Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน

หลังจากการซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. 2526 นั้น เราก็หมดตัว และเป็นหนี้โดยที่ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ แม้แต่เพิงที่อาศัยได้บนที่ดินผืนนั้น ในช่วงสองสามอาทิตย์แรก เราต้องอาศัยนอนอยู่บนบานประตูเก่าๆ ที่ซื้อมาถูกๆ จากคนขายของเก่า เราหนุนบานประตูเก่าๆ นั้นให้สูงขึ้นจากพื้นดินด้วยก้อนอิฐ (เราไม่มีแม้แต่เบาะนอน นั่นก็เป็นของแน่อยู่แล้วเพราะว่าเราเป็นพระป่านี่)

ท่านเจ้าอาวาสได้บานประตูที่ดีที่สุด เป็นบานประตูเรียบๆ ส่วนบานประตูของอาตมาเป็นชนิดที่มีบัว แถมยังมีรูขนาดใหญ่พอควรอยู่ตรงกลางบริเวณที่เคยติดลูกบิด โชคดีนะที่เขาถอดลูกบิดออกไปแล้ว แต่เจ้ารูนี่ก็ยังคงอยู่เกือบจะกลางเตียงประตูของอาตมาทีเดียว อาตมาเคยพูดตลกๆ ว่า อาตมาไม่ต้องลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหรอกนะ! ความจริงที่แสนหนาวก็คือว่า ลมสามารถพัดผ่านเจ้ารูนี่มาถึงตัวอาตมา ทำให้อาตมาไม่ค่อยได้หลับได้นอนในช่วงค่ำคืนเหล่านั้น

พวกเราเป็นพระจนๆ ที่ต้องการที่พักอาศัย แต่ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจ้างช่างก่อสร้างได้ แค่ค่าวัสดุต่างๆ ก็แพงเกินพอแล้ว อาตมาจึงต้องเรียนรู้ว่าเขาทำงานก่อสร้างกันอย่างไร เตรียมรากฐานอย่างไร ตลอดจนถึงการผสมคอนกรีต การก่ออิฐ การตั้งหลังคา งานประปา และทุกๆ อย่าง ก่อนจะบวชอาตมาเคยเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีและเป็นครูโรงเรียนมัธยมผู้ไม่เคยคุ้นกับการใช้แรงงานด้วยมือทั้งสองนี้ เพียงไม่กี่ปีอาตมากลายเป็นข่างก่อสร้างที่มีฝีมือไม่เบา ขนาดที่จะสามารถเรียกคณะทำงานของอาตมาได้ว่าบริษัทพุทธก่อสร้าง (BBC -Buddhist Building Company) แต่ขณะที่เริ่มต้นนั้นมันช่างเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเอามากๆ

การก่ออิฐอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่โปะปูนลงไปแล้ววางก้อนอิฐ แตะด้านนี้ทีด้านนั้นทีให้เข้าที่ ตอนอาตมาเริ่มก่ออิฐใหม่ๆ อาตมาแตะกดมุมหนึ่งลงเพื่อให้ได้ระดับ อีกมุมหนึ่งกลับยากขึ้น พออาตมากดด้านที่ยกขึ้นนั้นให้ลงมา อิฐก็เริ่มแตกแถวแตกแนว หลังจากที่อาตมาดันมันให้กลับเข้าที่ มุมแรก็เริ่มสูงเกินไปอีกแล้ว โยมลองทำดูซิ!

เพราะอาตมาเป็นพระ อาตมาจึงมีความอดทนและมีเวลาที่จะทำงานได้โดยไม่จำกัด อาตมาจึงทำงานอย่างประณีตที่สุด โดยไม่สนว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าใด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอิฐทุกๆ ก้อนจะถูกวางไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ในที่สุดการก่อกำแพงอิฐแผงแรกของอาตมาก็สำเร็จลง อาตมาก้าวถอยออกมายืนชื่นชมผลงาน ในชั่วขณะนั้นแหลที่อาตมาสังเกตเห็น ...โอ้ย!... อาตมาก่ออิฐพลาดไปสองก้อน อิฐก้อนอื่นๆ เป็นแถวเป็นแนวสวยงาม มีแต่เจ้าอิฐสองก้อนนี่แหละที่เอียงๆ ทำมุมกับแนวอิฐก้อนอื่นๆ มันดูแย่มากๆ เลย มันทำให้กำแพงทั้งแผงดูไม่ดีเลย

ขณะนั้นปูนก่ออิฐก็แข็งเกินกว่าที่จะสามารถดึงอิฐออกมาก่อใหม่เสียแล้ว อาตมาจึงกราบเรียนท่านเจ้าอาวาส ขอทุบกำแพงเพื่อเริ่มต้นก่ออิฐใหม่อีกครั้ง หรือถ้าจะให้ดีก็อยากจะระเบิดมันทิ้งไปเลย อาตมาก่ออิฐไม่ดี และอาตมาก็รู้สึกอับอาย ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้รื้อ กำแพงนี้จะต้องคงอยู่

เวลาอาตมาพาแขกเยี่ยมชมวัดที่เริ่มตั้งใหม่ของเรา อาตมาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะพาแขกเดินไปทางกำแพงนั้น อาตมาไม่อยากให้ใครๆ เห็นมันเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปได้สามสี่เดือน ขณะที่อาตมากำลังเดินอยู่กับผู้มาเยี่ยมวัดคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นกำแพงนั้น แล้วก็เปรยขึ้นมาว่า "กำแพงนี่สวยดี"

อาตมาถามเขาด้วยความประหลาดใจว่า "คุณลืมแว่นสายตาของคุณไว้ในรถรึเปล่า? สายตาคุณเสื่อมหรือเปล่า? คุณไม่เห็นรึว่ามีอิฐถึงสองก้อนที่วางไม่ดีจนทำให้กำแพงนี้เสียหายหมด?"

คำพูดที่เขาตอบอาตมานั้นได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหมดของอาตมาต่อกำแพงนั้น ต่อตัวอาตมาเอง และต่อหลายๆ แง่มุมของชีวิต เขาบอกอาตมาว่า "ใช่ ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้น แต่ผมก็ได้เห็นด้วยว่ามีอิฐอีก 998 ก้อน ก่อไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ"

อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่อาตมาสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่นๆ บนกำแพงนั้นนอกเหนือจากเจ้าสองก้อนที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอิฐที่อยู่ด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้าย และด้านขวาของเจ้าอิฐสองก้อนนั้น ล้วนแต่เป็นอิฐที่ก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนอิฐที่ดีนี้มีมากกว่าเจ้าอิฐที่ไม่ดีสองก้อนนั้นมากมายนัก ก่อนหน้านี้ตาของอาตมาจับจ้องเฉพาะแต่ที่อิฐสองก้อนนั้น ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด อาตมาจึงไม่อาจทนมองกำแพงนั้นได้ และไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นกำแพงนั้นด้วย เป็นเหตุให้อาตมาอยากจะทลายกำแพงนั้นทิ้ง เดี๋ยวนี้เมื่ออาตมาสามารถเห็นอิฐดีๆ แล้ว กำแพงนั้นก็ไม่น่าเกลียดอีกต่อไป มันก็เป็นเหมือนกับที่ผู้มาเยี่ยมคนนั้นพูด "กำแพงนี่สวยดี" เดี๋ยวนี้กำแพงนั้นก็ยังคงอยู่ แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 20 ปีแล้ว อาตมาเองก็ลืมเสียแล้วว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมันอยู่ตรงไหนแน่ อาตมาไม่สามารถเห็นจุดที่ผิดพลาดนั้นจริงๆ

มนุษย์เราสักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์หรือหย่าร้างเพียงเพราะเขาเพ่งมองเห็นแต่ 'อิฐที่ไม่ดีสองก้อน' ที่อยู่ในตัวคู่ชีวิตของเขา พวกเรากี่คนที่เคยรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนอาจจะเคยคิดฆ่าตัวตายเพียงเพราะเรามองเห็นแต่ 'อิฐที่ไม่ดีสองก้อน' ในตัวของเรา ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงมี 'อิฐที่ดีและอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ' มากมายอยู่เคียงข้างส่วนที่บกพร่อง ไม่ว่าจะมองไปทางข้างบน ข้างล่าง ข้างซ้าย ข้างขวาด เพียงแต่เรามองมันไม่เห็นเท่านั้น แทนที่จะเห็นสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ สายตาของเรากลับเพ่งมองจดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด ทั้งหมดที่เราเห็นมีแต่สิ่งผิดพลาด จนเราคิดอยากจะทำลายมันทิ้งเสีย มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้งหลายหนได้ลงมือทลาย "กำแพงที่ดี" นั้นไปจริงๆ

เราทุกคนย่อมมี 'ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน' แต่แต่ละคนก็ย่อมมี 'ก้อนอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ' จำนวนมากมายกว่าข้อบกพร่องหลายเท่า เมื่อเรามองเห็นมันแล้ว สิ่งต่างๆ ก็ดูจะไม่เลวร้ายนัก ไม่เพียงแต่เราจะสามารถอยู่กับตนเองและข้อผิดพลาดบางประการของเราได้อย่างสุขสงบแล้ว เรายังสามารถมีความสุขกับการใช้ชีวิตร่วมกับสามีหรือภรรยาของเราด้วย นับเป็นข่าวร้ายสำหรับทนายความผู้เชี่ยวชาญเรื่องการหย่าร้าง แต่เป็นข่าวดีสำหรับโยม

อาตมาได้เล่าเรื่องสั้นๆ นี้หลายครั้ง ช่างก่อสร้างคนหนึ่งที่ได้ฟังเรื่องนี้ได้มาพบอาตมาเพื่อบอกความลับเกี่ยวกับงานก่อสร้าง เขาบอกว่า "ช่างก่อสร้างอย่างเราๆ นี้มักจะทำสิ่งผิดพลาดได้เสมอ เพียงแต่เราจะบอกลูกค้าของเราว่ามันเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่ไม่มีบ้านใดในละแวกนั้นมีเหมือน แถมเรายังเบิกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสองสามพันเหรียญอีกด้วย"

ฉะนั้นมันเป็นไปได้ที่เอกลักษณ์พิเศษจะมีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาด ในทำนองเดียวกัน ถ้าเพียงแต่โยมจะเลิกมองจดจ้องอยู่เฉพาะแต่ข้อผิดพลาด สิ่งที่โยมเห็นว่าเป็นข้อบกพร่องในตัวโยม ในตัวสามีหรือภรรยาของโยม และในชีวิตทั่วๆ ไป อาจจะกลับกลายเป็น 'ลักษณะพิเศษเฉพาะตัว' ที่จะเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตของโยมนะ

: ที่มา - เรื่องสั้นของหลวงพ่อ พระอาจารย์พรหมวังโส จากหนังสือ "ชวนม่วนชื่น"




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2551
1 comments
Last Update : 13 มีนาคม 2553 4:31:38 น.
Counter : 668 Pageviews.

 

จะเข้ามาบอกว่าเคยอ่านใน ชวนม่วนซื่น เหมือนกันค่ะ ดีนะ

ขอบคุณค่ะที่เอาข้อความดีๆ มาให้อ่าน ช่วยเตือนสติเราได้พอดีเลยช่วงนี้

 

โดย: แม่น้องปอ (อัปสรสวรรค์12 ) 18 ธันวาคม 2551 12:29:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


animE'
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




รองเท้าใหม่ ใครๆก็อยากมี และเสียใจที่ไม่มี

จน....

ได้เห็น

คนไม่มี...

.....แม้กระทั่งเท้า..

**คิดถึงเมย์จัง เมย์จ๋า...เกดแต่งตัวสวยๆลงบลอค แล้วไม่มีเมย์มาดู เหงาจังเลย

Got My Cursor @ 123Cursors.com
New Comments
Friends' blogs
[Add animE''s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.