สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

บัว...พรรณไม้มงคล 'ราชินีแห่งไม้น้ำ'





วันนี้เป็นวันสุดท้ายแห่งปี 2551 พรุ่งนี้เป็นวันแรกแห่งปี 2552 ถือเป็นวันฤกษ์ดี ฤกษ์แห่งการเริ่มต้นที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิตของตน... เมื่อเริ่มต้นทำสิ่งที่ดีแล้วก็จะเป็นคนที่คิดดี มุ่งมั่นทำแต่สิ่งที่ดีตลอดไป หากทำแต่ความดีแล้ว สิ่งที่ดี ๆ ย่อมเกิดขึ้นในชีวิตอย่างแน่นอน

วันนี้เป็นวันพิเศษขอนำเรื่องราวของ “บัว” พรรณไม้น้ำชนิดหนึ่งซึ่งสวยงามแลดูสูงศักดิ์ระเหิดระหงด้วยรูปร่างลักษณะ รูปทรงและสีสัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งไม้น้ำ” ขนาดนั้นทีเดียว ที่สำคัญ “ดอกบัว” อยู่ในวิถีชีวิตของชาวไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนมาก ด้วยดอกบัวเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนาอยู่เกือบทุกวาระและโอกาส ตามพุทธประวัติพบว่า ดอกบัวมีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

พระพุทธองค์ทรงแบ่งมนุษย์ออกเป็น 4 จำพวกเปรียบเสมือนบัว 4 เหล่าตามสติปัญญาและความหมั่นเพียร ได้แก่ พวกที่หนึ่ง พวกที่เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที พวกที่สอง พวกที่เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป พวกที่สาม พวกที่เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อย ๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง และพวกที่สี่ พวกที่เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่ใต้โคลนตม รังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน...

อยากเป็นผู้ที่หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง กลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ก็ต้องใช้ธรรมเป็นเครื่องนำทางชีวิต...





บัว เป็นพรรณไม้น้ำประเภทพืชล้มลุก มีลำต้นและหัวอยู่ในดินใต้น้ำ การเจริญชูก้านใบและดอกขึ้นมาบนผิวน้ำ ใบมีลักษณะกลมกว้างใหญ่ ผิวใบเรียบ สีเขียวหรือน้ำตาลอ่อน ดอกเป็นกลีบซ้อนกันหลายชั้น ลักษณะดอกคล้ายรูปกรวย เวลาบานคล้ายกับร่ม ดอกมีสีขาว ชมพู เหลือง ผลคือส่วนที่อยู่ตรงกลางดอก ซึ่งมีเมล็ดประกอบอยู่ภายในจำนวนมาก ลักษณะ ขนาด สีสันของใบและดอกขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ บางพันธุ์ให้ดอกสีน้ำเงิน บางพันธุ์ให้ดอกสีเหลือง บางพันธุ์ให้ดอกสีชมพู หรือบางพันธุ์สีสันของดอกจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาการบานของดอก

เราสามารถใช้ประโยชน์จากบัวได้ทุกส่วนไม่ว่าจะเป็น กลีบดอก เกสร เมล็ด ดีบัว ฝัก นอกจากนำดอกบัวมาบูชาพระแล้วบัวยังมีประโยชน์ด้านอื่นอีก ทั้งด้านอาหาร เช่น ฝักบัว สายบัว และด้านยา โดยส่วนต่าง ๆ ของบัวมีสรรพคุณทางยาที่แตกต่างกันคือ เหง้าบัว มีสารสำคัญที่ต้านการอักเสบ แก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วง บำรุงกำลัง แก้ประจำเดือนไม่ปกติ ลดน้ำตาลในเลือด แก้ริดสีดวงทวาร ยาแก้ร้อนใน ห้ามเลือด





กระทั่งใบบัวที่เราเห็นนำมาห่ออาหารยังมีสรรพคุณทางด้านลดความอ้วน แก้ไอ แก้ท้องร่วง บำรุงเลือด ห้ามเลือด สมานแผล แก้โรคผิวหนัง

หากใครชื่นชอบบัว อยากเห็นพันธุ์บัวหลากหลายสายพันธุ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสายพันธุ์ที่หายาก ขอเชิญไปทัศนาได้ที่ พิพิธภัณฑ์บัว อันเป็นแหล่งรวบรวมสายพันธุ์บัว โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ภายใต้ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ที่นี่มีบัวกว่า 150 สายพันธุ์ บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ที่ประชาชนโดยทั่วไปสามารถเข้าชมเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งวิจัยและแหล่งท่องเที่ยว

พิพิธภัณฑ์บัวแห่งนี้เป็นแหล่งกำเนิดของบัวฝรั่งสัญชาติไทยที่ชื่อ “มังคล อุบล” ซึ่งชนะเลิศการประกวดบัวระดับโลก ณ สหรัฐอเมริกา ด้วยรางวัล Best New Hardly Water Lily 2004

นอกจากมังคลอุบลแล้วยังมีบัวผสมข้ามสายพันธุ์เป็นบัว 2 สายพันธุ์ ชนิดใหม่ของโลกคือ “ธัญกาฬ” และ “รินลอุบล” ที่จะนำเข้าประกวดที่สมาคมบัวโลก (International Water Lily and Water Garden Society-IWGS) ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอีกไม่นานต่อจากนี้





คนโบราณเชื่อว่า ครอบครัวใดที่ปลูกบัวเอาไว้ประจำบ้าน ก็จะช่วยให้คนครอบครัวนั้นมีจิตใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และเบิกบานแจ่มใส เช่นเดียวกับดอกบัวที่ชูดอกพ้นผิวน้ำ และยังเชื่ออีกว่าสายใยของบัวที่ยืดยาวนั้น คือสายสัมพันธ์ของครอบครัวที่จะทำให้ทุกคนมีความห่วงใยรักใคร่และผูกพันต่อกันอย่างแนบแน่นครอบครัวนั้นก็จะมีแต่ความสุข เพราะความรักใคร่ปรองดองของคนในครอบครัวทุกคน ซึ่งบัวที่นิยมปลูกไว้ภายในบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล คือ บัวหลวง บัวผัน บัวฝรั่ง บัวสาย และบัวกระด้ง





สำหรับวิธีการปลูกบัวในบริเวณบ้านมีวิธีการดังต่อไปนี้

การปลูกในสระหรือบ่อ ทำได้โดยวิธีการขุดสระหรือบ่อขนาด 2x3x1 เมตร (กว้างxยาวxลึก) หรือขนาดอื่นที่ใกล้เคียงกันควรเป็นพื้นที่ราบสม่ำเสมอและอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ดินต้องเป็นดินเหนียว การเตรียมดินก็ใช้ปูนขาวโรยพื้นประมาณ 200 กรัม ใช้ปุ๋ยคอก 2-5 กิโลกรัม/สระ ส่วนจำนวนต้นปลูกควรใช้ 24 ต้น/สระ กรณีที่อยู่ห่างแหล่งน้ำและดินปลูกไม่เหมาะสมเราสามารถขุดสระหรือบ่อขนาด 2x3x1 เมตร (กว้างxยาวxลึก) หรือขนาดอื่นที่ใกล้เคียงกันโดยใช้ปูนซีเมนต์ทำเป็นพื้น เพื่อกักเก็บน้ำแล้วนำดินเหนียวผสมปุ๋ยคอกเป็นดินปลูก หลังจากนั้นจึงนำต้นบัวมาปลูก 24 ต้น/สระ คอยเพิ่มระดับน้ำทีละน้อยตามความเจริญของต้นบัวและคอยเปลี่ยนหรือถ่ายเทเมื่อสังเกตเห็นว่าน้ำเสื่อมคุณภาพ คือ มีกลิ่นเหม็น หรือสีคล้ำ พันธุ์บัวที่ใช้ปลูกในสระหรือบ่อ ได้แก่ บัวหลวง บัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย บัวจงกลนี และบัวกระด้ง





การปลูกในกระถาง นิยมปลูกกัน 2 ลักษณะ คือ

1.ปลูกโดยใช้กระถาง 2 ใบ วางซ้อนกันโดยใช้ใบใหญ่ 1 ใบ และใบเล็ก 1 ใบ ขนาดกระถางใบใหญ่ มีขนาด 18-24 นิ้ว เป็นกระถางทรงสูงสามารถกักเก็บน้ำได้ ส่วนขนาดกระถางใบเล็กมีขนาด 6-8 นิ้ว เป็นกระถางทรงสูงใช้สำหรับใส่ดินปลูกบัวโดยใช้ดินผสมหรือดินเหนียว : ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 2:1 ผสมดินปลูก หลังจากนั้นก็นำกระถางใบเล็กวางซ้อนในกระถางน้ำใบใหญ่ที่เตรียมไว้ แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำลงไปในกระถางในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการของต้นบัว การปลูกวิธีนี้สามารถเปลี่ยนกระถางบัว และเคลื่อนย้ายได้สะดวกเพราะเป็นกระถางเล็ก

2.ปลูกโดยใช้กระถางใบเดียว โดยใช้กระถางทรงสูงขนาด 18-24 นิ้ว ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ วิธีปลูกก็นำดินปลูกผสมปุ๋ยอินทรีย์คือใช้ดินผสมหรือดินเหนียว : ปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 2:1 แล้วใส่ดินปลูกลงในกระถางประมาณ 1/2 ของกระถางจึงนำต้นบัวไปปลูก หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ใส่น้ำลงไปในกระถางระดับเดียวกับขอบ กระถาง พันธุ์ที่ใช้ปลูกในกระถางทั้งสองวิธีได้แก่ บัวหลวง บัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย ถ้าจะให้ต้นมีการเจริญที่ดี และสวยงามควรเปลี่ยนน้ำ เมื่อเห็นว่าสกปรกหรือใส่ปุ๋ยบำรุงด้วยปุ๋ยที่นิยมใช้คือ ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 150-300 กรัม/กระถาง โดยหว่านลงในน้ำ ใส่ 2-3 เดือน/ครั้ง





เริ่มปีใหม่ก็เริ่มปลูกบัวไว้ในบ้านเพื่อที่จะช่วยให้คนในครอบครัวมีจิตใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และเบิกบานแจ่มใสตลอดปีและตลอดไป...หากไม่อยากปลูกบัวก็สามารถปลูกพรรณไม้ชนิดอื่นได้ ผลที่ได้คงจะเหมือนกัน เพราะปลูกอะไรก็ดีกับผู้ปลูกทั้งนั้น ที่สำคัญดีกับโลกด้วย...เริ่มปีใหม่ เริ่มคิดแต่สิ่งดี ๆ เริ่มทำแต่สิ่งดี ๆ แล้วชีวิตจะได้รับแต่สิ่งดี ๆ เช่นกันค่ะ




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2551
2 comments
Last Update : 31 ธันวาคม 2551 10:53:23 น.
Counter : 3358 Pageviews.

 

สุขสันต์วันปีใหม่ ขอให้มีความสุขกาย สบายใจ ปราศจากทุกข์โศก โรคภัยทั้งหลายทั้งปวง

 

โดย: ความเจ็บปวด 31 ธันวาคม 2551 17:39:41 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
แวะมาอ่านความรู้เกี่ยวกับการปลูกดอกบัวค่ะ

 

โดย: พี่สาว (พอที ) 7 มกราคม 2552 22:53:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.