะทำแล้ว


Photobucket

ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกแล้วก็เดินออกมา ภาพข้างหน้าขณะที่สายตายังต่อสู้กับแสงแดด หญิงแก่คนหนึ่งกำลังก้มผูกเชือกรองเท้าที่หน้าประตูโบสถ์ เท้าที่ดูใหญ่กว่าปกติ และอาการเดินที่ไม่เหมือนการเดินทั่ว ๆ ไป คิดในใจว่าหญิงคนนี้ป่วยแน่นอน พอเดินพ้นประตูและสายตาเริ่มปรับกับแสงแดดได้ เลยได้เห็นชัด ๆ ว่าจริงอย่างที่คิด หญิงแก่เดินมาขอเงินเพื่อเป็นค่ายา ทีแรกกำเหรียญสองยูโรไว้ในมือแล้วส่งให้ไป เดินไปได้อีกนิดเลยหันหลังกลับ ล้วงเงินมาให้อีกสิบยูโร หญิงแก่จับมือไปจูบ ขอพรพระให้คุ้มครองแม่บุญ ๆ คิดเพียงว่า เงินเล็กน้อยนี้อาจจะพอช่วยซื้อยาให้รักษาเธอให้ดีขึ้นได้บ้าง ขอให้พระคุ้มครองเธอเช่นกัน
เธอยืนมองแม่บุญจนลับตาพร้อมคำขอบคุณ ขอให้โชคดีค่ะคุณยาย..


Photobucket


ไม่ไกลเท่าไหร่ ยังมีภาพอีกภาพ ๆ ชายแก่ที่ใส่เสื้อกางเกงแบบปะผ้าต่อกันลายไปทั้งตัว ยืนโงนเงนเพราะฤทธิ์สุราที่ร่ำลงคอสู่กระเพาะ และคงดื่มด่ำจนแทบครองสติไม่อยู่ ยืนขอเงินนักท่องเที่ยวเช่นกัน เออหนอชีวิต..ระหว่างหญิงชราที่เจ็บป่วย กับชายชราที่ชอบร่ำสุรา ...แม่บุญเองก็มีชีวิตอีกแบบหนึ่ง ที่ต้องเดินกันต่อไป แล้วแต่โชคชะตา


Photobucket


เราเดินลัดเลาะไปตามซอยเล็กซอยน้อย โดยที่เป็นเขตชานเมืองที่ปลอดนักท่องเที่ยว เลยเดินกันสบาย ถ่ายภาพตึกสีสวย ร้านอาหารที่รอผู้คนที่ผ่านไปมาแวะดื่มกิน หลายร้านคนแน่นตั้งแต่ยังไม่เที่ยง อ่านรายการอาหารแล้วน่าสนใจ ไม่แพงเหมือนแถบในเมืองเลย อดเสียดายไม่ได้ ที่เรากินอะไรมาก่อนแล้ว ไม่งั้นคงได้ลิ้มลองอาหารร้านเล็ก ๆ เหล่านี้แน่นอน

Photobucket


บ่ายมากแล้วที่เราเดินลัดเลาะไปตามริมฝั่่งแม่น้ำ ข้างหน้าไม่ไกลแม่บุญสัเกตุเห็นชายวัยรุ่นถือกุญแจพวงโตเดินไปเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ได้ก็เดินไปไขประตูอีกคันถัดไป ในใจนึกแปลก ๆ ว่าทำไมมีรถหลายคันจัง ?? คิดไปคิดมา ...นี่มันขโมยนี่หว่า คงคิดว่าไม่มีใครสนใจเลยเดินไขต่อ ตอนนี้แม่บุญสติสตังกลับคืนเลยกระตุกมือมิเชลให้หยุดเดิน อธิบายให้ฟังว่าเห็นอะไร มิเชลเลยยืนมองกับแม่บุญและเห็นด้วยว่าใช่แน่นอน เด็กคนนั้นคงรู้ว่ามีคนมองเลยรีบเดินเร็ว ๆ หายไปอีกฝั่งหนึ่ง เออเนาะ...เจออะไรปลก ๆ อีกแล้ว จะ ๆ เสียด้วย เอ..ทำไมไม่คิดถ่ยภาพไว้ก็ไม่รู้ ..


Photobucket


ห้าโมงเย็นที่เราไปขึ้นรถไฟกลับที่พัก จริง ๆ กลับก่อนเพราะจะแวะไปกินอาหารที่ร้านใกล้ๆ สถานีรถไฟ ตามที่บอกไว้กับหนุ่มฟิลิปปินส์ แต่เราไปถึงหกโมงเย็น เช้าเกินไป เขาเปิดร้านทุ่มครึ่ง ว่าแล้วเราเลยกลับไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวค่อยมาใหม่ ดีเหมือนกันเพราะเหนียวไปทั้งตัว


Photobucket


ทุ่มครึ่งที่ราชรถไปส่งถึงหน้าร้าน บรรยากาศดีทีเดียว เราเลือกนั่งด้านนอกที่เห็นเขาประดับด้วยเทียนหลากสีตามโต๊ะต่าง ๆ เจ้าของร้านที่รู้จักกับหนุ่มฟิลิปปินส์เป็นอย่างดี เพราะเขาส่งแขกมากินข้าวที่ร้านบ่อย ๆ มารับออเดอร์ มิเชลสั่งสปาเก็ตตี้ซอสพิเศษทำจากชีสที่มีชื่อของที่นี่ ส่วนแม่บุญสั่งสปเก็ตตี้ราดซอสกับกุ้ง อาหารถูกน่ำมาเสริฟหลังจากนั้นไม่นาน เราเลือกดื่มไวน์แดงของที่นี่เพื่อดูว่ารสชาติดีแค่ไหน อาหารถูกส่งผ่านเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมเสียงพูดว่าอร่อย ๆ ๆ ๆ จากเราสองคนไม่ขาดปาก เพราะอร่อยที่สุดตั้งแต่มาถึงโรม รู้แบบนี้น่าจะมากินตั้งแต่วันแรก ทำไงได้...สายไปแล้ว พรุ่งนี้เราก็ตีตั๋วกลับแล้วด้วย ค่ำนั้นกลับถึงบ้านด้วยอารณ์ที่์เบิกบาน เทอรามิสุในขวดแก้วเล็ก ๆ ที่เอามาเสริฟ เป็นของหวานทำให้รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าได้มาถึงอิตาลีจริง ๆ ...


วันที่หก...อำลาโรม...

วันสุดท้ายแล้วสินะ หลังอาหารเช้า แม่บุญให้ทิปกับหนุ่มน้อยตอบแทนที่เฝ้ารับส่งทุกวัน จริง ๆ แล้วก็เป็นหน้าที่ของเขา แต่มันเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราสามารถมีให้กันได้ เขามาอยู่ที่นี่ต้องทำงานเพื่อส่งเงินกลับบ้านเหมือนกัน เขายิ้มกว้างอย่างดีใจ แค่นี้ก็ทำให้มีความสุขแล้ว ให้..เมื่อให้ได้ แบ่งปันบ้างเมื่อมีพอ..เท่านี้โลกเราก็จะสงบสุขได้ หากทุกคนคิดถึงซึ่งกันและกัน ..ตัดกิเลส โดยการให้ทาน เหมือนพระท่านว่า ไม่ใช่ว่าให้แค่เล็กน้อย แล้วเอามาเขียน...คิดให้ลึกซึ้งน้อยหรือมาก หากเป็นการให้...ให้ด้วยใจ

กระเป๋าใบเล็กของเราสองคนน้ำหนักไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่ประการใด มาเท่าไหนกลับเท่านั้นเพราะไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากโปสการ์ดเป็นที่ระลึก เราขึ้นรถไฟชานเมืองเป็นครั้งสุดท้าย ต่อด้วยรถใต้ดินไปจนถึงสถานีเทอร์มินัล เพื่อฝากกระเป๋าไว้ และมารับก่อนจะไปสนามบิน วิธีนี้ทำให้เที่ยวได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้อเป็นบ้าหอบฟางหิ้วกระเป๋าไปด้วยทุกที่ ค่าฝากคิดสี่ยูโร หกช.ม แรก หลังจากนั้นคิดเป็น ช.ม เราจ่ายไปหกยูโร ไม่ได้มากมายเมื่อเปรียบเทียบกับความสะดวกที่ได้รับ


Photobucket


จากนั้นก็เริ่มทริปสุดท้ายสำหรับโรม เราตามไปเก็บภาพที่ Roman Forum พิพิธภัณฑ์กางแจ้งอันกว้างใหญ่ เรานั่งรถใต้ดินไปลงที่สถานีคลอลอสเซียม แล้วแม่บุญก็ควักร่มออกมาเดินท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง วันนี้เราต้องจ่ายค่าเข้าชม เพราะโรมาพาส ใช้ได้แค่สามวัน แต่เงินที่จ่ายก็คุ้มกับสิ่งที่พบเห็นข้างหน้า เพราะอากาศดีาสำหรับฝรั่ง เลยเห็นฝรั่งหัวแดงมากมายเดินใส่รองเท้าแตะ กางเกงขาสั้นที่สั้นจนแก้มก้นห้อยออกมาข้างนอก ..หุ่นดี ๆ ขายาว ๆ เหมือนนางแบบก็พอดูอยู่หรอก แต่อีกหลาย ๆ คน ที่ส่วนเกินย้อยออกมา มันไม่น่าดูเอาเสียเลย


Photobucket


Photobucket


Photobucket


เที่ยง...เราแวะกินอาหารร้านที่มานั่งดื่มเบียร์แก้กระหายเมื่อวาน อย่าตกใจนะถ้าจะบอกว่า จ่ายค่าเบียร์สองแก้วใหญ่ ถึง 13 euro เบียร์มาจากสวรรค์ เทวดารินมาให้กระมังถึงได้แพงขนาดนี้ ราคานี้ซื้อได้สองลังที่เบลเยียม มิเชลแกยังดันทุรังมากินข้าว เพราะชอบบรรยากาศ นั่งข้างนอกรับแสงแดด แกสั่งสปาเก็ตตี้ แม่บุญสั่งเนื้อหมูย่าง ซอสโฮมเมด พอเขาเอามาเสริฟ แม่บุญตาโตเท่าไข่ห่าน จานของมิเชลนะปกติดีหรอก แต่ไอ้เนื้อหมูที่สั่ง มาสองชิ้นบาง ๆ เท่าใจกลางฝ่ามือ แถมแข็งเป๊กปาหัวหมาแตกได้ หน้าที่ก่อนหน้านี้บาน หุบแทบไม่ทัน มาเท่านั้นจริง ๆ ราคา 12 euro จ้า นี่มันเพชรฆาตชัด ๆ เชือดแบบนิ่ม ๆ เสียด้วย อดไม่ได้ต้งถามไถ่กันว่า อาหารที่สั่งแน่นะ เขาพยักหน้า แม่บุญเลยขอเมนูสั่งผักเพิ่มอีกหนึ่งจาน งานนี้มิเชลควักกระเป๋าจ่ายไป 50 euro หน้าแม่บุญยิ่งหงิกเข้าไปอีก น้ำเปล่านะที่ดื่ม ไม่ใช่น้ำจากสวรรค์ ใครจะไปไหน กินอะไรที่โรม ถามไถ่กันให้ดี ๆ เดี๋ยวเจอแบบนี้อีก


Photobucket


Photobucket


กินเสร็จก็เดินเล่นไปแถว ๆ สถานีเทอร์มินัล เพราะมิเชลบอกว่ามีโบสถ์ใหญ่ใกล้ ๆ ที่เรายังไม่ได้ไปเยือนอีกหนึ่งแห่ง เดินผ่านร้านขายไอศรีม วิ่งเข้าไปดูหน้าตาดีตามเคย ทีแรกสั่งแบบใส่ถ้วยถือกิน แต่เปลี่ยนใจนั่งกินที่ร้านเพราะมิเชลปวดเท้า ไอศรีมสองถ้วย น้ำหนึ่งขวด 18.50 euro พ่อคุณแม่คุณเอ๋ย...ทำไมวันสุดท้ายนี่มันถึงได้ถูกปล้นกันกลางแดดจนแทบกระเป๋าฉีกขนาดนี้ ว่าระวังดีแล้วเชียวนะ ถามแล้วนะว่าราคาปกติ ๆ แพงไง...เซ็งเป็ด ??? จ่ายตังค์แล้วต้องเข้าโบสถ์ไปขอไถ่บาปที่แช่งให้เจ้าของร้านทั้งสองจงล้มละลายฐานโกงกันแบบไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม เออ...จะบาปก็งานนี้แหละ


Photobucket

ก่อนหกโมงเย็น เราไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ จ่ายตังค์ แล้วก็ลากไปที่ชั้นบนซึ่งเดินสำรวจแล้วว่ามีร้านขายอาหารราคาไม่แพง ๆ จริง ๆ หมูชิ้นใหญ่กว่ามื้อกลางวัน พร้อมปสาเก็ตตี้จ่ายไปไม่ถึงสิบยูโร มันน่าไหมล่ะ กินเสร็จก็นั่งรถเมล์เพื่อไปชานเมือง ต่อรถเมล์ชานเมืองอีกรอบ ไฟล์เราออกสามทุ่ม มีเวลาเลยปิดท้ายด้วยการนั่งรถเมล์ราคาถูกนั่งชมเมืองเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย


Photobucket


สามทุ่มครึ่ง..เราขึ้นเครื่องก่อนเพื่อน เพราะทำเช็คอินผ่านอินเทอร์เน็ตมาล่วงหน้าแล้ว แม่บุญเลือกนั่งหน้าสุดติดหน้าต่างเผื่อมีอะไรจะได้กระโดดลงก่อนเพื่อน ไม่ใช่หรอกจ้า เพราะสิบกว่าปีมาแล้ว ที่ผ่าตัดหัวเข่า วันดีคืนดีมันจะปวด ๆ แทบทนไม่ไหว ยิ่งถ้านั่งในที่แคบ ๆ แบบเครื่องบิน หากไม่ได้นั่งหน้าสุด ต้องขอนั่งติดทางเดินไว้เดินเวลาเกิดอาการ เป็นไม่หายสักที เซ็งเป็ด...อีกตามเคย ห้าทุ่ม...ที่เราถึงเบลเยียม ลูกสาวมิเชลขับรถมารับ กลับถึงบ้านกันอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง...ไม่เซ็งเป็ดอีกต่อไป ...


Photobucket

เจอกันใหม่นะ





Create Date : 07 ตุลาคม 2554
Last Update : 7 ตุลาคม 2554 1:08:42 น. 23 comments
Counter : 4688 Pageviews.

 
1


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:1:28:36 น.  

 
ได้เจิมซักบ้านก่อนนอนก็ยังดีค่ะ
บุ๊งศรีวันนี้ทำสถิติเจิมไป300กว่าบ้าน 55

หูย..ไปเจอขโมยด้วย น่ากลัวมันตีหัวเอาค่ะ
แย่จังเนอะเดี๋ยวนี้

ชอบรูปพริกแห้งจัง เค้าเข้าใจจับมาร้อยเป็นพวงๆดีนะคะ
แต่ถ้ากินเผ็ดอย่างสาวไทย สงสัยคงร้อยไม่ไหว

ขอฉกพาสต้าไปนะคะ ชอบหมดค่ะ ขอให้เป็นพาสต้าเหอะ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:1:32:27 น.  

 
โบสถ์ที่อยู่ใกล้ ๆ Roma Termini คือ โบสถ์แม่พระใหญ่
ชื่อโบสถ์ซานตามาเรีย มัจจอเร Santa Maria Maggiore
อยู่หลังที่พักเราแม่ลูกค่ะแม่บุญ ลูกสาวบอกว่าสวยมาก


โดย: Ma Ma Pim วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:5:35:56 น.  

 
>.< ทีรามิสุน่าทานจัง


โดย: StupidlY วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:10:07:16 น.  

 
ขอบคุณ มาม่าพิมมากค่ะที่มาอกเรื่องชื่อโบสถ์ อิ อิ ลืมค่ะ จ่ายค่าไอศครีมแพงจนลืมทุกอย่าง
ขอบคุณน้องไก่ที่มาเตือนความจำเขาเรียกพาสต้าไม่ใช่สปาเก็ตตี้ คนเชย ๆ ไม่ชอบเส้นก็แบบนี้แหละค่ะ นาน ๆ กินทีลืมไปหมด ว่ามันชื่ออะไร รู้แต่ว่าวันนั้นกินหมดเพราะอร่อย แต่กลับมาบ้านแล้วก็แวะไปซื้อมะละกอมาทำส้มตำกินเหมือนเดิม เกือบลงแดงไปแล้ว อิ อิ


โดย: Maeboon วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:11:07:16 น.  

 
ตามมาเที่ยวโรมต่อค่ะแม่บุญ โอ้ โห ผจญภัยกันน่าดูเลยนะคะ เจอขโมยแบบจะๆเลย น่ากลัวอ่ะ ภาพแต่ล่ะภาพสวยๆทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ ช๊อบ ชอบค่ะแม่บุญ แม่บุญสบายดีนะคะ


โดย: phunsud วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:49 น.  

 
บ้านดาน้ำยังไม่ท่วมค่ะแม่บุญ ยังโอเคอยู่ค่ะ วันนี้ก็เพิ่งออกไปซื้อของไปรวมกับเพื่อนบ้านเพื่อนำไปบริจาคค่ะ ตอนนี้ต้องการน้ำดื่มเป็นหลักค่ะ(กำลังดูข่าวน้ำท่วมไปด้วยค่ะตอนนี้)
ปล.ดาชอบบล็อกแม่บุญ ตรงที่แม่บุญเล่าเรื่องได้น่าติดตาม สนุกสนาน แถมได้ความรู้อีกอ่านเพลินเลยล่ะค่ะ
ปล.2กลับมาเมื่อไหร่หวังว่าคงได้เจอตัวเป็นๆแม่บุญนะคะ


โดย: phunsud วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:18:03:57 น.  

 
มาบอกแม่บุญว่า
แอบมาทิ้งจดหมายน้อยไว้ค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:19:24:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ

ขอตามไปเที่ยวที่โรมด้วยนะคะ ว้าววววว อยากมีโอกาสไปเที่ยวที่นี่จังเลย บรรยากาศดีจังค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ เลย เอามาภาพน่ารัก ๆ มาฝากกัน ชอบค่ะ

ขอบคุณค่ะ แวะไปทักทายที่บล็อก


โดย: นู๋ยู้ฮู้ วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:19:25:33 น.  

 
ตามมาผจญภัยกับแม่บุญต่อค่ะ ป้าโอรองเท้ายังไม่สึกเท่าไหร่แม่บุญก็กลับเบลซะแล้ว อิอิ.. (แอบแซว)
โบสถ์สวยทุกแห่งเลยค่ะแม่บุญ คนข้าง ๆ ป้าโอเค้าเป็นคาทอลิกค่ะแต่ป้าโอเป็นพุทธอลิก +55 ประมาณว่าเธอไปโบสถ์ชั้นไปด้วยได้ ยกเว้นเวลารับศีลเราก็นั่งอยู่กับที่ค่ะ
โอ้..วันสุดท้ายอาหารแพงเนอะ และอนุโมทนาบุญกับแม่บุญด้วยนะคะ การให้เป็นทานอันประเสริฐค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 7 ตุลาคม 2554 เวลา:19:37:27 น.  

 
อ๊าววว

รูปมันหายไปไหนหมดอ่ะแม่บุญขรา
เมื่อวานยังเห็นกันอยู่หลัดๆเลย ฮื่อๆๆๆ วันนี้หายไปซะแร๊ววว

หิวข้าวยังคะแม่บุญ



โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:0:58:43 น.  

 
ทริปนี้ได้เห็นหลากหลายชีวิตเลยนะคะแม่บุญ

การให้ด้วยใจเป็นความสุข ให้โดยที่ตัวเราไม่เดือดร้อนและไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นความสุขที่สุดเลยค่ะ

ปล.วันนี้ดูรูปไม่ได้ค่ะ แงๆ


โดย: ทิพย์ IP: 122.105.234.132 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:5:30:02 น.  

 
ฮ่าๆๆๆๆ ไผเที่ยวโรมตอนเมษากลับมาก็ดำเหมือนกันครับ เพื่อนทักว่าไปทำนามาเหรอ ฮ่าๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:5:58:19 น.  

 
ตอนนี้มีปัญหารูปโดนบล็อคค่ะ เมล์ถูกเจาะ กำลังหาทางแก้ไข รอก่อนนะคะ ขอบคุณน้องทิพย์ กับคุณทนายอ้วนที่เข้ามาอ่านทั้ง ๆ ไม่มีรูปให้ดู


โดย: Maeboon วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:12:32:07 น.  

 
จะมาเที่ยวกับแม่บุญ
รูปหายไปซะงั้น
เมล์ถูกเจาะหรือคะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:13:02:05 น.  

 
ขอบคุณค่าแม่บุญ
หนึ่งเป็นมือสมัครเล่นค่า
ไม่ได้เก่งขนาดนั้นนน
แต่โชคดีมีครูดีๆในบล็อกให้ลอกเนี่ยแหละค่ะ

ว่าแล้วก็ยกมาฝาก




โดย: AdrenalineRush วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:13:16:02 น.  

 
อ่านไปสนุกไปเหมือนเดิมค่ะ ที่รัฐวาติกันเสาเยอะมาก แม่บุญได้ยืนถ่ายตรงจุดที่ถ่ายแล้วจะเห็นแค่เสาต้นแรกเท่านั้นหรือเปล่าคะ เค้าสร้างได้เก่งมากๆ

อ้าววว แม่บุญอุตส่าห์ตัดกิเลสและให้ทานใจจะได้สงบอยู่แหมบๆ แต่มาเจอร้านอาหารขูดรีดถึงกับแช่งให้ล้มละลายเลยเหรอคะ แต่ว่าถ้าเป็นใครเจอก็คงโกรธและเสียดายเงินนะคะ เอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป

โชคดีวันก่อนเข้ามาได้ดูรูปแล้ว แล้วแม่บุญจะทำไงคะเนี่ย


โดย: PrettyNovember วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:17:12:28 น.  

 
แม่บุญขา ดูรูปไม่ได้ค่ะ แบนวิชมันเต็มแล้วนะคะ


โดย: settembre วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:17:12:29 น.  

 
แม่บุญไม่ต้องไปเสียเงินหรอกค่ะ ป้าโอไม่ได้ฝากรูปที่ไหน แต่โหลดในบล๊อกนี่แหละคะ ช้าหน่อยแต่ไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าแม่บุญอยากทำแบบป้าโอเขียนมาบอกนะคะจะแนะนำวิธีทำให้ค่ะ
คิดถึงนะคะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:22:32:41 น.  

 
เดินตามแม่บุญเที่ยวกรุงโรมต่อ ชอบเดินแบบนี้ค่ะ เข้าตรอกซอกซอย
ได้มองคน มองของแบบใจเย็นไม่รีบร้อน

อากาศร้อนนิด แต่ถูกใจฝรั่งจริง ๆ ล่ะ

ที่จริงถ่ายรูปสวยด้วยนะคะ ฟ้าเป็นฟ้า


โดย: ostojska วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:3:18:09 น.  

 
อ่านตอนแม่บุญเดินกลับไปเอาตังไปให้ยายอีก 10 ยูโรแล้วยายแกจูบมือแม่บุญ และมองจนสุดสายตา อ่านแล้วซาบซึ้งไปด้วย แกคงดีใจมากๆ เพราะในมือกำไว้แค่ 2 ยูโร อย่างน้อย เงินของแม่บุญคงได้ต่อชีวิตแกไปได้อีก

อาหารสถานที่ท่องเที่ยว บางร้านคงขาดจรรยาบรรณกะขายแต่นักท่องเที่ยวเพราะไม่ใช่ขาประจำเลยกินกำไร จากคนซื้อ ซะเลือดซิบๆ

แต่กรุงโรมสวยจริงๆค่ะ งานแกะสลักหินอ่อน สวยมักมากกกกใหญ่โตอลังการดีจริงๆ


โดย: แม่บ้านครอว์ฟอร์ด วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:12:35:06 น.  

 
ขอบคุณป้าโอที่เป็นห่วงค่ะ แม่บุญแวะไปหลังไมค์แล้ว ๆ จะได้ความรู้เพิ่ม วันนี้ภาพกลับคืนมาเพราะจ่ายตังค์ไปแล้ว ไม่เป็นไรปีหน้าจะทำแบบป้าโอค่ะ อิ อิ โง่มาก่อนฉลาดทุกที เสียเงินอีกแล้วเรา...เย็นนี้จะอัพบล็อค รอดูนะคะว่าจะมีอะไรมาให้...


โดย: Maeboon วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:21:21:51 น.  

 
จะมาบอกว่าช่วงนี้มาดูบล็อกโรมบ่อยมว๊าก อาจได้ไปธ.ค.นี้ (สงสัยคงเจอฝนตกแหงมเลย เอิ๊ก )


โดย: We Are FroM BeLGiUM วันที่: 9 พฤษภาคม 2555 เวลา:20:26:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.