เพราะหนังสือเปิดตา และการเดินทางเปิดใจ

about a boo - 6

-เบียร์


ใครไม่รู้เอาเบียร์ไปแช่ไว้ในช่องฟรีซแล้วลืม มาเห็นอีกทีก็สาย
ไปเสียแล้ว ขวดเบียร์แตกกระจาย เหลือแต่น้ำสีเหลืองอำพันที่แข็ง
เป็นรูปขวดให้ดูต่างหน้า เฮ้อ เบียร์ก็ไม่ได้กิน แถมยังอาจจะถูกด่า
เพราะทำตู้เย็นเหม็นอีก อย่ากระนั้นเลย ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตา
คว้าอุปกรณ์ทำความสะอาดมาขัดๆ ถูๆ ด้วยความเซ็งปนเสียดาย
หันมาอีกที ไม่รู้ (ไอ้) สุนัขตัวดีมาจากไหน ก้มหน้าก้มตาเลียเบียร์ใน
กาละมังที่วางแอบไว้ข้างตู้เย็นอย่างเงียบเชียบ มิไยว่าใครจะลากจะดึง
ปลอกคอออกมายังไง พ่อเจ้าประคุณก็ขืนตัวไว้ไม่ยอมขยับ

“ชอบล่ะสิท่า เอ้า...งั้นก็ตามสบายเลยพ่อคุณ เอาให้เมาเค้เก้ หลับคากาละมัง
เลยละกัน ขี้เมาเหมือนเจ้าของ” ใครคนหนึ่งประชดพลางปล่อยมือจากปลอกคอบู
ปล่อยปั๊บพ่อคุณก็โลดถลาเข้าไปหากาละมังปุ๊บ ยังกับติดสปริงยังไงยังงั้น
แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่มีใครกล้าปล่อยให้บูร่ำสุราจนหมด กลัวมันจะเมาจน
คายของเก่ามากกว่า แหม... เช็ดตู้เย็นเพราะเบียร์แตกอย่างเดียวก็แย่แล้ว
อย่าให้ต้องมาเช็ดพื้นเพราะเบียร์ที่ไหลย้อนกลับออกมาจากปากบูอีกเลย... นะ

-ฝากระป๋อง


“บู ไปทำอะไรมา ทำไมปากแดงๆ เฮ้ย เลือดออกที่เหงือกนี่หว่า
ไหน มานี่ดิ บอกว่าให้มานี่ อยู่เฉยๆ สิวะ” เสียงน้องชายโวยวายอยู่ข้างนอก
จนทำให้พวกเราต้องตามออกไปดู ไม่มีใครไขปริศนาได้ว่าบูไปกินอะไรจน
เลือดกบปากอย่างนั้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างที่กำลังรดน้ำต้นไม้ น้องบูซึ่งธรรมดาจะคึกคักมาก
ชอบมาวิ่งวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ถ้าไม่ถอยเข้าถอยออกหยอกล้อกับสปริงเกิล ก็จะวิ่ง
ผ่านสายยางให้น้ำฉีดโดนตัวอย่างสนุกสนาน กลับหายตัวไปอย่างน่าประหลาดใจ
ไม่มาเล่นน้ำเหมือนเคย

“บู อยู่ไหนเนี่ย” ทั้งร้องเรียกทั้งผิวปากเรียกอยู่เป็นนาน ก่อนจะหันไปเห็นว่า
มันนอนกระดิกหางอยู่ตรงพุ่มไม้ไม่ไกลนัก แต่ไม่ยอมลุกมาหาเพราะกำลังแทะ
อะไรสักอย่างอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ

“อะไรน่ะบู เอาอะไรมากิน คายออกมาเดี๋ยวนี้นะ” พอเราเข้าไปใกล้ มันก็
ขยับหนีเหมือนรู้ว่าจะมีความสุขและความมันอยู่ได้อีกไม่นาน ล่อเอาเถิดกัน
อยู่สักพัก ก่อนที่เราจะใช้ความเป็นมนุษย์หลอกล่อล้วงเอา ”อะไร” ที่กลายเป็น
ก้อนกลมๆออกจากปากบูได้ พร้อมกับเลือดแดงๆ กระหย่อมหนึ่ง
“ตายๆๆๆ บู นี่มันฝากระป๋องโค้กนี่ กินเข้าไปได้ยังไง ไปเอามาจากไหนกัน
ดูสิ กัดซะบี้ขนาดนี้” เราเอ็ดตะโรโวยวาย(อยู่คนเดียว) มีเจ้าตัวดีกระดิกหาง
ทำตาปรอยอยู่ข้างๆ


-รองต๊ะ อร่อย


ถ้าจะว่าไป บูแทบจะไม่เคยทำลายข้าวของเสียหายอย่างร้ายแรงเลย ตอน
มาใหม่ๆ บูแทะเล็มรองเท้าพอรู้รส แต่รสไม้เรียวคงทำให้หลาบจำ บูเลยไม่คิด
ที่จะชิมรองเท้าอีก ที่บูทำลายไปมากที่สุดเห็นจะเป็นต้นไม้ ทั้งต้นเล็กต้นน้อย
ดอกไม้ดอกไร่อะไรที่สูงน้อยกว่าบูหรือเท่ากัน ถ้าหากว่าถูกบูวิ่งไถลลื่นล้มทับแล้ว
มักไม่เหลือกะจิตกะใจจะบานอีก แต่นอกจากแม่แล้ว ดูเหมือนจะไม่มีใครเดือดร้อน
กับการที่บูไล่ถล่มแปลงต้นไม้เท่าไรนัก อ้อ จะมีก็รองเท้าส้นสูงของน้องสาวที่
บูดูจะชอบเป็นพิเศษ หม่ำพังไปสองคู่ โชคดีที่เป็นคู่เก่า ไม่ใช่คู่เก่ง และไม่ใช่
คู่แพง บูเลยรอดตัว และอาจจะเพราะไม่ได้อยู่ในบ้าน บูจึงไม่มีโอกาสพัง
เฟอร์นิเจอร์ ได้แค่ขูดพื้นไม้เป็นรอยถลอกพอให้เสียราคาเท่านั้น จะมาตอนหลัง
ที่บูหายป่วยแล้วนี่ละ ที่ดูเหมือนว่าอาการชอบแทะเล็มรองเท้าแตะจะกลับมาอีก
เพียงแต่คราวนี้ มันเลือกที่จะงับรองเท้าเฉพาะเวลาที่มีใครออกมาจากบ้าน
เรียกว่าพอเห็นเหยื่อ บูจะกระดิกหาง วิ่งมายังรองเท้าข้างที่ใกล้ที่สุด งับหมับ
เข้าให้ ก่อนจะถอยฉากไปสองสามก้าว ดูท่าทีว่าเหยื่อจะเดือดร้อนหลงมา
ติดกับหรือเปล่า ถ้าเหยื่อไม่สนใจ มันก็จะปล่อยรองเท้า ถ้าเหยื่อเดือดร้อน
ไล่ตาม มันจะวิ่งหนีวิ่งยั่วอย่างสนุกสนาน รวมความแล้วคือ มันใช้รองเท้าเป็น
เครื่องมือหาเพื่อนเล่นด้วยมากกว่า เพียงแต่ฟันซี่ยักษ์อย่างบู แค่วิ่งล่อวิ่งไล่
ก็ทำให้รองเท้าพังไปเป็นคู่ๆ แล้ว

ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น บูจะเลือกคาบรองเท้าข้างเดียวกันเสมอ ทำให้รองเท้าพังแล้ว
พังเลย ไม่สามารถเอาไปจับคู่กับข้างที่ดีของอีกคู่ได้ ไม่ฉลาดแบบล้างผลาญ
ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วละ

-คางคกนกหนู บูช้อบชอบ


หลังจากที่ีี่จับได้คาหนังคาเขาว่าบูกินกระป๋องจนเลือดกบปาก ทุกคนใน
บ้านดูเหมือนจะประสาทเสีย ข้างฝ่ายคนจะรี่เข้าไปโวยวายใส่หมาทุกครั้งที่เห็น
หมานั่งแทะเคี้ยวอะไรโดยไม่มีเหตุ ข้างฝ่ายหมาก็ลนลานหนีตาลีตาเหลือกทุกครั้ง
ที่บังเอิญแทะอะไรเล่นเพลินๆ แล้วหนึ่งในบรรดาคน (ขี้ตื่น) ทั้งหลายผ่านมาพบเข้า

เช้าวันเสาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่เสาร์ที่เราตื่นเช้าออกไปเล่นกับบูที่สนาม
“นั่นแน่ เอ็งได้อะไรมาอีกแล้ว ห้อยรุ่งริ่งออกมาจากปากน่ะ” เราคิดว่าเป็น
คางคก เลยตกใจกลัวว่ามันจะมีพิษ ตะโกนเสียงดังจนบูสะดุ้ง วิ่งหนีออกไป
เสียไกล คนกับหมาวิ่งไล่กันจนเหนื่อย ก่อนคนจะคิดได้หันไปคว้าของเล่นมา
หลอกล่อให้บูคาย “ของ” ในปากทิ้ง

ไม่ใช่คางคกหรอก นกตะหากเล่า ลูกนกตัวแดงๆ กลายเป็นเครื่องสังเวย
เทพเจ้าบู
ไปเสียแล้ว คราวนี้บูเสียรู้ถูกหลอกขโมยนกไปได้ แต่แล้วต่อมา
เหตุการณ์เกิดซ้ำสอง ครั้งนี้คนสองคนไล่หมาหนึ่งตัว หมาจนตรอกไม่รู้จะทำยังไง
เลยหลับหูหลับตากลืนของกลางลงท้องก่อนจะหยุดวิ่ง ล้มตัวลงนั่งเอาดื้อๆ
“หนาย ครายว่าผมคาบนกมาเล่น บอกว่าไม่มี้ ไม่มี ก็ไม่เชื่อ เอื๊อก...”
สองคนที่วิ่งไล่หยุดมองหน้ากันก่อนจะ “อี๋ บูกินนก แหวะ” ออกมาพร้อมกัน
แล้วไม่ยอมสัมผัสบูไปหนึ่งวันเต็มๆ




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553
0 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 22:48:54 น.
Counter : 414 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


lunaloca
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ง า น แ ป ล


ช่างเป็นนักแปลที่ทำงานได้หลากแบบหลายแนว
นามปากกาคละเคล้า เดาทางไม่ถูกจริงๆนิเรา

Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
7 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lunaloca's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.