สิงหาคม 2555

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
รักเธอจริงๆ ไม่ได้แอ๊บนะครับ (บทที่ 4)

บทที่ 4

ผมแทบจะหลุดก๊ากออกมาถ้าห้ามตัวเองไม่ทันยัยนายนี่เป็นเอามาก แค่เห็นผมกอดลาไอ้บีม...เพื่อนที่กำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ (และบังเอิญมันเป็นเกย์!!!)ก็เอะอะคิดไปเองแล้วว่าผมเป็นเกย์ แถมยังจะให้ผมโกหกแม่ให้เลิกล้มการแต่งงานระหว่างผมกับเธอด้วยเหตุผลติงต๊องอีก

ในที่สุดผมก็รู้เหตุผลแล้วไนยนิตย์ไม่ได้เกลียดผม ไนยนิตย์ไม่ได้เบื่อผม แต่มันเกิดจากความเข้าใจผิดในเมื่อผมรู้อย่างนี้แล้ว จะให้ผมล้มเลิกงานแต่งงานระหว่างเราน่ะเหรอ ฝันไปเถอะผมจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ไนยนิตย์กลับมาคบกับผม และแต่งงานกับผมให้ได้

WETHAWAT(ผมเจ็บนะ) says : อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าจบกันด้วยดีหรอกนายอย่างนี้เขาเรียกว่านายกำลังหนีปัญหา พี่อยากให้นายฟังพี่ก่อน ถ้านายเข้าใจพี่ก็อยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม

เอาล่ะ...ผมหยอดไปแล้ว ที่เหลือก็รอดูการตอบสนองของไนยนิตย์แล้วกัน

Naiisays : ขอโทษนะแต่ฉันไม่อยากแต่งงานกับเกย์ ชัดไหม ไอ้คุณพี่วี!!!

เท่านี้จริงๆแล้วไนยนิตย์ก็ออฟไลน์ไป

ตกลงการจะได้เธอกลับมาคราวนี้นี่พี่ต้องทุ่มสุดตัวเลยใช่ไหมไนยนิตย์พี่ต้องพยายามพิสูจน์ให้เธอรู้ให้ได้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ใช่เกย์ และที่สำคัญ...พี่ต้องเอาชนะใจเธอให้ได้อีกครั้งใช่ไหม

เอาเถอะไม่ว่าคราวนี้ไนยนิตย์จะแกล้งผมยังไงผมก็จะสู้ในเมื่อก่อนที่ผมกับเธอจะเป็นแฟนกันผมก็โดนเธอแกล้งมาเยอะแล้วและผมยังผ่านมันมาได้คราวนี้ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงของนายวีธวัชคนนี้หรอก

“เอ่อแม่ครับ ตกลงแม่จะให้ผมแต่งงานกับลูกสาวของน้านาถนภาจริงๆ เหรอครับ”

ผมเดินเข้ามาคุยกับแม่ที่กำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขกแม่มองลอดแว่นสายตาขึ้นมาสบตาผมก่อนจะยิ้มเยือก

“จริงน่ะสิแม่บอกแล้วใช่ไหม ว่าแม่จะหาแฟนให้วี นี่แม่ก็หาแล้ว ไม่รู้ว่าวีจะถูกใจหรือเปล่า”

ถูกใจครับแม่ถูกใจมาก โอ๊ย แม่รู้ใจผมจริงๆ ที่ส่งคนของใจมาให้ผม ผมอยากจะขอบคุณแม่สักเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกเอ๊ย ครั้ง

“แล้วเมื่อไรจะแต่งงานล่ะครับ”

แต่ผมก็สำรวมอาการถามออกไปกลัวแม่รู้แล้วกระโตกกระตากน่ะสิ

“ทำไมล่ะตาวีลูกจะหนีงานแต่งงานงั้นเหรอ”

โอ๊ยคิดได้ไงครับแม่ ถ้าผมจะหนีผมไม่มาถามแม่ถึงขนาดนี้หรอก

“เปล่าครับผมจะบอกว่าผมยินดีแต่งงานกับน้องนายครับ”

คราวนี้แม่ถึงกับวางของในมือลงเพื่อมาคุยกับผมอย่างจริงจัง

“จริงน่ะตอนแรกลูกยังโกรธๆ แม่อยู่เลยไม่ใช่เหรอที่แม่หาแฟนให้น่ะ”

เอ่อก็ตอนนั้นผมไม่รู้นี่ครับว่าคนที่แม่หมายถึงจะเป็นคนคนเดียวกับที่ผมกำลังคิดถึง

“ก็...แหะๆ เพื่อความสบายใจของแม่น่ะครับ ผมยอม”

“แหมไม่ต้องมาปากหวาน ติดใจน้องเขาก็บอกแม่มาเถอะ”

ครับแม่ผมติดใจน้องนายจริงๆ

แต่ผมก็ไม่ได้ตอบออกไปที่ทำได้ก็ได้แค่ยิ้มเขินๆ

“แม่ช่วยผมนะครับช่วยหาทางให้นายยอมแต่งงานกับผมหน่อย”

“เฮ้ยแม่จะไปบังคับเขาได้ไง ถ้าเขาไม่อยากแต่งกับลูก แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้”

แต่ผมอยากแต่งงานกับน้องนายจริงๆนะแม่

“นะครับนะคร๊าบ”

ผมอ้อนแม่อย่างที่ผมเคยทำตอนห้าหกขวบช่างน่าอายจริงๆ กับแค่ผู้หญิงคนเดียวทำให้ผมต้องมานั่งอ้อนแม่แบบวันวานเลยเหรอเนี่ย

เมื่อเจอลูกอ้อนไปแม่ผมก็ใจอ่อน“อ่ะก็ได้ แม่จะช่วย เห็นแก่ว่าแม่ก็อยากได้หนูนายเป็นสะใภ้เหมือนกัน แม่ติดใจจริงๆนิสัยโผงผางตรงไปตรงมาของหนูนายเนี่ย สะใภ้อย่างนี้สิดีอ่านง่าย”

ผมดีใจครับที่แม่ชอบว่าที่ภรรยาของผม

เช้าวันถัดมาผมก็ให้แม่พาไปบ้านนาย

“อ้าวสวัสดีค่ะคุณพี่ เชิญนั่งค่ะ”

เสียงคุณน้านาถนภาเชื้อเชิญแม่ผมให้เข้าไปนั่งในห้องรับแขกของบ้านหลังเล็กสองชั้นกึ่งปูนกึ่งไม้ภายในบริเวณบ้านปลูกต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่นมากมาย จริงสิ...นายเคยบอกผมว่าพ่อของนายชอบปลูกต้นไม้นี่นะ

“สวัสดีจ้ะนาถ”

แม่ของผมรับไหว้คุณน้าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งจากนั้นผมจึงนั่งลงที่ข้างๆ แม่ผม ผมมองไปรอบๆ บ้านเพื่อสังเกตการณ์บ้านเล็กก็จริง แต่ดูแล้วอบอุ่นชะมัด มองไปทางไหนก็มีแต่รูปครอบครัวหรือไม่ก็รูปสองพี่น้อง มีภาพหนึ่งที่ผมเห็นแล้วผมแทบจะหลุดก๊ากออกมาภาพนั้นเป็นภาพของไนยนิตย์ในวัยประมาณห้าขวบกำลังเบะปากเพราะถูกน้องชายวัยสองขวบแย่งของเล่นหึๆ แม่คุณเอ๊ย

“พี่วิมีอะไรกับนาถหรือเปล่าคะ”แม่ของไนยนิตย์ถามแม่ของผม

“หนูนายไม่อยู่เหรอ”

แม่ผมกระซิบถามคุณน้านาถนภาและเมื่อคุณน้าตีความได้ก็พึมพำเบาๆ ว่าอ๋อแล้วก็ยิ้มกับแม่ผมอย่างรู้กัน

“คือยัยนายไปทำธุระที่สถานทูตกับเนน่ะค่ะ...”

“ฮะอะไรนะครับ ตกลงนายจะไปเรียนต่อจริงๆ เหรอ เอ่อ... ผมหมายความว่าเผื่อผมจะช่วยแนะนำอะไรได้”

ผมรีบเปลี่ยนรูปประโยคและน้ำเสียงทันทีที่สายตาทั้งสองคู่หันมาจ้องผมที่ตกอกตกใจเกินเหตุแหม ก็มันตกใจนี่ครับ คนที่รักจะกลับมาอยู่ในอ้อมกอดแล้วแท้ๆ แต่จู่ๆ กลับต้องห่างไกลนายเองก็ยังไม่เข้าใจผม
อย่างนี้ แล้วผมจะไปง้อเธออย่างไรเล่า

“ใช่ตาวีน่ะจบโทวิศวะจากประเทศอังกฤษนะ ถ้าหนูนายอยากไปเรียนต่างประเทศอย่างนี้ จริงๆปรึกษาตาวีก็ได้”

“แต่มันจะได้เหรอคะพี่วิยัยนายจะไปเรียนมาร์เก็ตติ้ง ส่วนตาวีจบวิศวะเนี่ย นาถว่ามันยังไงๆ อยู่นะคะออกจะคนละสายกันยังไงก็ไม่รู้”

“เอ่อแต่ผมมีเพื่อนเป็นเอเย่นต์ที่เขาส่งเด็กไปเรียนต่อต่างประเทศนะครับคุณน้าถ้ายังไงผมช่วยนาย
ได้นะ
”

อีกแล้วสายตายิ้มๆ ของแม่ๆ มองมาที่ผมอีกแล้ว ดังนั้นผมเลยต้องกลับไปนั่งสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม

“เห็นว่าเดี๋ยวเนจะเลยไปมหาวิทยาลัยต่อยัยนายเองก็คงจะเบื่อๆ เหมือนกันที่ต้องไปรอน้องนี่นาถว่านาถจะออกไปรับยัยนายล่ะค่ะพี่วิ จะได้ทิ้งรถให้เนเอากลับมาเลย”

“คุณน้าครับผมไปรับนายให้ไหมครับ อ่า คือว่าผมว่างน่ะครับ”

ทำไมนะทำไมผมชอบกระโตกกระตากทุกทีที่คุณน้าพูดถึงนายรู้สึกจะทุกประโยคเลยนะที่ผมต้องแสดงออกมาเนี่ย เก็บอาการหน่อยสิวะไอ้วี

คุณน้านาถนภาหันไปสบตากับแม่ผมอย่างจะขอความเห็นผมรีบแอบส่งสายตาให้แม่ทันที และเมื่อแม่พยักหน้า ผมก็แทบกระโดดด้วยความดีใจ

คุณน้านาถนภายิ้มก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้ผมไปรับลูกสาวของท่านได้“พายัยนายไปทาน
สุกี้ร้านหน้าปากซอยด้วยนะจ๊ะวี น้าได้ยินยัยนายบ่นอยากทานมานานแล้ว
”

“ครับ”

ฮ่าๆๆเข้าทางผมสิทีนี้ ผมเดินค้อมตัวผ่านคุณน้านาถนภาออกมาจากตัวบ้านจากนั้นก็ควงกุญแจรถพร้อมกับผิวปากหวือเดินไปที่รถอย่างสบายใจ โหะๆๆไนยนิตย์เสร็จผมแน่

ว่าแต่...

ผมรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านของไนยนิตย์แล้วอ้าปากถามคุณน้านาถนภา

“ให้ผมไปรับนายที่ไหนนะครับ”

ครับผมต้องได้สายตาแซวๆ จากแม่ทั้งสองอย่างเลี่ยงไม่ได้




Create Date : 16 สิงหาคม 2555
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 15:33:36 น.
Counter : 989 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

luz de la luna
Location :
พิจิตร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เพิ่งเริ่มเขียนบล็อกค่า ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะค้า :)