Bloggang.com : Maeboon : Geneva 2

Geneva 2

เราไปถึงเจนีวาประมาณ 10 โมง แม่บุญบอกแผนการคร่าว ๆ กับเพื่อนว่าจะเดินชมเมืองกันแบบผ่าน ๆ ไปก่อนแล้วจะกลับมาเดินแบบเจาะลึกวันกลับเพราะมีเวลาเกือบทั้งวัน ว่าแล้วก็เดินเลียบพระนคร เดินดูตึกรามบ้านช่อง เดินไปจนถึงริมทะเลสาบ เสียดายที่มาตอนนี้เพราะเขายังไม่ปลูกต้นไม้ เพราะยังไม่หมดหน้าหนาวดี ต้นไม้มันเลยโกร๋น ๆ ไม่มีใบเขียว ๆ มาให้ถ่ายภาพงาม ๆ แต่ก็ยังไม่วายหาเรื่อง หาที่ถ่ายจนได้ มุมเดิม ๆ เปลี่ยนแต่เวลาที่ผู้ถ่ายอายุล่วงเลยขึ้นไปอีก เสียดายจังหากมาหน้าร้อนมีต้นไม้ดอกไม้สวย ๆ ประดับจะได้กรีดกันเสียงดังแน่นอน

ใครที่ยังไม่เคยไปแม่บุญแนะนำให้ไปช่วงเดือน พฤษภาคม เพราะอากาศไม่หนาวแล้วดอกไม้เริ่มผลิดอกออกใบแข่งกันสวยงาม ถ้าจะให้ได้แบบทูอินวันต้องไปช่วงเดือนกรกฏาคม...อ้าวเขามีอะไรเหรอแม่บุญ ..ไม่รู้รึ ? ว่าเขาลดราคากันทั้งเมือง ช็อปปิ้งจ้า ขนเงินไปเยอะ ๆ บัตรเครดิตเช็คให้ดี ๆ ว่ามันจะรูดผ่านได้ตลอดรอดทริปหรือเปล่า ของแบรนเนมสวย ๆ ลดกันสุด ๆ รองเท้ายี่ห้อดัง บัลลี่ ใส่แล้วเหาะเหิรเดินสบาย ไม่กัดให้เป็นตาปลา หนังนุ่มทั้งนอกทั้งใน จะหาว่าโฆษณาเพราะตอนเขาลดเจ็ดสิเปอร์เซ็นต์ แม่บุญก็แอบไปถอยมาหลายคู่เหมือนกัน อย่าพูดดังไปเดี๋ยวสามีได้ยิน ..

ส่วนดีที่สอง..คือระยะเวลากลางวันจะยาวกว่ากลางคืน ถ้าไม่เหนื่อยมากกับการเดิน ๆ ๆ ๆ และวิ่งขึ้นรถเปลี่ยนขบวนไปเที่ยวที่ต่าง ๆ แบบแม่บุญ หารองเท้าที่ใส่สบายที่สุดคือข้อแนะนำสุดท้าย เพราะหากห่วงสวยใส่ส้นสูง เดินทั้งวันนะจ๊ะ เก็บรองเท้าคู่สวย ราคาแพงไว้เดินเข้าออกร้านแบรนเนมวันสุดท้ายก่อนกลับก็แล้วกัน อีกเรื่องที่ต้องเตรียมคือแบตเตอรี่กล้องถ่ายภาพ ซื้อสำรองไปเถอะที่พันธ์ทิพย์ราคาไม่แพง จะถือไปด้วยเวลาเดินทางก็ได้ เพราะบนรถไฟเขามีปลัีกให้เสียบขาร์ตไฟได้ เขาใช้ปลั๊กแบบสามขา ๆ กลม จะสองขาก้ได้ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ตามบ้านเรือนก็ใช้แบบนี้จ้า

หลังจากเดินกันทั่วก็ถึงเวลาต้องนั่งรถไฟไปซูริค กำลังจะหันหลังกลับเหลือบไปเห็นเขาเปิดน้ำพุ ที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองนี้ เลยต้องหันกลับไปถ่ายภาพงาม ๆ เสียก่อน ถ่ายกันหนำใจแล้วก็เดินไปสถานีรถไฟ ระหว่างทางผ่านร้านTake a way เลยแวะซื้อแซนวิชหรือ เคบับมอร็อคใส่ไก่ย่างสุกกับ หัวหอมใหญ่ไปหม่ำกันบนรถเป็นอาหารเที่ยง พร้อมน้ำคนละขวด ใช้เวลาเดินทางจากเจนีวาไปซูริคสามชั่วโมง แม่บุญเลยได้โอกาสนอนหลับยาวเพราะเมือคืนนอนไม่หลับ

ตื่นขึ้นมาเห็นเพื่อนนอนหลับเหมือนกัน สายตาเหลือบไปเห็นเป้หลังใครไม่รู้วางอยู่ใกล้ ๆ เท้าเพื่อน เลยถามว่าเป็นของใคร ? ไม่รู้สิ..เพื่อนตอบ อ้าว..ว่าแล้วก็คิดว่าจะเอาไงดี หากปล่อยไว้บนรถคนที่มาทำความสะอาดคงเอาไปแน่ ๆ อย่ากระนั้นเลยถือลงไปด้วยดีกว่า เอาไปแจ้งว่ามีคนลืมกับตำรวจน่าจะดีเลยพากันหิ้วลงมาด้วย ก่อนลงแม่บุญขอดูหน่อยเถอะว่าข้างในมีอะไรบ้าง...โอ้โห...คอมฯ ใหม่เอี่ยม โทรศัพท์มือถือยี่ห้อแพง กระเป๋าตังค์ อีก ใครหนอช่างลืมได้ ..

ลงจากรถไฟพี่สาวกับพี่เขยมารอรับ เลยเล่าให้เขาฟัง ไป ๆ มา ๆ เลยใช้มือถือของเขานั่นแหละโทรไปตามชื่อที่เห็น พอดีมีบัตรประชาชนเลยลองหานามสกุลที่เหมือนกัน โชคเข้าข้างเพราะสามีเขารับสาย อยู่ที่เยอรมันโน่น ส่วนภรรยาผู้ทำกระเป๋าหายมาทำงานที่สวิส ตกลงเลยบอกว่าเราเก็บกระเป๋าเขาได้ให้มารับด้วย กลับไปถึงบ้านยังไม่ได้นั่งพักก็พากันเผ่นไปสนามบินเพราะเจ้าของกระเป๋าเขาจะบินไปทำงานที่อื่น โทรมาขอร้องให้เอากระเป๋าไปให้ เอ้า..ไปก็ไป ยืนคอยกันอยู่ไม่นานก็พบกัน เขาจะให้เงินเป็นค่าน้ำใจห้าสิบยูโร พวกเราไม่เอา ..เราไม่ได้ทำเพราะหวังจะได้เงินจ้า แต่ทำเพราะอยากให้รู้ว่า คนไทยมีน้ำใจเช่นไร ให้เขาจดจำสิ่งดี ๆ ไปดีกว่า แล้วเราก็กลับบ้าน อาบน้ำกินข้าวคุยกัน แล้วก็แยกย้ายกันนอน ...

Create Date : 07 มีนาคม 2554

Last Update : 8 มีนาคม 2554 1:41:08 น.

2 comments

Counter : 806 Pageviews.

สวัสดีค่ะ
มาเที่ยว Geneva ด้วยคนค่ะ ^^

โดย: Panino

วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:13:06:26 น.

ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวจะพาไปต่อนะคะ

โดย: Maeboon

วันที่: 9 มีนาคม 2554 เวลา:23:41:51 น.