Bloggang.com : weblog for you and your gang
...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
กาพย์ โคลง กลอน
นิยายภาพ / การ์ตูน
นิยาย
เรื่องสั้น
นักสื่อสารสุขภาพ หรือ นสส.
สารคดี
ขำขัน
วาดรูป
<<
สิงหาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
12 สิงหาคม 2553
วาจาสิทธิ์พ่อหลวงสงฆ์
All Blogs
ฝากคนที่ชอบแจกซอง
ต่อกลอนในเฟซบุ๊ก
วิมานดอกบัว
วาจาสิทธิ์พ่อหลวงสงฆ์
จิบน้ำ
นักซิ่ง
เวทีชีวิต
น้ำทิพย์จากสวรรค์
เรื่องและภาพที่ถูกแบน
มาตราตัวสะกด "แม่กด" การ์ตูน
แม่ กก
แม่เกอว
แม่กม
กลอนสัมผัสอักษร
กลอนพาไป (เที่ยว)
เคยเขียนไว้ว่า
สอนเด็กให้รักโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
กลอนเก่า+กลอนใหม่
สัพเพเหระของชีวิต
ดอกและผลในความมืด
ดุจเดือนดวง..ที่ล่วงลับ (ขอพระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคาลัย)
วันพ่อ
หยุดพักตอนมาเขียนกลอน(บ้าง)ดีกว่า
โธ่ถังเอ๊ย!
พระแม่ของแผ่นดิน
เรื่องสั้นหักมุม(ชีวิตแบบพอเพียง)
เสียงพลอดรักจากคนห้องแถว
อาการป่วยเรื้อรังของประเทศ
รำพึงในวันฝนตก
สึนามิ
ตอบกลอนคุณหทัยชนก ๒
ตอบกลอนคุณหทัยชนก
ตอนเช้าที่บ่อสร้าง สันกำแพง
จากงานพานแว่นฟ้า
โชคอนันต์
ครูกะเศษ
โลกในอ่างบัว
ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
เวทีชีวิต
กราบก้มประนมกรสุนทรภู่
โคตรโคควายคุณคน
ปรัชญาจากหมาวัด
คนเลี้ยงควาย ควายเลี้ยงคน
ประหลาดใจ
คนรวย
คนจน
ทุ่งหลวง
เห็นใจชาวสวน
กลอนถวายพระพร
พระบารมีปกเกล้าชาวชุมพร
วาจาสิทธิ์พ่อหลวงสงฆ์
วาจาสิทธิ์ของหลวงปู่สง
คือผลงานวาดภาพชุดล่าสุด ที่ผมรับวาดภาพให้ครู ตามโครงการสร้างสื่อหนังสือเพื่อส่งเสริมการอ่าน ให้แก่นักเรียนชั้น ป.๓ (ที่มีการสำรวจพบว่าอ่านหนังสือไม่ออกจังหวัดละนับหมื่นคน ไม่ใช่งานขอซี ๘) ได้อ่านเรื่องราวของบุคคลในท้องถิ่น จะเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพิ่มพูนศรัทธาในพระอริยะสงฆ์ก็ตามแต่
การสร้างสื่อเพื่อส่งเสริมการอ่านมีจุดเน้นให้เขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น ดังนั้นเนื้อเรื่องหรือเนื้อความที่นำเสนอต่อไปนี้บางท่านอาจจะเสธว่าไม่เชื่อ ไม่จริง สอนให้คนงมงาย... ก็เป็นเรื่องของท่าน ส่วนใครที่เชื่อแล้วคิดดีทำดี ก็ขอให้ได้บุญกุศลจากการทำความดีนั้น แล้วก็ใคร่ขอแบ่งบุญมายังคนป่วยอย่างผมด้วยก็แล้วกัน
งานชุดนี้มี ๓ ชุด ทั้ง ๓ ชุดเป็นร้อยกรองทั้งหมด
ชุดที่ ๑ ครูเขาตั้งชื่อมาว่า "จุติคนดี" ผมไม่เอาลงเพราะเคยเอาฉบับที่เป็นร้อยแก้วลงมาครั้งหนึ่งแล้ว ท่านอ่านได้ในบล็อกย้อนหลัง
ชุดที่ ๒ ชื่อ "มีวาจาสิทธิ์" คือชุดที่ลงนี้
ส่วนชุดที่ ๓ "อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์" ยังไม่ได้วาด
ภาพส่วนใหญ่ต่อไปนี้ผมรับวาดขณะกำลังป่วยไข้ตอนที่ผมยังไม่ป่วย กับหลังป่วยผมพบว่าภาพที่วาดตอนกำลังป่วย ภาพกลับวาดออกมาดีกว่าตอนไม่ป่วย...
คุยแล้วก็ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ
.... มีเรื่องวาจาสิทธิ์...........ที่น่าคิดไม่เสื่อมถอย
เล่ากันผันเรียงร้อย...............จะทยอยมาเล่ากัน
(ภาพวาดใหม่)
....เรื่องแรกรับในหลวง..........ราษฎรทั้งปวงรออยู่นั้น
พระอื่นชื่นบานกัน.................ขาดปู่สงฆ์ยังคงรอ
ขณะนั้นใกล้เวลา..................เสด็จมาถึงแล้วหนอ
ผู้ว่าทำหน้างอ.....................ขอให้คนนิมนต์ไว
ปู่สงฆ์กลับนิ่งเฉย..................ก่อนจะเอ่ยวาจาไข
พิธีต้องเลื่อนไป...................ในหลวงไม่เสด็จมา
(ภาพวาดเก่าตอนไม่ป่วย)
.... ผู้ว่าฯ พาท้อใจ..............หลวงปู่ไซร้แก่แล้วหนา
เลอะเลือนเยือนชรา.............เมื่อไม่มาก็ตามใจ
พอดีมีวิทยุ........................ความระบุเป็นข่าวใหม่
ฟ้ามืดมิดมีภัย....................ฮอไม่อาจพาพระองค์
จากนราฯ มาชุมพร............ต้องผัดผ่อนพระประสงค์
หลวงปู่รู้จำนง....................ว่าสององค์ไม่เสด็จมา
(ภาพวาดเก่าตอนยังไม่ป่วย)
....อีกครั้งดังยิ่งใหญ่.............ราชการไทยที่ไปหา
นำสัตว์ที่เลี้ยงมา.................ใส่กรงไว้ให้งุนงง
หลวงปู่ไม่เลี้ยงสัตว์.............เพราะติดขัดกับกิจสงฆ์
อยากให้ได้ดำรง.................อยู่พงป่าดีกว่ากัน
ปู่ถามโยมเอานก.................มากักกกทำไมนั่น
ข้าราชฯแย้งทันควัน.............เปิดกรงหันพลันนกบิน
.....หลังวัดมีแม่น้ำ................เรือคลาคล่ำนำหลากสิน
ข้าวปลาค้าขายกิน................ต่างถิ่นจอดทอดสะพาน
วันหนึ่งเรือข้าวเปลือก............เอาเรือเสือกพ้นทางผ่าน
หลวงปู่นั่งอยู่นาน.................เขากับท่านคุ้นเคยกัน
(ภาพต่อจากนี้วาดตอนกำลังป่วยไข้ครับ)
.....เรือลอยวนกับที่..............ถ่อกี่ทีหยุดอยู่นั่น
คนเรือเชื่อว่าอัน..................เรือเหหันเป็นเพราะใคร
กระโดดลงจากเรือ...............กายอาบเหงื่อเสื้อถอดไว้
ท่านหยุดเรือทำไม..............เรือจึงไม่ยอมผ่านเลย
....หลวงปู่รู้แสร้งถาม............"เราไปทำไรสูเหวย
ก็ดึงเรือไว้เอย....................ผมเคยคุ้นคุณชอบทำ
ดึงไยเรือไปโน่น................ท่านตะโกนบอกซ้ำซ้ำ
เรือลอยไปทั้งลำ..................ทำเจ้าของต้องวิ่งตาม
....ข้างกุฏิสุดบันได...............มีตุ่มไว้ไม่ต้องถาม
ใครมาหาทุกยาม...................จะตักน้ำไปดื่มกิน
บางคนเอาล้างเท้า................ก็สูญเปล่าไปทั้งสิ้น
บางคนใส่ขวดริน..................ถวิลหาว่าน้ำมนตร์
....ครั้งหนึ่งคนผีเข้า...............เป็นเด็กสาวจิตสับสน
พ่อพาหาน้ำมนตร์..................ชายสามคนต้องช่วยกัน
ดิ้นรนร้องเอะอะ....................มาหาพระร้องด่าลั่น
หลวงปู่รู้ทันควัน....................ท่านหยิบขันสาดน้ำโครม
....เด็กสาวคืนสติ..................ไร้อิทธิฤทธิ์หักโหม
ร่างกายหายเสื่อมโทรม............โน้มกายกราบซาบซึ้งใน
ผู้คนจึงได้รู้...........................น้ำมนต์ปู่อยู่ที่ไหน
หญิงชายแม้ใกล้ไกล...............ตักไปใช้ได้ทุกยาม
.....อีกสิ่งคือยาเส้น.................ไม่ว่างเว้นมีคนถาม
ต่างมาหาติดตาม....................ตอนหลวงปู่ถูซี่ฟัน
หลวงปู่ถูอมไว้........................ก่อนยื่นให้ชายหนึ่งนั้น
เขาจับรับมาพลัน.....................ใส่ตู้ลั่นแจนิรภัย
....วันหนึ่งโจรเข้าบ้าน..............เปิดเซฟนานแต่เปิดได้
ไม่มีสมบัติใด.........................ในตู้เห็นแต่เส้นยา
ความจริงตู้มีทรัพย์..................แต่โจรกลับเห็นแต่ว่า
เส้นใยไร้ราคา........................โจรส่ายหน้าเส้นยากอง
....อีกครายาวิเศษ...................ปฐมเหตุคนปวดท้อง
รักษามาเงินทอง.....................ของมีค่าลาหายไป
สิบปีไม่มีหาย.........................หมอมากมายไล่ผลักไส
แต่ปู่รู้ไปไกล..........................เขาให้ญาติช่วยพามา
....หลวงปู่ดูคนไข้...................ทั้งร่างกายคล้ายกับว่า
กระดูกถูกตีตรา.......................หมดสิ้นค่าสามีเมิน
....คนป่วยด้วยกุศล..................ศรัทธาล้นขนลุกเผิน
มองดูหลวงปู่เดิน.....................จิตสรรเสริญบารมี
หลวงปู่สงส่งน้ำปลา..................หนึ่งขวดมาว่าครานี้
ยาใดใครว่าดี.......................... มิต้องดื่มลืมได้เลย
ดื่มหมดปลดป่วยทิ้ง..................นี่คือสิ่งสุดเฉลย
ใครมาหาคุ้นเคย......................เอ่ยถวายน้ำปลาดี
....อีกอย่างน้ำล้างบาตร.............ก่อนเคยสาดรดพื้นที่
ต้นไม้ให้งามมี.........................มาบัดนี้มีคนรอ
เขารับจับไปดื่ม........................แล้วปลาบปลื้มลืมทุกข์ท้อ
โรคหายยังไม่พอ......................ขอรวยง่ายได้ดังใจ
.... เรื่องเล่าสาวชุมพร..............อุตส่าห์วอนขอไปใช้
แรกมาศรัทธาใน.......................น้ำล้างบาตรไม่ขาดตอน
พอได้นำกลับไป.......................มองน้ำใสมีเป็นก้อน
เมล็ดข้าวเคล้าตะกอน................เศษอาหารพาลอาเจียน
.... หยุดรถเทข้างทาง...............ใจลบล้างศรัทธาเหี้ยน
ความคิดจิตติเตียน....................เปลี่ยนทับถมว่างมงาย
....นั่งรถกลับถึงบ้าน..................พักสังขารหลับตาหมาย
มีหนอนชอนไชกาย...................คันยุบยิบรีบเปิดไฟ
ไต่ตัวอยู่ยั้วเยี้ย.........................อีกลามเลียที่นอนใหญ่
เรียกคนมากวาดไป....................กลับมาใหม่ไม่ต้องนอน
รู้ท่าว่าทำผิด............................ธูปเทียนติดสวดมนต์อ้อน
ขอขมาอย่าลิดรอน....................หนอนก็หายสลายไป
....ยังมีเรื่องกวางน้อย.................ชาวดงดอยนำปล่อยไว้
หลวงปู่รู้จิตใจ...........................สัตว์น้อยใหญ่อยู่ป่าดง
จึงปล่อยให้หากิน.......................ไปทุกถิ่นที่ประสงค์
แต่กลัวคนเจาะจง.......................จะลอบฆ่าชีวาวาย
....จึงเอาชายจีวร.......................ผูกคอก่อนให้เห็นง่าย
กวางน้อยจึงลอยชาย..................อยู่รอดได้ตลอดมา
บางครั้งไปกินผัก........................คนรู้จักก็ไม่ฆ่า
ไอ้น้อยลอยหน้าตา.....................อาศัยวัดตัดทุกข์ภัย
....ทว่ามาวันหนึ่ง........................กวางน้อยจึงโดนเข้าให้
มีคนยิงมันไว..............................ปืนไม่ออกกระบอกตัน
แต่เห็นว่ากวางเชื่อง.....................แก้ผ้าเหลืองออกเดี๋ยวนั้น
ยิงไปใหม่อีกพลัน........................ไอ้น้อยนั้นก็ล้มตาย
....ขณะชำแหละเนื้อ....................สิ่งเหลือเชื่อก็เกิดง่าย
เนื้อกวางที่วางวาย.......................มีกลิ่นคล้ายอุจาระ
นายหวินกินไม่ได้.........................ก็ทิ้งไว้ให้เขละขละ
เพื่อนบ้านขานกวางพระ.................จำต้องจะไปรายงาน
...บอกกล่าวเล่าหลวงปู่................พระสงรู้นึกสงสาร
ไอ้น้อยยืนคอยพราน.....................แก้ปมผ้าก่อนมายิง
คนยิงนั้นมันบ้า............................กวางรอถ้ายืนนิ่งนิ่ง
ทำได้ใจร้ายจริง...........................อย่าสุงสิงคบหามัน
....นายหวินจึงเป็นบ้า....................ด้วยวาจาศักดิ์สิทธิ์นั้น
บาปกรรมไล่ตามทัน......................มิอาจกั้นดังเป็นเงา
....ปู่สงองค์อริยะ..........................สอนธรรมะให้พ้นเขลา
สาธุชนพ้นมัวเมา..........................ดุจเทพเจ้าของชาวชุมพร
Create Date : 12 สิงหาคม 2553
Last Update : 24 สิงหาคม 2553 9:26:45 น.
20 comments
Counter : 8048 Pageviews.
Share
Tweet
เฮ้อ! กว่าจะมาลงได้แก้กันไปแก้กันมาจนเหนื่อย ใช้เวลาถึงเกือบสองวันเต็ม ๆ เชียวนะครับ
หมู่นี้กลัวอย่างเดียวพวกที่มาก่อกวนกวน เข้าใช้คำหยาบโดยผมไม่ทราบเหตุผล โชคดีที่มีระบบกรองคำ
การก่อกวนนี้ลามไปถึงบล็อกคุณอี๊ด จนคุณอี๊ดต้องปิดบล็อกไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้เธอไม่กลัว ลุงเองก็ไม่กลัว เพราะถ้าโพสต์มาแบบไม่ใช่คน...ก็ลบออกซะหมดเรื่อง
โดย: ลุงบูลย์ (
pantamuang
) วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:19:38:45 น.
สวัสดีครับลุง
ผมไม่ทราบเหตุผลเลยว่าทำไม ต้องมีคนมาก่อกวนบล็อกของลุงกับคุณอิ๊ดด้วย ทั้งที่เป็นบล็อกธรรมดาๆ ไม่ได้ให้ร้ายใคร
ค่ำนี้ผมจะมาคุยอีกครั้ง วันนี้ต้องออกจากบ้านแต่เช้า ไปช่วยงานที่สวนพี่สาวเขาจะตัดลองกองกัน พ่อค้ารับซื้อ 8 บาท ในตลาดยังขาย 40 ฟังแล้วน่าเห็นใจชาวสวนไหมล่า...
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:6:04:20 น.
สวัสดีค่ะ...คุณลุงบูลย์
...แค่เห็นภาพวาด เด็กๆก็คงอยากอ่านแล้วหล่ะค่ะ ภาพวาดสวยๆ
ของคุณลุงช่วยดึงดูดใจในการอยากอ่านได้ดีมากๆเลยค่ะ
...เรื่องของความเชื่อเป็นเรื่องที่ว่ากันไม่ได้เลยจริงๆ เพราะ คนเรา
ต่างคนต่างความคิด
...มีเรื่องตลกมาเล่าค่ะ คือ มีคนถามคุณหมอคนหนึ่งว่า.. คุณหมอ
คิดว่ามีไหม คนที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ทุกอย่าง คุณหมอตอบ
ว่าไงรู้ไหมคะ...คุณหมอหัวเราะแล้วตอบว่า...โอ๊ย..ไม่มีหรอกคุณ
คนที่จะมีสุขภาพดี แข็งแรง สมบูรณ์ ทุกอย่างน่ะ จะมีก็แต่คนที่ยัง
ตรวจร่างกายยังไม่ละเอียดพอเท่านั้นเอง (อิ..อิ)
...เพราะฉะนั้น คนทุกคนป่วยค่ะคุณลุง เพียงแต่ว่าบางคนกลัวไม่
กล้าไปตรวจเท่านั้นเอง ก็เลยไม่เจอโรค
...ขอให้คุณลุงหายป่วยเร็วๆและมีสุขภาพแข็งนะคะ
โดย: ไกลบ้าน IP: 109.41.161.124 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:6:40:46 น.
ดูภาพวาดของคุณลุงบูลย์แล้วสบายใจครับ
ผมคิดถึงบทอาขยานสมัยเด็กๆ ครับที่ว่า เห็นกวางย่างเยื้องชำเลืองเดิน...
ตั้งแต่ประถมหนึ่ง เวลาท่องพร้อมๆกันไพเราะและเจื้อยแจ้วน่าฟังตามประสาเด็กๆ
ขอให้คุณลุงบูลย์มีสุขภาพแข็งแรงและหายป่วยเร็วๆนะครับ
โดย:
Insignia_Museum
วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:11:19:21 น.
เมื่อวานตอนค่ำไม่ได้เข้ามา เลยต้องมาดูรายละเอียดวันนี้
ไม่ว่าก่อนป่วยหรือขณะที่ป่วย ทุกภาพที่ออกมา ล้วนดูสวยน่าชื่นชมทุกภาพเลยนะครับ บางทีขณะที่เราป่วยอยู่ สมาธิอาจจะนิ่งมากกว่า ความรู้สึกของลุงจึงดูเหมือนกับว่าดีกว่า แต่ผมว่าดีเท่ากันนะ และถ้าให้ดีที่สุดคือ ลุงไม่ป่วยไงครับ
ว่าแต่บล็อกคุณอิ๊ดตอนนี้สวยดีนะ พัฒนาได้เร็วมาก
พูดถึงเรื่องลองกอง ราว 10-15 ปีก่อน ต้องตันหยงมัสเท่านั้น นำมาขายที่ภูเก็ต ราคา 80-100 นี่เราว่าถูกแล้วนะ ผมซื้อกินปีละหลายสิบโล เพราะชอบ ตอนนั้นแหละเกษตรกรเห็นราคาดี เลยปลูกกันใหญ่ สุดท้ายเป็นไง เมื่อผลผลิตออกมาพร้อมกัน ล้นตลาด ขายไม่ได้เลยราคาตกต่ำมาก ตอนนี้ที่สวน พี่สาวบอกยังมีอีกเป็นตัน ภายใน 2 อาทิตย์นี้ถ้าระบายไม่ออก ไม่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อไปขาย สงสัยคงต้องปล่อยให้เน่าคาต้น
น่าเห็นใจเกษตรกรมาก พ่อค้าคนกลางได้เปรียบมากกว่าอีก ปุ๋ยก็ไม่ต้องใส่ อาศัยแรงงานคนตอนมาตัด และค่าน้ำมันบรรทุกไปขาย ราคาต่อกิโลได้กำไรมากกว่าชาวสวนอีก
ลุงรู้ไหมต่อไปอะไรจะถูกอีก ผลอินทผาลัมสดไงครับ ช่วงนี้เริ่มปลูกกันมากมาย เพราะราคามันสูงมาก แถมอากาศทางนี้ปลูกได้ผลเสียด้วยซิ
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:11:52:05 น.
ลองกองหวานอร่อยมากลุง ถ้าส่งได้นะ ผมส่งให้ลุงฟรีๆเลย ลุงคิดดูสิ ขนาดลำไย เปลือกแข็งกว่า ส่งแบบด่วนนะ 3 วันถึง เน่าหมดเลย ถ้าเป็นลองกอง โยนไปโยนมา มีหวังเละตุ้มเป๊ะ เพราะฉะนั้นรอลองกองจากทางใต้ฝั่งนี้ส่งไปขายดีกว่า รับรองว่าไม่นาน ไปถึงแน่ๆ เพราะผลผลิตกำลังแข่งกันออกจนล้นตลาดอย่างแน่นอน
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:22:28:17 น.
ภาพชุดนี้รู้สึกว่ามันเนียนละเอียดกว่าทุกครั้งนะคะ
ไม่รู้อัยย์คิดไปเองหรือเปล่า
โดยเฉพาะภาพคนนุ่งผ้าขาวม้าห้ามกวาง สีสวยมากค่ะ
ถ้าลุงลองใช้สีน้อยๆดูบ้าง คงจะแปลกตาไปอีกแบบ
เคยวาดภาพที่สีน้อยๆบ้างป่าวคะ เอามาอวดกันหน่อย
เที่ยวนี้กาพย์ยานี 11 ใช่มั้ยคะ
สมัยเรียนชอบมาก เห็นแบบนี้แล้วคันไม้คันมือ อยากแต่งบ้างแล้วสิ
ป.ล.ติดเฟซบุ๊ก ไม่ใช่ติดอะไรหรอกค่ะ ไปติดเล่นเกมปลุกผักในนั้น
โดย: นักล่าน้ำตก IP: 61.90.13.194 วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:18:21:01 น.
สายัณห์สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+ --------------------------+
วันนี้สุขภาพดีขึ้นนะคะ
เชื่อมั่นว่าลุงบูลย์ดูแลตัวเองได้ดี
ด้วยพลังใจและมีลูกหลานมาให้กำลังใจสม่ำเสมอ
วาดภาพขณะป่วย เป็นการบำบัดอารมณ์ให้สงบนิ่ง
ช่วยให้เกิดสมาธิแน่วแน่ แล้วจิตใจจะผ่อนคลายสบายใจ
ในเวลาที่ต้องการปลีกวิเวก อาจจะเดินเล่นชมสวนดูต้นไม้ที่รอบบ้าน
เป็นการสร้างพลังกำลังใจให้สุขภาพดีขึ้นเสมอค่ะ
แวะมาชวนไปเดินเล่นในสวนหย่อมที่บล๊อกสาวฯ ค่ะ
และขอให้คืนนี้ "หลับฝันดี" นะค๊า
โดย: สาวฯ (
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
) วันที่: 16 สิงหาคม 2553 เวลา:21:33:00 น.
อินทผาลัม ผมเห็นพี่เขยนำมาปลูกในสวนปาล์มที่พังงา ได้ผลจริงครับลุง ต้นงดงามมาก มันคงลืมกำพืดไปเลยว่า เคยอยู่ในประเทศแถบทะเลทราย แต่มันยังไม่ตกผล และปลูกก็ไม่ได้เป็นการค้า คิดว่าเอาไว้กินเพียง 3-4 ต้น
แต่ที่แน่นอนที่สุด ผมเกิดมาใกล้จะ 50 ปีเข้าไปแล้ว เพิ่งเคยเห็นปรากฏการณ์ยะนัสหรือสับปะรดแพงก็ปีนี้ ลุงเชื่อไหมยะนัสภูเก็ต ลูกเล็กๆ เดี๋ยวนี้ราคาลูกละ 30 บาท ที่พังงาก็ไม่ต่างกัน ขนาดของมันนะไม่ใช่ว่าจะลูกใหญ่ ปีที่แล้วลูกขนาดนี้ผมซื้อในราคา 5-7 บาท
ที่เห็นขายกันอยู่ อย่าคิดนะว่าซื้อมาจะปอกกินได้ ภาษาใต้เขาว่า ตัดมาทั้งๆที่มันยังไม่ลืมตา ใช้ไหว้พระได้อย่างเดียว
สาเหตุที่มันแพง ผมคิดว่าไม่มีพื้นที่ปลูกมากกว่า ต้องโค่นยางเก่าเท่านั้นถึงจะปลูกได้ พอต้นยางโต สับปะรดก็ตาย แล้วพื้นที่ภูเก็ต ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพื้นที่ว่างมีไม่มากแล้ว
พี่เขยผมบอก ถ้าปลูกสับปะรดรุ่นหนึ่ง แล้วทยอยเก็บผลได้ 10 ปีนะ แกจะโค่นต้นลองกองทิ้งให้หมดเลย 555
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:15:06:41 น.
อยากคุยเก่งแบบคห.9 จัง
คุยไม่ค่อยออกเลย เอาเป็นว่ามาส่งความคิดถึงให้ลุงนะคะ
โดย:
นักล่าน้ำตก
วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:17:35:19 น.
เพิ่งรู้ว่าโม้เก่งนะเนี่ย (จาก คห.10)
สวัสดีครับลุง ขอบคุณในคำชมทุกๆอย่าง เรื่องสั้นวิญญาณสึนามิของผม มีประมาณ 40 กว่าเรื่อง ทุกเรื่องตีพิมพ์ไปหมดแล้ว แต่ยังไม่เคยรวมเล่มเลย ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า แต่..สมมุตินะ สมมุติว่าสึนามิเกิดอีกครั้งในฝั่งอันดามัน เมื่อนั้น..ผมอาจจะได้รวมเล่มก็ได้ 555
ในบล็อกต่อไป ผมจะเสนอเรื่อง อาหารคำเดียว คำละห้าหมื่นบาท ประสบการณ์ชีวิตที่ล้ำค่าจริงๆ ถ้าลุงได้อ่านแล้ว รับรองว่าลุงต้องชอบแน่นอน อีก 3-4 วัน ครับ อัพบล็อกแล้วจะรายงานให้ทราบทันที
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:9:50:04 น.
สวัสดีครับคุณลุงบูลย์
มาชื่นชมผลงานคุณลุงครับ ภาพวาดแบบนี้เป็นภาพสีน้ำใช่ไหมครับ
ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรงนะครับ หายป่วยเร็ว ๆ
ขอบคุณที่ให้เกียรติไปเยือนครับ ^ ^
โดย:
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา
วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:11:35:39 น.
หวัดดีค่าลุง
ชุมพรฝนตกป่าวเนี่ย..
ฝนๆยังงี้ ต้นไม้ลุงเป็นไงบ้าง ดอกบัวมีเพิ่มบ้างเปล่าคะ
วันนีี้นักล่าฯอัพดอกเข็ม มาชวนลุงไปดูค่ะ
โดย: นักล่าน้ำตก IP: 61.90.41.120 วันที่: 19 สิงหาคม 2553 เวลา:17:08:44 น.
สวัสดีครับคุณลุงบูลย์
ตอบคำถามที่คุณลุงบูลย์ถามไว้ที่บล็อกครับ
เรืองที่พักที่เวียดนามนั้นดีมาก น้ำไหล ไฟสว่าง หลับสบาย อุปกรณ์ในห้องน้ำมีครบถ้วน แม้แต่เครื่องเป่าผม
ส่วนอาหารจะเป็นปัญหาสำหรับลิ้นคนไทยหน่อย หากเป็นคนที่ชอบ
กินมังสะวิรัติ จะเข้าทางเลยครับ กินข้าวพูนจานกับผัดผักบ้าง ผักสดบ้าง อาหารที่เด่นมากคือผัดผักบุ้ง ไข่เจียว มีอยู่มื้อหนึ่งมีกุ้งมังกรตัวใหญ่มาก หนึ่งตัวต่อหนึ่งโต๊ะ
เรื่องยากลำบากเห็นมีเพียงอย่างเดียงคือนั่งรถนาน แต่ผู้นำทัวร์
เขามีกลเม็ดให้ลูกทัวร์ไม่เบื่อ แต่ความเมื่อยขบนั้นก็มีเป็นธรรมดา
ทำให้นอนหลับสบายทุกคืนครับ
โดย:
Insignia_Museum
วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:8:11:13 น.
สวัสดีค่ะลุงบูลย์
+===============+
ณ บ้านนอก ฝนตกพร่ำ ๆ ทุกวันโดยเฉพาะกลางคืนค่ะ
หากวันนี้ฝนตกทุก 2 ชม. แต่ตกไม่นาน แค่รู้สึกรำคาญ อิอิ
เมื่อยามฝนตกโปรยปรายในยามค่ำคืน
รู้สึกจะนอนหลับสบายมาก เลยขี้เกียจฝันซะงั้น
"งู" จึงไม่มีโอกาสเข้าใกล้ชิดติดตัวสาวฯ ในฝันเลยค่ะ หุ หุ
เดือนสิงหาคมปีนี้ ฝนตกบ่อยกว่าปีที่แล้วค่ะ
เพราะจำได้เดือนที่ฝนตกหนักและบ่อยมากที่สุดคือ "กันยายน"
แต่ปีนี้เหมือนฝนจะตกหนักแบบเร็วขึ้นกว่าค่ะ
ภาคอีสานถือว่ายังโชคดี ด้วยสภาพภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบสูง
จึงไม่ค่อยหวาดระแวงอุทกภัย ยกเว้นบ้านเรือนที่อยู่ใกล้แม่น้ำลำคลอง
ได้ติดตามภาพข่าว "น้ำท่วม" ในทุกมุมโลก
ภัยธรรมชาติถึงเวลาจะทำลายล้างมันรุนแรง
เหมือนว่ามนุษย์หน้าไหนก็ต้านไว้ไม่อยู่แล้วค่ะ
โดย:
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:15:10:57 น.
ผมมีบล็อกใหม่ครับลุง
ข่าวร้ายของเกษตรกรผู้ทำสวนลองกอง ณ.วันที่ผมเขียนเม้นท์
ลุงจะเลือกเป็นอะไรดีต่อไปนี้
1. แม่ค้า พ่อค้า รับลองกองมาขาย ตอนนี้โลละ 20-25 บาท (แต่ผมไม่ทราบว่าเขารับมาโลเท่าไหร่นะ)
2. พ่อค้าคนกลางไปรับซื้อที่สวน ต้องตัดให้ด้วยนะ ในอัตราโลละ 5 บาท
3. คนเก็บเกี่ยวลองกอง รับจ้างเก็บเกี่ยว โลละ 3 บาท
4. คนตัดแต่ง คัดแยกเกรดลองกอง รับจ้างโลละ 1 บาท
5. ชาวสวนลองกอง ที่ไม่มีปัญญาขายเอง ละแวกบ้านก็ไม่รู้ขายใคร เพราะมีกันคนละต้นสองต้นก็กินไม่หมดแล้ว จ้างคนตัด และคนแต่ง ปาเข้าไปโลละ 4 บาทแล้ว เหลือ 1 บาทให้เจ้าของสวน มันจะพอยาไส้หรือ
หรือว่าปล่อยให้งอม สุกหอมหวาน นำมาทำน้ำหมักชีวภาพแข่งกับป้าเฉ่งดีไหมเนี่ย 555
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:21:44:15 น.
หวัดดีค่ะลุง
วันนี้นักล่าฯอัพบล็อก อเชิญแวะไปชมนะคะ
โดย:
นักล่าน้ำตก
วันที่: 22 สิงหาคม 2553 เวลา:19:40:30 น.
ได้ฟังถ้อยคำชมผมละปลื้ม
ไม่ต้องดื่มน้ำใดๆใจมันซู่ส์
นับถือลุงเป็นเสมือนเพื่อนและครู
เป็นกูรูวาดภาพปลาบปลื้มใจ
เมื่อ 2 วันก่อนผมได้มีโอกาสต้อนรับเพื่อนสาวจากเชียงใหม่ที่เล่นบล็อกด้วยกัน เธอเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตทั้งครอบครัว ได้รู้จักตัวเป็นๆกันแล้วก็อบอุ่นมาก ลุงอีกคนหนึ่งอย่าได้เกรงใจ สมมุติว่าจะเดินทางมาหาลูกชายที่ภูเก็ตเมื่อไหร่ ติดต่อหาผมได้ทันทีเลย เราต้องรู้จักตัวเป็นๆกันสักวันหนึ่งนี้
ผมว่าถ้าลุงแข็งแรงและขับรถได้ไกลๆอย่างเมื่อก่อนที่ลุงเขียนบล็อกไว้ว่าท่องเที่ยวก่อนเหี่ยวอะไรนั่นนะ ลุงต้องมาเที่ยวภูเก็ตแล้วแน่ๆ ผมเสียอีก ยังแข็งแรง ขับรถได้ แต่ไม่ค่อยได้มีโอกาสขับไปไหนๆ เพราะภรรยาไม่ให้ขับ เธอเป็น "แฟนขับ" ที่ดีของผมมาตั้งนานแล้ว ผมเลยนั่งเป็นคุณชายบอกทางมาตลอด สบายไปเลย 55
โดย:
ปลายแป้นพิมพ์
วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:12:27:44 น.
ดีมากๆ
โดย: tey IP: 110.49.193.38 วันที่: 24 สิงหาคม 2553 เวลา:20:31:29 น.
ภาพวาดของลุงสวยงามมากครับ อยากวาดภาพได้สวยๆแบบนี้บ้างครับ อยู่แถวไหนของชุมพรครับ
โดย: somboon_kk IP: 116.58.231.242 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:18:29:07 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
pantamuang
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [
?
]
ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย
ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ
ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..
ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.
เริ่ม 9 กันยายน 2550
Friends' blogs
หนอนเมืองกรุงฯ
pu_chiangdao
สีน้ำฟ้า
Mommy and me
สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น
แพรจารุ
Insignia_Museum
ปลายแป้นพิมพ์
hyee
ชบาฉาย
นักล่าน้ำตก
ทีแปลง
seton
ดอกหญ้า บนทางดิน
panwat
หญิงแก่น
นางมารร้ายจีจี้
แนวเนี๊ยะ
หลวงเส
Webmaster - BlogGang
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
ประพันธ์สาส์น
ท่านจันทร์
ประภัสสร เสวิกุล
นิตยสารสกุลไทย
ฮอตเมล์ดอทคอม
นายอินทร์
ไทยไรเตอร์
โกศล อนุสิม
colour code ป้ามด
โค้ดง่ายสำหรับบล็อก โดย ป้ามด
กระบี่ทูเดย์
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
หมู่นี้กลัวอย่างเดียวพวกที่มาก่อกวนกวน เข้าใช้คำหยาบโดยผมไม่ทราบเหตุผล โชคดีที่มีระบบกรองคำ
การก่อกวนนี้ลามไปถึงบล็อกคุณอี๊ด จนคุณอี๊ดต้องปิดบล็อกไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้เธอไม่กลัว ลุงเองก็ไม่กลัว เพราะถ้าโพสต์มาแบบไม่ใช่คน...ก็ลบออกซะหมดเรื่อง