Bloggang.com : weblog for you and your gang
..Lymphoma_man แบ่งปันกำลังใจให้เพื่อนๆผ่าน My memory..
Group Blog
<<
ธันวาคม 2551
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 ธันวาคม 2551
ตอนที่ 5 ภัยเงียบใหม่ๆที่แฝงเข้ามาอีกและการเข้าห้องฉุกเฉินครั้งแรก
All Blogs
ตอนที่ 12 ความเจ็บปวดนี้ เราจะรับมันไหวอีกหรือเปล่า
ตอนที่ 11 ตัดสินใจได้แล้ว เลือกเดินด้วยตัวเราเองดีกว่า
ตอนที่ 10 จะเปลี่ยน Stem cell ดีไหมเรา
ตอนที่ 9 จบการรักษาแล้ว แต่การต่อสู้ของผมยังไม่จบ
ตอนที่ 8 ยอมแพ้ ไม่สู้ต่อ ก็คงเป็นแค่ความคิด
ตอนที่ 7 คนที่ยังอยู่ ก็ต้องสู้กันต่อไป ด้วยความหวัง
ตอนที่ 6 ช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุด
ตอนที่ 5 ภัยเงียบใหม่ๆที่แฝงเข้ามาอีกและการเข้าห้องฉุกเฉินครั้งแรก
ตอนที่ 4 รักษาอยู่ดีๆ มันก็แวะกลับมาทักทายเราอีก
ตอนที่ 3 กว่าจะรู้คำตอบ
ตอนที่ 2 การพเนจรหาคำตอบกับการรอด้วยความหวัง
ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นและความพยายามค้นหา
ตอนที่ 5 ภัยเงียบใหม่ๆที่แฝงเข้ามาอีกและการเข้าห้องฉุกเฉินครั้งแรก
พอฉายแสงครบ 10 ครั้ง ผมก็พักฟื้นอยู่กับบ้าน ใน 1 สัปดาห์ก็จะไปทำกายภาพที่ศิริราช 2 ครั้ง และไปพบหมอแผนกต่าง ๆตามใบนัดที่ได้นัดไว้
ระหว่างพักฟื้นอยู่บ้าน ผมก็หมั่นทำกายภาพตามที่หมอบอกควบคู่ไปด้วย ขาก็เริ่มมีแรงเพิ่มขึ้นทีละนิด ก็เดินด้วย walker และช่วยเหลือตัวเองได้ ระหว่างนี้ร่างกายผมก็ดูปกติแข็งแรงดี จากการไปตามนัดหมอโรคเลือด ผลเลือดก็ออกมาปกติดี
แต่ไม่นาน.....ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก คือ นับจากวันที่ฉายแสงเสร็จประมาณ 3 เดือน จากที่ดูภายนอก ร่างกายผมก็แข็งแรงดี แต่ที่จริงแล้วร่างกายภายในของผมกำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
ผมมีอาการไข้สูงตอนกลางคืน และหนาวสั่นช่วงเวลาตีสามถึงตีห้า มีอาการแบบนี้ 3 -4 วันผมก็ไปพบหมอที่ รพ. หมอโรคเลือดสั่งเจาะเลือดและเอ็กซเรย์ดูที่ปอด พบว่าที่ปอดมีอาการผิดปกติ
หมอให้ผม admit อีก และให้ทางเจ้าหน้าที่หาเตียงให้ผม ซึ่งปรากฏว่ารอเตียงอยู่จนค่ำ ก็ไม่มีเตียงผู้ป่วยที่ตึกไหนว่างเลย พอหัวค่ำ เจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งให้ไป admit ที่แผนกรับผู้ป่วยชั่วคราว เพื่อรอเตียงว่างก่อน
จนถึงตอนเช้าก็มีหมอเวรและหมอระบบทางเดินหายใจเข้ามาตรวจอาการของผม และดูฟิล์มเอ็กซเรย์ แล้วแจ้งว่าผมน่าจะป่วยเป็นวัณโรค แต่ต้องทำการตรวจให้แน่ใจอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากยังไม่มีเตียงว่างที่ตึกผู้ป่วยใดจึงต้องให้ผมกลับมาพักที่บ้านก่อน เพราะที่นั่นแออัดมาก ถ้าขืนยังให้ admit อยู่ที่หอผู้ป่วยชั่วคราว อาจจะทำให้ผู้ป่วยคนอื่นติดเชื้อได้ เท่ากับผม admit อยู่ที่ รพ.แค่ 1 คืนเท่านั้นแล้วจึงกลับบ้าน
หมอได้สั่งให้ผมเก็บเสมหะ 3 วัน ในระหว่างที่อยู่บ้าน พอได้แล้วให้นำมาส่งที่ รพ. เพื่อจะวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคจริงหรือไม่ แล้วพอได้ผลของเสมหะ ค่อยมาพบหมออีกครั้งหนึ่ง
หลังจากนี้ 2 อาทิตย์ ผมจึงได้มาพบหมอระบบทางเดินหายใจ จากผลของเสมหะ ปรากฏว่า ตรวจไม่เจอเชื้อที่สามารถยืนยันได้
หมอจึงแจ้งว่า จะต้องส่องกล้อง เข้าไปดูที่ปอดและตัดชิ้นเนื้อ เพื่อมาทำการตรวจ อีกครั้งหนึ่ง คุณหมอหาคิวส่องกล้องให้ ต้องรออีก 2 อาทิตย์ ระหว่างนี้และที่ผ่านมา ซึ่งผมยังไม่ทราบผลที่แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ผมก็ต้องทนกับอาการไข้สูงและหนาวสั่นตลอด
พอถึงวันนัดส่องกล้องผมได้คิวเป็นคนแรก ขณะทำการส่องกล้องและตัดชิ้นเนื้อ ผมเจ็บปวดมาก จนแทบทนไม่ไหว แต่ก็ต้องทน
หมอบอกว่า ถ้าระหว่างที่ทำแล้วรู้สึกเจ็บมาก ก็ให้บอก แล้วหมอจะหยุดพักชั่วคราว แต่พอผมบอกว่าเจ็บ ไม่เห็นหมอจะหยุดเลย ได้แต่บอกว่าอีกนิดเดียวใกล้จะเสร็จแล้ว คำว่าใกล้จะเสร็จของหมอ ผมรู้สึกว่านานเหลือเกิน สรุปว่าใช้เวลาการทำ ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงจึงจะเสร็จ ผมก็ไม่แน่ใจ แต่เอาเป็นว่า มันเป็นระยะเวลาที่เจ็บปวดและแสนยาวนานมาก
จากนั้นอีก 1 อาทิตย์ ก็มาฟังผล และพบหมอ ปรากฏว่าผมป่วยเป็นวัณโรค ผมจึงถามหมอว่าผมเป็นได้อย่างไร หมอบอกว่า ผู้ป่วยร่างกายจะอ่อนแอ มีภูมิต้านทานน้อย ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ด้วยเหตุนี้เชื้อโรคจึงฉกฉวยโอกาส ทำร้ายเราได้ ทำให้คุณเป็นโรคดังกล่าว คือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
การรักษาจะต้องทานยา 6 เดือน เป็นประจำทุกวันห้ามขาด มิฉะนั้นตัวโรคจะดื้อยา ยาที่ผมต้องกิน ก็กินประมาณ 10 กว่าเม็ดต่อวัน กินก่อนนอน ยาวัณโรคนี้ อาจจะส่งผลให้ผมเป็นตับอักเสบได้ หมอจึงให้ผมตรวจเลือดดูว่าตับยังปกติดีหรือไม่
เมื่อร่างกายได้รับยาแล้ว ภายใน 2 อาทิตย์หมอบอกว่าต้องดูแลตัวเองอย่าแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น ของใช้ส่วนตัวให้ใช้แยกกัน ระวังเรื่องการไอ และจาม ไม่ให้เข้าใกล้ผู้อื่น ทางที่ดีควรใช้ผ้าปิดปากเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่แปลกที่ผมเป็นวัณโรคแล้ว แต่ตัวผมไม่มีอาการใด ๆ ของผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคเขาเป็นกันเลย ไอก็ไม่ไอ ไม่เจ็บคอด้วย
พอเริ่มกินยารักษาวัณโรค ผมมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นมากมาย เจ็บปวดและทรมานมาก ผมอ้วกทั้งวันทั้งคืนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เวียนหัวมาก เหมือนโลกหมุนตลอดทั้งวันทั้งคืน เจ็บปวดตามร่างกาย ปกติร่างกายก็เดินไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ต้องใช้ walker ช่วยเดิน แต่หลังจากกินยารักษาวัณโรคแล้ว ก็ยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแรงมากขึ้น จนเดินแทบไม่ไหว ได้แต่นอนโทรมอยู่บนเตียง
ภายใน 2 อาทิตย์ที่กินยา ผมก็ต้องไปรพ. พบหมอถึง 2-3 ครั้ง เพราะทนอาการข้างเคียงที่เกิดไม่ไหว ปกติถ้าไม่ถึงขั้นสุด ๆจริง ๆ ผมก็จะไม่ไปพึ่งหมอ แต่นี่มันสู้ไม่ไหวจริง ๆ ไปพบหมอแต่ละครั้ง หมอก็ให้กินแต่เกลือแร่ และนอนพักสักครู่เพื่อรอดูผลว่าดีขึ้นไหม จากนั้นก็ให้กลับบ้าน เป็นอย่างงี้ทุกครั้งที่ผมไปพบหมอ จากนั้นพอผมมีอาการข้างเคียงจนผมทนไม่ไหวอีก ผมก็ไม่ไปพบหมออีกเลย
ภายใน 2 เดือน ผมก็พักฟื้นอยู่แต่ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหน นอกจากไปพบหมอตามนัด พอกินยาครบ 2 เดือนหมอลดจำนวนยาที่กินลง แต่อาการข้างเคียงก็ยังมีอยู่
ระหว่างนี้มีอาการแทรกซ้อนเพิ่ม คือ ผมปวดร้าวลึก ๆบริเวณสะโพก ปวดมากจนแทบทนไม่ไหวและขาอ่อนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบไม่สามารถเดินด้วย walker ได้อีก ก่อนหน้านี้ ผมก็เคยนำอาการเหล่านี้ไปบอกให้หมอระบบทางเดินหายใจทราบแล้ว หมอบอกว่าน่าจะเป็นอาการข้างเคียงของยาวัณโรค ผมจึงไม่ได้คิดมากอะไร
หลังจากนี้ก็มีอาการเพิ่มอีก คือ มีต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอ ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะมันยังก้อนเล็กอยู่
พอถึงวันนัดหมอโรคเลือด ผมก็ไปตามปกติ ผมบอกอาการต่าง ๆ และหมอก็ตรวจร่างกาย ดูผลเลือดที่เจาะวันนี้ มีอาการผิดปกติอย่างมาก บวกกับต่อมน้ำเหลืองโตที่คอด้วย
หมอบอกต้อง admit ให้รอเตียง ระหว่างที่รอ ผมก็เพลีย และเหนื่อยมาก เพราะต้องนั่งที่รถวีลแชร์เพื่อรอเตียง แต่ก็คิดไปไกลว่า admit อีกแล้วหรือเรา
มา รพ.ตั้งแต่เช้า รออยู่จนบ่าย ระหว่างนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาคอยวัดความดันอยู่เรื่อย ๆ
ช่วงบ่าย ผลความดันมีความผิดปกติ หมอออกมาตรวจวัดความดันและฟังคลื่นหัวใจ หัวใจเต้นผิดปกติ แต่หมอก็ไม่ได้บอกเรา สั่งให้เจ้าหน้าที่พาเราไปที่ห้องฉุกเฉินโดยด่วน
ตอนแรกเราก็งงว่าจะพาเราไปไหน พอมาถึงห้องฉุกเฉินก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก ได้แต่คิดว่าเป็นบุญแล้วเราที่ได้มาเข้าห้องฉุกเฉินนี้ ตั้งแต่ป่วยมาไม่เคยเข้าห้องนี้เลย สงสัยมานานแล้วว่าห้องนี้เป็นยังไงบ้าง
แต่อยู่ ๆก็นึกขึ้นได้ว่า แล้วทำไมหมอต้องให้เราเข้ามาที่นี้ด้วยล่ะ
เจ้าหน้าที่ช่วยผมขึ้นเตียง และทำการตรวจคลื่นหัวใจ วัดออกซิเจนในร่างกาย วัดความดัน ต่อจากนั้นก็มีหมอเวรมาตรวจต่อ
หมอแจ้ง ว่ามีอาการผิดปกติ หัวใจคุณเต้นเร็ว อาจทำให้ช็อคได้ แต่ผม ยังคิดว่าตัวเองปกติอยู่ ผมต้องให้หมอดูอาการอย่างใกล้ชิด ระหว่างรอเตียงที่ตึกผู้ป่วย
พอหัวค่ำผมก็ได้เตียงที่ตึกผู้ป่วยสามัญ ซึ่งเป็นตึกผู้ป่วยรวมที่มีแต่ผู้ป่วยอาการหนักๆ
เล่าแค่นี้ก่อนนะครับ ไว้มาต่อ my memory ตอนต่อไปคราวหน้าครับ...
...
...
Create Date : 12 ธันวาคม 2551
11 comments
Last Update : 12 ธันวาคม 2551 13:13:27 น.
Counter : 328 Pageviews.
Share
Tweet
ตามไปอ่าน memory มาทุกตอนแล้ว
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ สู้ ค่ะ
โดย:
หยุ่ยยุ้ย
12 ธันวาคม 2551 13:46:59 น.
เป็นกำลังใจให้เช่นเคยจ้า
โดย:
pukapae
12 ธันวาคม 2551 13:53:02 น.
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ
เข้มแข็งนะคะ
โดย:
vanilla_ole
12 ธันวาคม 2551 15:04:51 น.
สวัสดีตอนบ่ายๆ วันศุกร์ ค่ะ วันนี้ วันหยุดนู๋หญิง เลยมาช้า กว่าทุกวัน
เพราะว่าเพิ่งตื่นค่ะ หอบความคิดถึงมาฝากค่ะ
โดย:
นู๋หญิงจ๋า
12 ธันวาคม 2551 16:29:44 น.
แวะมายิ้มค่ะ ^O^
โดย:
หนูใบข้าว
12 ธันวาคม 2551 16:47:10 น.
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ครับ
>
โดย:
The no ordinary guy
12 ธันวาคม 2551 16:57:04 น.
อึดมากมายครับ..นับถือจริงๆ
Happy มากๆ นะครับ ... วันนี้วันสุขแล้วครับ
โดย:
Mega-Batt
12 ธันวาคม 2551 17:25:58 น.
โดย:
นู๋หญิงจ๋า
12 ธันวาคม 2551 21:19:58 น.
ดูแลสุขภาพนะค่ะ
วันนี้แวะมาแป๊ปเดียวนะค่ะ
หลับฝันดีค่ะ
โดย:
LooKPat
12 ธันวาคม 2551 22:14:02 น.
หวัดดีตอนเที่ยงจ้า Lymphoma_man
สุขสันต์วันหยุดนะ ดูแลสุขภาพล่ะ
สดใสกับชีวิตนะ ขอให้เจอสิ่งดี ๆ ทุกวันนะ
เป็นเด็กดีด้วยล่ะ....
โดย:
Aom_Love_U
13 ธันวาคม 2551 11:39:05 น.
เก็บอ่านจนครบแล้ว
กำลังใจคุณดีมากๆเลย นับถือ นับถือ
โดย:
No - Bell
13 ธันวาคม 2551 22:02:00 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Lymphoma_man
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ถึงขาจะอ่อนแรง
ถ้าใจยังก้าวเดิน
สักวัน...ต้องไปถึงดังตั้งใจ
Friends' blogs
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
LooKPat
นู๋หญิงจ๋า
nanida
ต้นข้าว_ต้นนั้น
Mega-Batt
timeofmylove
แพรวขวัญ
vanilla_ole
satineesh
รัชชี่
กะว่าก๋า
tuk-tuk@korat
น้องผิง
momster
Artagold
made by pum
Webmaster - BlogGang
[Add Lymphoma_man's blog to your web]
Links
ป้ามด สอนทำบล็อก
Korphai-Diary
Hi5 Korphai
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
สู้ สู้ ค่ะ