กุมภาพันธ์ 2551

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
อารารัตภูเขาแห่งความเจ็บปวด









- - ไม่เคยมีผู้ใดพิชิตยอดเขาอารารัตอันสูงตระหง่านจนกระทั่งเมื่อคริสตศตวรรษที่ 19 เนื่องจากว่าบรรดานักบวชและศาสนิกชนต่างเชื่อกันว่า มนุษย์มิควรจะเหยียบย่างไปที่ "ยอดบรรพตศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเป็นที่สถิตของซากเรือแห่งโนอาห์ - -

อารารัตเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดกาล ตระหง่านชูยอดเทียบท้องฟ้าราวกับนกปากสีเงินที่งามสง่า ชาวพื้นเมืองบริเวณนั้นเรียกภูเขานี้ว่า อากรี ดากี หรือ อารี ดาอี อันหมายความว่า "ภูเขาแห่งความเจ็บปวด" ภูเขานี้ผุดขึ้นโดดเด่นจากลุ่มแม่น้ำอาราสทำให้เกิดเป็นภาพภูเขาหิมะตัดกับภูมิทัศน์รอบๆ ซึ่งเป็นผืนดินขรุขระเต็มไปด้วยฝุ่น แต่ทราบไหมว่า กิตติศัพท์ของภูเขาอารารัตนี้มิได้เกิดจากรูปทรงสมมาตร แนวลาดที่ดูเรียบ และเกร็ดหิมะขาวที่ปกคลุม หากชื่อเสียงของอารารัตมาจากพระคัมภีร์ที่พวกเราคุ้นเคยกัน คัมภีร์ไบเบิล...

ตามพระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า เมื่อน้ำท่วมโลกได้ลดลง ภูเขาอารารัตนั้นคือภูเขาลูกแรกที่ยอดโผล่พ้นผิวน้ำ และเป็นที่ๆเรืออาร์คของโนอาห์ได้ลงจอด ซึ่งอันที่จริงนะครับ อารารัตเป็นภูเขาที่มีสองยอดโดยมีระยะทางห่างกันประมาณ 11 กิโลเมตร ยอดทั้งสองที่ว่าประกอบด้วย ยอดเขาเกรต อารารัต สูง 5,137 เมตร ซึ่งถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศตุรกี กับอีกยอดเขาหนึ่งคือ ลิตเติล อารารัต ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 3,896 เมตร ยอดเขาทั้งคู่เดิมเป็นภูเขาไฟและประกอบด้วยเถ้าลาวาหลายชั้น แม้ปัจจุบันจะไม่ร่องรอยภูเขาไฟให้เห็นที่ยอดทั้งสอง แต่รายรอบตามลาดยังมีกรวยและรอยแยกอันเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟให้เห็นอยู่ ก้อนหินที่พื้นรอบๆเขาก็ยังมีร่องรอยของภูเขาไฟให้เห็นอยู่บ้าง

ภูเขาอารารัตเป็นภูเขาที่บริเวณส่วนใหญ่ไร้พืชพันธุ์ขึ้น และถึงจะมีหิมะปกคลุมแทบตลอดทั้งปีแต่ภูเขานี้ก็ขาดแคลนน้ำอย่างหนัก มีพืชตระกูลเบิร์ชบางต้นเท่านั้นที่ยังคงขึ้นอยู่ได้ ทว่าบริเวณช่วงกลางของลาดเขาที่สูงประมาณ 1,500 - 3,000 เมตรนั้นยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่บ้าง ชาวไร่เคอร์ดิชสามารถเลี้ยงแกะได้บนทุ่งหญ้าบริเวณนี้ และในอดีตเคยมีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ตามแนวรายรอบบริเวณ น่าเสียดายที่ปัจจุบันเราพบกันไม่กี่ชนิดเท่านั้น เคยมีบันทึกของนักการทูตอังกฤษสมัยศตวรรษที่ 19 รายงานว่า พบหมี เสือภูเขา และสิงโตอยู่ด้วย ในสมัยกลางดินแดนแถบนี้เล่าลือกันว่าเป็นที่อยู่อาศัยของมังกร รวมทั้งตำนานของหนอนน้ำแข็งพิศดาร ที่ลำพังด้วยตัวเล็กกระจิ๋วของมันกลับทำให้น้ำผลไม้ชามใหญ่กลายเป็นน้ำแข็งไป




เพราะตำนานเหล่านี้ ทำให้นักไต่เขาและนักผจญภัยพากันหวั่นหวาดไม่อยากขึ้นมาบนเขาลูกนี้ นอกจากเรื่องเล่าลือแล้ว อันตรายอันเกิดจากอุปัทวเหตุต่างๆเช่น หิมะถล่ม หมอกมืดอันปกคลุมอยู่ชั่วนาตาปี และภูมิอากาศที่มักเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้นักไต่เขาพากันเข็ดขยาดไม่อยากยุ่งกับภูเขาอารารัตมากนัก จนกระทั่งปี ค.ศ. 1829 เมื่อ โยฮัน ยาคอบ ฟอน ฟาโรท ศาสตราจารย์ชาวเยอรมันวัย 37 ปี ไต่ขึ้นยอดเขาจนสำเร็จหลังจากที่พยายามมาสามครั้ง เขาฉลองความสำเร็จโดยปักไม้กางเขนที่ยอดเขา และนับจากนั้นเป็นต้นมา สาวกนักพิชิตภูเขาก็แห่กันตามรอยของฟาโรท เป็นการใหญ่ หนึ่งในนั้นคือ เจมส์ ไบรซ์ รัฐบุรุษผู้มีชื่อเสียงของอังกฤษ ซึ่งพิชิตยอดเขานี้สำเร็จในปี ค.ศ. 1876 ไบรซ์รู้สึกซาบซึ้งอย่างประหลาด เมื่อเขามองจากยอดเขาข้ามที่ราบอันปกคลุมไปด้วยฝุ่นไปยังดินแดนต่างๆที่เคยเป็นบรรดาอาณาจักรของ ซาร์ ชาห์ และสุลต่าน เขาปรารภไว้ในงานเขียนของเขาภายหลังว่า...

"ถ้า ณ ที่นี้เป็นที่แรกซึ่งมนุษย์ย่างเหยียบพื้นโลกอันปราศจากผู้คน เราก็คงจินตนาการได้ว่าการกระจายของมนุษย์นานาเผ่าพันธุ์จากยอดเขาอันศักดิ์สิทธ์นี้จะยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่มีที่แห่งใดจะเหมาะเป็นศูนย์กลางโลกมากกว่าที่แห่งนี้อีกแล้ว..."

เจ้ายักษ์ผู้อ่อนโยน ฉายาหนึ่งของภูเขาอารารัต บ่งบอกถึงขนาดของมันว่าเป็นยักษ์แห่งอาร์เมเนีย ภูเขาลูกนี้ตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางผืนดินรอบๆ ดูมโหฬารทั้งความสูงและขนาดซึ่งวัดโดยรอบได้ถึง 40 กิโลเมตร อารารัตไม่เพียงแต่จะดูสวยงาม แต่ยังสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ตลอดแถบที่ราบอนาโตเลีย ชาวเปอร์เซียพากันเรียกภูเขาลูกนี้ว่า โคอินูห์

ถ้าจะว่าไป กิตติศัพท์ของอารารัตคงเริ่มมาจากพระคัมภีร์บเบิล ในตอนนั้นพระเจ้าอิดหนาระอาใจกับความใจบาปของมนุษย์บนโลก พระองค์จึงตัดสินพระทัยที่จะกำจัดให้หมดสิ้นโดยการบันดาลให้น้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ เหลือไว้แต่โนอาห์ผู้มีคุณธรรม รวมทั้งนกและสัตว์ทุกชนิดอีกจำนวนหนึ่งคู่ พากันไปหลบภัยอยู่ในเรือลำใหญ่ และในวันที่สิบเจ็ดของเดือนเจ็ด นาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต เมื่อน้ำลดลงหมดแล้ว โนอาห์ ครอบครัวของเขาและสัตว์ทั้งหลายก็ค่อยพากันออกจากเรือ

*** ในเรื่องราวของสุเมเรียนและบาบิโลเนียน มีเรื่องราวที่เหมือนกับของโนอาห์อยู่ด้วย เมื่อเทพ Enki ประสงค์จะกวาดล้างมนุษย์ วีรบุรุษผู้พาสิ่งมีชีวิตและครอบครัวหนีตายจากน้ำท่วมชื่อ อุชนาปิชทิม ส่วนในเรื่องราวของอินเดีย พระมนูหนีน้ำท่วมและลงเรือที่ยอดเขาชื่อ "อารยวรรต" ซึ่งเพี้ยนมาจาก"อารารัต" หรือไม่ก็ยังไม่มีผู้ใดบอกได้



ไบเบิ้ลมิได้ระบุอย่างชัดเจนว่าภูเขาลูกใดในดินแดนอารารัตโบราณที่เรือของโนอาห์มาเกยตื้นอยู่ ตำนานของชาวอาร์เมเนียและชาวเปอร์เซียผู้มีถิ่นฐานอยู่ในแถบตุรกีด้านตะวันออกนี้ตั้งแต่ก่อนคริสตกาลระบุว่า เรือมาเกยตื้นที่ อากรี ดากี ชาวอาร์เมเนียเชื่อว่าตนคือมนุษย์พวกแรกหลังน้ำท่วมโลก และชาวเปอร์เซียเรียกแผ่นดินรอบๆอารารัตว่าเป็น "อู่กำเนิดของมนุษยชาติ"

นับตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลเป็นต้นมา มีผู้รายงานว่าเห็นเรือของโนอาห์อยู่บนยอดเขานี้หลายต่อหลายครั้ง รายงานครั้งแรกนั้นกล่าวว่า มีนักบวชชาวคาลเดียน(บาบิโลน)ขูดคราบถ่านออกจากตัวเรือ ผู้คนในสมัยกลางต่างก็บอกเล่าว่ามีหลายคนเคยเห็นซากเรือ ตัวไบรซ์เอง เขาก็บอกว่าเคยเห็นบางสิ่งที่อาจเป็นส่วนประกอบของซากเรือ "ท่ามกลางก้อนลาวา มีไม้ชิ้นหนึ่งยาวประมาณ 4 ฟุตและกว้าง 5 นิ้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถูกถากด้วยเครื่องมือ" ในปี ค.ศ.1916 นักบินชาวรัสเซียผู้หนึ่งเคยบินข้ามเขาแถบนี้และรายงานว่าได้พบเห็นซากเรือขนาดใหญ่ พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 จึงได้ส่งทีมงานออกค้นหา คณะสำรวจของรัสเซียกลับมาพร้อมบันทึกและรูปถ่ายมากมาย ซึ่งยังไม่ทันได้เปิดเผยต่อโลกก็ดันมาเกิดการปฏิวัติรัสเซียเสียก่อน และหลักฐานทุกอย่างหายไป

การตรวจสอบเศษไม้ที่อ้างว่ามาจากลำเรือด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ปรากฏว่า ไม่มีไม้ชิ้นใดที่เก่าแก่พอที่จะย้อนไปถึงยุคของโนอาห์ได้เลย มีทฤษฎีหนึ่งเสนอว่า ที่พบเห็นกันนั้นคงไม่ใช่ซากเรือ หากแต่เป็นซากอารามที่เคยเป็นที่จาริกแสวงบุญของเหล่านักบวชมาหลายศตวรรษ แต่ถูกทำลายไปด้วยแผ่นดินไหวเมื่อราวๆปี 1840



ไม่ว่าเรือของโนอาห์จะมีอยู่จริงหรือไม่ ภูเขาอารารัตก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มันยังคงตระหง่านท้าทายสายตามนุษยชาติไปอีกแสนนาน สมกับคำที่เจมส์ มอร์เรีย เขียนบรรยายถึงอารารัตเอาไว้ว่ามัน "ช่างงดงามสมบูรณ์ไปเสียทุกส่วน ทุกสิ่งดูกลมกลืนรับกันไปหมด"

*** ห้อยท้าย1. การสร้างเรือของโนอาห์ตามบทเยเนซิสกล่าวเอาไว้ว่า พระเจ้าทรงเลือกให้โนอาห์ผู้มีอายุ 600 ปีเป็นผู้อยู่รอดเนื่องจากว่าเขาเป็นคนยุติธรรม พระเจ้าทรงแจงวิธีสร้างเรือให้กับโนอาห์อย่างละเอียดทำให้โนอาห์กับภรรยา และบุตรชายทั้งสามคือ ฮาม เชม และ ยาเฟท รอดจากน้ำท่วมโลกมาได้

ห้อยท้าย 2. พระเจ้าจากอวกาศทำการดัดแปลงโนอาห์ มนุษย์รุ่นเก่าผู้มียีนอัจฉริยะคนสุดท้ายบนเรืออาร์ค บุตรทั้งสามของโนอาห์ที่กำเนิดขึ้น แทนมนุษย์สามเผ่าพันธุ์บนโลกนี้คือ คอร์เคซอยด์ นิกรอยด์ และ มองโกลอยด์ กระนั้นหรือ?


บทความนี้มาจาก Mythland



Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2551 12:04:29 น.
Counter : 810 Pageviews.

2 comments
  
ดีมาก ชอบเรื่องแบบนี้มาก หามาให้อีกนะค๊ะ
โดย: พั้นซ์ IP: 203.156.68.220 วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:19:27:22 น.
  
$$$$$$$$$$$$$$$


.....test...........


WWWWWWWWWWW
โดย: light IP: 182.52.42.223 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:27:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Taeng_Ph
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"เหรียญยังมีสองด้าน มนุษย์เราก็เช่นกัน"
  •  Bloggang.com