เพราะหนังสือเปิดตา และการเดินทางเปิดใจ

พิพิธภัณฑ์ (ต่อ)





พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ก็เป็นสวรรค์อีกแห่งสำหรับคุณหนูอยากรู้ทั้งหลาย ถ้ามีเวลา ไม่รีบร้อน ก็สามารถเดินไปได้จากจิมซาจุ่ย เลาะถนนจอแจ ดูข้าวของอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่นานก็เจอ ที่นี่ต้อนรับเราด้วยไดโนเสาร์ตัวใหญ่ยักษ์ (ที่โผล่มาแต่หัว) ที่ลานด้านหน้า แต่ข้างในมีอะไรสนุกๆเกี่ยวกับศาสตร์ด้านวิทย์ๆทั้งหลายให้ลงมือทุบ รื้อ ดู และลอง มากมายหลายอย่าง ทั้งไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ ร่างกายของเราและสัตว์ ภาพลวงตา เขาวงกตกระจก เทียบไปแล้วก็คงคล้ายๆกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลองห้า ผสมกับท้องฟ้าจำลองด้านนอก (ที่ไม่ใช่ห้องดูดาว) เพียงแต่เจ้าหน้าที่ (และอาสาสมัคร) ที่นี่ดูเป็นมิตรกับและใส่ใจเด็กๆมากกว่า (มาก) เท่านั้น





จำลองหัวใจของสัตว์สามชนิด จะได้ยินเสียงหัวใจหนูที่เต้นเร็วและเบา เสียงหัวใจวัวที่ดังขึ้นและช้าลง กับเสียงหัวใจช้างซึ่งกระหึ่มกึกก้องและช้าที่สุด ตื่นเต้นดี



ระหว่างที่รอพิพิธภัณฑ์เปิด เห็นคุณพ่อกับคุณลูกสองคู่ จะเป็นพ่อกับลูกคนละครอบครัวกันหรือจะเป็นพ่อลูกสองที่มากับเพื่อนพ่อก็บอกไม่ถูก แต่ภาพสองหนุ่มและสองสาวนั่งเอกเขนก (หรือหลับ) รอพิพิธภัณฑ์เปิดก็ดูน่าชื่นใจ ทำไมไม่รู้ถึงได้เกิดความรู้สึกไม่เหมือนเวลาเห็นแม่พาลูกไปเที่ยวเลย นอกจากเด็กๆที่มีผู้ปกครองมาแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ทัศนศึกษายอดฮิตด้วย เห็นได้จากนักเรียนใส่เครื่องแบบหลากหลายตบเท้าเข้ามาไม่ได้ขาด





ที่จะขอแนะนำให้แวะชมเป็นพิเศษที่นี่ก็คือสิ่งประดิษฐ์ด้านหน้าที่มีชื่อเก๋ไก๋ว่า singing in the rain เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีลักษณะเป็นท่อเหล็กทรงกระบอกผอมๆจำนวนมาก ตัดปลายเฉียง วางหงาย ตัวกระบอกแต่ละอันยาวไม่เท่ากัน แต่วางเรียงขนานกันเป็นแถว โดยตั้งขึ้นเหมือนไม้กระดก สิ่งประดิษฐ์นี้จะทำงานเมื่อฝนตก น้ำฝนหรือน้ำจากสายยาง (เวลาโชว์สาธิต) จะลงไปในกระบอกจนเต็ม พอน้ำหนักได้ที่ กระบอกก็จะทิ้งตัวลงมา เทน้ำข้างในออก จากนั้นก็จะเด้งกลับไปตั้งรับน้ำใหม่อีกครั้ง วนเวียนไปจนกว่าฝนจะหยุด เสียงฝน เสียงน้ำกระทบท่อ เสียงน้ำจากท่อไหลลงพื้นดิน ก็เลยผสมผสานกันเป็นเสียงเพลงด้วยประการฉะนี้ เขามีโชว์ทุกวันตอนบ่าย ยังไงไปถึงแล้วก็แวะดูเวลาที่ป้ายข้างๆบันไดก่อน แล้วพอถึงเวลาค่อยแว่บออกมาดู โชว์สาธิตนานแค่ห้าถึงสิบนาทีเท่านั้นเอง แต่น่าสนใจดี เสียงน้ำที่ไหนฟังเพราะและมีชีวิตชีวาอย่างบอกไม่ถูก ต้องฟังเอง




จากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ถ้าหันหลังให้พิพิธภัณฑ์ แล้วเดินตัดจัตุรัสที่ห้ามสูบบุหรี่ (กลางแจ้ง) ผ่านลานที่มีงานศิลปะเป็นหมวกรูปแบบต่างๆขึ้นสะพานลอยคนข้ามไป ก็จะถึงจิมซาจุ่ย พรอม-เมอ-หนาด อันเป็นเส้นทางเลียบทะเลที่ลมเย็นสบายและวิวดี เดินโต้ลมชมคนตกปลาไปเรื่อยๆ ยังไม่ทันเมื่อยก็จะถึงแอเวอนูออฟสตาร์ไปเอง แล้วจากตรงนั้น เดินอีกนิดเดียวก็ถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ฝากเส้นทางนี้ไว้สำหรับคนที่มีเวลาก็แล้วกัน

s

บรรยากาศระหว่างที่เดินเล่นจิมซาจุ่ยพรอมเมอหนาด



พิพิธภัณฑ์ศิลปะของฮ่องกงก็เป็นธรรมดาที่จะมีทั้งงานศิลปะของจีนโบราณและจีนร่วมสมัย ซึ่งก็เดินเพลินทุกห้อง ทั้งนิทรรศการหมุนเวียนและนิทรรศการถาวร เห็นเด็กๆมา (ทำรายงาน) กันตรึม แค่ดูเด็กนักเรียน (หนุ่มๆ) ก็เพลินแล้ว ฮ่า







มีนิทรรศการอันนึงน่ารักดี เป็นคล้ายๆห้องทึบมีรูให้เอาตาข้างหนึ่งเข้าไปแนบ แต่จะมองไม่เห็นอะไรหรอก เพราะต้องเอาปลายเท้ากดปุ่มเพื่อเปิดไฟที่ด้านล่างด้วย ปัญหาก็คือปุ่มที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ใกล้ ใต้ หรือในรัศมีที่คนคนหนึ่งจะเอื้อมไปกดปุ่มและแนบตาดูได้ เท่ากับว่า การจะดูของในห้องจะต้องใช้คนสองคน คือคนกดและคนดู เป็นการเสริมสร้างสามัคคีที่สนุกดีทีเดียว แต่ถ้าไปคนเดียวก็อาจจะยิ่งเสริมความเหงาให้กระพือขึ้นมาได้



ข้างบันไดเลื่อนในพิพิธภัณฑ์มีเก้าอี้นวมเรียงเป็นแถวยาวให้นั่ง แต่ที่สะดุดตามากก็คือหมอนใบใหญ่ น่าจะสูงเมตรกว่าๆเลยทีเดียว พิมพ์รูปบุรุษผู้หนึ่งไว้ ติดป้ายไว้ทำนองเชิญชวญผู้ประสงค์จะได้อ้อมกอดให้เร่เข้าไป (55 จริงนะ) แค่เข้าไปนั่งข้างๆระหว่างหมอน (หนุ่ม) สองใบ ก็พอจะหลอกคนอื่นได้ไม่ยากว่าเรานี่ช่างเฟลิร์ต เปิ๊ดสะก๊าดเสียเหลือเกิน หรือถ้าใจถึง นั่งลงไปบนหมอน ก็พอจะเอามาหลอกคนที่บ้านแบบผาดเผินได้ว่าแอบควงกิ๊กไปฮ่องกง แม้ว่ากิ๊กคนนี้จะหล่อน้อยไปหน่อยก็ตาม แหม นะ พูดยังกะว่าตัวเองมีหล่อๆมาให้เลือกเยอะงั้นแหละ (ฮิ้ววววว)



จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เดินต่อไปอีกนิดจะเจอหอนาฬิกา ท่าเรือ และศูนย์วัฒนธรรม ที่ศูนย์วัฒนธรรมจะมีการแสดงที่น่าสนใจให้เข้าไปชมดู ถ้าไปจังหวะดีๆ อาจจะมีการแสดงที่เราสนใจก็ได้ ถ้ามีเวลา พอไปก็แวะไปดูกำหนดการแสดงไว้ก่อน ถ้ามีอันไหนน่าสนใจ จะได้ไม่พลาด






 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2552
0 comments
Last Update : 29 พฤษภาคม 2552 11:38:20 น.
Counter : 745 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lunaloca
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ง า น แ ป ล


ช่างเป็นนักแปลที่ทำงานได้หลากแบบหลายแนว
นามปากกาคละเคล้า เดาทางไม่ถูกจริงๆนิเรา

Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunaloca's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.