สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

กรดไหลย้อน.....ภัยเงียบวัยทำงาน

สภาพสังคมในปัจจุบัน นอกจากจะต้องเผชิญกับความเครียดแล้ว ยังต้องทำกิจวัตรต่าง ๆ อย่างรีบเร่ง ซึงรวมถึงการรับประทานอาหาร หลายท่านอาจมองว่าไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ทราบหรือไม่ ยังมีภัยซ่อนเร้นที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างสูงหลายโรค และหนึ่งในนั้นก็คือ “โรคกรดไหลย้อน”

โรคกรดไหลย้อน (Gestroesophangeal Reflux Disease : GERD) เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนน้อยอาจเป็นด่างจากลำไส้เล็ก โดยอาจมีหรือไม่มีหลอดอาหารอักเสบก็ได้




สาเหตุของโรคกรดไหลย้อน เช่น

- หลอดอาหารส่วนปลายคลายตัวโดยที่ยังไม่มีการกลืนอาหาร ซึ่งสาเหตุนี้ถือเป็นภาระสำคัญของโรคนี้
- ความดันจากหูรูดของหลอดอาหารส่วนปลายลดลงต่ำกว่าในคนปกติ หรือเกิดการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหาร ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมากขึ้น
- เกิดจากความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร หรือหลอดอาหาร
- อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด หรือเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม



ไม่ใช่แค่วัยทำงาน....ก็มีความเสี่ยงกับโรคนี้

โรคนี้พบได้ในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งกลุ่มที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ดื่มสุรา สูบบุหรี่ กำลังตั้งครรภ์ เป็นโรคผิวหนังแข็ง (scleroderma) โรคเบาหวาน เป็นต้น

นอกจากนี้การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิตสูงบางชนิด ยาแก้โรคซึมเศร้าก็เป็นสาเหตุที่เสริมปัจจัยสี่ยงได้เช่นกัน ส่วนใน”เด็ก” สามารถพบได้ตั้งแต่วัยทารกจนถึงเด็กโต ซึ่งอาการที่พบบ่อย ได้แก่ อาเจียนบ่อยหลังจากดูดนม โลหิตจาง น้ำหนักและการเจริญเติบโตไม่สมวัย ไอเรื้อรัง หอบหืด ปอดอักเสบเรื้อรัง ในเด็กบางรายอาจมีปัญหาการหยุดหายใจขณะหลับได้



แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน

อาการสำคัญ คือ แสบร้อนบริเวณลิ้นปี่แล้วลามขึ้นมาที่หน้าอกหรือคอ ซึ่งจะเป็นมากขึ้นภายหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก การโน้มตัวไปข้างหน้า การยกของหนัก หรือการนอนหงาย นอกจากนี้ ยังมีอาการเรอเปรี้ยว นั่นเพราะมีกรดซึ่งเป็นน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก โดยคนไข้อาจมีทั้ง 2 อาการหรืออาการใดอาการหนึ่งก็ได้



จะวินิจฉัยโรคนี้ได้อย่างไร

โดยปกติ แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ ได้จากอาการดังที่กล่าวมา โดยผู้ป่วยที่มีอาการทั้งแสบยอดอก และ/หรือ เรอเปรี้ยว (ทั้งนี้ไม่ควรมีอาการที่บ่งบอกว่าน่าจะเป็นโรคอื่น อาทิ น้ำหนักลด อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ ถ่ายเป็นเลือด หรือมีไข้)

แพทย์สามารถให้การวินิจฉัยได้เลยว่าผู้ป่วยมีภาวะกรดไหลย้อนและให้การรักษาเบื้องต้นได้ โดยจะติดตามดูอาการของผู้ป่วย
ในบางรายอาจมี ความจำเป็นต้องได้รับการตรวจค้นพิเศษเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร การกลืนแป้ง การตรวจวัดการบีบตัวของหลอดอาหาร และการตรวจวัดความเป็นกรด-ด่างในหลอดอาหาร ซึ่งพบว่าได้ผลแม่นยำและดีที่สุดในปัจจุบัน



เมื่อรักษาแล้วจะหายขาดหรือมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่

โดยทั่วไป หลังกินยาลดการหลั่งกรดเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ ผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งจะมีโอกาสกลับมีอาการซ้ำอีก ดังนั้นการรักษาในกลุ่มนี้แพทย์ก็จะให้ยาในกลุ่มเดิม โดยอาจจะให้ยาเป็นระยะ ๆ 6-8 สัปดาห์อีก หรือให้ยาตามอาการ ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ในรายที่เป็นเรื้อรังแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจพิจารณาการรักษาด้วยการส่องกล้อง หรือการผ่าตัด

* สำหรับยาในกลุ่มที่มีผลต่อการลดจำนวนการคลายตัวของหูรูดนั้น ยังมีอยู่จำนวนไม่มาก และผลของการรักษายังสู้ยาลดกรดไม่ได้ อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงอยู่พอสมควร



จะปฏิบัติตัวอย่างไรถ้าเป็นโรคนี้

โดยทั่วไปเป้าหมายของการรักษา แพทย์จะมุ่งเน้นให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น รักษาอาการอักเสบของแผลในหลอดอาหารและป้องกันผลแทรกซ้อน การรักษาประกอบไปด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต การให้ยา การส่องกล้อง รักษาและการผ่าตัดโดยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเปลี่ยนพฤติกรรม



การดำเนินชีวิต ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรืออาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด อาหารไขมันสูง ช็อกโกแลต
- ระวังไม่ให้น้ำหนักตัวมากหรืออ้วนเกินไป
- ระวังอาหารมื้อเย็น ไม่รับประทานในปริมาณมากและไม่ควรนอนทันที เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- ควรรับประทานอาหารปริมาณน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง
- ไม่ใส่เสื้อรัดรูปเกินไป
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- นอนตะแคงซ้ายและนอนหนุนหัวเตียงให้สูงอย่างน้อย 6 นิ้ว

จะเห็นได้ว่าโรคกรดไหลย้อน นับเป็นปัญหาของโรคทางเดินอาหารที่พบบ่อยขึ้นในปัจจุบัน แม้ว่าความรุนแรงของโรคนี้จะไม่ร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็จะมีผลกระทบทั้งทางกายและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทั้งในเรื่องของการทำงาน งานอดิเรก การใช้ชีวิตประจำวัน การปฏิบัติตัว เพื่อหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากโรคนี้ เช่น การประพฤติปฏิบัติ การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ก็จะสามารถทำให้ห่างไกลจากภาวะโรคนี้ และให้ห่างไกลจากภาวะโรคนี้ และหากคุณมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็ควรรีบไปรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไป ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงสาเหตุและปัจจัยเสริมอื่น ๆ ก็จะทำให้ห่างไกลจากภาวะโรคกรดไหลย้อนได้




ขอบคุณข้อมูลจากรศ.นพ.สมชาย ลีลากุศลวงศ์
สาขาวิชาโรคระบบทางเดินอาหาร ภ.อายุรศาสตร์
//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/
e-pl/articledetail.asp?id=726




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2553
8 comments
Last Update : 20 มิถุนายน 2553 9:41:35 น.
Counter : 2046 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาฝากกันค่ะ วิสกี้เองก็มีเจ้าโรคนี้ติดตัวมาตั้งแต่ยังวัยรุ่นนั่นเลยค่ะ นานๆ ก็จะแวะมาทักทายกันให้เบื่อและเซ็ง ตอนนี้ลดอาหารมันอาหารเผ็ดไปแล้ว แต่กาแฟนี่ยังทำใจอีกนาน

 

โดย: วิสกี้โซดา 20 มิถุนายน 2553 9:52:21 น.  

 


ขอบคุณที่นำมาฝากนะคะคุณกบ

 

โดย: อุ้มสี 20 มิถุนายน 2553 9:59:43 น.  

 

แวะมาเยี่ยมวันหยุด...ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาฝากครับ

 

โดย: **mp5** 20 มิถุนายน 2553 10:03:19 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
มาส่งคุณกบ เข้านอน หลับฝันดีนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 20 มิถุนายน 2553 23:18:03 น.  

 


สวัสดีค่ะ..

กำลังดูบราซิลแล้วup blogใหม่ไปด้วย

ตอนนี้นำไปแล้ว1-0ค่ะ

ทายดูนะค่ะว่าเขาเรียกว่าดอกอะไร?

ทายถูกมีรางวัลให้ค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 21 มิถุนายน 2553 2:34:27 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณกบ

เป็นโรคฮิตในตอนนี้เลยนะครับ






 

โดย: กะว่าก๋า 21 มิถุนายน 2553 7:21:50 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันวันจันทร์จ้าคุณกบ

 

โดย: หอมกร 21 มิถุนายน 2553 7:56:03 น.  

 

 

โดย: น้องเมย์น่ารัก 5 ตุลาคม 2557 0:48:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.