เมื่อสิ่งที่รักมาจากไป เหลือแค่หัวใจสลาย แต่ไม่มีน้ำตา

lunapee
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunapee's blog to your web]
Links
 

 
8 คืน 9 วัน ที่วัดอัมพวัน

เรื่องการไปปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต
8 คืน 9 วัน ที่วัดอัมพวันค่ะเผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ บ้างไม่มากก็น้อยช่วงวันที่ 4-12 เมษายน
<font color="#FFFFFF">เรื่องการไปปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต<br />
8 คืน 9 วัน ที่วัดอัมพวันค่ะเผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ บ้างไม่มากก็น้อยช่วงวันที่ 4-12 เมษายน 2551<br />
<br />
วันที่ 4-5 เมษา 1200 คน<br />
6 เมษา เหลือ 500 คน<br />
7 เมษา เพิ่มเป็น 600 คน<br />
ช่วง 4-7 เมษา ปวดทรมาน สุดทนจริงๆค่ะจนพาลจะกลับบ้านเสียหายครั้งแต่คิดว่าการได้มาอย่างนี้สำหรับเรามันยากมากกว่าสามีจะอนุญาติ กว่าจะจัดการเรื่องลูกเรียบร้อยคิดว่าไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งหน้าอีกแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้ต้องอดทนให้ได้<br />
<br />
แต่พอวันที่ 8 เมษา เหลือ 450 คน<br />
การหายใจให้ถูกต้องก่อน เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการปฏิบัติค่ะ<br />
เป็นครั้งแรกที่เริ่มหายใจถูกทำให้เห็นทองพอง ยุบ เป็นครั้งแรกค่ะพยายามมีสติกับอาการของกาย ทำให้ข่มเวทนาไปได้มากแต่ก็ยังปวดมากอยู่ค่ะ<br />
<br />
พอวัน 9 เมษา 450 คน<br />
เวทนาทุกอย่างมารวมกันอยู่ในวันเดียว คือปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดหัว เส้นยึด เรียกว่าทรมานมากที่สุด ถ้าเทียบกับวันอื่นๆ ค่ะ จนนึกว่าเอ๊เราถอยหลังเข้าคลองไปแล้วรึปล่าว<br />
<br />
10 เมษา 250 คน<br />
เป็นวันแรกที่แทบไม่มีเวทนาเลยค่ะ และเริ่มเดินจงกรมได้ดี คือยืนหนอ และเดินแบบช้าสุดๆ ค่ะ แม่ชีสอนบอกว่า หลวงพ่อให้เดินช้าเหมือนคนใกล้จะสิ้นลม (ซึ่งตอนนั้นเราก็อยู่ในอาการนั้นพอดี อิอิ) ทำให้รู้ว่ายิ่งช้า ยิ่งไว คือเหมือนเราสามารถเก็บประจุไว้ในแบตเตอรี่ได้ทุกหน่วย ไม่มีรั่ว สามารถปฏิบัติติดต่อกันได้ 3 ชม ด้วยการมีสติตามตลอดเรียกว่าตามติดๆจนไม่มีรั่วเลยค่ะเหมือนมีพลังเก็บไว้เต็มเปี่ยมอะไรแบบนั้นค่ะ<br />
<br />
11 เมษา 1200 คน<br />
แต่ที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือวันนี้ค่ะ มาคิดว่าเอ๊ะร่างการเราหายใจเองอยู่แล้วทำไมเราต้องใส่ลมหายใจเข้าไปเลยนั่งเฉยๆ ปล่อยตัวตามสบาย เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนของท้องครั้งแรกคือพอง แล้วเค้าก็ยุบเองนั่งมองอยู่อย่างนี้สนุกและตื่นเต้นมากค่ะ เหมือนใครก็ไม่รู้หายใจ เราแค่ดูเฉยๆ เสียงภายนอกก็ยังได้ยิน แต่การพอง ยุบ ชัดมากค่ะแต่บางครั้งแผ่วจนจับไม่ได้เลย นั่งจนครบเวลาได้แบบสบายๆค่ะ ทำให้อยากอยู่ต่ออีก เพราะรู้สึกนี่แค่เริ่มต้น แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปอีกเมื่อไหร่ ไม่เป็นไรทำที่บ้านก็ได้เนอะ<br />
<br />
12 เมษา ประมาณ 2000 คน<br />
ก็ลาหลวงพ่อกลับบ้าน อาการพองยุบยังจับได้ชัดอยู่ค่ะ และชัดต่อเนื่องมาอีก 3-4 วัน แล้วหายไป เพราะจนบัดนี้ยังไม่ได้ปฏิบัติที่บ้านอีกเลย ขอเวลาให้เด็กเปิดเทอมแล้ว คงได้ปฏิบัติต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ</font>2551เรื่องการไปปฏิบัติธรรมครั้งแรกในชีวิต

8 คืน 9 วัน ที่วัดอัมพวันค่ะเผื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ บ้างไม่มากก็น้อยช่วงวันที่ 4-12 เมษายน 2551



วันที่ 4-5 เมษา 1200 คน

6 เมษา เหลือ 500 คน

7 เมษา เพิ่มเป็น 600 คน

ช่วง 4-7 เมษา ปวดทรมาน สุดทนจริงๆค่ะจนพาลจะกลับบ้านเสียหายครั้งแต่คิดว่าการได้มาอย่างนี้สำหรับเรามันยากมากกว่าสามีจะอนุญาติ กว่าจะจัดการเรื่องลูกเรียบร้อยคิดว่าไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งหน้าอีกแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้ต้องอดทนให้ได้



แต่พอวันที่ 8 เมษา เหลือ 450 คน

การหายใจให้ถูกต้องก่อน เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการปฏิบัติค่ะ

เป็นครั้งแรกที่เริ่มหายใจถูกทำให้เห็นทองพอง ยุบ เป็นครั้งแรกค่ะพยายามมีสติกับอาการของกาย ทำให้ข่มเวทนาไปได้มากแต่ก็ยังปวดมากอยู่ค่ะ



พอวัน 9 เมษา 450 คน

เวทนาทุกอย่างมารวมกันอยู่ในวันเดียว คือปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดหัว เส้นยึด เรียกว่าทรมานมากที่สุด ถ้าเทียบกับวันอื่นๆ ค่ะ จนนึกว่าเอ๊เราถอยหลังเข้าคลองไปแล้วรึปล่าว



10 เมษา 250 คน

เป็นวันแรกที่แทบไม่มีเวทนาเลยค่ะ และเริ่มเดินจงกรมได้ดี คือยืนหนอ และเดินแบบช้าสุดๆ ค่ะ แม่ชีสอนบอกว่า หลวงพ่อให้เดินช้าเหมือนคนใกล้จะสิ้นลม (ซึ่งตอนนั้นเราก็อยู่ในอาการนั้นพอดี อิอิ) ทำให้รู้ว่ายิ่งช้า ยิ่งไว คือเหมือนเราสามารถเก็บประจุไว้ในแบตเตอรี่ได้ทุกหน่วย ไม่มีรั่ว สามารถปฏิบัติติดต่อกันได้ 3 ชม ด้วยการมีสติตามตลอดเรียกว่าตามติดๆจนไม่มีรั่วเลยค่ะเหมือนมีพลังเก็บไว้เต็มเปี่ยมอะไรแบบนั้นค่ะ



11 เมษา 1200 คน

แต่ที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือวันนี้ค่ะ มาคิดว่าเอ๊ะร่างการเราหายใจเองอยู่แล้วทำไมเราต้องใส่ลมหายใจเข้าไปเลยนั่งเฉยๆ ปล่อยตัวตามสบาย เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนของท้องครั้งแรกคือพอง แล้วเค้าก็ยุบเองนั่งมองอยู่อย่างนี้สนุกและตื่นเต้นมากค่ะ เหมือนใครก็ไม่รู้หายใจ เราแค่ดูเฉยๆ เสียงภายนอกก็ยังได้ยิน แต่การพอง ยุบ ชัดมากค่ะแต่บางครั้งแผ่วจนจับไม่ได้เลย นั่งจนครบเวลาได้แบบสบายๆค่ะ ทำให้อยากอยู่ต่ออีก เพราะรู้สึกนี่แค่เริ่มต้น แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปอีกเมื่อไหร่ ไม่เป็นไรทำที่บ้านก็ได้เนอะ



12 เมษา ประมาณ 2000 คน

ก็ลาหลวงพ่อกลับบ้าน อาการพองยุบยังจับได้ชัดอยู่ค่ะ และชัดต่อเนื่องมาอีก 3-4 วัน แล้วหายไป เพราะจนบัดนี้ยังไม่ได้ปฏิบัติที่บ้านอีกเลย ขอเวลาให้เด็กเปิดเทอมแล้ว คงได้ปฏิบัติต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ


วันที่ 4-5 เมษา 1200 คน
6 เมษา เหลือ 500 คน
7 เมษา เพิ่มเป็น 600 คน
ช่วง 4-7 เมษา ปวดทรมาน สุดทนจริงๆค่ะจนพาลจะกลับบ้านเสียหายครั้งแต่คิดว่าการได้มาอย่างนี้สำหรับเรามันยากมากกว่าสามีจะอนุญาติ กว่าจะจัดการเรื่องลูกเรียบร้อยคิดว่าไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งหน้าอีกแล้วเพราะฉะนั้นครั้งนี้ต้องอดทนให้ได้

แต่พอวันที่ 8 เมษา เหลือ 450 คน
การหายใจให้ถูกต้องก่อน เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการปฏิบัติค่ะ
เป็นครั้งแรกที่เริ่มหายใจถูกทำให้เห็นทองพอง ยุบ เป็นครั้งแรกค่ะพยายามมีสติกับอาการของกาย ทำให้ข่มเวทนาไปได้มากแต่ก็ยังปวดมากอยู่ค่ะ

พอวัน 9 เมษา 450 คน
เวทนาทุกอย่างมารวมกันอยู่ในวันเดียว คือปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดหัว เส้นยึด เรียกว่าทรมานมากที่สุด ถ้าเทียบกับวันอื่นๆ ค่ะ จนนึกว่าเอ๊เราถอยหลังเข้าคลองไปแล้วรึปล่าว

10 เมษา 250 คน
เป็นวันแรกที่แทบไม่มีเวทนาเลยค่ะ และเริ่มเดินจงกรมได้ดี คือยืนหนอ และเดินแบบช้าสุดๆ ค่ะ แม่ชีสอนบอกว่า หลวงพ่อให้เดินช้าเหมือนคนใกล้จะสิ้นลม (ซึ่งตอนนั้นเราก็อยู่ในอาการนั้นพอดี อิอิ) ทำให้รู้ว่ายิ่งช้า ยิ่งไว คือเหมือนเราสามารถเก็บประจุไว้ในแบตเตอรี่ได้ทุกหน่วย ไม่มีรั่ว สามารถปฏิบัติติดต่อกันได้ 3 ชม ด้วยการมีสติตามตลอดเรียกว่าตามติดๆจนไม่มีรั่วเลยค่ะเหมือนมีพลังเก็บไว้เต็มเปี่ยมอะไรแบบนั้นค่ะ

11 เมษา 1200 คน
แต่ที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือวันนี้ค่ะ มาคิดว่าเอ๊ะร่างการเราหายใจเองอยู่แล้วทำไมเราต้องใส่ลมหายใจเข้าไปเลยนั่งเฉยๆ ปล่อยตัวตามสบาย เริ่มรู้สึกถึงการเคลื่อนของท้องครั้งแรกคือพอง แล้วเค้าก็ยุบเองนั่งมองอยู่อย่างนี้สนุกและตื่นเต้นมากค่ะ เหมือนใครก็ไม่รู้หายใจ เราแค่ดูเฉยๆ เสียงภายนอกก็ยังได้ยิน แต่การพอง ยุบ ชัดมากค่ะแต่บางครั้งแผ่วจนจับไม่ได้เลย นั่งจนครบเวลาได้แบบสบายๆค่ะ ทำให้อยากอยู่ต่ออีก เพราะรู้สึกนี่แค่เริ่มต้น แต่พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปอีกเมื่อไหร่ ไม่เป็นไรทำที่บ้านก็ได้เนอะ

12 เมษา ประมาณ 2000 คน
ก็ลาหลวงพ่อกลับบ้าน อาการพองยุบยังจับได้ชัดอยู่ค่ะ และชัดต่อเนื่องมาอีก 3-4 วัน แล้วหายไป เพราะจนบัดนี้ยังไม่ได้ปฏิบัติที่บ้านอีกเลย ขอเวลาให้เด็กเปิดเทอมแล้ว คงได้ปฏิบัติต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ



Create Date : 25 เมษายน 2551
Last Update : 13 พฤษภาคม 2565 16:06:47 น. 11 comments
Counter : 437 Pageviews.

 
ขอลอง comment หน่อย อิอิ
สีชัดดีมั้ยน้า


โดย: lunapee วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:11:14:27 น.  

 
ไม้ดัดเองค่ะ คุณลูนาปี

น่ายินดีที่ได้ไปปฏิบัตินะคะ
ขนาดอยู่กทม ยังไม่ได้ไปซักที
เคยไปกราบบารมีท่านครั้งเดียวเองค่ะ



โดย: หมาดื้อ IP: 124.120.97.115 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:14:26:26 น.  

 
เราก็เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวันค่ะ ไป ศุกร์ เสาร์ กลับอาทิตย์



โดย: ayopolie วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:17:31:50 น.  

 
หวัดดีคุณไม้ดัดค่ะ ช่วงนี้ปิดเทอม ไม่ค่อยได้จับกล้อง เลยไม่ได้เข้าบอร์ดลุงคิด ดีใจมากค่ะที่เจอคุณไม้ดัดที่นี่ ว่างๆ คุณไม้ดัดลองหาโอกาสไปซิคะ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ

คุณ ayopolie ลองไปแบบ 7 วันซักครั้งซิค่ะ เพราะวันเสาร์เราจะ
ทรมานมาก พอวันอาทิตย์ก็กลับเสียแล้ว ยังไม่ทันได้ พบทางออกของทุกขเวทนาน่ะค่ะ


โดย: lunapee IP: 124.120.62.35 วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:18:24:04 น.  

 
อิอิ มีรูปสงกานต์ เชียงใหม่ มากมาย แต่ยังมะมีเวลาเอาขึ้นโชว์ เลยจ้า
ตอนนี้ เข้าโหมดเกียจคร้านอย่างแรง เหอๆๆๆ สบายดีกันทั้งคนและแมวจ้า


โดย: zMee IP: 125.25.87.93 วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:16:01:04 น.  

 
อนุโมทนาด้วยนะคะ....


โดย: ถมทอง วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:21:26:02 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ..

ขอโทษนะคะป้าหู้ยังไม่ได้เปลี่ยนสีในกล่องคอมเม้นเลยจ่ะ

พักนี้มีอาการ...มะค่อยขยันเลยอ่ะจ่ะ

ไว้บล๊อกหน้าละกานน้า...ดีใจด้วยนะคะที่คุณพ่อบ้านใจดี

อนุญาติให้ไปปฎิบัติธรรมน่ะค่ะ...

สมัยก่อนป้าหู้เคยไปกับเพื่อนๆแต่ไม่ค่อยได้บุญเตมร้อยอ่ะจ่ะ

เพราะที่บ้านไม่ค่อยอยากให้ไป แรกๆป้าก็เปนทุกข์มาก

แต่ก็พยายามทำใจ และก็คิดว่าเราปฎิบัติที่บ้านก็ได้

และก็ทำได้จริงๆค่ะ แต่ป้าก็ไม่ค่อยได้ทำสม่ำเสมออ่ะค่ะ

จะได้ใช้สติก็ตอนเวลาที่เครียดหรือหงุดหงิดน่ะค่ะ

เขียนซะเยะเลย...คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 26 เมษายน 2551 เวลา:22:27:11 น.  

 
คุณถมทอง ป้าหู้ เอาบุญมาฝากค่ะ
ใช่ค่ะป้าหู้ปฏิบัติที่บ้านก็ได้ วัดเค้าก็อยากให้เราทำแบบนั้นค่ะ แต่สิ่งแวดล้อมมันไม่เหมือนกันเนอะ อยู่ที่วัดรู้สึกเป็นคนดีพร้อม อิอิ


โดย: lunapee วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:8:06:40 น.  

 
โมทนาสาธุด้วยค่ะ
อยู่ที่บ้าน ก็ปฎิบัติต่อได้นะคะ


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 27 เมษายน 2551 เวลา:21:13:52 น.  

 
ขอบคุณ คุณกิ่งไม้ไทยมากค่ะ
เอาบุญมาฝากด้วยนะคะ


โดย: lunapee วันที่: 28 เมษายน 2551 เวลา:8:11:59 น.  

 
แวะมาอ่านประสบการณ์การปฏิบัติธรรรมของคุณพี่ Lunapee ครับ



โดย: joblovenuk วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:45:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.