Bloggang.com : Maeboon : ม่วนซื่นเมืองลาว ๒ น้ำตกผาส้วม น้ำตกตาดฟาน ปราสาทวัดพู

ม่วนซื่นเมืองลาว ๒ น้ำตกผาส้วม น้ำตกตาดฟาน ปราสาทวัดพู

หมู่บ้านเผ่าตะเรียง

๒๕ ตุลา ๒๕๕๘

เมื่อคืนหลับกันอย่างสบายด้วยที่นอนสะอาดๆ จากนั้นก็ลงมาที่ล็อบบี้เพราะใกล้ๆ กันเป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวมากมายลงมากินข้าวทั้งชาวลาวเอง กรุ๊ปทัวร์คนไทย และกลุ่มของแม่บุญ อาหารมีให้เลือกมากมายละลานตา แต่ก็กินกันแค่พออิ่มนั้นแหละ เมื่อคืนบอกหนุ่มน้อยคนขับรถให้มารอรับตอนเก้าโมง เมื่อเดินออกมาก็พบว่าเขายืนรออยู่กับเพื่อนสาวชาวลาว วันนี้ไกด์พื้นที่จะพาไปชมหมู่บ้านอนุรักษ์ ชื่อหมู่บ้านตะเรียง ใช้เวลาไม่นานนักก็พามาถึง

ทางเดินเข้าหมู่บ้านเป็นดงไผ่ที่ปลูกเรียงรายไว้สวยงามร่มรื่น สะอาดสะอ้านได้รับการดูแลอย่างดี เมื่อเดินเข้าไปถึงมีเด็กๆ ในหมู่บ้านกำลังเล่นกันอยู่ แต่พวกเขาไม่ได้วิ่งมารุมนักท่องเที่ยวอย่างที่อื่นๆ แต่ยังคงวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ใกล้ๆ กันมีเรือนไม้ปลูกง่ายๆ ไว้วางผ้าทอมือหลากหลายสีไว้ให้เลือกชม หากชอบก็สามารถซื้อหาได้ พวกเราเดินชมกันเงียบๆ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงบ้านที่เขียนไว้ข้างๆ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ของหมู่บ้าน บันไดไม้เรียบง่ายเพียงสองขั้นนำพาพวกเราเดินขึ้นไปชมชั้นบนอย่างง่ายดาย

สองข้างเป็นเหมือนห้องโถงใหญ่ปลูกไปตามความยาวของตัวบ้าน มีเครื่องจักสานวางเรียงรายเอาไว้มากมาย พร้อมกับมีหุ่นขี้ผึ้งของพระนั่งอยู่ ดูเผินๆ นึกว่าพระจริงๆ อีกด้านหนึ่งเป็นที่จัดแสดงภาพเขียนสีน้ำของศิลปินชาวลาว เขานั่งวาดภาพอยู่กลางห้องนั่นเอง

ภาพเด็กขี่ควายที่วาดได้อย่างเหมือนกับเป็นตัวตนจริงๆ อีกภาพเป็นภาพของชาวนายืนอุ้มหมา มีควายยืนอยู่ใกล้ๆ พวกเราต่างเอ่ยปากชื่นชมในความสวยงามของภาพ ศิลปินเดี่ยวคนวาดยิ้มแก้มปริ บอกว่ามีการถ่ายภาพไปก็อปปี้ขายกันมากมาย แต่...คนแต้มสี..คือข่อย

..เขาหยิบหินที่แต้มสีเป็นรูปพระ จากนั้นก็ใช้ไฟฉายส่องผ่านหินก้อนนั้นจากด้านล่าง น่าแปลกที่แสงจากไฟฉายสามารถผ่านก้อนหินมากระทบกับภาพพระได้อย่างงดงาม แม่บุญ..ขอซื้อหินก้อนนั้นมาเป็นที่ระลึก จากนั้นก็พากันเดินชมรอบๆ หมู่บ้าน แล้วจึงลาจากมา เด็กๆ ที่เห็นไม่มีใครวิ่งมาขอเงิน ขอขนม เหมือนบางแห่ง แต่กลับวิ่งมาโบกมือให้พวกเราด้วยรอยยิ้มอันสดใส

จากนั้นไกด์ของเราก็ขับรถมุ่งหน้าสู่น้ำตกผาส้อม อันลือเลืองในเรื่องความสวยงามของแถบนี้ รถมาจอดบริเวณที่จอดรถแล้วให้เดินไปตามทางเพื่อไปสู่น้ำตก สะพานแขวนด้านหน้าที่สร้างด้วยไม้ไผ่รายล้อมไปด้วยเถาไม้พันรายรอบดูสวยงาม เห็นคณะคนไทยที่พากันเดินถ่ายรูปอยู่ข้างหน้า คงจะเป็นการเก็บตกก่อนจะกลับ พวกเราพากันเดินข้ามสะพานอย่างสนุกสนาน ภรรยาของเพื่อนมิเชลรูปร่างค่อนข้างท้วมเธอขอยืนรอไม่เดินข้ามด้วยเพราะกลัว แม่บุญเดินข้ามไปกับคนอื่นๆ จนได้เห็นภาพน้ำตกตาดผาส้วมข้างหน้า

น้ำตกผาส้วม น้ำตกตาดฟาน

นับเป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งทีเดียว มีที่ให้นั่งถ่ายภาพสวยๆ กับน้ำตกด้วย เราถ่ายภาพกันจนพอใจ จึงได้เดินทางต่อไปยังน้ำตกตาดฟาน ที่เราจะเห็นภาพน้ำตกสองแห่งใกล้ๆ กันตกมาจากภูเขาสูง มองไกลๆ เห็นเป็นน้ำตกคู่ขนาน อยู่ท่ามกลางป่า ธรรมชาติจัดสรรได้ดีจริงๆ มื้อเที่ยงไกด์พาไปกินอาหารในร้านอาหารระหว่างทางที่จะเดินทางไปปากเซ เพื่อไปจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศเพื่อเดินทางต่อไปยังเวียงจันทน์

แม่บุญไม่กล้ารอซื้อวันที่จะไปกลัวว่าจะเต็มก่อนจึงได้รีบซื้อไว้แต่เนิ่นๆ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ตัดสินใจถูก เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันค่อนข้างมาก และไม่ได้มีบินทุกวัน ทั้งนี้ก่อนที่จะมา แม่บุญศึกษารายละเอียดต่างๆ มาอย่างดี ดูตารางบินพร้อมกับจัดวันที่จะเที่ยวให้ลงตัวด้วย ค่าเครื่องบินในประเทศจากปากเซไปเวียงจันทน์ตกคนละ ๘๐ ยู เอส ดอลลาร์ ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงกว่าๆ เหมือนบินไปเชียงใหม่ ตอนที่ดูจากอินเทอร์เน็ตที่เบลเยียม เขาคิดหัวละ ๒๕๐ ยูโร ดีใจที่ตัวเองตัดสินใจถูกที่มาซื้อถึงที่ได้ราคาลดลงอย่างเท่าตัว ไม่แปลกใจเพราะเขาคงคิดค่าคอมมิชชั่นด้วยนั่นเอง

ลืมบอกไปว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินลาวช่วงนั้นตกอยู่ที่ประมาณ ๒๓๔ กีบ ต่อ ๑ บาท ส่วนค่าเช่ารถที่ลาวจะแพงกว่าเมืองไทย เพราะค่าน้ำมันแพงกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพรถและการต่อรองอีกด้วย แม่บุญเช่าได้ในราคา ๒๕๐๐ บาทต่อวัน ไม่รวมค่าน้ำมัน กับอากาศที่ร้อนอบอ้าวมากๆ ต้องเร่งแอร์กันสูงสุดในรถ

ที่น่าต่อว่าคนขับคือ ระหว่างที่เราไปเดินเที่ยวกัน สาวน้อยเพื่อนคนขับเธอขอรอในรถเพราะอากาศร้อน แล้วก็เปิดแอร์นั่งร้องเพลงอย่างสบายใจ คนที่ต้องจ่ายค่าน้ำมันคือพวกเราแต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร หากใครจะคิดเช่ารถเช่าเหมาไปหมดจะดีกว่า แต่หากคิดว่าจะขับรถเอง เกรงว่าจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ เพราะไม่คุ้นเคยกับสถานที่หนึ่ง ถนนหนทางไม่ได้ดีเหมือนบ้านเราด้วย ฝุ่นตะลบอบอวลไปทั่ว หากจะหวังพึ่งเครื่องมือนำทางต้องวิ่งหาสัญญาณดีๆ จริงๆ แล้วตอนนี้ที่ลาวมีรถตู้เหมือนเมืองไทย เพียงแต่ต้องหาหน่อยเท่านั้นเอง

วันนี้กลับที่พักกันแต่หัวค่ำ เพราะเพื่อนๆ อยากลงไปว่ายน้ำในสระของโรงแรม มื้อเย็นพวกเราพากันขึ้นไปกินบนห้องอาหารจีน แต่มีอาหารไทยด้วย สั่งกินกันคนละอย่างจ่ายใครจ่ายมัน ไม่มีใครเลี้ยงใครเหมือนโต๊ะเจ้าสัวข้างๆ ที่สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ และจากไปพร้อมอาหารมากมายที่เหลือไว้.. อดคิดถึงผู้คนที่ไม่มีจะกิน คิดอีกที พนักงานอาจจะไม่ทิ้งไปเปล่าๆ ก็ได้ จากนั้นก็พากันแยกย้ายไปพักผ่อนห้องของตัวเอง

ปราสาทวัดพู

๒๖ ตุลา ๒๕๕๘

หลังอาหารเช้าคณะเราก็ออกเดินทางกันทันที แวะที่ตลาดเพื่อแลกเงิน ทีแรกจะไปแลกที่ธนาคารแต่คนมากมายนั่งรอคิวรอไม่ไหวเลยไปหาร้านแลกเงินแถวๆ ตลาด เจอคนเวียดนามเจ้าของร้านโยนเงินยูโร เงินไทย เงินยูเอส ลงบนโต๊ะราวกับไม่ใยดี พร้อมกับนับเงินลาวอย่างรวดเร็วราวแจกไพ่ในบ่อน อิ อิ เห็นในทีวีนะคะ อย่าเข้าใจผิด

พอเดินออกมาจากร้าน มองไปฝั่งตรงกันข้าม เห็นตึกสวยงามสีฟ้ามีโดมตรงกลางราวกับสถาปัตยกรรมที่ปารีส ถามไกด์ได้ความว่าเจ้าของคฤหาสน์เป็นเจ้าของตลาด เจ้าของที่ดินมากมายในปากเซ ตึกเก่าทรงยุโรปใกล้กันคงจะสร้างก่อนแล้วมันเล็กเกินไป เลยสร้างเพิ่มแบบให้มันรู้ซะมั่งว่ารวย..

มาเดินทางกันต่อ วันนี้จะพาไปตระเวนชม ปราสาทวัดพู.. เปิดดูในเน็ตว่าไว้ว่า..

ปราสาทวัดพู : ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจำปาสักมาทางทิศใต้ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ปราสาทวัดพู หรือ วัดพู นครจำปาสักได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในอดีตที่ตั้งของวัดพู เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแห่งอารยธรรมโบราณถึง ๓ สมัยด้วยกัน คือ อาณาจักรเจนละในช่วงศตวรรษที่ ๖ – ๘ ค้นพบจารึกกล่าวถึงการฆ่าคนเพื่อบูชาแด่เทพเจ้า ต่อมาเป็นยุคของอาณาจักรขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร ที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่สร้างปราสาทหินในราวศตวรรษที่ ๙ และสุดท้ายอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนเทวาลัยในศาสนาฮินดูให้เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาท

• สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นคือภูเขาด้านหลังปราสาทที่ตั้งเด่นตระหง่านมองเห็นแต่ไกล รูปร่างคล้ายนมของผู้หญิงและคนเกล้ามวยผม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูผาแห่งนี้ว่าเขานมสาว แต่ชาวบ้านนิยมเรียกภูเกล้ามากกว่า อาณาเขตของปราสาทวัดภู เริ่มต้นจากริมฝั่งแม่น้ำโดยมีบันไดทางขึ้นรถหลั่นกันขึ้นมา 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุด นอกเขตวัดมีบารายขนาดใหญ่ ซึ่งในสมัยโบราณใช้เป็นที่แข่งเรือและที่สรงน้ำสำหรับพิธีกรรมต่างๆ..

เมื่อเดินทางมาถึงปราสาทแห่งนี้ แม้ว่าจะเดินทางมาถึงไม่เช้าแต่ก็ไม่สาย แต่แสงแดดอันร้อนแรงทำให้ต้องหยิบร่มที่เตรียมไว้มากาง เพื่อนๆ ของมิเชลพากันอมยิ้ม เดินหน้าหลังเปียกไปด้วยเหงื่อ หลังจากซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมปราสาทเรียบร้อยแล้ว พวกเราพากันเดินไปรอขึ้นรถคล้ายรถตามสนามกอล์ฟ แต่ก่อนที่รถจะมาถึง

ข้างหน้ามีห้องจัดนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของปราสาท แต่ภายในเขาห้ามถ่ายภาพ เราเดินชมกันไม่นานเพราะห้องไม่ได้ใหญ่โตอะไร จากนั้นก็ออกมาขึ้นรถที่มาถึงพอดี รถพาไปส่งที่ตีนภู จากนั้นต้องเดินเท้าไปกันเอง อาณาจักรขอโบราณนั้นจริงๆ แล้วกินพื้นที่ทางฝั่งสานของไทยด้วย จะเห็นว่าปราสาทที่บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และที่สุรินทร์ มีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก ราวกับพี่น้องคลานตามกันออกมา ระหว่างทางมีหญิงชาวลาวนั่งขายดอกไม้ ธูปเทียน สำหรับขึ้นไปไหว้พระที่ยอดปราสาทด้วย

แม่บุญเดินรั้งท้ายเพื่อน เพราะทางเดินขึ้นเขานั้นยาวไกลกับอากาศที่ร้อนจัด รวมถึงการที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายทำให้ต้องหยุดพักเป็นระยะๆ มิเชล..อายุมากที่สุดแต่เดินนำลิ่วขึ้นเขาไปก่อนเพื่อน เมื่อขึ้นไปถึง มองกลับลงมาข้างล่าง วิวแบบพาโนรามาสวยงามแบบในภาพถ่ายที่เห็น

ใกล้ๆ ทางขึ้นขั้นสุดท้ายมีคุณยายนั่งขายดอกไม้ ร้องเรียกให้ซื้อสำหรับไปไหว้พระ แม่บุญเดินซื้อดอกไม้ไปไหว้พระ หลังจากนั้นก็เดินกลับมาหาคุณยายๆ ถามว่ามาจากไหนเลยได้คุยกัน จากนั้นคุณยายก็ผูกข้อมือด้วยสายสินญ์ให้ พร้อมกับให้พรอย่างไพเราะแบบคำผญาของคนลาว

หลังจากเดินชมกันจนทั่วก็ได้เวลากลับเพราะเลยเวลาเที่ยงไปนานโข ไกด์ของเราขับรถลัดเลาะไปหาร้านอาหารริมน้ำโขงบอกว่าเป็นร้านที่คนไทยชอบมากินกันมาก โดยเฉพาะมีเมนูเด็ดจากปลาแม่น้ำโขงด้วย เมื่อไปถึงบ่ายสองกว่าแล้ว ไม่เห็นมีรถ มีคน เลยเดินไปจนถึงแม่น้ำโขงจึงได้เห็นเรือนแพของร้านอาหารจอดอยู่ที่นั่น จริงอย่างที่คิด ไม่มีใครเลยนอกจากคณะเรา

หลังจากถูกพนักงานเสริฟเกือบสิบคนออกมาต้อนรับ ต้อนให้ไปนั่งโต๊ะริมน้ำ แล้วก็ยกเมนูมาให้อ่าน ภาษาลาวทั้งดุ้น เดาออกมั่งไม่ออกมั่ง ระหว่างนั้นก็เหลือบไปเห็นแม่ครัวกำลังสับ หั่น ปลาน้ำโขงตัวใหญ่ เพื่อนๆ พากันเดินลิ่วไปดู ถ่ายภาพกันจ้าละหวั่น เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มทำงานเกี่ยวกับการควบคุมความสะอาด สุขอนามัยในห้องอาหารของเบลเยียม เขาเดินยิ้มส่ายหน้าออกมาจากบริเวณนั้น มานั่งรอ

ในห้องครัวสะอาดเอี่ยม หม้อนึ่งข้าวถูกขัดจนขึ้นเงา เมนูที่เราสั่งคือ ต้มยำปลา ลาบปลา ปลาทอด พร้อมข้าวเหนียว ข้าวสวย ผักสดๆ ที่ยกมาเสริฟเยอะจนกินไม่หมด อีกทั้งฝรั่งทั้งหลายไม่ยอมเสี่ยงกับอาหารที่ไม่คุ้นเคย ไม่ผ่านการปรุงให้สุกเนื่องจากกลัวว่าจะป่วย ท้องร่วงระหว่างทาง อันนี้ต้องเข้าใจกันว่า ท้องไส้ของคนยุโรป อ่อนแอเกินกว่าคนบ้านเรา กินอะไรไม่ถูก ไม่ชินเข้าไปหน่อยก็พาลท้องเสีย อาหารเป็นพิษกันอย่างง่ายดาย ผิดกับคนเอเชียที่มีภูมิต้านทานมากกว่าเยอะทีเดียว

หลังอาหารแม่บุญจ่ายค่าอาหารที่นับว่าถูกแสนถูกสำหรับค่าเงินยูโร พวกเราให้ทิปพนักงานเสริฟทุกๆ คน แล้วก็พากันกลับโรงแรม แม่บุญขอกลับออกมาเดินริมน้ำเพราะเห็นว่าเขามีงานเทศกาลอะไรสักอย่าง ได้ลองยิ่งปืนลมอย่างที่ชอบไปสองครั้ง ไม่เลว..ยังพอไหว จากนั้นก็เดินถ่ายภาพยามค่ำที่โรงแรมก่อนที่จะขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวที่ห้องอาหารริมน้ำของโรงแรม ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ..

๙๙๙๙๙๙๙หมวดท่องเที่ยวค่ะ๙๙๙๙๙๙๙

Create Date : 28 มีนาคม 2559

Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 13:35:12 น.

25 comments

Counter : 1678 Pageviews.

ตามมาเที่ยวด้วยครับ แม่บุญ
น้ำตก สวยงามจริงๆครับ เหมือนน้ำตกไนแองการา อเมริกา
ปราสาทวัดพู สถาปัตยกรรมสามสมัยเก่าแก่มาก น่าสนใจมากครับ สภาพยังสมบูรณ์
ชมภาพเพลินเลยครับ

Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: เศษเสี้ยว

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:8:31:06 น.

ตามมาเที่ยวต่อค่ะ
ที่นี่ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่มากนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
phunsud Food Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Food Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

ปล.ในคอมเม้นท์ใช้ font สีอ่อน พิมพ์แล้วมองไม่เห็นเลยค่ะว่าพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกยังไง สีเข้มแบบเดิมน่าจะดีกว่าค่ะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:9:17:36 น.

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

นั่งดูภาพ ทางเดินระหว่างต้นไผ่ สวย..น่าไป ส่วน
น้ำตก แม้ชื่อจะไม่คุ้นกับคนไทยมากนัก

แหะ ๆ ความหมายคงไม่เหมือนภาษาไทยนะครับ

อยากไปทานอาหารปลาสด ๆ แบบนั้นบ้าง.. พอบอกว่า
หม้อชามช้อนสอาดก็พอไหวครับ

เคยไปสั่งอาหาร แล้วบังเอิญไปเห็น แม่ครัวล้างอาหาร
น้ำหยดแหมะ ๆ เป็นทาง สับ ๆ แล้วใช้มือที่เปียกน้ำ

ขะยุ้มใส่หม้อต้มกำลังเดือด น้ำก็หยดเป็นทาง... เห็นแล้ว
ไม่กล้ากินครับ

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:15:55:32 น.

ตามมาเที่ยวจ้ะ
ลาวใต้ สวยนะ ดูร่มรื่นดี
พี่เคยไปน้ำตกผาส้อม กับตาดฟานแล้ว
ไกด์บอกว่า น้ำตกตาดฟาน เป็นน้ำนกน้องเมีย
พวกผู้ชายก็ถามกันว่า ทำไม
ไกด์บอกว่า "ก็สวย แต่จับต้องไม่ได้" 555

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เนินน้ำ Travel Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:16:13:08 น.

สวัสดีค่ะ..

ยังไม่เคยไปเที่ยวลาว อย่างจริงจังสักที

แค่แว๊ปๆไปเดินตามแนวชายแดน แล้วกลับ

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ

) วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:17:06:05 น.

มาลองอีกรอบค่ะแม่บุญ
ตอนนี้กลับสู่สภาวะปรกติแล้วค่ะ
คือเมื่อเช้าภาพดอกบัวในคอมเม้นท์ไม่ขึ้นค่ะ
ขึ้นมาแต่พื้นแบลคกราวน์สีเขียวจุดขาว
พอตัวหนังสือสีอ่อนเลยมองไม่เห็น

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:22:33:45 น.

สวัสดียามค่ำคืนครับ

Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: **mp5**

วันที่: 28 มีนาคม 2559 เวลา:23:17:37 น.

น้ำตกผาส้วมสวยงามมากค่ะ
ต้องมีโอกาสไปเยือนแน่นอนค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: ALDI

วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:2:18:39 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Music Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

เห็นแล้วก็คิดถึงลาวค่ะแม่บุญ

ไม่ได้ไปนานแล้ว แหะๆ

รูปอาหารดูโอเหรอคะ? แต่ไม่อร่อยเลยนะคะ แหะๆ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ

วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:8:23:12 น.

สวัสดี ค่ะ คุณแม่บุญ

ขอบคุณนะคะ ที่แวะไปเยี่ยมบล็อก เที่ยววัดไตรมิตร ค่ะ โดยต่อว่าบ่อย ๆ ว่า เขียนบล็อกยาวมาก เลย หาเรื่องสั้น ๆ มาเขียน อิอิ
ที่ลาวใต้ จำปาสัก เคยไปเที่ยวตอนเกษียณใหม่

โดย: อาจารย์สุวิมล

วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:14:08:27 น.

มือไปกดถูกอะไรไม่รู้ อิอิ ขอเขียนต่อนะคะ
ลาวใต้ มีน้ำตก สวย ๆ หลายแห่งค่ะ แต่น้ำตกผาส้วม ดูเหมือนจะสวยกว่าเพื่อน ยังไม่เคยไปลาวกลาง (เวียงจันทน์)และลาวเหนือ หลวงพระบาง จะต้องหาโอกาสไปเยี่ยม สักครั้งค่ะ
โหวด บล็อกท่องเที่ยวเลย นะคะ

โดย: อาจารย์สุวิมล

วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:14:12:32 น.

ดีจัง หมูบ้านเล็กๆก็จัดทำพิพิธภัณฑ์ไว้ด้วย
น้ำตกสวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ ดูว่าเป็นหมู่บ้านที่
เงียบสงบและธรรมชาติยังดิบมาก

โหวตท่องเที่ยวให้ค่ะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อาจารย์สุวิมล Diarist ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า

) วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:16:35:51 น.

ส่งกำลังใจให้แม่บุญก่อนนะคะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: Sweet_pills

วันที่: 29 มีนาคม 2559 เวลา:23:57:54 น.

จำเริญเนตร จำเริญปัญญานัก
โหวตหมวด Travel ให้นะครับ

โดย: ควายเฒ่า

วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:13:34:17 น.

หนูว่าใช้ชีวิตอยู่ในชนบทดูแล้วมีความสุขนะคะแม่บุญ
น้ำตกผาส้วมดูคล้ายน้ำตกไนแองการ่าเลยคะ
ลาวน่าไปเที่ยวจังเรียกแฟนมาดู
มันแกวๆๆๆ ภาพวิวถ่ายสวยมากคะแม่บุญ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: Mitsubachi

วันที่: 30 มีนาคม 2559 เวลา:21:48:43 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Raizin Heart Literature Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Food Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ตาม ๆ ๆ ๆ ค่ะ
ไปเที่ยวด้วยค่าาา

โดย: Close To Heaven

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:0:22:38 น.

น้ำตกสวยงามมากครับ ไว้มีโอกาสต้องลองไปบ้างสักครั้ง

โดย: benz47

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:10:22:03 น.

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะแม่บุญ

แค่ดูรูปสวยๆและอ่านคำบรรยายก็ประทับใจแล้วค่ะ

Maeboon Travel Blog ดู Blog

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 31 มีนาคม 2559 เวลา:14:43:15 น.

คนไทยเราชินนะคะ
อยากไปค่ะจำปาสัก
+

โดย: tuk-tuk@korat

วันที่: 1 เมษายน 2559 เวลา:15:10:48 น.

วันนี้มาอ่านมาเก็บรายละเอียดค่ะแม่บุญ
ขอบคุณแม่บุญมากค่ะที่พาเที่ยว แต่ละสถานที่น่าเที่ยวชมจริงๆค่ะ
ทั้งหมู่บ้านเผ่าตะเรียง ได้ชมพิพิธภัณฑ์และรู้จักศิลปินที่เขียนภาพได้งามมาก
น้ำตกตาดฟานและน้ำตกผาส้วมก็สวยมากค่ะ ทั้งน้ำแรง มีความเป็นธรรมชาติสูง น่าสดชื่นจริงๆ
ปราสาทวัดพูทั้งสวยและสงบดีจังค่ะ
ที่น่าสนใจอีกแห่งก็คฤหาสถ์มหาเศรษฐีชาวลาว
หากไม่บอกดูจากขนาดแล้วน่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์มากกว่าที่อยู่อาศัยนะคะ

อาหารจานปลาแต่ละเมนูก็น่าทานมาก
ร้านได้บรรยากาศริมโขงยิ่งเพิ่มความอร่อยนะคะ

ต๋าจะตามแม่บุญมาเที่ยวต่อในตอนที่สามค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 2 เมษายน 2559 เวลา:1:28:05 น.

Maeboon Travel Blog ดู Blog
ลาวใต้ยังบริสุทธิ์สวยงามค่ะ
ยังมีหลี่ผีและคอนพะเพ็งที่สวยงามด้วยนะคะ

โดย: mcayenne94

วันที่: 2 เมษายน 2559 เวลา:22:10:57 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มาแล้วค่ะ แม่บุญ

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของลาวเลยนะคะ น้ำตก วัดยังดูสวยเป็นธรรมชาติ และคนไม่เยอะ แตกต่างจากในไทยนะคะ น่าเที่ยวๆ ค่ะ

ว่าแต่ว่า เพื่อนๆ ของแม่บุญ ไม่ค่อยทานอาหารร้านนั้นจริงเหรอคะ ก็ดูไม่ได้เลวร้ายอะไรนะคะ ในไทยบางแห่ง แย่กว่านั้นอีกนะคะ เพียงแต่เราไม่ได้เห็นแค่นั้นเอง

โดย: Sai Eeuu

วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:17:17:46 น.

Maeboon Travel Blog ดู Blog

สวัสดีค่ะแม่บุญ
ลาวเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยว เพราะยัง
มีธรรมชาติเหลืออีกมากมายให้ได้ไป
สัมผัส ค่าใช้จ่ายในลาวก็ไม่สูง อาารก็คล้ายๆ
อาหารไทย แต่อ่อนรสชาดกว่า ยังมีป่าไม้และ
ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว
ให้ไปเยี่ยมชม

โดย: ดอยสะเก็ด

วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:18:05:28 น.

ภาพสวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ว่าสองน้ำตกสวยมากแล้ว เจอปราสาทวัดพู กับวิวแถวนั้น ยิ่งชอบเลย

เด็ก ๆ น่ารักดีค่ะ สมกับเป็นหมู่บ้านอนุรักษ์นะคะ ภาพเขียนสวยทั้งสองภาพค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
ผู้ชายในสายลมหนาว Education Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
Maeboon Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

*** หนูเคยมาเกาะสีชัง เมื่อปี 2555 ผ่านมา 4 ปี ปีนี้ได้ไป ก็เปลี่ยนไปเยอะค่ะ มีรีสอร์ทขึ้นเยอะมากมาย

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 3 เมษายน 2559 เวลา:18:45:14 น.

น่าไปมากๆ น้ำตกสวยนะคะ

โดย: ชลบุรีมามี่คลับ

วันที่: 20 เมษายน 2559 เวลา:20:43:54 น.