[ไร้สาระ] วิธีแก้ปัญหาน้ำท่วมโลก และการสร้างดาวเคราะห์ดวงใหม่!! โห... ขึ้นหัวบล็อกมาเร่าใจดีป่ะ!?.. ออกตัวก่อนนะ บล็อกฟุ้งซ่านนี้ หาสาระไม่ได้จนกว่าจะร้อยปีข้างหน้านะ!! ************ เกริ่นก่อน.. วันนี้ขณะนั่งรถทัวร์เพื่อไปกราบหลวงพ่อจรัญ ด้วยความว่างจัด สมองก็คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย คิดไปคิดมา มาคิดถึง "เรื่องอ้อมค้อม" อย่างที่เคยอ้อมค้อมไปให้ฟังมาแล้ว ในบล็อก่อนหน้านี้ เดี๋ยวนี้ เวลาคิดเรื่องอะไร หลายครั้ง ก็พยายามคิดแบบตรงไปตรงมาสุดๆ บางไอเดียความคิดของผม เคยไปเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาแล้วนะ!! จริงๆ ไม่ได้โม้นะ.. อย่างเรื่อง "ทำฝนเทียมสลายม๊อบ" เป็นต้น คงเคยได้ยินเป็นข่าวกันบ้าง ที่ว่าม๊อบออกมาโว๊ยว่า.. รัฐบาลทำฝนเทียมสะกัดม๊อบ ..ผมก็ไม่รู้นะว่า คนที่เค้าเอาเรื่องนี้มาพูดจนเป็นข่าว (กล้าพูดด้วย) เค้าคิดเหมือนผมเองโดยบังเอิญ หรือว่าได้ยินได้ฟังอ้อมๆ มาจาก "เวปกระทิงเขียว" ..ที่ผมเคยพูดไอเดียนี้ไว้ นานมาแล้วพักใหญ่ ก่อนที่จะเป็นข่าว ก่อนหน้าที่ผมพูดเรื่อง "ทำฝนเทียมสะกัดม๊อบ" นั้น ผมไม่เคยได้ยินใครเคยพูดถึงมาก่อนเลยนะ .. ผมกล้าพูดว่า ผมคิดเอง เอ่อเอง มันส์เอง 555 จริงๆ แล้ว ผมมีไอเดียการสะกัดม๊อบอีกไอเดียหนึ่ง ซึ่งเด็ดกว่า ที่ผมไม่เคยพูดในที่สาธารณะด้วยแหละ ..แต่เกรงว่า หากเกิดมีการเอาไปใช้จริงๆ หรือแค่เป็นข่าว มันจะไม่ดี (ถ้ามองว่าเรื่องฝนเทียมทำได้ เรื่องนี้ก็ทำได้ 555) ****** ก่อนไปเรื่อง การแก้ปัญหาน้ำท่วมโลก ผมขออ้อมค้อมไปอีกเรื่องนะ.. ระหว่างที่นั่งรถทัวร์คิดเรื่องอ้อมค้อมอยู่ ใจก็พลันนึกไปถึง บางความคิดของคนเรา เช่นการอยากหมุนเวลาย้อนกลับไป เพื่อหาความทรงจำในอดีต.. เวลาย้อนกลับไม่ได้นะ.. และไม่ควรพยายามจะย้อนเวลากลับด้วย แต่เราแก้ไขสิ่งที่เราทำผิดพลาดไปในอดีตได้ ..โดยที่ไม่จำเป็นต้องย้อนหมุนเวลากลับไปแต่อย่างใดเลย เพียงแต่แค่ เราทำสิ่งที่ใจเราปราถนาในวันนี้ ให้ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์กับตัวเองเท่านั้นพอ เช่น.. ถ้าเราคิดถึงแฟนเก่าของเรา เรายังรัก และปราถนาในเค้าอยู่ ถ้าเราพบว่า เราก็โสด , แฟนเก่าเราก็โสด.. ..แม้จะเคยเลิกร้างกันไป แต่ถ้าต่างฝ่าย ยังรักและปราถนาในตัวอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ มันก็ไม่เห็นจะยากเย้นตรงไหนเลย.. ..ก็แค่กลับไปหา ไปคืนดีกันซ่ะ ก็สิ้นเรื่อง แต่ถ้าเราโสด คิดถึงแฟนเก่าเรา , แฟนเก่าเรา ก็ยังคิดถึงเรา ยังรักกันอยู่ แต่บังเอิญว่า แฟนเก่าเรา วันนี้เค้ามีคนอื่นไปแล้ว.. ..แบบนี้ ก็ลำบากหน่อย เพราะถึงต่างฝ่าย ต่างยังรักกันอยู่ แต่ฝ่ายหนึ่งก็มีพันธะไปซ่ะแล้ว.. เราจะไปแย่งเค้ากลับมา ก็กระไรอยู่ , แย่งของรักจากคนอื่น นี่มันบาปทั้งศีลข้อ 2. และ ข้อ 4. เลยนะ.. เรื่องแบบนี้ ถ้าฝ่ายที่มีพันธะอยู่คือเค้า ไม่ใช่เรา.. ..มันก็ขึ้นอยู่กับเค้าไม่ใช่เรา เราทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าสมมติว่า.. คนที่พันธะอยู่ ไม่ใช่เค้า แต่เป็นเราหล่ะ!? เรามีแฟนใหม่แล้ว แต่เรายังรักคนเก่าอยู่ , ไม่ได้รักแฟนใหม่เลย ..แบบนี้เราต้องถามตัวเองว่า จะเอายังไงกับตัวเอง กับชีวิตตัวเอง? จะยืนยัดคบกับแฟนปัจจุบัน โดยที่เรารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเราไม่ได้รักแฟนปัจจุบันเลย ใจเรายังคงรัก และห่วงหาอาทรคนรักเก่าอยู่ ..คนรักเก่าเรา ก็ยังห่วงหาอาทรเราอยู่เหมือนกัน.. แบบนี้คงต้องถามตัวเอง , ถ้าแฟนปัจจุบันรู้ว่าเราไม่ได้รักเค้า เค้าจะยินดีมั้ย?? ..แล้วเราหล่ะ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่ได้รักแฟนปัจจุบัน เรายังเลือกที่จะคบเค้าต่อไปอีกงั้นหรือ?? แล้วสมมติ หากถึงว่าต่อไปจะสร้างครอบครัวกันหล่ะ? เราจะสร้างครอบครัว จากรากฐานที่ไม่มีความรักกันเลยอย่างงั้นหรือ?? ..แล้วครอบครัวจะเป็นยังไง.. คนเรานี่แปลกเหลือเกิน ทำไมชอบทำอะไรอ้อมค้อมกันนัก?? อยากจะยืนหยัดว่าตัวเองคิดถูก ด้วยการทำสิ่งที่ผิดอย่างงั้นหรือ?? แค่ฝากให้คิดนะ.. (ทางนี้ไม่มีอะไรหรอก) คิดดู ถามใจตัวเองดู , ถามตัวเองตรงไปตรงมา ..ตอบตัวเองตรงไปตรงมา ..แล้วก็ทำอย่างตรงไปตรงมา ************* เอาหล่ะ อ้อมค้อมไปเยอะแล้ว มาถึงเรื่องตรงไปตรงมาของเรากันดีกว่า.. วิธีแก้ปัญหาน้ำท่วมโลก และการสร้างดาวเคราะห์ดวงใหม่!! (ฮา) ช่วงนี้ กระแสโลกร้อน เป็นที่นิยมกันอยู่ทั่วโลก ใครๆ ก็บอกว่าโลกร้อนๆๆๆ . ..ในที่นี้ ผมคงไม่มานั่ง แถลงถึงปัญหา สาเหตุให้เสียเวลา (เสียไปเยอะแล้วเฟ้ย) จากรายงานข่าว การวิจัย เปิดเผยว่า ..จากภาวะโลกร้อนนี้ จะเป็นผลทำให้น้ำทะเลสูงขึ้น และภายใน 100 ปีข้างหน้า น้ำทะเลจะสูงขึ้นจนกินแนวฝั่งตอนบนของอ่าวไทย ในกรุงเทพมหานครนี้ น้ำทะเลจะหนุน สูงลึกขึ้นมาจากปัจจุบัน 6-8 กิโลเมตร!! 6-8 กิโลเมตรนี่ ไม่รู้ว่า พื้นที่จะหายไปกี่แสนไร่อ่ะนะ แล้วถ้ารวมทั่งประเทศ ส่งสัยประเทศไทย เนื้อที่คงหายไปสัก 30% สำหรับคนมีกระตังค์ และมองการณ์ไกล ไปถึงชั่วลูกชั่วหลาน ตอนนี้อาจจะต้องเตรียมหาพื้นที่แถบภาคกลางตอนบน และอีสานเตรียมไว้ เผื่อว่า อีก 100 ปีข้างหน้าจะได้มีที่อยู่อาศัยทำกิน!! ไม่เอาหล่ะ อันนี้ไม่ใช่ประเด็น (อย่าอ้อมค้อมสิว่ะ เสียเวลานะเฟ้ย) เอาหล่ะ เข้าประเด็นตรงๆ เลยนะ น้ำท่วมโลก ก็เอาน้ำออกไปจากโลกสิว่ะ!! ถ้าน้ำจะท่วมโลก ก็แค่สูบน้ำออกไปทิ้งนอกโลกซ่ะแค่นั้นก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ?? เทคโนโลยี การสูบน้ำเนี่ย มีมาเป็นพันๆ ปีแล้วนะ.. แม้วันนี้ การสูบน้ำออกนอกโลก จะยังทำไม่ได้ แต่ถ้าเราตระหนักตรงนี้ เดี๋ยวนี้ เวลาอีก 100 ปีข้างหน้า ผมว่าเหลือเฟื้อสำหรับมันสมองของมนุษย์ ในการที่จะหาทางผันน้ำ สูบน้ำ ให้พ้นไปจากแนวชั้นบรรยากาศ และแรงดึงดูดของโลก ผมก็ไม่รู้นะว่า หากน้ำไปอยู่ในอวกาศแล้ว จะมีสถานะ เป็นอะไร ระหว่างของแข็ง คือแข็งกลายเป็นน้ำแข็ง , หรือว่าจะมีสถานะเป็นก๊าซ มันอาจจะระเหือด ระเหย กลายเป็นก๊าซอยู่ในอวกาศก็ได้ (หรือระเหยหายไปเลย) แต่สมมติ เราเห็นว่า น้ำ แม้จะเป็นน้ำทะเลเค็มๆ ก็เป็นทรัพยากรที่มีค่า น่าเสียดาย ที่จะสูบทิ้งไปเปล่าๆ ผมก็มีวิธี แปลงหนี้สินเป็นทุน อยู่เหมือนกัน.. นั่นก็คือ แทนที่จะเอาน้ำ(ที่กำลังท่วม)ของโลก ไปทิ้งเปล่าๆ ..น่าเสียดาย (ตามประสามนุษย์ ที่ชอบยึดทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลเป็นของของตัว) ก็แค่ ขนย้าย ถ่ายเท น้ำที่กำลังท่วมโลกอยู่นี้ไปไว้ที่ดาวอังคาร ดาวอังคาร ที่ขาดแคลนน้ำ และชั้นบรรยากาศ .. จะได้มีน้ำเอาไว้ระเหย และกลายเป็นชั้นบรรยากาศ ของดาวอังคารต่อไป เป็นไง? ..แบบนี้ ยิงนกสองตัวก็ได้นกสองตัว (ฮา) ..คือได้ทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมโลก และสร้างชั้นบรรยากาศให้ดาวอังคารอยู่ได้ด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่า เทคโนโลยี การขนถ่าย ข้ามดาวเคราะห์เนี่ย ผมว่า มันน่าจะยาก กว่าเทคโนโลยี การสูบน้ำทิ้งอวกาศเฉยๆ เพราะน้ำเอง ก็มีมวลมาก หนัก จะขนน้ำปริมาณมหาศาล ข้ามดาวเคราะห์นี่ผมว่า มันน่าจะยากกว่าการสูบน้ำทิ้งนะ.. เอาน่า ก็บอกแล้วว่า ฟุ้งซ่านไร้สาระอ่ะ.. แต่ใครจะรู้ อีก 100 ปีข้างหน้า มันอาจจะเกิดขึ้นมาก็ได้นะ!! ไปดีกว่า .. ขออภัยที่ทำให้เสียเวลาอ่านนะ   Create Date : 15 สิงหาคม 2552 8 comments Last Update : 15 สิงหาคม 2552 22:24:30 น. Counter : 720 Pageviews. Share Tweet

แวะมาอ่านน้ำท่วมโลกไป ก็นั่งมองไวน์ที่ได้มาตั้งอยู่ตรงหน้า ด้วยเพราะอยู่ในช่วงงดเหล้าเข้าพรรษา แถมเพิ่งได้น้ำผึ้งเดือนห้ามาอีกขวดใหญ่ มาวางเรียงกัน ถัดไปเบียร์ลาวอีก 3 กระป่อง อ่านไปก็คิดไป ว่าจะหลับตานอนในวันเพิ่งว่าง หรือว่าจะเดินสายเม้นท์ญาติๆ ทนอดตาหลับขับตานอนอีกสักหน่อย เพราะว่าพรุ่งนี้จะได้หยุดกับเขา 1 วัน เสียที ในรอบ 2 เดือน อิอิอิ ข้าน้อยก็แวะมาบ่นฟุ้งซ่านที่บ๊อกนี้ ขออภัยเน๊าะ   โดย: อุ้มสี 15 สิงหาคม 2552 22:24:25 น.

ขออนุญาตออกตัว กับมิตรสหายเพื่อนชาวบล็อกแก๊งนะครับ ผมเอง น่าจะยังถือว่า มาอัพบล็อกอยู่เป็นระยะๆ แต่ผมเล่นบล็อกค่อนข้างน้อย.. บางทีมิตรชาวบล็อกแก๊งมาทักทายกันแล้ว ผมตอบล่าช้า คือกว่าจะมาตอบ ก็อาจจะเลยข้ามเดือนไปแล้ว ก็ต้องขออภัยในความล่าช้ามา ณ ที่นี้ด้วย แต่จะพยายาม ไปขอบคุณให้ได้ทั่วๆ นะครับ (แม้ว่า อาจจะนานจนลืมกันไล้ว 555) ยังไงก็ขอบคุณนะครับ (วันนี้ไล่ตอบอยู่)   โดย: บุญทับ 15 สิงหาคม 2552 22:43:58 น.

เก่งจริงๆ เขียนอะไรได้มากมาย ต่ายไม่เห็นจะเขียนได้บ้างเลย ไปกราบหลวงพ่อจรัลบ่อยมั้ยคะ มาเล่าให้ฟังบ้าง   โดย: Moon~JulY 16 สิงหาคม 2552 0:05:13 น.

เอาพลังจากพ่อมาฝากครับ คลิกจะได้ภาพใหญ่ครับ   โดย: พลังชีวิต 16 สิงหาคม 2552 0:06:43 น.

อ้อมค้อม...จริงๆครับ อ่านแล้วนึกถึงไปยาลใหญ่ และสำนักศิษย์สะดืออันเลื่องชื่อ   โดย: intertrade IP: 124.122.38.153 16 สิงหาคม 2552 0:16:48 น.

คุณอุ้ม อย่าลืม ช่วงนี้งดดื่มนะ เอาไวน์ที่ได้มาฝากผมไว้ก่อนดีกว่า 555 คุณพี่ต่าย , ไปกราบหลวงพ่อท่านบ่อยมั้ย? จะว่าไป ไม่ถือว่าบ่อยหรอกครับ อยู่บ้านก็ระลึกถึงท่านอยู่เสมอ ..เมื่อวานนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อท่านครับ (คนเยอะจนแน่นวัดเลย) ส่วนใหญ่ ผมจะพยายามไปวันพระใหญ่ ที่ผมว่างน่ะครับ ซึ่งจะว่าไปก็ไม่เยอะแหละครับ , แต่ไปทุกครั้ง ก็อิ่มใจตั้งแต่ก่อนไป ระหว่างที่อยู่ที่วัด และหลังจากที่ได้กลับมาแล้ว.. ส่วนเรื่องทฃเขียนนู้นเนี่ยนี่ ผมว่า ถ้ารั่วมากหน่อย ก็น่าจะเขียนได้นะครับ (คุณพี่ต่ายก็น่าจะรั่วไม่เบานิ อิอิ) ขอบคุณ คุณพี่พลังชีวิตด้วยครับ หวัดดีคุณ intertrade โหทันยุค ศิษย์สะดือด้วย แสดงว่า ....ไม่เบา 555 ผมเองมารู้จักเฉลียง กับพี่จุ้ยจริงจัง ก็สมัยมหาลัยแล้ว(มีคนแนะนำ) ตอนนั้นเข้าใจว่า พี่จุ้ย พี่จิ๊กเลิกทำนิตยสารไปแล้วนะ แต่รู้นักเฉลียงกับพี่จุ้ยแล้ว ก็ถือว่าเป็นแฟนๆ ของพี่เค้าคนหนึ่ง ..ได้ และใช้เพลงของเฉลียง ปรับ ดัดทัศน์คติตัวเองมากเหมือนกัน ขอบคุณทุกๆ คนที่มาทักทายกันครับ..   โดย: บุญทับ 16 สิงหาคม 2552 15:35:06 น.

จากอันนี้.. " ส่วนใหญ่ ผมจะพยายามไปวันพระใหญ่ ที่ผมว่างน่ะครับ " เมื่อวาน คนไปแสดงมุทิตาจิตกับหลวงพ่อท่านเยอะมากๆ เลยครับ เยอะมากจนอดเป็นห่วงหลวงพ่อไม่ได้ ผมเองก็ไปตั้งแต่เช้า.. คนเองแน่นวัดมาก อย่างที่บอกไป.. หลวงพ่อท่านต้องนั่งรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้า ทำพิธี และรับลูกศิษย์ที่มาแสดงมุทิตาจิต จนกระทั่ง 4 โมงเย็น แนะครับ คนที่ไปถวายของท่านรอบสุดท้าย ไม่ได้ถวายโดยตรง เพราะหลวงพ่อท่านไม่ไหวแล้ว ต้องกลับไปพักแล้ว ลองคิดดูว่า เราคนปกติ นั่งตั้งแต่ 8 โมงเช้า ลุกเดินบ้าง ก็คือเป็นการทพิธีต่างๆ และนั่งรับแขกจน 4 โมงเย็น ผมว่า ผมยังทำไม่มีปัญญาทำได้เลยครับ แต่หลงพ่อท่านอายุ 81 เข้า 82 แล้ว.. ท่านรับแขก ลูกศิษย์ ด้วยความเมตตาจริงๆ จากเมื่อวานนี้ และจากที่ผมเคยไปกราบหลวงพ่อท่าน ในวันพระใหญ่ต่างๆ ที่ผ่านมา ผมคิดว่า จากนี้ไป อาจจะไปเยี่ยม ไปกราบหลวงพ่อ ในวันปกติน่าจะดีกว่า หลวงพ่อท่าน จะได้ไม่ถูกรุมจนเหนื่อยมากเกินไปในวันสำคัญๆ และเรา เหล่าลูกศิษย์ และแฟนคลับหลวงพ่อ จะได้ใกล้ชิด เข้าถึงตัวหลวงพ่อ ได้มากหน่อยด้วย ในวันปกติธรรมดา ก็คือได้ทั้ง 2 ทาง ทำบุญวันไหนก็ได้ ดีหมด แสดงมุทิตาจิต กตัญญูกับหลวงพ่อวันไหนก็ได้ ท่านก็ยินดีทั้งนั้น รุมท่านหนักๆ วันเดียว แล้วเป็นห่วงหลวงพ่อท่านจริงๆ ขอให้หลวงพ่อท่านแข็งแรงๆ และมีความสุขมากๆ นะครับ พี่ต่ายจะไปกรอบหลวงพ่อท่านวันไหน ไปวันธรรมดา ช่วง 10 โมงเช้า คนน่าจะน้อยหน่อยครับ   โดย: บุญทับ 16 สิงหาคม 2552 15:48:21 น.

อัพอีก ชอบอ่าน ชอบ ชอบ อ่านอยู่ตั้งหลายรอบ แหะๆๆ แบบเป็นคนเข้าใจอะไรยาก มีความสุขทุกวันนะคะ   โดย: loveupanda 19 สิงหาคม 2552 10:10:30 น.