รวมมิตรเคล็ดลับดูแลไทรอยด์คนทำงาน
โดยเฉพาะคนทำงานยุคใหม่ ที่การงานรัดตัว
ชีวจิตฉบับนี้จึงจัดเต็มเนื้อหาสาระเพื่อคนทำงานที่กำลังป่วยเป็นโรคไฮโปไทรอยด์ และโรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ตลอดจนคนที่มีเพื่อนร่วมงานป่วยเป็นสองโรคนี้ เพื่อความเข้าอกเข้าใจ และช่วยแนะนำแนวทางแก้ปัญหาให้กันค่ะ โรคไฮโปไทรอยด์ เริ่มกันที่โรคไฮโปไทรอยด์ของคุณเพื่อน พบว่าตามสถิติ มีผู้ป่วยโรคไฮโปไทรอยด์มากกว่าโรค ไฮโปไทรอยด์เป็นภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์ คือ ฮอร์โมนไทรไอโอโดไทโรนีน (triiodothyronine หรือ T3) และ ฮอร์โมนไทรอกซิน (thyroxine หรือ T4) ต่ำกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายช้าผิดปกติ ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป บางครั้งจึงไม่ค่อยสังเกตเห็นอาการผิดปกติ ด้วยเหตุนี้ โรคไฮโปไทรอยด์จึงเป็นโรคที่แพทย์ต้องพยายามค้นหาในผู้ที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ และเคยผ่าตัดต่อมไทรอยด์หรือกินไอโอดีน -131 มาแล้ว
นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ต่อมใต้สมองฝ่อเนื่องจากการตกเลือดหลังคลอดบุตร ส่งผลให้ต่อมใต้สมองหลั่งฮอร์โมน TSH (Thyroid Stimulating Hormone) มายับยั้งการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้สร้างฮอร์โมน T3 และ T4 ออกมากน้อยเกินไป ผู้หญิงกลุ่มนี้จึงเสี่ยงป่วยเป็นโรคไฮโปไทรอยด์ได้ด้วย อาการโรคไฮโปไทรอยด์ ที่พบบ่อยและเป็นอุปสรรคของคนทำงาน คือ กินน้อยแต่น้ำหนักเพิ่ม ความคิดเฉื่อยชา ความจำเสื่อม ง่วงนอน อ่อนเพลีย ซึมเศร้า ขี้หนาว (อาการของคุณเธอที่กล่าวถึงตอนต้นทั้งนั้นเลย) นอกจากนี้อาจมีอาการ ตัวบวม หน้าบวม รอบตาบวม ผิวแห้ง ผมร่วง ท้องผูก มีบุตรยาก เป็นตะคริวบ่อย ร่วมด้วย ถ้าหากภาวะไฮโปไทรอยด์ถูกทิ้งไว้นานโดยไม่ได้รับการรักษา อาจมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง เนื่องจากร่างกายเผาผลาญไขมันได้น้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น อันอาจจะนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจได้ในที่สุด
รู้อย่างนี้ ควรไหวตัวให้ทัน ไม่อย่างนั้นหากปล่อยคุณเพื่อนไว้ เธออาจมีโรคอื่นพ่วงมาอีก ไปหาทางแก้ไขต่อดีกว่า ข้อมูลจาก www.cheewajit.com
Create Date : 20 เมษายน 2555 |
Last Update : 20 เมษายน 2555 9:42:00 น. |
|
0 comments
|
Counter : 5534 Pageviews. |
|
|