ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด VS วิชาอนาคตประวัติศาสตร์

ข้อเขียนนี้ ผมเขียนขึ้น เมื่อคืนวันที่ 5 พฤษภาคมนะครับ
(วันนั้นเหตุการณ์รุนแรงยังไม่หนักหนาขนาดวันนี้)

เป็นการเขียนหลังจากที่ได้ไปนินทาการเมืองกับพี่ๆ เพื่อนๆ กัลยาณมิตรของผมก้วนหนึ่ง
(ตามปกติจะนินทาทั้งเรื่องหุ้น การเมือง ไปจนกระทั่งเรื่องธรรมะ
-เผอิญว่าช่วงนี้เรื่องไหนจะแรงเท่าการเมืองคงไม่มี)

และอยากจะบอกว่า ข้อมูลก้วนนี้ ระดับไม่ธรรมดานะครับ ลึกถึงข้างในจริงๆ
ทั้งข้อมูลดิบ ไปจนถึงระดับข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ข้อมูลวงใน


(วันนี้เอามาเกลาอีกนิด ให้เนียนขึ้นอีกหน่อย)




=======================================================






ลองโยนคำถามเล่นๆ




สมมตินะครับสมมติ..


สมมติว่าเราไม่เชื่อทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด


แต่เราเชื่อในเรื่องของกงล้อประวัติศาสตร์
หมายถึง เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ถูกผลักดัน และแปรเปลี่ยนไปเองอย่างเป็นธรรมชาติ ไปตามครรลองของมัน


พูดง่ายๆ ว่า..
เหตุการณ์ต่างๆ วันนี้ ไม่ได้มีหลังฉากตัวใหญ่เป๋งๆ


ไม่มีซาอุ ไม่มีตะวันออกกลาง ไม่มีสิงคโปร์ ไม่มีอเมริกา



คือสิ่งต่างๆ หมุนเปลี่ยนไปตามกงล้อของมัน
ทุกคนเล่นไปตามบทบาทที่ตนเองมี ตนเองเชื่อ ที่ตนเองได้ประโยชน์
ทั้งนักการเมือง กลุ่มทุน ประชาชน พวกอุดมคติหลงยุค ไปจนถึงสถาบันต่างๆ



คือไม่มีหรอก คนที่คุมเกมส์กระดานประเทศไทยที่แท้จริง
แต่ละฝ่ายอาจจะมีเบื้องหลัง เบื้องลึก พลัง อำนาจ
แต่ไม่มีฝ่ายไหนเป็นคนกำหนดเกมส์หลักอยู่ฝ่ายเดียว

ทุกคนมีตำแหน่งแห่งหนของตัวเอง
มีผลประโยชน์ มีความเชื่อของตัวเอง


และทั้งหมดนี้กำลังผลักดัน พลัดกันดัน ประเทศเราไปสู่อนาคต


---

จริงๆ แล้ว นี่ก็เป็นโมเดลหนึ่งที่ผมคิดนะครับ


คือไม่ได้หมายถึง จะไม่มีอำนาจที่ใหญ่ๆ นะ
คือยังเชื่อว่าตัวเล่นหลักๆ นั้นมีอยู่ (ที่พอจะรู้กัน)

แต่ตัวเล่นแต่ละตัว ก็มีขอบเขตของตัวเองอยู่
หาได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ในการกำหนดผลลัพธ์ของอนาคต ให้เป็นไปทางใดทางหนึ่งตามใจตัวได้



แต่ประวัติศาสตร์ กำลังผลักดันตัวมันเอง
ให้หมุนไปตามกงล้อประวัติศาสตร์ ที่อาจจะเหมือนบ้าง แตกต่างบ้าง คล้ายคลึงบ้าง
กับหน้าประวัติศาสตร์อื่นๆ ที่คล้ายๆ กัน , ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรัฐชาติอื่นๆ


---

จริงๆ การที่เราเป็นคนเล่นหุ้น (และดูหนังฮอลลิวู้ด)
ผมว่า มันทำให้คนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ ค่อนข้างจะเชื่อในเรื่องของ

"ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด"

คือคนเล่นหุ้น ส่วนใหญ่ น่าจะมีความเชื่อ ในทำนองที่ว่า
สิ่งต่างๆ ถูกมือดีกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว


---

แต่การกำหนดเรื่องราวในตลาดหุ้น

กับการกำหนดประวัติศาสตร์ของรัฐชาติหนึ่งๆ
ผมว่า การชี้นำ โดยกำหนดผลลัพธ์ไว้แล้วนั้น

หรือหมายถึงว่า การชี้นำโดยหวังผลในระดับสูงๆ ว่าจะไปตามนั้น ตามนี้ ไม่น่าจะเป็นไปได้




โมเดลเรื่องที่ว่า ประวัติศาสตร์เรา เปลี่ยนแปลงไปตามครรลองของมันเอง
จริงๆ แล้ว เป็นหนึ่งในโมเดล ที่ผมให้น้ำหนักมากอยู่นะครับ



ถ้าเชื่อในโมเดลนี้
ผู้เล่นตัวหลักๆ ก็น่าจะเป็น บุคคล และกลุ่มบุคคลที่เราๆ เห็นๆ หน้ากันอยู่แล้วนี่แหละ





ในทางเศรษฐศาสตร์(บริสุทธิ์)

ก็จะเรียกเรื่องทำนองนี้ว่า "กลไกราคา"
หรือ "invisible hand" นั่นเอง..


---

ถ้าพูดเอียงไปทางศาสนาพุทธหน่อย


ก็ต้องพูดว่า เป็น
"การลิขิตกรรม(หมู่)" ของคนชนชาติหนึ่ง



ถ้าเชื่อเรื่อง "ลิขิตกรรม"
"กรรมลิขิต"

ก็ต้องลดทอนความเชื่อในเรื่องดวง เรื่องโชคชะตา


กรรมเก่าแก้ไม่ได้
แต่กรรมปัจจุบัน กรรมใหม่สร้างกันได้




อันนี้มองในมุมที่ไม่เชื่อเรื่องของ "ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด" นะครับ
คือเชื่อในกงล้อประวัติศาสตร์ (ที่จะหมุนไป)


---

จริงๆ ผมเป็นคนชอบ "ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด" นะครับ


ขณะเดียวกันผมก็ชอบ
"วิชาอนาคตประวัติศาสตร์" ของฮาริ เซลดอล เหมือนกัน



รูปแบบของประว้ติศาสตร์มันจะมีวิวัฒนาการ ไปในทำนองคล้ายๆ กัน

ไม่ว่าจะมีการพยายาม ยกโมเดล ปฎิวัติฝรั่งเศษ
หรือก่อนหน้านี้ ก็พยายามจะยกเรื่อง 6 ตุลา



การพัฒนาประเทศชาติหนึ่งๆ จากอดีต สู่อนาคต
ก็มักจะมีรูปแบบคล้ายๆ กัน (พออ้างอิงกันได้)

จากลัทธิความเชื่อ
ลัทธิทางศาสนา
ลัทธิทางทหาร
สู่ลัทธิการค้าพาณิชย์
สู่ลัทธิเทคโนโลยี
..อันนี้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์โลก
และตามประวัติศาสตร์ของ "วิชาอนาคตประวัติศาสตร์" นะครับ



ถ้าเชื่อ "วิชาอนาคตประวัติศาสตร์" แล้ว
ต้องเชื่อว่า แต่ละหน่วยในสังคม เคลื่อนไหวอย่างเป็นปัจเจก และเป็นอิสระ
แต่รูปแบบนั้น มันจะมีรูปแบบที่พอคาดหมายกันได้



หากวิวัฒนาการต่างๆ มันจะมีเป็นรูปแบบคล้ายๆ กัน
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ทุกวันนี้

อาจจะไม่ใช่ "การสมรู้ร่วมคิด" กันของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มเดียว

แต่เป็นการกระแทกกระทั้น ส่งผลกระทบกันไปมา อย่างไม่มีรูปแบบ
เพียงแต่ จะได้ผลลัพท์ที่มีรูปแบบ คล้ายคลึง กับประวัติศาสตร์ ของประเทศที่พัฒนาไปก่อนล่วงหน้าเรา


---

"วิชาอนาคตประวัติศาสตร์"
เป็นไอเดียที่อยู่ในหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์ชุด "สถาบันสถาปนา" นะครับ


ถ้าแถวนี้ใครยังไม่เคยอ่าน และสนใจอ่านบอกหนมเม็ดได้ครับ
หนมเม็ดมีครบทุกเล่ม ให้ยืมได้ เพราะอาจจะหาซื้อยากหน่อย (เฉพาะของไอแซกนะ)


---

ระหว่างที่จะหาภาพบางภาพ (ซึ่งหาไม่ได้555)

ผมได้ไปเจอเวปนี้โดยบังเอิญ

//www.mythland.org/v3/thread-2868-1-1.html

มองว่าน่าสนุกดี เลยเอามาลงให้ดูกัน

อ่านเวปนี้ แล้วนึกถึง
1. หนังเรื่อง men in black (Entertainment Tabloid)
2. หนังสือเรื่อง "จุดดับแห่งนิรันด์" ซึ่งเขียนโดยไอแซก อาซิมอฟ เหมือนกัน
3. หนังเรื่อง the time machine




ไปแล้วครับ






====================================================





เพิ่มเติม หนังสือชุด "สถาบันสถาปนา"
เป็นเรื่องราวที่ ยกย่อง "วิชาอนาคตประวัติศาสตร์" นะครับ
แต่เนื้อหาจริงๆ เป็นแนว "ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด" ที่แสบสันต์ระกำทรวงอันหนึ่งเลยนะ






แค่นี้ครับ.. ไม่ได้ขยับบล็อกนานมั่กๆ (วันนี้ก็ต้องเอาของเก่ามาหากิน555)



Create Date : 16 พฤษภาคม 2553
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 10:16:47 น. 2 comments
Counter : 6302 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:56:07 น.  

 
อยากลองอ่านคะ ชอบอ่านหนังสือ
ว่าแต่ จะได้อ่านปาวนะ


โดย: goyajang วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:19:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.