เพราะหนังสือเปิดตา และการเดินทางเปิดใจ
เรื่องของนางนวล

ว่างเว้นจากการชวนอ่านหนังสือไปตั้งนาน วันนี้ก็เลยอยากชวนอ่านหนังสือเล่มเล็กๆ ที่ว่าด้วยการฝึกบินสักสองเล่ม วรรณกรรมทั้งสองเล่มนี้ถือว่าอ่านง่าย มีตัวละครส่วนใหญ่เป็นสัตว์ จะว่าไปก็ละม้ายคล้ายนิทานอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเล่มแรก แต่ก็เป็นนิทานที่แฝงแง่มุมละเอียดอ่อนชวนคิดหลายอย่าง




ชื่อหนังสือ: นางนวลกับมวลแมวผู้สอนให้นกบิน
Historia de Una Gaviota y Del Gato Que le Enseno a Volar
ผู้แต่ง/ผู้แปล: Luis Sepulveda/สถาพร ทิพยศักดิ์
สำนักพิมพ์: ผีเสื้อ
ประเภท: วรรณกรรมเยาวชนสเปน

เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองฮัมบูร์ก สถานที่ซึ่งเป็นปลายทางเที่ยวบินสุดท้ายของนกนางนวลเคราะห์ร้ายตัวหนึ่งและ เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตการหัดบินของนกนางนวลอีกตัว ไม่รู้ว่าคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ตอนที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ฉันอ่านชื่อหนังสือแล้วนึกว่านี่เป็นเรื่องของนางนวลกับมวลแมวที่ตั้งตัว เป็นเหมือนสถาบันสอนให้นกทั่วๆไปบิน กว่าจะรู้ว่าการสอนให้นกบินในที่นี้ก็คือภารกิจและพันธกิจที่แมวดำตัวหนึ่ง (และผองเพื่อน) ถือเป็นหน้าที่ที่มีต่อนกนางนวลเฉพาะเจาะจงหนึ่งตัวเท่านั้น หาได้เป็นอย่างที่เข้าใจไม่ ก็ปาเข้าไปหลายบท

เปิดฉากกันบนท้องฟ้า เมื่อเคงกาฮ์ นางนวลสาวผู้โชคร้าย ผลัดจากฝูงเพราะบินลงไปจับปลาเฮอร์ริ่ง (คำนี้แอบสงสัยว่าเขาไม่ได้อ่านว่าเฮร์ริ่งหรอกหรือ คือมันจำได้ถนัดใจเลยน่ะ เพราะว่าครั้งหนึ่งเคยโดนซับเอดิเตอร์แก้มา) ในทะเลที่มีคราบน้ำมันปิโตรเลียมลอยฟ่อง อันว่าคราบน้ำมันที่เกาะขนบนลำตัวนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อนก เพราะจะทำให้นกไม่สามารถกางปีกบินได้ และหากไม่ตกเป็นเหยื่อของสัตว์น้ำ มันก็ไม่แคล้วอดตายด้วยความหิว แต่เดชะบุญที่เคงกาฮ์ไม่โชคร้ายถึงขั้นนั้น มันพอจะกางปีกบินได้และหลังจากถอนขนหางไปหลายเส้น มันก็ประคองตัวไปตามแม่น้ำเอลบาจนมองเห็นหอคอยซานมิเกลแห่งฮัมบูร์ก ก่อนจะไปหยุดรอวาระสุดท้ายที่ระเบียงบ้านหลังหนึ่ง

บังเอิญว่าบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่นอกจากแมวหนุ่มสีดำตัวอ้วนพีที่ชื่อซอร์บาส และด้วยธรรมชาติที่ดีของเจ้าแมว (อยากใช้คำว่ามนุษยธรรม แต่ไม่รู้ว่ามนุษยธรรมของสัตว์เรียกว่าอะไร สัตวธรรมรือเปล่านะ) ซอร์บาสจึงยอมตกปากรับคำขอร้องก่อน ตายของนางนวลสาวสามข้อ นั่นคือ ไม่กินไข่ที่นางนวลจะไข่ออกมา จะดูแลรักษาไข่จนฟักเป็นตัว และจะสอนให้นางนวลที่ออกจากไข่บิน แน่นอนอยู่แล้วว่านี่คือคำสัญญาแบบที่เรียกว่าสถานการณ์พาไป เหตุการณ์เฉพาะหน้าทำให้มันตกปากรับคำโดยไม่ทันคิด หรือพูดให้ถูกก็คือไม่มีโอกาสปฏิเสธ

โชคดีที่ท่าเรือมีแมวหลายตัว ทั้งแมวอาวุโสที่ชอบให้คำแนะนำปรึกษากับเลขานุการ (ที่ฉลาดกว่า) และเจ้าแสนรู้ แมวผู้รักการอ่านในร้านขายของกึ่งพิพิธภัณฑ์พิลึกๆที่ชื่อแฮรี่บาซาร์ และที่สำคัญ แมวเหล่านั้นมีศักดิ์ศรี (และมนุษยธรรม) สูงส่งเกินแมวตะกละทั่วไป ซอร์บาสจึงมีที่ปรึกษาและทีมงานที่ช่วยกันพลิกตำราเลี้ยงและหาอาหารป้อนลูก นก ทำให้สัญญาข้อแรกและข้อสองลุล่วงไปได้โดยที่เจ้านางนวลน้อยไม่ถูกจับกินไป เสียก่อน แต่เมื่อมาถึงสัญญาข้อที่สาม บรรดาแมวทรงภูมิทั้งหลายต่างก็อับจนปัญญาที่จะสอนให้เจ้า “โชคดี” บินได้ ทำให้ซอร์บาสต้องของฉันทามติจากมวลแมวที่จะไป “เจรจา” ขอให้มนุษย์ "กวี" ช่วยแก้ปัญหาให้ (และท้ายที่สุดมนุษย์ก็มีบทบาทเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ดี)

ถึงจะเป็นวรรณกรรมเยาวชนแนวนิทาน แต่หลายตอนที่บรรยายถึงมิตรภาพ ความรัก และความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์คนละชนิด ก็ลึกซึ้งสะเทือนใจจนทำเอาคนอ่านน้ำตาแทบหยดลงมากลางรถตู้ที่นั่งอ่าน ระหว่างกลับบ้าน (ได้คิวอ่านก่อนใครเพราะซื้อเป็นเล่มสุดท้ายและมีความบางพอที่จะเชื่อได้ว่าสามารถอ่านจบก่อนถึงบ้าน–ไม่ใช่อะไร บ้านไกลมากน่ะ) ขอยกตอนที่งดงามมาให้อ่านสักหนึ่งตอนก็แล้วกัน (สีม่วงคือต้นฉบับ ส่วนตัวหนาและวงเล็บ [] เป็นส่วนเพิ่มเติมของข้าพเจ้า)

     พวกแมวต่างตามหาโชคดีด้วยความเป็นห่วง ซอร์บาสพบมันหงอยซึมเศร้าอยู่ท่ามกลางบรรดาสัตว์สตัฟฟ์ [ขออนุญาตตัดไม้ตรีออกตามความเคยชินส่วนตัว]
    “เธอไม่หิวเรอะ โชคดี มีหมึกนะ” ซอร์บาสบอก
     นกนางนวลไม่ตอบ
     “ไม่สบายหรือเปล่า” ซอร์บาสถามซ้ำ รู้สึกเป็นกังวล “เธอป่วยหรือเปล่า”
     “แม่อยากให้ฉันกิน จะขุนฉันให้อ้วนใช่ไหม” มันถาม ไม่มองหน้าซอร์บาส
     “เพื่อให้เธอตัวโตและแข็งแรงต่างหาก”
     “พอฉันอ้วนได้ที่แล้ว แม่จะเชิญพวกแมวมากินฉัน ใช่ไหมจ๊ะ” มันร้องถาม น้ำตานอง
     “เอาเรื่องเหลวไหลนี่มาจากไหนฮึ” ซอร์บาสย้อนถามขึงขัง
     โชคดียืนเอาปีกเท้าสะเอว แล้วเล่าทุกสิ่งที่มาเตียสบอก [มาเตียสเป็นชิมแปนซีที่ร้านแฮรี่บาซาร์]
     ซอร์บาสเลียซับน้ำตาให้มัน และจู่ๆมันได้ยินเสียงตัวเองส่งเสียงเล่าอย่างไม่เคยทำ
     “เธอเป็นนกนางนวล เจ้าลิงชิมแปนซีพูดถูก แต่เรื่องอื่นๆนั้นไม่จริง พวกเรารักเธอกันทั้งนั้น โชคดีเอ๋ย พวกเรารักเธอเพราะเธอเป็นนกนางนวล นกนางนวลที่สวยงามตัวหนึ่ง เราไม่ได้ขัดคอเธอเมื่อเธอบอกว่าเป็นแมว เพราะการที่เธออยากเป็นอย่างพวกเราทำให้เราสุขใจ แต่เธอไม่เหมือนใคร เราชอบตรงที่เธอไม่เหมือนใคร เรา ช่วยแม่ของเธอไว้ไม่ได้ แต่เราช่วยเธอได้ เราปกป้องดูแลเธอตั้งแต่เธอออกจากไข่ พวกเราทุ่มเทความรักความเอ็นดูทั้งหมดให้เธอ ไม่เคยคิดจะเลี้ยงเธอให้เป็นแมว เรารักเธอนะ แม่นกนางนวลน้อย เรารู้สึกว่าเธอรักพวกเราเหมือนกัน รู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนของพวกเธอ เป็นครอบครัวของเธอ เป็น สิ่งดีที่เธอจะได้รู้ว่าเราได้เรียนรู้บางอย่างจากเธอ ทำให้เราภาคภูมิใจเหลือเกิน เราเรียนรู้ที่จะเข้าใจคุณค่า เคารพ และรักสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างจากพวกเรา การยอมรับและรักสิ่งซึ่งเหมือนตัวเรานั้นเป็นเรื่องง่ายมาก แต่การปฏิบัตืต่อผู้อื่นที่แตกต่างจากเราเป็นเรื่องยากยิ่ง เธอช่วยให้เราทำได้สำเร็จ เธอเป็นนกนางนวลและต้องดำเนินชีวิตแบบนกนางนวล เธอจะบินได้ ถ้าบินได้เมื่อใด โชคดี ฉันแน่ใจว่าเธอจะมีความสุข และในตอนนั้น ความรู้สึกของเธอที่มีต่อพวกเรา และความรู้สึกของเราที่มีต่อเธอจะยิ่งทรงพลังและงดงามยิ่งขึ้น เพราะเป็นความรักระหว่างสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันสิ้นเชิง”
     “ฉันไม่กล้าบิน” โชคดีส่งเสียงพลางขยับตัวยืดร่างขึ้น
     “ถึงตอนนั้น ฉันจะอยู่ใกล้ๆเธอ” ซอร์บาสส่งเสียงขณะเลียหัวให้ “ฉันสัญญากับแม่ของเธอ”
     นกนางนวลวัยแรกรุ่นกับแมวดำตัวใหญ่และอ้วนพีเริ่มออกเดิน แมวเลียหัวนกนางนวลอย่างทะนุถนอม นกนางนวลก็กางปีกข้างหนึ่งโอบหลังแมวไว้

และเรื่องก็วนกลับจบที่ฉากเริ่มต้น บนท้องฟ้าเหนือหอคอยซานมิเกล เมื่อกำลังใจและความเชื่อมั่นทำให้เจ้าโชคดีหักห้ามความกลัวและทะยานขึ้นสู่ ท้องฟ้าได้สำเร็จ อย่างที่ซอร์บาสบอกว่า “ผู้กล้าบินเท่านั้นจึงจะบินได้”

หนังสือเล่มนี้เป็นของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ สำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือดีด้วยความตั้งใจดีอย่างที่ประกาศไว้เสมอมา ซึ่งยังไม่ เคยทำให้แฟนหนังสืออย่างฉันผิดหวังเลยสักเล่ม แต่สำหรับหนังสือเล่มนี้ มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกเสียดายเล็กน้อย สำนักพิมพ์ผีเสื้อทำ นางนวลกับมวลแมวผู้สอนให้นกบิน ออกมาสามเวอร์ชั่น เป็นเล่มเล็ก เล่มกลาง และเล่มใหญ่ ซึ่งสองเวอร์ชั่นหลังเป็นฉบับปกแข็ง ฉันเลือกซื้อเวอร์ชั่นที่เป็นหนังสือเล่มเล็ก ปกขาวตัวหนังสือสีชมพู ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย แม้ว่าส่วนตัวจะไม่ค่อยชอบหนังสือเล่มเล็กๆ เพราะรู้สึกว่าถือไม่ถนัดมือ อ่านยาก และใจจริงก็อยากได้หน้าปกแมวอ้วนน่ารัก แต่ความไม่ชอบหนังสือปกแข็งที่หนาและหนัก (ซึ่ง มีผลมากในวันนั้น เพราะเมื่อถึงเวลาที่แวะบูธผีเสื้อเป็นที่สุดท้าย แขนสองข้างก็ไม่มีกำลังจะแบกอะไรได้อีก แม้กระทั่งนุ่น อย่าว่าแต่หนังสือเลย) ทำให้ตัดใจซื้อเล่มเล็กมา ไอ้ไม่มีปกก็ไม่เท่าไรหรอก แต่การทำปกขาวนี่สิที่ทำร้ายจิตใจอย่างแรง เพราะมันเลอะง่ายเสียเหลือเกิน ยิ่งฉันเป็นคนที่มือมีเหงื่อออกเป็นปกติวิสัยด้วย โอกาสที่จะุทำให้หนังสือเลอะเทอะจากการหยิบมาอ่านจึงยิ่งมากเข้าไปใหญ่ กลับยังไม่ทันถึงบ้าน หนังสือเล่มน้อยก็มีมลทินเสียแล้ว จะเรื่องมากไปไหมถ้าจะแอบขอร้องดังๆว่า หากต่อไปสำนักพิมพ์ผีเสื้ออยากทำหนังสือเล่มเล็กราคาย่อมเยาเป็นทางเลือกผู้ อ่าน ขอปกเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีขาวได้ไหมหนอ...

ข้อมูลที่ปกหลังบอกเล่าเรื่องราวของผู้เขียนไว้พอสังเขปว่า หลุยส์ เซปุล์เบดา (ขออภัยที่ต้องใช้การันต์แทน เพราะหาเครื่องหมายครึ่งเสียงอย่างต้นฉบับไม่เจอ) เป็นคนชิลี เกิดเมื่อปี 1949 เดินทางตั้งแต่อายุยังน้อย เคยปักหลัก ที่ฮัมบูร์ก ก่อนจะตั้งรกรากในสเปน เขาทำงานหลายอย่าง ทั้งเป็นนักเขียนนวนิยาย นักเล่านิทาน นักสร้างภาพยนตร์ และมีหัวข้อการเขียนที่หลากหลาย ทั้งผจญภัย การเดินทาง นิทานสำหรับเด็ก นิยายแนวระทึกใจ สืบสวนสอบสวน และบันทึกการเดินทาง ทั้งยังเป็นเจ้าของรางวัลวรรณกรรมต่างๆมากมาย ถ้าปิดท้ายด้วยการบอกว่า "สำหรับนักอ่านชาวยุโรป เขาอยู่ในอันดับสองรองจากกาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ" ก็คงพอเห็นภาพแล้วสินะว่านักเขียนคนนี้ไม่ธรรมดาขั้นไหน

ตอนนี้ สำนักพิมพ์ผีเสื้อพิมพ์หนังสือเรื่อง ชายชราผู้อ่านนิยายรัก ของผู้เขียนและผู้แปลคนเดียวกันออกจำหน่ายแล้ว สนใจก็ลองติดตามกันได้ แต่ถ้าจะให้เล่า ก็...รอก่อน เมื่อถึงคิวและอ่านจบแล้วชอบ รับรองว่าจะเอามาชวนอ่านแน่นอน (แต่ไม่รู้เมื่อไรนะ)

+++

พูดถึงเรื่องนกๆ โดยเฉพาะนางนวล ก็ทำให้นึกถึงวรรณกรรมเก่าแก่อีกเรื่องหนึ่งที่มีตัวเอกเป็นนกเหมือนกัน นั่นคือ โจนาธาน ลิฟวิงสตัน: นางนวล แปลโดยอาจารย์ชาญวิทย์ (แหม เลือกหนังสือที่มีผู้แปลเป็นอาจารย์ทั้งสองเล่มเลยนิเรา)

ฉัน อ่านหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ยังเป็นนิสิตผู้มีจิตใจแสวงหา (ว่าไปนั่น) จนป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเล่มไปอยู่เสียที่ไหนแล้ว จำได้คร่าวๆว่าเป็นเรื่องของโจนาธาน นกนางนวลหนุ่ม “หัวเน่า” ที่ฝึกบินเพื่อที่จะแตกต่างจากฝูง และถูกนกในฝูงขับไล่ไสส่งให้ไปอยู่ที่หน้าผา และมันก็ได้ครูดีสอนบินจนกระทั่งมีวิชาเก่งกล้า แต่ถึงแม้จะถูกขับออกจากฝูง โจนาธานก็ยังคิดที่จะกลับไปเพื่อฝึกสอนนกนางนวล “หัวเน่า” ตัวอื่นๆที่อยากหัดบิน และลูกศิษย์นางนวลที่มันกลับไปสอนก็ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับสังคมนางนวล ได้จริงๆ ไม่ยกตัวอย่างนะ เพราะใส่ลิงก์ให้เข้าไปอ่านข้างล่างแล้ว




ชื่อหนังสือ: Jonathan Livingston: Seagull/โจนาธาน ลิฟวิงสตัน: นางนวล
ผู้แต่ง/ผู้แปล: ริชาร์ด บาค/ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
สำนักพิมพ์: ประพันธสาส์น (2518)
ประเภท: ปรัชญาอเมริกัน (???)

หลายคนบอกว่าหนังสือเล่มนี้แฝงความคิดทางปรัชญาศาสนาเอาไว้ ก็แล้วแต่จะตีความกันไป แต่สำหรับผู้ไม่ฝักใฝ่ศาสนาอย่างฉัน นี่คือหนังสือที่สร้างกำลังใจและความเชื่อมั่นให้คนที่คิดหรือมองต่างจากแนว คิดหรือค่านิยม "กระแสหลัก" ของสังคม นอกจากจะให้กำลังใจให้เราหยัดมั่นได้ในโลกที่แตกต่างแล้ว ยังปลุกใจให้เราไม่ท้อถอยที่จะ "ทำ" และ "เป็น" ในสิ่งที่เราชื่อมั่นด้วย (เอ...พูดไปพูดมาก็ชักรู้สึกว่ามันคล้ายๆลัทธิเหมือนกัน หรือเปล่าฟะ)

ถ้าดูจากปีที่พิมพ์ คิดว่าคงจะหาซื้อกันยากอยู่ ห้องสมุดก็ไม่รู้แทงจำหน่ายไปหรือยัง แต่มีลิงก์ให้เข้าไปอ่านออนไลน์ได้สำหรับใครที่สนใจและมีสายตาที่คุ้นชินกับ การอ่านบนจอ //olddreamz.com/bookshelf/jonathan/jntcontent.html

รับรองได้เลยว่าอ่านหนังสือสองเล่มนี้แล้ว จะมีแต่ความอิ่มอกอิ่มใจ มีไฟฝันและกำลังใจพลุ่งพล่านราวกับหนุ่มสาวกระนั้น (555)






Free TextEditor


Create Date : 20 เมษายน 2552
Last Update : 21 เมษายน 2552 15:38:28 น. 3 comments
Counter : 1903 Pageviews.

 
ผมอ่าน นางนวลกับมวลแมว หลายรอบ ชอบมาก ๆ ชายชราผู้อ่านนิยายรักก็ดีนะครับ ผมชอบมาก ๆ กลายเป็นนักเขียนในใจเลย


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:4:29:31 น.  

 
เล่มแรกอ่านเพราะคนในเม้นท์ 1 แนะนํา
น่ารักเน๊อะ

เล่ม 2 ..อ่านหลายรอบมาก
เพราะต้องสอบ
แต่ก็ชอบค่ะ อ่านแบบไม่ต้องฝืนใจ
แนวทําอะไรก็ทุ่มให้สุดๆ


โดย: เป๋อน้อย วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:17:23:32 น.  

 
อ่านแล้วทั้งสองเล่มค่ะ

เล่มแรกออกแนวชวนซึ้ง เล่มหลังออกแนวชวนคิดค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 เมษายน 2552 เวลา:8:47:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lunaloca
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ง า น แ ป ล


ช่างเป็นนักแปลที่ทำงานได้หลากแบบหลายแนว
นามปากกาคละเคล้า เดาทางไม่ถูกจริงๆนิเรา

Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
20 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunaloca's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.