Lugano & Luzern, Swiss
16 กุมพาพันธ์ 2554 Lugano & Luzern เมื่อวานไม่ได้ออกไปไหนไกล ๆ อยู่บ้านซักผ้า รีดผ้าให้พี่สาวเพราะมันเยอะมาก ตอบแทนที่เขาเลี้ยงดูปูที่นอนให้นอนดีเหลือเกิน อาหารในตู้เย็นเพียบกินได้สามเดือนก็ไม่หมด พี่เขยขนไวน์ทั้งขาว ทั้งแดง มาตั้งไว้ให้สองสาวเฒ่าได้ลิ้มลองไวน์สวิส แต่เราทั้งคู่ไม่ใช่ลำยองเลยนั่งมองเฉย ๆ ดื่มพอให้แกดีใจกับไวน์แดงที่ยังเหลืออยู่ค่อนขวดเท่านั้น ตีห้า..ตื่น ดื่มกาแฟ ขนมปัง แยม ตามสูตร แล้วก็เผ่นอาบน้ำด้วยความเร็ว เพื่อนสาวของแม่บุญใช้เวลาในการแต่งหน้าเป็นชั่วโมง พอออกจากบ้านได้ครึ่งทางเธอบอกว่า..ลืมทาปาก..เออ..เอาไว้ไปทาตอนกลับมาบ้านก็แล้วกัน รถไฟออกเจ็ดโมง ขืนวิ่งกลับไม่รู้จะลืมอะไรอีก ..พอดีไม่ต้องไปไหนกัน วันนี้แม่บุญจะพาเพื่อนลงไปทางใต้ติดอิตาลี Lugano คือจุดหมายปลายทางของวันนี้ ไม่ได้ดูพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน คงไม่เป็นไรเพราะหลายวันที่ผ่านมากอากาศดี แม้จะหนาวนิดหน่อย ไปถึงสถานีรถไฟ ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานว่าเดินทางไปไหนในแต่ละวัน เพราะถ้าจะให้จำหมด สมองกลวง ๆ ของแม่บุญจำไม่ได้แน่ ๆ ใกล้ ๆ กันมีรถไฟวิ่งไปอิตาลี แหม่..อยากกระโดดไปขึ้นขบวนนี้จัง ยังไม่เคยไปเลย สามีขู่ว่าแพง ต้องทำงานเก็บตังค์ให้เยอะ ๆ ก่อน แล้วค่อยไป แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปนะเนี่ย..เพื่อนบอกขึ้นรถได้แล้ว ฝันถึงได้สลายกลางอากาศ กระโดดขึ้นชั้นสองตามเคย ใครไปเที่ยวสวิสฯ เวลาจะขึ้นรถไฟ ดูที่ป้ายให้ดี ๆ จะได้ไม่วิ่งตามรถ เพราะเขาจะบอกไว้เลยว่า ชั้นหนึ่ง สอง และภัตตาคาร อยู่ตู้ไหน จะได้ไม่เสียเวลาหาไง
รถวิ่งออกจากสถานี แต่ภายนอกยังมือนิด ๆ เพราะพึ่งจะเจ็ดโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง ถ้ามาหน้าร้อน ตอนนี้แสงแดดออกมาแยงตาแล้ว นั่งกันไปร่วมชั่วโมง ถ่ายรูปเล่นกันไป คงจะเป็นคราวซวยของแม่บุญ ที่อยู่ดี ๆ ตอนเพื่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ เอากล้องเพื่อนมาดู เพราะอยากรู้ความแตกต่างกับกล้องของแม่บุญ เพราะคนละยี่ห้อ ..ถึงคราวซวย..มือไปกดโดนอะไรก็ไม่รู้...รูป...ที่ถ่ายมาตั้งสามสี่วัน...หายเรียบ.. แม่บุญยังไม่รู้ตัว..จนเพื่อนกลับมา หยิบกล้องไปเพื่อจะดูภาพที่พึ่งถ่ายไป เอ..รูปหายไปไหน ทำไมไม่มีสักรูป เธอทำอะไรกับกล้องเราหรือเปล่า...ใช่.เราเอามาดู แล้วก็เปลี่ยนเป็นภาษาไทยให้เธอ จะได้เข้าใจดีเวลาถ่ายภาพไง แต่เราไม่ได้ลบภาพอะไรเลยนะ งั้นเธอคงไปโดนปุมอะไรเข้าแน่ ๆ เพราะมันไม่มีภาพสักภาพ ..
แม่บุญ..นั่งมองกล้องเพื่อน หน้าตาแตกตื่น เหงื่อแตก ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาว ตายละหว่า หาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ เลยตู.. จะทำยังไงหล่ะทีนี้ ..มองไปข้าง ๆ เห็นชาวสวิสนั่งใช้คอมฯ เลยถอด memory ไปให้เขาดูให้..เขากดไปกดมาสองสามครั้ง คำตอบสุดท้ายคือ..ไม่มีภาพ ๆ หายหมด คราวนี้..แม่บุญนั่งนิ่งพูดไม่ออก เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนดี ถ้าเป็นแม่บุญก็คงโกรธกันข้ามปีทีเดียว แม่บุญพูดขอโทษเพื่อนไม่รู้กี่ครั้ง เขาบอกว่า..มีอีกวิธี คือเอาไปที่ร้านให้เขากู้คืนให้..แต่อาจจะ..เท่านั้น แม่บุญเลยบอกเพื่อนว่าจะไปที่ร้านให้เร็วที่สุดและจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ..เพื่อนเงียบ และเงียบไปตลอดทางจนถึง ลูกาโน.. โชคไม่ดีซ้ำสอง..ฝนตก.ๆ หนักเสียด้วยสิ เดินดูเมืองรอบ ๆ ทะเลสาบ ดีที่เอาร่มมาด้วยทั้งคู่ เลยไม่เปียก ตอนนี้เพื่อนแม่บุญ..เดินเดี่ยว เออ..เข้าใจนะ .ว่าเพื่อนโกรธ แต่มันเป็นไปแล้ว โอ้ย..ทำไมซวยแบบนี้ ตกลงเลยบอกเพื่อนว่า..กลับไปสถานีรถไฟกันเถอะ ไปที่ใหม่กันดีกว่า ยังไม่รู้ที่ไหน ไปก่อนก็แล้วกัน พอไปถึงอ่านที่กระดานบอกเวลารถไฟขบวนต่าง ๆ เห็นอยู่หนึ่งขบวนที่จะวิ่งไป Luzerne ตอนที่ตั้งโปรแกรมเที่ยว ไม่ได้คิดจะไป เพราะต้องซื้อตั๋วเพิ่ม เลยไม่เอา ไปมาหลายรอบแล้วไม่รู้จะไปทำไมอีก แต่โชคชะตา..ทำให้ต้องกลับไปอีก เพื่อนของแม่บุญ..พูดน้อยตามเคย .. เราไปถึง Luzerne กันสาย ๆ พอเดินพ้นสถานี ก็มาโผล่ที่สะพานเก่าแก่ สัญลักษณ์ของที่นี่ สะพานนี้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นแม่บุญยังอยู่ที่สวิสฯ แต่ไม่ได้ไปดูว่าไหม้มากน้อยแค่ไหน กลับมาคราวนี้เขาซ่อมแซมหมดแล้ว เสียดายแต่ภาพเขียนเก่าแก่ในสะพานถูกเผาไหม้หมด เขาคิดยังไงไม่รู้ที่เอารูปภาพสมัยใหม่ สีสรรฉูดฉาดมาวางไว้แทน ดูแล้วยิ่งเสียดายหนักเข้าไปอีก ไม่ทำอะไรเลยน่าจะดีกว่า.. ถึงตอนนี้วิญญาณนางแบบเข้าสิงเพื่อนแม่บุญ ๆ เองก็รู้สึกผิด เลยขอแก้ตัวใช้กล้องตัวเองถ่ายรูปให้แบบไม่กลัวเต็ม memory หวังจะแก้ตัวเสียหน่อย คราวนี้เพื่อนค่อยยิ้มออกบ้าง...เล็กน้อย แล้วเราก็เดินหามุมสวย ๆ ถ่ายรูปกันทั้งสองกล้อง สามสิ.. เพราะแม่บุญมีกล้องสองตัว เอาไว้กันหมา..เผื่อผิดพลาดจะได้มีรูปจากอีกสองกล้องไง
เดินไปเดินมาไปจ๊ะเอ๋.เข้ากับร้านขายอาหารไทย เจ้าของเป็นคนลาวเวียงจันทน์ ที่อพยพมาอยู่ตั้งแต่ครั้งสงคราม..ลาวแตก มีลูกสาวที่แต่งงานกับคนสวิส แล้วก็มาเปิดร้านอาหารไทย แม่บุญเองเดินที่เมืองนี้มาหลายครั้งแต่นานมาแล้ว ไม่เคยเห็น เขาบอกว่าพึ่งเปิดมาได้สามปีเท่านั้น ความมีน้ำใจของเจ้าของร้านที่เชื้อเชิญเข้าไปดื่มน้ำชาร้อน ๆ แก้หนาว เขาต้อนรับเราทั้งคู่ ราวกับรู้จักกันมานานแรมปี เราคุยกันได้สักครึ่งชั่วโมง ก็ขอตัวไปเดินต่อ ขากลับมาถึงสถานีรถไฟ เพื่อกลับซูริค เพื่อนอยากกินไส้กรอกสวิสย่างร้อน ๆ เลยแวะเสียหน่อย กำลังยืนกินอย่างเอร็ดอร่อย พลันก็ได้ยินเสียงพูดภาษาอังกฤษกับคนขาย ๆ ไม่รู้เรื่อง พูดเป็นแต่เยอรมัน..แม่บุญเลยช่วยบอกให้ พอพูดได้เล็กน้อยจ้า เคยเรียนมานาน มันกลับบ้านเก่าหมดแล้วหล่ะ พอจะจำได้ก็ตอนได้ยินเขาพูดกันบ่อย ๆ นั่นแหละ ตกลงเลยได้ถามไถ่กัน น้องมาจากกรุงเทพฯ ..บอกว่ามาเที่ยวเป็นครั้งแรก อยากกลับมาอีก ..ตอนนี้ต้องกลับเจนีวา เพราะนอนที่นั่นที่บ้านเพื่อน แล้วเราก็จากกันไปคนละทาง.. ขึ้นรถไฟกลับบ้าน แม่บุญยังอดคิดเรื่องที่ทำไว้.. จะทำยังไงดี ? พอรถใกล้จะออก มีผู้ชายมาขอนั่งข้าง ๆ เพราะที่นั่งอื่นเต็ม แม่บุญเลยบอกว่าว่างจ้า นั่งไปเถอะ..สักพักใหญ่ ๆ หนุ่มน้อยก็ควักกล้องถ่ายภาพตัวโตออกมา พร้อมกับทำนั่นทำนี่ราวกับมืออาชีพก็ไม่ปาน ได้การ..แม่บุญคิด พร้อม ๆ กับ ขอโทษเขาที่รบกวน ก่อนที่จะสาธยายว่าทำไม่ดีกับกล้องจนรูปภาพหายหมด ..คำตอบของพ่อหนุ่มราวกับ สวรรค์ส่งคนมาช่วยแม่บุญ เพราะเขาบอกว่าเขาเองก็เคยเจอปัญหานี้และสามารถกู้คืนได้หมด ..โอ้..คุณพระคุณเจ้าเมตตาลูกจริง ๆ ที่ส่งเขามานั่งข้าง ๆ แม่บุญ ๆ ถามไถ่ว่าทำยังไง เขาอธิบายยืดยาวจนจบ...แม่บุญอ้าปากหวอ..แมลงวันวิ่งเข้าออกไปหลายตัว..สั่นหน้าตอบช้า ๆ ว่า..ฉันทำไม่เป็น เล่นเอาพ่อหนุ่มอียิปต์ ยกมือเกาหัว..แล้วจะทำยังไง หนุ่มน้อยถามว่า..บ้านเธออยู่ที่ไหน อยู่...อ้อ.ไม่ไกลจากบ้านฉัน อ้าว..จริงเหรอ แล้วไง แล้วก็ไปบ้านฉันสิ..จะทำให้ แต่อาจใช้เวลานานนะ เพราะไม่รู้ว่าภาพมันมีมากแค่ไหน แล้วก็ต้องหาด้วย ทำแพล็บ ๆ ไม่ได้หรอก ..แม่บุญหันไปมองหน้าเพื่อน ๆ บอกว่า..เธอเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้..แล้วแต่เธอสิ.. เอาวะ..สองต่อหนึ่ง ถ้าเขาจะคิดมิดีมิร้าย อย่างน้อยก็สองสาวหนึ่งหนุ่มแหละ คิดแล้วก็พยักหน้าตกลง ไปก็ไป ..รถไปถึงสถานี เราสามคนลง แล้วเดินเร็ว ๆ ไปขึ้นรถทรัมเพื่อไปบ้านพ่อหนุ่ม ไหนว่าไม่ไกล ๆ เหมือนกันนะเนี่ย คิดไปก็มองป้ายรถเมล์ไป จำ ๆ ไว้เดี๋ยวกลับบ้านไม่ถูก พอไปถึง..พ่อหนุ่มพักคนเดียวในอพาร์เมนท์เล็ก ๆ แกแต่งงานแล้วมีลูกสองคน แยกกับภรรยามาอยู่คนเดียว ตอนนี้นั่งรถไป ๆ มา ๆ ซูริค ลูเซิน เพื่อไปเรียนทำเบเกอรี่ที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงของที่นั่น เขาใช้เวลากู้ภาพราวๆ ยี่สิบนาที..เท่านั้น ความรวดเร็วในการใช้มือคีย์ข้อมูล เรียกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ คงทำมานานแล้วหล่ะ และแล้วภาพต่าง ๆ ก็กู้คืนมาได้ พร้อมบันทึกลงในแผ่นซีดีให้เรียบร้อย แม่บุญ.แทบจะกระโดดกอดคอ ขอหอมแก้ม.. โอ้ย..ทุกข์ใจมาทั้งวัน เที่ยวแบบไม่มีความสุขก็ปานนั้น ตอนนี้ขึ้นสวรรค์แล้วจ้า แล้วจะเอาค่าตอบแทนเท่าไหร่ ?? เขาบอกว่า..ไม่เอา ขอให้ทำอาหารไทยเลี้ยงได้ไหม ? ได้สิ แต่ขอเอามาให้ที่บ้านนะ แกตกลง..พรุ่งนี้เย็นฉันจะรอกินนะ ได้เลย แล้วแม่บุญกับเพื่อนก็นั่งรถกลับบ้านด้วยความรื่นเริง..ครั้งแรกของวันนะเนี่ย คิดในใจว่า ต่อไปนี้ไม่ว่าจะกล้องของใครก็จะไม่มีวันแตะอีกเลย ...
Free TextEditor
Create Date : 06 เมษายน 2554 |
Last Update : 6 เมษายน 2554 23:42:55 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1716 Pageviews. |
|
|