เพราะความจริงนั้นนิรันดร์ จินตนาการไม่ยั่งยืน
ของขวัญปีใหม่
ดึกสงัดราวตีสามกว่าๆ อากาศข้างนอกคงจะเย็นยะเยือก แต่อากาศในหัวใจกำลังอุ่นดี ผมเพิ่งได้รับของขวัญปีใหม่ที่มีค่าจากคนที่ผมรัก น้ำตาเอ่อคลอมาปริ่มๆ น้ำตาจากความรู้สึกใดก็ยังตอบตัวเองไม่ได้
ไม่รู้สิ่งใดดลใจให้ผมเปิดบล็อกของคุณ สเลเต เข้าไป ที่แปลกใจก็คือเสียงเพลงที่บรรเลงล่องลอยออกมา Somewhere In Time เพลงอันแสนไพเราะ หงอยเหงา และช่างมีความหมายสำหรับผม
...ที่ไหนซักแห่ง ที่จินตนาการและความฝัน กับความจริงเป็นเรื่องเดียวกันได้ ...ที่ไหนซักที่ ซักช่วงเวลา ที่ความอดทนไม่จำเป็นต้องใช้ การรอคอยเป็นแต่เพียงคำพูดในนิยาย ความเหงาคือสสารที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ค้นพบ และความเสียใจมีแต่หอยทากที่รู้จักมัน ...โลกพระศรีอารย์ ยูโทเปีย หรือใน Neverland ใช่ไหมหนอ ที่เรากำลังพูดถึง
อีกประมาณสี่สิบชั่วโมง หลายคนคงจะได้เฉลิมฉลองศักราชใหม่ในแบบสากลกันอย่างเริงรื่น ผู้คนมากมายยึดถือและมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเลข แต่สำหรับผม อารมณ์อันปรวนแปร ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ มันผกผันไปกับการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก
ผมได้มีความสุขอย่างสุดพรรณนาไปล่วงหน้าประชากรบนโลกนี้ได้สักพักแล้ว เป็นเวลาหลายอาทิตย์ที่ได้ชนแก้วฉลองกับตัวเอง ออกเดทกับจินตนาการ มีอ้อมกอดและคำหวานๆในความฝัน แม้ในขณะที่หลับกลางวันเวลางาน เวลาแห่งความสุขของผม คนที่ได้ลาพักร้อนครึ่งเดือนยังต้องอิจฉา
แต่งานบุญต้องเลิกรา ต้องส่งพระส่งแขก เพื่อให้เจ้าภาพได้แกะซองทำบัญชีฉันใด เวลาแห่งการเฉลิมฉลองก็ย่อมมีสร่างซา และการเก็บกวาดฉันนั้น ผลไม้ที่สุกงอมเต็มที่ก็ถึงเวลาที่ต้องหล่นจากต้นเสียที ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม
.
ผมตั้งใจและพยายามที่จะทะนุถนอมความสุขอย่างนี้ไว้ให้ผ่านพ้นปีใหม่ปีนี้ไปให้ได้ ผมยังจำได้ว่าปีใหม่ปีที่แล้วชีวิตของผมหมองหม่นเช่นไร
คืนก่อนวันปีใหม่คุณพ่อประสบอุบัติเหตุ ผมกับแม่ช่วยกันพาท่านส่งโรงพยาบาล คืนนั้นเวลาช่างเดินอย่างเชื่องช้า ดวงดาวค่อยๆเคลื่อนไปอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าอย่างอ้อยอิ่ง เรารอคอยจนท่านได้อยู่ในความดูแลของคุณหมอ คุณแม่ดูวิตกและเศร้าหมอง ส่วนผมนั้นหัวใจกำลังสะอื้นจนเต้นไม่เป็นจังหวะ คุณแม่คงนอนไม่หลับ ส่วนผมนั้นนอนก่ายหน้าผากทั้งคืน ...ในความมืดของคืนส่งท้ายปี แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็รู้ว่าน้ำตานั้นไหลอาบแก้มตัวเอง น้ำตาที่ไหลเพื่ออุทิศให้กับความเจ็บปวดของคุณพ่อ คำตอบของเพื่อนรัก และความสัมพันธ์รักยาวนานที่เพิ่งจบลง
แต่สิ้นปีนี้ผมก็ไม่สามารถประคับประคองความสุขนี้ไห้อยู่รอดจนพ้นช่วงปีใหม่ พระเจ้าไม่ยอมให้ความร่วมมือ แม้กระทั่งผมเอง ที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากทัดทาน หรือพยายามยื้อยึดความรู้สึกนี้ไว้ และยังยินดีรับของขวัญชิ้นนี้ด้วยความเต็มใจ
..
... จินตนาการ ถึงวันหนึ่งย่อมมีสิ้นสุด ความจริงย่อมหมายถึงความจริง ไม่เป็นอย่างอื่นไปได้ จินตนาการนั้นเปี่ยมไปด้วยความชุ่มชื่นในหัวใจ แต่ความจริงก็ใช่จะแห้งแล้งไปด้วยความสุข...
ที่ผ่านมาผมพยายามสะกดจิตตัวเองว่ามีความรัก โดยใช้ความกรุณาปราณีของคนที่ผมรักมีให้เป็นเครื่องมือ ซึ่งก็ได้รับความเมตตา อนุญาตให้ทำเช่นนั้นมาโดยตลอด และคงจะยินดีเพื่อผมตลอดไป หรืออย่างน้อยก็ตลอดช่วงปีใหม่นี้ หากเขาจะได้รู้ว่าผมปรารถนาสิ่งใดอยู่ ก็คงไม่ส่งของขวัญชิ้นใหม่มาให้ในเวลานี้
เมื่อผมแกะกล่องของขวัญปีใหม่ ทุกอย่างชัดเจนกระจ่างใส ทุกอย่างย้อนกลับไปเหมือนเมื่อวันที่มันเริ่มต้น วันที่หยิบยื่นมิตรภาพให้แก่กัน สัญญาณต่างๆที่ส่งมายังคงเป็นประจักษ์หลักฐานถึงเจตนารมณ์อันดีที่มีให้ และร่องรอยที่ผมพยายามแปลงสัญญาณให้บิดๆเบี้ยวๆกลับไป ...มันคือสัญญาณที่ฟ้องว่าผมกำลังสะกดจิตตัวเองอยู่ ซึ่งกระตุ้นให้ของขวัญมาถึงมือผมเร็วกว่าเวลาที่ควรจะเป็น
.....
...ยาจกนั้นมิควรได้รับเพชรจากเศรษฐีใจดี สิ่งที่เขาควรได้ก็แค่เพียงอาหารที่กินอิ่มในแต่ละมื้อ คุณค่าของเพชร แม้ตาฝ้าฟางของคนยากไร้จะมองเห็นได้อย่างกระจ่างชัด แต่ก็ยากยิ่งที่จะเห็นวิธีถนอมรักษาเอาไว้ และวิธีสวมใส่ที่เชิดชูคุณค่าของเพชรนั้น อาหารอิ่มท้องที่ท่านปันให้ในทุกมื้อ น่าจะมีค่าสำหรับชีวิตของคนยาก มากกว่าเพชรที่ใครใฝ่ฝันถึง...
แม้ในจินตนาการอันแสนงามจะมีเจ้าหญิงเจ้าชาย มีความรักในอุดมคติ มีความสุขที่ปรารถนา แต่ในความจริงนั้นยังมีอ้อมกอด มีความอบอุ่น มิตรภาพ และความรู้สึกดีๆที่ให้กันอย่างพอประมาณ ...ถ้าเป็นเช่นนั้นผมยอมปลดปล่อยตัวเองออกมาจากจินตนาการ ...จินตนาการที่วันหนึ่งอาจย้อนกลับมาทำร้าย จินตนาการทำให้ทุกอย่างพังอย่างที่ไม่สามารถเรียกกลับคืน เหมือนอย่างที่ผมเคยปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับมัน ล่องลอยไกลห่างออกไปจากความจริงทุกที ไกลจนวันหนึ่งเมื่อหันกลับมามอง ก็พบว่าความจริงมันช่างดูโหดร้ายเกินไปเสียแล้ว
ดั่งนกน้อยที่ใจระเริง มองเห็นว่าปุยเมฆข้างบนช่างงดงาม ก็กระพือปีกน้อยๆของมันบินตามความปรารถนา ด้วยใจที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความหวัง จนวันหนึ่งที่ค้นพบความจริงว่าบินสู้แรงลมข้างบนไม่ไหว ปีกน้อยๆก็พลันหมดแรงลงทันใด ...หัวใจนั้นได้แตกสลายไปก่อนที่ร่างจะร่วงกระทบพื้นดินจนแหลกเหลวเนิ่นนานแล้ว
ผมอาจจะเคยเป็นดั่งนกน้อยน่าสงสารตัวนั้น และกำลังพยายามบินขึ้นไปหาเมฆสูงก้อนนั้นอีกครั้ง แต่ก็มีพญาอินทรีย์ที่รักและเคารพได้กระซิบเตือนว่า
บนนั้นแม้งามก็จริง แต่จะมีกิ่งไม้ ชะง่อนหิน ให้เจ้าเกาะยามเหนื่อยล้าหรือหลบลมฝน รึก็หามีไม่ แม้เจ้าขึ้นไปถึงบนนั้นได้จริง ก็จะพบแต่ความความเงียบเหงาและหนาวเหน็บ เพราะมีนกไม่กี่ตัวเท่านั้นหรอกที่มีหัวใจเสรี รู้จักฝัน และมีความหวังเหมือนเช่นกับเจ้า ...ในท้องทุ่งนา บนยอดหญ้า และป่าเขา ก็งดงามไม่แพ้บนเมฆสูงนั้นเลย
ค่อยๆไต่ระดับลงมาเถิดนกน้อยเอ๋ย เสียงเพลงอันแว่วหวาน นั้นดังขึ้นไปไม่ถึงบนก้อนเมฆนั้นหรอก สีสันของดอกไม้ กลิ่นกรุ่นของหญ้าฟาง ไกลห่างถึงเพียงนั้นเจ้าจะเห็นจะได้กลิ่นหรือ พญาอินทรีย์ที่เจ้ารักและชื่นชม ก็พำนักอยู่บนพื้นพิภพเช่นเดียวกันกับเจ้า ใยจึงต้องบินขึ้นไปหาบนนั้น
หัวใจเสรีของเจ้า ยังมีคุณค่ากับสิ่งต่างๆอีกมากมาย แทนที่จะต้องมาแหลกสลายเพราะความเชื่ออันบริสุทธิ์ ที่มีต่อความรัก และความฝัน ลงมาเถิด ทำหัวใจให้อบอุ่น สลัดทิ้งความเงียบเหงาที่เกาะกุม แล้วโอบกอดร่างน้อยๆ ด้วยปีกและหัวใจดวงเล็กๆของเจ้าเอง ความงามที่รายล้อมรอบตัว ก็จะปรากฏทั้งต่อหน้า และในใจของเจ้า
เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ผมเลือกที่จะเชื่อเสียงกระซิบของนักปราชญ์ โดยต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำเป็นไม่แยแสกับเสียงเรียกร้องในหัวใจ ละทิ้งจินตนาการ เข้าข้างความจริง เลือกความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่จับต้องและโอบกอดได้ในบางคราว ยอมรับกับความจริงทั้งหลาย โดยเฉพาะข้อที่ว่า ผมรักคุณ อย่างไม่มีที่มาและปราศจากที่ไป ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่คุณได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้
และของขวัญชิ้นล่าสุดที่เพิ่งได้รับมา กับความจริงที่คุณบอกให้ผมรู้ว่า
" สิ่งที่ยื่นให้นั้นเป็นมิตรภาพ แต่ถ้าจะตีความเป็นความรักหรืออะไรที่มีความสุขก็ไม่ว่า เพียงแต่อยากให้ชัดเจน ไม่อยากให้เป็นว่าส่งสัญญาณผิดๆ ออกไป เดี๋ยวจะต้องกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่ผิดทุกขั้นตอนเหมือนคราวก่อน ซึ่งคุณเองก็บอกว่าไม่น่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น "
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ "ผมรักคุณ" และเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงได้อย่างไร
.....
มะดัน / 29 - 30 ธันวาคม 2549 / 03.12 16.00 น.
ผ่านการแก้ไขใหม่หลายรอบ จนกลายเป็นงาน "ป็อป" ไปแล้วหล่ะครับ ขอบคุณพี่หมอน ทัชชี่ และน้องปลาทู ที่ช่วยคอมเมนท์และให้มุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ขอบคุณ คนที่ผมรัก ที่มอบของขวัญชิ้นนี้ให้ และหลังจากช่วยอ่านแล้ว ก็ไม่ได้ติติงตรงไหน แถมยังเอ่ยปากชม ไอ้ผมก็กลัวว่าจะโดนด่าหาว่าคิดมาก นี่ก็เป็นหนึ่งในหลายๆปัจจัยที่ทำให้ผมกล้ารักคุณ เพราะคุณไม่เคยทำให้ผมรู้สึกกลัวหรือผิดเลยที่จะทำอะไรลงไป แม้ความรักของผมจะไปไม่ถึงสิ่งที่ฝันไว้ แต่ทุกวันที่เป็นอยู่นี้ มันก็ดีอยู่แล้ว ขอบคุณมากครับ
และสุดท้ายต้องขอบคุณหัวใจตัวเอง ที่ให้ความร่วมมือในการหยุดใช้จินตนาการในเรื่องนี้ เราจะไม่ชนะใจตัวเอง แต่เราจะก้าวไปด้วยกัน มีเรื่องราวอีกมากมายที่เราต้องทำร่วมกัน ถ้าไม่ได้แรงผลักดันจากหัวใจ คงไปได้ไม่ถึงไหน
Create Date : 30 ธันวาคม 2549 |
|
15 comments |
Last Update : 5 มกราคม 2550 0:01:45 น. |
Counter : 1625 Pageviews. |
|
|
|
สุขภาพแข็งแรง ฐานะมั่นคงร่ำรวย
การงานราบรื่น ครอบครัวสุขสันต์
คนรักอุปถัมป์ค้ำชูมากมาย
สวัสดิภาพ มีชัย มีโชคลาภ
ตลอดไปน๊ะครับ