สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
อาหารงานแต่งงาน



งานแต่งงานนับเป็นงานที่สร้างความอิ่มหมีพีมันให้ผู้ที่ไปร่วมงาน
ซึ่งนับเป็นความสวยงามอีกประการที่ไม่อาจจะละเว้นไม่กล่าวถึง
ไปได้เลยล่ะ



อาหารในงานวิวาห์นั้นแต่ละชาติแต่ละภาษาก็จะมีความแตกต่างกัน
ออกไปทั้งในด้านการจัดวางการเลือกสรรเพื่อให้สอดคล้องกับแนว
ความคิดและคตินิยมในการแต่งงาน วันนี้เราจะมาดูอาหารงานแต่ง
แบบไทยๆ กันค่ะ คุณผู้อ่านที่เคยอยู่ใกล้ผู้เฒ่าผู้แก่ก็อาจจะเคย
ได้ยินคำว่า ไป "กินสามถ้วย" คำนี้มาจากอาหาร 3 ชนิดที่จะ
ต้องมีในงานมงคลสมรสของคนไทยในสมัยก่อน

เนื่องจากในสมัยก่อนนั้น การเดินทางยังไม่สะดวก เมื่อมีใคร
จัดงานแต่งงานขึ้น

คนที่มาร่วมงานที่อยู่ไกลหน่อยก็จะต้องเดินทางกันลำบากและ
เกิดความเหนื่อยล้า อาหารที่ตระเตรียมสำหรับต้อนรับแขก
ที่เพิ่งมาถึงงานก็จะต้องเป็นอาหารที่เรียกพลังงานคืนได้ดี
โดยอาหารดังกล่าวก็จะต้องมีชื่อและความหมายอันเป็นมงคล
สอดคล้องกับงานแต่งงานด้วย ซึ่งได้แก่อาหารหวาน 3 รายการ
ดังนี้ค่ะ

ข้าวเหนียวน้ำกะทิ ซึ่งมีความหมายว่า ให้คู่บ่าวสาวนั้นรักกัน
แน่นเหนียวเหมือนข้าวเหนียวและมีความหวานชื่นเหมือนน้ำกะทิ

ข้าวตอกน้ำกะทิ มีความหมายว่า ให้คู่บ่าวสาวนั้นมีความรักที่
เบ่งบานรุ่งเรืองเช่นเดียวกับสีอันขาวสวยของข้าวตอก มี
ความหวานชื่นเหมือนน้ำกะทิ และในกรณีนี้แม่อบเชยมี
ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาจจะแฝงไว้ด้วยความหมายของ
ข้าวตอกที่เราใช้กันในงานพิธีไหวครูด้วยก็ได้นะคะว่า ขอให้
ความรักเบ่งบานสวยงามภายใต้กรอบประเพณีอันดีงาม
เช่นเดียวกับที่ข้าวตอกไม่เคยกระเด็นออกนอกที่ครอบ
เวลาคั่วข้าวตอก

ลอดช่องน้ำกะทิ มีความหมายให้คู่บ่าวสาวนั้นมีความรัก
ที่ยืนยาวและจะทำการใดก็ขอให้ตลอดปลอดโปร่งประสบ
ความสำเร็จในชีวิตคู่ เพราะลอดช่องนั้นมีลักษณะที่รื่นไหล
นั่นเองค่ะ ส่วนน้ำกะทิก็มีความหมายเดิมค่ะ คือความ
หวานชื่นนั่นเองนะคะ

ทีนี้มาดูขบวนขันหมากค่ะ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ "เตียบอาหาร"

ที่จะต้องมีอาหารหวานคาว อย่างน้อย 3 คู่ คือจะมากกว่านี้เท่าไหร่
ไม่ว่ากันแต่น้อยกว่าไม่ได้ค่ะ ของที่จะต้องใส่เตียบได้แก่ หมากพลู
ขนมจีบ ไก่ต้ม หมูต้ม ขนมจีนน้ำยา สุรา และ ห่อหมกค่ะ ซึ่งหาก
สังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าอาหารที่ใส่มานั้น มีความหมายเข้ามาแทรก
อีกแล้วนะคะห่อหมก ก็เพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้น "เออ ออห่อหมก"
กันไปทุกเรื่อง จะได้ไม่ต้องมีเรื่องขัดใจกันนั่นเอง

ขนมจีบ ก็เพื่อให้คู่แต่งงานรักกันหวานชื่นเช่นช่วงที่จีบกันใหม่ๆ
นั่นเอง เพราะความรู้สึกของคนรักกันที่หวานชื่นที่สุดก็ช่วงที่
จีบกันนั่นเองนี่คะ ดังนั้นแม้จะแต่งกันอยู่แล้วก็ยังมิวายต้องมี
ขนมจีบมาเตือนใจ

ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนนั้นเป็นของสำคัญในงานแต่งงานตั้งแต่
สมัยเก่าก่อนแล้ว ขนมจีนที่นำมาใช้ในงานแต่งงานนั้นต้องโรย
ให้เส้นยาวที่สุด ต่อเนื่องกันอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเวลาจัดก็
จะต้องจัดให้ลงตัวสวยงามโดยไม่ต้องตัดให้ขาดค่ะ ถ้าเด็ก
รุ่นใหม่ไปช่วยงานแต่งงานแล้วอุตริไปตัดเส้นขนมจีนเพราะ
เห็นว่ายาวไปจัดไม่สวยงามละก็ มีหวังถูกตีมือหักแน่ๆ เลยค่ะ
เพราะว่าคนโบราณเข้าถือกันนัก นอกจากนี้แล้วเครื่องเคียง
ของขนมจีนที่ประกอบไปด้วย " ถั่วงอก" ก็ให้ความหมายของ
ความเจริญงอกงามค่ะ ซึ่งถั่วงอกนี้ไม่เพียงแค่ชื่อนะคะที่
เกี่ยวข้องกับการเติบโตงอกงามแต่ในทางวิชาการแล้วก็มี
ฮอร์โมนจิบเบอเรลลินที่เป็นฮอร์โมนกระตุ้นการเติบโตของ
ต้นไม้ที่คนเราก็จะได้รับด้วยเช่นกันหากบริโภคในปริมาณ
ที่พอดี ในพิธีแต่งงานไม่ว่าจะของชาติใดๆ ก็ตามจะต้องมีการ
ป้อนอาหารให้กัน โรแมนติกเชียวล่ะนะคะ



ซึ่งของไทยเรานั้นประเพณีทางอีสาน เขามีพิธีสู่ขวัญคู่บ่าวสาว
ที่เรือนของหญิง ให้คู่บ่าวสาวหันหน้า ไปทางทิศใต้ แขนผู้ชาย
ทับแขนผู้หญิง และเริ่มทำขวัญ คือเอาด้ายผูกข้อมือซ้ายเจ้าบ่าว
และผูกข้อมือขวาเจ้าสาว เสร็จแล้วมีพิธีป้อน "ไข่ขวัญ" คือ
เอาไข่ไก่ ที่ฝ่ายชายจัดมา หรือผ่าไข่ขวัญในพิธีทำขวัญ ป้อน
ให้ฝ่ายหญิงกิน และเอาไข่ที่ฝ่ายหญิงจัดมาป้อนให้ฝ่ายชาย
กินสับเปลี่ยน ในความหมายก็คือว่าเพื่อให้รับประทานอาหาร
ร่วมกันตลอดไป ไม่แอบหนีไปรับประทานอาหารนอกบ้านกับ
คนอื่นนั่นเอง และในทางมุสลิมนั้นบอกว่า เพื่อให้คู่บ่าวสาว
แบ่งปันสุขทุกข์แก่กันและกัน แม้มีไข่ต้มใบเดียวก็จะแบ่งกัน
รับประทานมองในแง่เศรษฐศาสตร์กันทีเดียวค่ะ

ซึ่งในสมัยใหม่นี้ก็อาจจะมีรูปแบบที่ต่างออกไปเช่น ให้บ่าวสาว
ไขว้แขนป้อนเค้กงานแต่งงาน หรือไขว้แขนดื่มแชมเปญ และ
สำหรับการแต่งแบบจีนก็จะมีการนำด้ายแดงมาผูกข้อมือติดกัน
ก่อนให้ดื่มชาร่วมกัน ส่วนชาวเยอรมันนั้นจะให้คู่บ่าวสาวป้อน
ซุปซึ่งกันและกันจากถ้วยเดียวกันโดยช้อนคันเดียวกัน แต่ทั้งนี้
ต้องหลังจากคืนแรกของการแต่งงานเสียก่อนนะคะ

อาหารต้องห้ามในงานแต่งงาน ที่สมัยโบราณนั้นจะไม่ยอม
ให้มีเลยได้แก่ แกงบวน ต้มยำ ยำผัก ปลาร้า ปลาเจ่า ตลอดจน
แกงร้อนและชนิดอื่นๆ ที่ชื่อไม่เป็นมงคล จนกระทั่งหมี่กรอบก็
ไม่ใช้ค่ะ เพราะมันหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สื่อถึงความหมาย
ที่ไม่ดีเช่นกัน แม้ว่าอาหารที่ไล่ชื่อมาจะเป็นที่โปรดปรานแค่ไหน
ก็อย่าเสียดายเลยค่ะ เพราะใช่ว่าเขาจะแต่งงานกันทุกวันเสีย
ที่ไหน วันอื่นๆ มีถมไปที่เราจะได้กินอาหารจานโปรดใช่ไหมคะ



Create Date : 05 กันยายน 2551
Last Update : 5 กันยายน 2551 15:53:48 น. 1 comments
Counter : 1423 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ...จะได้เอาไปเล่าให้คุณผู้ชายฟัง อิอิอิ


blog น่ารักจังเลยค่ะ ชอบ


โดย: เรือไฟ วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:21:45:21 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.