Bloggang.com : Maeboon : Visit Umbria ..road of Arts , cultures and wines 4

Visit Umbria ..road of Arts , cultures and wines 4

ก่อนออกเดินทาง มาชมบรรยากาศยามเช้า ที่แม่บุญตื่นพร้อมไก่ เินถ่ายภาพสวยๆ มาให้ชมกันค่ะ

ปล. ในภาพจะมีจุดดำๆ ประปราย เกิดจากภายในกล้องค่ะ ทำความสะอาดเองไม่ได้ ต้องส่งร้านอย่างเดียว แต่ที่เบลเยี่ยมมันแพง ต้องอดใจรอกลับเมืองไทย โอกาสหน้าภาพคงจะสวยกว่านี้ค่ะ

Deruta

เป็นตำบลเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Perugia และ Todi โรงแรมที่ตั้งค่อนไปทางเมือง Todi จึงต้องขับรถย้อนขึ้นมา อย่างที่บอกว่าเราชอบเดินทางโดยใช้เส้นทางเล็กๆ ในชนบท เพื่อจะได้ดูวิวทิวทัศน์ไปด้วย ความจริงวันที่เราสองคนมาถึงก็ได้ผ่านเมืองนี้ไปแล้ว มิเชลบอกว่าเขามีชื่อมากเรื่องการทำเซรามิค มาตั้งแต่สมัยยุคเริ่มต้นของยุคกลางในยุโรป และได้รับความนิยมเป็นอันมากในช่วงศตวรรษที่ ๑๕ ถึง ๑๖ และที่ถือเป็น trademark คือ "Raffaellesco" dragon design said to be inspired by the murals of Raphael. An example of this style dragon in the face and head in Raphael's work can be seen in the painting "St Michael Trampling the Dragon".

In 1553, Leandro Alberti wrote “... the terracotta vases made in Deruta are often mentioned for how well they are made and beautifully decorated. And it is believed that there are no other craftsmen in Italy that can match the work even though there have been attempts to do so...”

คงจะคล้ายๆ เวลาเราจะไปเชียงใหม่ ต้องขับรถผ่านลำปางก่อน ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องเซรามิคเช่นกัน แต่อาจจะคนละแบบ เราไปถึเมืองนี้ในช่วงสายๆ หลังจากเสร็จจากอาหารเช้าที่โรงแรม มิเชลจอดรถไว้ที่จอดสาธารณะนอกเมือง ดังเช่นทุกครั้งที่เดินทางในอิตาลี ที่จอดรถในตัวเมืองจะหายากมาก ค่าจอดจะค่อนข้างแพง อีกอย่างเขาสงวนไว้สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นๆ ทั้งตึกรามบ้านช่องก็สูงเพราะสร้างบนภูเขา ถนนหนทางเล็กๆ เหมาะสำหรับรถคันเล็กๆ ที่เห็นกันโดยทั่วไปในอิตาลีอีกนั่นแหละ รถใหญ่ๆ จะเบียดเข้าไปในเมืองยาก หาที่จอดลำบากอีกด้วย เลยเป็นอันว่าจะต้องได้เดินออกกำลังกันแล้วแต่ว่า ที่จอดรถสาธารณะนั้นจะตั้งอยู่ห่างมากน้อยเพียงใด

มิเชลบอกว่า แม่บุญ...ดูแบบผ่านๆ นะ เอาไว้วันหน้าเราต้องผ่านทางนี้ค่อยย้อนกลับมาดูอีกครั้ง เพราะฉันไม่อยากเสียเวลาที่นี่ เพราะเมืองที่จะพาไปเที่ยววันนี้เป็นเมืองใหญ่ นักท่องเที่ยวมาก ต้องเดินกันทั้งวัน พอได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจแล้วว่า ต้องรีบดู รีบถ่ายภาพเท่าที่จะสามารถทำได้เร็วที่สุด จริงอย่างที่บอก เพราะพอจะเดินดูไปไกลกว่านี้ มิเชลก็รีบเดินจ้ำอ้าวนำหน้ากลับไปที่จอดรถ ทำเอาวิ่งตามแทบไม่ทัน ตกลงเมืองนี้แม่บุญเลยแอบเป็นชะโงกทัวร์ครั้งแรกเลยก็ว่าได้

Assisi

เป็นเมืองหรือจังหวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงตระหง่าน รอบๆ เมืองยังเป็นป้อมปราการใหญ่โตยาวรวมหลายกิโลเมตร มิเชลเคยมาที่นี่แล้ว แกบอกว่าเดินจนเจ็บเท้าไปหมด เมื่อรถวิ่งไปถึงบริเวณที่ราบด้านล่าง มีโบสถ์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ รอบๆ มีรถทัวร์ของนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายหลายคัน นึกว่ามิเชลคงจะจอดรถให้ลงไปดู ที่ไหนได้ แกขับเผ่นแน่บตรงดิ่งไปยังเมืองบนภูเขาที่เห็นตั้งอยู่ไกลสุดสายตา

รถขับเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เห็นกำแพงเมืองรายรอบที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ขอให้มิเชลจอดรถริมถนนถ่ายภาพจากทางด้านล่างขึ้นไปก่อน เพราะเห็นภาพตึกใหญ่สวยงามมาก จากนั้นแกก็พาขับวนไปรอบๆ กำแพงเมือง วนขึ้นเขาไปเรื่อยๆ พร้อมกับอธิบายว่า

เมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขา มีสถานที่ให้ดูชมมากมาย หากเดินดูจากด้านล่างขึ้นไปบนเขา จะหมดแรงข้าวต้ม เอ้ย.แรงกาแฟกับขนมปังปิ้งก่อน แล้วจะไม่เดินขึ้นไปชมวิวสวยๆ บนเขา เพราะฉะนั้นเราต้องทำสวนทางกับคนอื่นๆ คือเดินจากข้างบนลงข้างล่าง อ้าว...แต่พอดูเสร็จจะมีแรงเดินกลับไปขึ้นรถไหม ? เสียงแม่บุญถามด้วยความสงสัย เล่นเอาแกพูดไม่ออก เออ..จริงสินะ หัวเข่าเธอมันยิ่งไม่ดีอยู่ เอาน่า เดินขึ้นช้าๆ ก็น่าจะพอไหว เรามีเวลากันทั้งวัน จากนั้นแกก็จอดรถที่ลานจอดสูงสุดบนภูเขา

แสงแดดที่ค่อยๆ เวียนมาตรงหัว มันร้อนใช่เล่น ทั้งหมวก ทั้งแว่นตาถูกงัดออกมาใส่ นี่ถ้ามีร่มด้วยแจ๋วเลย แต่ฝรั่งเขาชอบตากแดด อาจจะถูกมองว่าเป็นพี่ยุ่นไปก็ได้ ป้อมปราการสูงข้างหน้า สูงได้ใจจริงๆ เดินขึ้นไปเรื่อยๆ แบบช้าๆ ได้พร้าเล่มงามนั่นแหละ มีนักท่องเที่ยวเดินสวนมาบ้างประปราย ส่งยิ้มให้กัน แล้วก็เดินต่อ ได้ถ่ายภาพเมืองในมุมสูง แล้วก็เดินลงไปตามทางที่มิเชลเดินนำไป เส้นทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ดีที่มีต้นไม้มากมายช่วยลดความร้อนลงได้บ้าง แต่ขอบอกว่าเหงื่อซกเลยทีเดียว เพราะอากาศที่ร้อนจัดขึ้นทุกที

เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนมาโผล่ที่โล่งกว้าง ข้างหน้าเป็นโบสถ์หลังใหญ่โต เสียงร้องเรียกกันขึ้นๆ ลงๆ แบบภาษาจีนดังพร้อมๆ กับภาพนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มใหญ่ที่สวมใส่เสื้อผ้าสีสันตัดกันราวกับสีรุ้ง มองดูวัยไม่ต่ำกว่า ๕๐ แต่วี้ดว้ายน่าดูทีเดียว ไกด์ที่เดินถือร่มสีแดงนำหน้าตะโกนเสียงดังให้เดินตามออกไป โชคดีจังเพราะสองคนกำลังจะเดินเข้าโบสถ์ ที่หน้าประตูต้องเสียค่าเข้าชม หลังจากจ่ายเงินเสร็จเราก็เดินผ่านเข้าไปภายใน

เขาห้ามถ่ายภาพใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อมองตรงไปยังภาพตรงหน้า แม่เจ้า ช่างงดงามราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ มองไปรอบๆ พร้อมกับร้องเบาๆ บอกมิเชลซึ่งก็ยืนมองแบบตะลึงในความสวยงามเช่นกัน แม้ว่าแกจะได้เคยเข้ามาชมแล้ว แม่บุญเดินไปนั่งในที่ ๆ เขาจัดไว้สำหรับผู้ที่ต้องการนั่งชม มองไปรอบๆ เห็นผู้คนกำลังเดินเข้าเดินออกกัน เจ้าหน้าที่ๆ คอยดูแลเรื่องให้งดถ่ายภาพมองไปทางออกข้างหน้า แม่บุญถือโอกาสนั้นแอบถ่ายภาพมาได้หนึ่งภาพด้วยหัวใจอันเต้นตูมตามเพราะกลัวเขาเห็นและต่อว่า โชคดีมากที่ไม่มีใครสนใจ สักพักความรู้สึกแปลกๆ ก้เกิดขึ้น ลำคอของแม่บุญเริ่มตีบตัน เหมือนคนจะสะอื้น อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาช้าๆ ก้อนอะไรสักอย่าง จุกขึ้นมาที่ลำคอ มองไปที่มิเชลเห็นแกยืนน้ำตาคลอเช่นกัน

ความรู้สึกแบบนี้มันเป็นอาหารของความปิติ ตื้นตัน เวลาที่นั่งสมาธิ มันเคยเกิดขึ้นตอนที่แม่บุญไปเที่ยวชมโบสถ์วาติกันเมื่อหลายปีก่อนโน้น ตอนนั้นน้ำตาไหลพรั่งพรู กั้นไม่อยู่ มาคราวนี้เป็นอีก...หรือ เราจะเคยผูกพันกับสถานที่นี้มาก่อน ...อาการที่ว่าเป็นอยู่นานประมาณห้านาที จากนั้นเราทั้งคู่ก็เดินเลี่ยงออกไปดูด้านนอกโบสถ์ที่เป็นส่วนของพระที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ จากนั้นก็เดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ที่มีอะไรดีๆ ให้ดูอีก

แม่เจ้า...ภาพเขียนสีข้างบนที่ว่างามล้ำนั้น เมื่อลงมาที่ห้องใต้ดินมันยังมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติของโบสถ์แห่งนี้ จัดเป็นสัดส่วน ภาพเขียนต่างๆ ช่างสวยงามเหลือเกิน สมแล้วที่เขาไม่ให้ถ่ายภาพเนื่องจากอาจจะทำให้สีของภาพจืดจางลงเพราะแสงจากแฟลช ที่วาติกันแม่บุญก็ว่างามที่สุดแล้ว ขอยกให้ที่นี่งามเป็นอันดับสองเถิด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไงเมืองนี้จึงได้มีนักท่องเที่ยวมาแวะชมโบสถ์แห่งนี้ปีละหลายล้านคน

แม่บุญซื้อหนังสือประวัติของเมืองนี้มาด้วยในภาคภาษาอังกฤษ ความหนาถึง ๑๓๒ หน้า แปลไม่ไหวค่ะ ยาวมาก เอาเป็นว่า หากใครได้มาเที่ยวแถบนี้ อย่าพลาดที่จะมาเยี่ยมชมเป็นอันขาด เหมือนไปกรุงเทพฯ แล้ว ไม่ได้ไปชมวัดพระแก้วนั่นเลยทีเดียว หลังจากเดินชมจนอิ่มใจกับภาพเขียนสวยงามทั่วทุกมุมแล้ว เราก็หาทางเดินกลับออกมา เนื่องจากร่างกายต้องการระบายน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายทั้งสองคน

จากนั้นก็เดินไปตามทางข้างหน้า ผู้คนมากมายจากทั่วสาละทิศเดินเข้าเดินออกกันไม่หยุดหย่อน เราเดินชมตึกรามบ้านช่องไปกันอย่างช้าๆ แม่บุญถ่ายภาพสวยๆ แบบไม่ยั้งมือ เจอมุมไหนก็สวยไปหมด ขณะที่เดินสายตาก็เหลือบมองหาร้านอาหารไปด้วย เล็งๆ ดูว่า ร้านไหนหน้าตาอาหารน่ากินบ้าง นักท่องเที่ยวมากมายเข้าไปนั่งกินพิชช่าในร้านเล็กร้านน้อยที่มีอยู่เป็นหย่อมๆ เราสองคนไปหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายแซนวิชหน้าตาดี แถมจัดร้านได้น่ารักมาก ภาพของหมูรมควันย่าง ดึงดูดให้ขาของเราสองคนก้าวเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สั่งโดยมองจากภาพมากมายที่ติดอยู่ ไม่ต้องพูดให้เปลืองน้ำลาย ชี้ๆ แล้วจ่ายตังค์ แล้วไปนั่งรอ ภายในร้าน มีชาวอินเดียนั่งอยู่สามสี่คน เรายิ้มให้กันทันทีราวกับคนรู้จักกัน หลังจากกินเสร็จก็ได้ไต่ถามกันเล็กน้อยว่า พวกเขามาเที่ยวกับคณะแม่ชี เพราะญาติบวชเป็นชีด้วย จากนั้นก็แยกย้ายกันเดินชมเมืองต่อ

เราเดินกันไปเรื่อยๆ ถึงลานกว้าง มีผู้คนมากมายอีกตามเคย เดินไปถ่ายภาพของเมืองอีกมุมหนึ่ง แล้วก็นั่งดูนักท่องเที่ยวที่เดินถ่ายภาพกันขวักไขว่ แม่บุญอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นคณะของแม่ชีนั่งพักกันอยู่หน้าโบสถ์อีกแห่ง เพราะอากาศที่ร้อนจัด พวกแม่ชีคงเหนื่อยอีกอย่างอายุอานามก็คงมากพอดู หลวงพ่อที่เป็นหัวหน้า ออกมาพูดด้านหน้า แม่ชีตั้งใจฟังกันราวกับนักเรียน มิเชลเองก็อดยิ้มไม่ได้ จากนั้นเราสองคนก็ค่อยๆ เดินขึ้นเนินเขาไปเรื่อยๆ เพื่อขึ้นไปบนยอดนั่งรถกลับลงมา ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดาออกว่า มันเหนื่อยแค่ไหน อากาศก็ร้อนมาก เหงื่อท่วมหลังเลยทั้งสองคน มองที่นาฬิกาข้อมือ บอกเวลาบ่ายสามโมงครึ่งพอดี

เดินมานั่งหอบกันที่รถ ควักแผนที่ออกมากาง หากจะกลับทางเดิมมันไม่สนุก งานนี้ต้องอ้อมโลกไปดูอีกเมืองเป็นการปิดท้ายรายการทัวร์วันนี้ ว่าแล้วก็ตรงดิ่งไปอีกเมือง ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก

Spello

ห่างจากเมือง Assisi เพียง ๑๐ กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเมืองเก่าแก่ ตามประวัติเขียนไว้ว่า ... Populated in ancient times by the Umbri, it became a Roman colony in the 1st century BC. Under the reign of Constantine the Great it was called Flavia Constans, as attested by a document preserved in the local Communal Palace.

เมืองนี้ก็ตั้งอยู่บนเชิงเขาเช่นกัน เราไปถึงประมาณเกือบสี่โมงเย็น แดดร่มลมตกพอดี พอเดินขึ้นไปตามทางเดิน สายตาของแม่บุญก็ปะทะกับผู้ชายราวๆ เกือบสิบคน แต่ละคนมีกล้องถ่ายภาพในมือ พร้อมกับเสียงร้องตะโกนกันเสียงดังพอสมควร อดแปลกใจไม่ได้ว่าเขาถ่ายภาพอะไรกัน เลยเร่งฝีเท้าให้เข้าไปใกล้ๆ แล้วก็เห็นภาพเหล่าบรรดาคุณภรรยาทั้งหลายกำลังโพสท่าถ่ายภาพกับซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกระถางต้นไม้หลากหลายสีเรียงรายสวยงามจริงๆ มิน่าเล่าถึงได้กรี๊ดกันสนั่น

เราเดินชมเมืองเล็กๆ สงบๆ แห่งนี้ไปเรื่อยๆ สาวน้อยแต่งชุดพื้นเมืองออกมายืนเรียกลุกค้าให้เข้าไปซื้อของภายในร้าน ม้านขายผลิตภัณฑ์จากหมูป่า มีท้องหมูที่ตากจนแห้งแขวนอยู่หน้าร้าน ยังมีไส้กรอก มีน้ำมันมะกอกขายกันอีกด้วย เดินกันมาทั้งวัน เลยหยุดหาอะไรดื่มหน่อย มีมุมนั่งสบายๆ ใต้ร่มไม้ด้วย มิเชลสั่งเบียร์มาดื่มขณะที่แม่บุญสั่งน้ำโซดาใส่มะนาว มันเย็นชื่นใจดีจริงๆ สักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลากลับที่พัก

ระหว่างนั่งรถกลับ เราสองคนอดที่จะพูดถึงความรู้สึกตื้นตันจนน้ำหูน้ำตาไหลที่โบสถ์ของนักบุญ S.Francesco ไม่ได้ แม่บุญซื้อสัญลักษณ์ของท่านพร้อมหนังสือประวัติของเมืองมาด้วย เอามาตั้งคู่กับหลวงพ่อโสธรที่กราบไหว้ทุกๆ วัน เชื่อว่า ไม่ว่าศาสนาไหนก็สอนให้เรา คิดดี พูดดี ทำดี กันทั้งนั้น ไม่มีพรมแดนว่าจะเป็นศาสนาไหน แม่บุญเชื่อในผลของการทำกรรมดี กรรมไม่ดีมากกว่า เลยไม่ได้ถือสาใดๆ ยังคงตั้งคู่กันมาจนบัดนี้

ไม่ค่อยได้กล่าวถึงอาหารมื้อเย็นที่โรงแรม จะบอกว่าอร่อยพอใช้ได้ ไม่ถึงกับเลิศเลอเหมือนภัตตาคารชั้นหรูๆ อาหารที่ทำๆ จากเชฟที่เป็นคนพื้นที่ รสชาติดีทีเดียว พรุ่งนี้เราสองคนจะเข้าร่วมชั้นเรียนทำอาหารอิตาเลียนกับเชฟ และชมเมืองที่ตั้งของโรงแรมกัน ไม่งั้นจะหาว่า ใกล้เกลือ กินด่าง เพราะที่นี่มีอะไรดีๆ ไม่น้อยหน้าที่อื่นเช่นกัน รอพบกันพรุ่งนี้ค่ะ พร้อมหน้าตาอาหารที่แม่บุญเรียนกับมิเชล

ติดตามตอนหน้านะคะ หืดขึ้นคอเลย ยาวมากกกกกก เหนื่อยค่ะ

Create Date : 26 สิงหาคม 2558

Last Update : 30 กันยายน 2563 12:58:00 น.

23 comments

Counter : 1717 Pageviews.

บ้านเมืองเขาสวยสะอาดน่าเที่ยวมากๆขอรับ
กระถางต้นไม้สวยๆ.. ประดับแปลกตามากเลยขอรับ
อ้อถึงว่า บันดา มาดาม กริ๊ดสนั่น ก็เพราะกระถางสวยนี้เอง

โดย: ขุนเพชรขุนราม

วันที่: 26 สิงหาคม 2558 เวลา:6:29:39 น.

เมืองสวยมากๆ ทุกเมืองเลยค่ะ

อาการปิติเคยเกิดกับเราตอนอ่านชวนม่วนชื่นจบ ไม่ใช่แค่น้ำตาคลอ แต่มีความรู้สึกเย็นๆ อาบบริเวณหัวใจน่ะค่ะ เป็นแบบนั้นครั้งเดียวแล้วก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลยค่ะ

แต่แบบน้ำตาคลอนี่ หลายครั้ง หลายสถานการณ์นะคะ

โหวตท่องเที่ยวให้ค่ะแม่บุญ รออ่านต่อนะคะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 26 สิงหาคม 2558 เวลา:9:12:08 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: Ma Ma Pim

วันที่: 27 สิงหาคม 2558 เวลา:9:44:22 น.

thx u crab

โดย: Kavanich96

วันที่: 28 สิงหาคม 2558 เวลา:3:40:10 น.

ตามมาเที่ยวด้วยนะคะแม่บุญ
ขอบที่นี่คือความเขียวขจีค่ะ
แล้วก็บ้านทุกหลังไม่ว่าเก่าใหม่
ล้วนแล้วแต่มีสีสัน ปลูกต้นไ้ม้ดอกไม้กันแทบทุกบ้าน
เห็นแล้วสดใสดีนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 28 สิงหาคม 2558 เวลา:7:33:55 น.

ต๋ายังมองไม่เห็นจุดดำๆประปรายเลยค่ะแม่บุญ
เห็นแต่วิวที่สดชื่นกับแสงแดดสวยๆน่ะค่ะ
ตึกราม ร้านรวง น่าชม น่าเดินเล่นที่สุดค่ะ
ขอบคุณแม่บุญที่พาเที่ยวนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

Maeboon Travel Blog ดู Blog

--------------------------------

แม่บุญนอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 28 สิงหาคม 2558 เวลา:23:44:06 น.

ในโบสถ์ สวยงามอลังการมาก
เสียดายมีรูปเดียวเนาะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: moresaw

วันที่: 29 สิงหาคม 2558 เวลา:6:40:03 น.

อ้าว ???

ป๋องมัวแต่ดูเพลิน ..

ดูเสร็จ .. รีบ กด ..

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
Maeboon Klaibann Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ว้า ..

โดย: foreverlovemom

วันที่: 29 สิงหาคม 2558 เวลา:10:16:03 น.

สวัสดีครับแม่บุญ

ตามมาเที่ยว Assisi อิตาลีกับแม่บุญด้วยคน
ยอมรับว่าในบรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรป อิตาลีสวยที่สุด
ไปแล้วยังอยากไปอีกหลาย ๆ ครั้งครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: ทองกาญจนา

วันที่: 30 สิงหาคม 2558 เวลา:10:43:19 น.

เมืองนี้ออกทีวีบ่อยมากค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้ไปเสียที เพราะประเทศนี้เที่ยวได้ทั้งประเทศ ไม่หมดไม่สิ้น แต่คิดว่าสักวันต้องไปให้ได้ค่ะ

เรื่องอาหารถูกปากมั้ยคะ อิตาเลี่ยนเค้าเน้นวัตถุดิบสดๆ ตามฤดูกาลในท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมากก็อร่อยแล้วค่ะ อิๆ หนูคงชินกับรสชาติแบบนี้เสียแล้ว

โดย: settembre IP: 37.59.6.32 วันที่: 31 สิงหาคม 2558 เวลา:16:29:32 น.

คนอื่น กด ท่องเที่ยว ..

ของป๋อง กด ไกลบ้าน ..

ไม่เป็นไร นะคะ ..

โดย: foreverlovemom

วันที่: 1 กันยายน 2558 เวลา:11:12:00 น.

มาเที่ยวอิตาลีกับแม่บุญด้วยคนค่ะ วิวสวยมากๆ เลยนะคะ ยิ่งภายมนโบสถ์ภาพวาดก็สวยมากๆ นกเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้าไปชมโบสถ์ เข้าไปข้างในแล้วจิตใจสงบนิ่งดีค่ะ

ชอบยุโรปหน้าร้อนมากเพราะทุกๆเมืองจะประดับตกแต่งดอกไม้สีสันสวยงาม ขอบคุณแม่บุญที่พาเที่ยวนะคะ

เมืองริก้าเป็นเมืองที่สวยจริงๆ ค่ะแม่บุญ ยิ่งภาพมุมสูงยิ่งสวย แต่ทริปนี้นกไม่ได้ขึ้นไปเก็บภาพมาเพราะโบสถ์โดมข้างๆ ปิดซ่อมแซม เมืองแถบบอลติกสวยๆ หลายเมืองเลยค่ะแม่บุญ ที่สำคัญราคาอาหารถูกมากๆ อย่างแม่บุญว่าเลย เทียบกับแถบฝรั่งเศสถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยนะคะ นกขนไวน์กลับบ้านเยอะมากค่ะ ริก้าที่ว่าถูก ไปลิทัวเนียจะถูกกว่าค่ะแม่บุญ เมืองหลวงของลิทัวเนัยมีโบสถ์เยอะมาก สวยๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ ขอบคุณที่ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ

โดย: LoveParadise

วันที่: 1 กันยายน 2558 เวลา:18:47:39 น.

สวัสดีจ้ะแม่บุญ
ตามมาเที่ยวอีกรอบค่ะ วันนี้ดูรูปเก่า ๆ ตอนเราไปกินที่ร้านเพลินด้วยกัน วันเวลาผ่านไปเร็วมาก ๆ เลย ว่าจะอัพบล็อกระลึกความทรงจำซะหน่อยค่ะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 1 กันยายน 2558 เวลา:21:55:29 น.

สวัสดีค่ะแม่บุญ
ตามมาเที่ยวกับแม่บุญด้วย
ทั้งวิว อาคาร โบสถ์ บ้านเมืองเขาสวยจังเลย
ชอบที่เขาเอากระถางแขวนไว้กับผนังตึก
ดูสวยดีนะคะ
ได้เที่ยวแบบนี้มีความสุขไปอีกแบบนะคะ
เจออากาศดี วิวสีเขียวๆจากต้นไม้
อยากอยู่แบบนั้นนานๆเลยค่ะ

โดย: Mrs.Golf Joonjaroen

วันที่: 2 กันยายน 2558 เวลา:10:06:45 น.

เอ... ผมเข้ามาอ่านมาดูแล้ว มาทักทายแล้วนา

หรือว่า ลืมเม้นท์ ตอนนั้นยังจำได้เลยว่า แม่บุญ
ถ่ายภาพได้สวย... มองจากข้างลงข้างล่างครับ

ไม่เป็นไร ตัวเองชักหลง ซะแล้วมังครับ 555

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 2 กันยายน 2558 เวลา:13:58:17 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

สวัสดีค่ะ แม่บุญ

นานๆ เข้ามา คงไม่ลืมกันนะคะ

เมืองนี้สวยคลาสสิค และสะอาดมากเลยค่ะ อิตาลีหลายเมืองที่เคยไป บางครั้งก็ไม่สะอาดนะคะ แต่ในรูปที่ถ่ายดูสวยน่าเที่ยวมากเลยค่ะ

แหม๋ อุตส่าห์แอบถ่ายรูปมาให้ดูได้ สวยสมกับที่เขาห้ามจริงๆ ค่ะ อะไรที่ห้ามนี่ ชอบทำกันเนอะพวกเรา

บางสถานที่ๆ ไปแล้วทำให้เราน้ำตาไหล ในเมืองนอกยังไม่มีค่ะ แต่เมืองไทย ป้าอิ๋วมีนะคะ ที่อยุธยาค่ะ

โดย: Sai Eeuu

วันที่: 4 กันยายน 2558 เวลา:11:44:04 น.

สวัสดีค่ะ แม่บุญ

หายไปนานเลย ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์แวะไปเยี่ยมเยียนปอป้านะคะ

ภาพสวยทุกภาพเลยค่ะ น่าไปเที่ยวมากเลย แต่คงไม่มีโอกาส คริ ๆ

ขอให้แม่บุญมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขมาก ๆ นะคะ

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 7 กันยายน 2558 เวลา:8:18:26 น.

ยู้ฮูค่าแม่บุญ
อิจฉาแม่บุญจัง อากาศที่เบลเยี่ยมเริ่มเย็นแล้ว
แต่กรุงเทพบ้านเรา ร้อนมว๊ากกกกก
หน้าฝน ก็ฝนไม่ค่อยจะตกเลยค่ะ
อยากสัมผัสอากาศเย็นๆมั่งจัง
ลืมไปแร่ะว่าแฟชั่นชุดกันหนาวมันเป็นยังไง
คิดถึงแม่บุญนะคะ
ไปทำงานก่อนค่า

โดย: Mrs.Golf Joonjaroen

วันที่: 8 กันยายน 2558 เวลา:9:09:20 น.