เพราะหนังสือเปิดตา และการเดินทางเปิดใจ
มรดกโลก ๓ โบสถ์เซนต์ปอลและสรรพสวน

เดินกันจนทะลุปรุโปร่งแถวจัตุรัสเซนาโดแล้ว ก็เลาะไปดูสถานที่ "มัสต์-ซี" อีกแห่งของมาเก๊ากัน นั่นก็คือซากโบสถ์เซนต์ปอลที่ปรากฏในแม็กเนตยอดนิยมนั่นเอง ระหว่างทางเดินไปตามตรอกเล็กๆ จะเห็นมีร้านค้าหน้าตาเก่าๆให้ดูบรรยากาศยุคโบราณหลายแห่ง สลับกับร้านขายของที่ระลึกที่เป็นของใช้เสื้อผ้าและร้านขายของที่ระลึกที่เป็นอาหารการกิน เดินกันเพลิน ช็อปกันมันเลยทีเดียวแหละ





โบสถ์เซนต์ปอลเป็นซากโบสถ์ที่มีฝาด้านเดียวอยู่บนเนินสูง ยากจะพลาดได้ด้วยประการทั้งปวง จากถนนด้านล่าง หลังจากช็อปกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ถ้าเหลือบมองทางบ้างก็คงจะไม่เลยแน่ๆ เพราะมองขึ้นไปจะเห็นด้านหน้าของโบสถ์ตั้งตระหง่านน่าเกรงขามอยู่บนบันได แต่ฝาด้านหน้าก็คือฝาด้านเดียวที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ถ้าเห็นคนโผล่หน้ามาตามประตูหน้าต่างก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเขาอนุญาตให้เดินขึ้นไปตามบันไดเหล็กที่เสริมไว้ด้านหลังได้ ส่วนด้านในจะมีภาพถ่ายโบราณ และด้านล่างก็มีห้องจัดนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์เล็กๆ พอให้เข้าไปเดินชมสิ่งจัดแสดงได้เพลินๆ

วันที่ไปฝนพรำๆนิดหน่อย ร่มก็เลยสว่างพราวทั่วบริเวณ และฟ้าก็ขาวมากเช่นกัน













ถ้่าหันหน้าเข้าโบสถ์เซนต์ปอล เดินไปทางขวาจะเจอทางเข้าพิพิธภัณฑ์มาเก๊า ขึ้นไปด้านบนเป็นป้อมมอนเต มองเห็นวิวได้รอบทิศ ถ้ามีเวลา แวะเข้าไปดูก็มีอะไรน่าสนใจอยู่ แต่ถ้าไม่อยากเสียเงินเข้าพิพิํธภัณฑ์ สามารถไปถึงป้อมข้างบนได้ด้วยทางเดินอ้อม ไม่ถึงกับไกลมาก แต่ก็เดินพอเหนื่อยทีเดียว ถึงกับตระหนักถึงสังขารเมื่อเดินเท่าไรก็ตามผู้ชายฝรั่งขายาวข้างหน้าไม่ทันสักที ทั้งที่เขามีเด็ก (ค่อนข้างโต) ขี่คออยู่คนหนึ่งแท้ๆ







จากตรงนี้ ถ้ายังไม่เหนื่อยไม่เมื่อย สามารถลัดเข้าตรอกเล็กเลาะออกตรอกน้อย ชื่นชมอาคารบ้านเรือนไปเรื่อยๆได้ มีถนนหลายเส้นที่ทอดไปสู่จุดหมายเดียวกัน แต่ต้องระวังด้วย เพราะบางครั้งถนนที่เราคิดว่าน่าจะตัดไปเจอถนนอีกสายด้านหน้าก็ไม่ไปเสียอย่างนั้น แหะๆ จริงๆเป็นคนดูแผนที่เก่งและไม่หลงทิศนะ แต่ด้วยเมืองมันเล็กน่ารัก มีอะไรให้ถ่ายรูปเกือบตลอดเวลา แถมฝนก็พรำๆสลับหยุด แผนที่ก็เลยซุกอยู่ในเป้เป็นส่วนใหญ่ เดินเล่นวนไปวนมาอยู่สองสามวัน ก็ยังอุตส่าห์หลงทำลายสถิติได้สองสามรอบ ไม่ได้ไปทางเดียวกันสักที (อันนี้แอบอับอายเล็กน้อย) แต่ข้อดีก็คือ ภาพที่ได้จึงแตกต่างหลากหลายไปตามเส้นทางที่เท้าพาไป แต่โดยรวมๆแล้ว จะผ่านซากโบสถ์เก่าและอาคารบ้านเรือนเล็กๆ อีกจำนวนหนึ่งนั่นแล


จะว่าเป็นรั้วก็ไม่ใช่ เป็นตึกก็ไม่เชิง มันอะไรกันวุ้ย








หน้าต่างโบสถ์ร้างแห่งหนึ่ง หน้าต่างและวงกบเก๋ดี (ตรงที่ไม่เหมือนกันสักบาน)


บ้านน้อยหลังนี้ดูเหมือนหลังคาจะไม่มี ถ้าเราเป็นยักษ์ มองลงไปคงเห็นไปถึงพื้นบ้านแน่ๆ


แล้วถ้าโชคดี หรือดูแผนที่แม่น เท้าก็จะพาเรามาถึงสวนชื่อฝรั่งแห่งหนึ่งในที่สุด (สวนกาซ่า) เป็นสวนเล็กๆที่มีต้นไม้ร่มครึ้มและมีที่ออกกำลังกายสีสดใสไว้สำหรับบริการประชาชนแถวนั้น ขออภัยที่ไม่มีรูปสวนสวยๆเพราะฝนเริ่มหนาเม็ดตอนที่เราเข้าและตกหนักตอนขาออก แต่ใกล้ๆสวนมีโบสถ์ไม้เล็กๆที่เปิดให้เราได้เข้าไปอาศัยหลบฝนซึ่ึงตกกรรโชกอย่างแรงอยู่พักใหญ่ ระหว่างสวนกับโบสถ์มีอาคารสีขาวตัดชมพูที่น่าเข้าไปเดินเล่นมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไร แต่มีตู้ไปรษณีย์เก่าๆอยู่ริมรั้วให้แอบไปชักภาพเป็นที่ระลึก (เมื่อฝนหยุด)


เห็นแล้วถึงกับต้องถ่ายมาเป็นหลักฐานว่าคนที่นี่ก็มือบอนไม่แพ้คนแถวประเทศขวานทองเลย


อาคารสีขาวตัดชมพูที่ว่า ไม่มียามให้ถามหรือยกมือห้ามเข้า แต่ก็แอบเข้าไปเดินเล่นแค่สนามด้านหน้าเฉยๆ ในอาคารมีคนเดินไปมาเหมือนเป็นพนักงาน เลยเกรงใจ


ตู้ไปรษณีย์สีแดง เหมือนคนสวมหมวกมั้ย
แม้ว่าจะดูน่าส่ง แต่ไม่รู้จะมีใครมาไขไปส่งให้หรือเปล่าเนี่ยสิ


พัดลมเพดานของโบสถ์ไม้ที่ได้อาศัยหลบฝน


รอให้ฟ้าหลังฝนกระจ่างแล้ว ค่อยบ่ายหน้าไปทางตะวันออกกันบ้างก็แล้วกันเนอะ (แหม ได้บรรยากาศพายุเข้าสองวันนี้พอดีเลยเชียว)




Create Date : 01 ตุลาคม 2552
Last Update : 1 ตุลาคม 2552 2:23:22 น. 1 comments
Counter : 975 Pageviews.

 
สวยทุกรูปเลยค่ะ
ดูแล้วอยากไปบ้างจางงงง


โดย: annie_martian วันที่: 1 ตุลาคม 2552 เวลา:23:36:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lunaloca
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ง า น แ ป ล


ช่างเป็นนักแปลที่ทำงานได้หลากแบบหลายแนว
นามปากกาคละเคล้า เดาทางไม่ถูกจริงๆนิเรา

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunaloca's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.