สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

ว่ากันด้วยเรื่องความรู้เกี่ยวกับฟัน



เหงือกที่สุขภาพดีไม่ควรมีเลือดออกเอง หรือเลือดออกขณะแปรงฟัน ดังนั้น เมื่อมีเลือดออกตามไรฟันย่อมหมายความว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว

สาเหตุ

• เชื้อแบคทีเรียและคราบฟันที่เกิดบริเวณร่องเหงือก ไรฟัน
• โรคของเหงือก เหงือกที่อักเสบและมีการติดเชื้อ มักมีเลือดออกง่าย เพราะการอักเสบทำให้เหงือกมีเลือดมาเลี้ยงมากเพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันมากำจัดแบคทีเรีย
• บาดเจ็บจากแปรงสีฟันที่ขนแปรงแข็งหรือเยิน หรือใช้ไหมขัดฟันไม่ระมัดระวัง
• ขาดวิตามินซี
• ไข้เลือดออกเดงกี่
• กลไกของการเกิดลิ่มเลือดผิดปกติ

การดูแลตนเอง

• รีบไปโรงพยาบาล หากมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้อง เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระมีเลือด มีเลือดออกที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
• พบทันตแพทย์หากเหงือกบวม คัน นุ่มนิ่ม อันเป็นอาการของโรคเหงือก
• พบแพทย์หากมีเลือดออกง่ายตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น รอยช้ำจ้ำเขียวที่ผิวหนัง หรือมีเลือดออกง่ายตามส่วนอื่นของร่างกาย อันเป็นอาการของเลือดหยุดยาก กลไกห้ามเลือดผิดปกติ





การวินิจฉัยและรักษา

• หาสาเหตุของเลือดออกแล้วรักษาตามสาเหตุ
• รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ สืบค้นหาสาเหตุตามความเหมาะสม

การดูแลรักษาโดยทันตแพทย์

• ทำความสะอาดล้างคราบแบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟัน
• ขูดหินปูน ขัดคราบบุหรี่
• รักษาโรคเหงือก
• สอนการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี
• ส่งพบแพทย์ หากเลือดออกตามไรฟันไม่ได้เกิดจากโรคเหงือก

การป้องกัน

• ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม เปลี่ยนแปรงสีฟันทันทีที่ขนแปรงเยิน
• แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี ดูแลรักษาไรฟันให้สะอาด
• พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
• กินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ผลไม้ชนิดต่างๆ


เป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่เหมือนกันว่า ฟันนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตคนเราหรือไม่ สำหรับมนุษย์นั้น ฟันมิใช่เพียงแต่เป็น เครื่องบดเคี้ยวอย่างเดียว ฟันยังช่วยเป็นส่วนประกอบ ของความสวยงามบนใบหน้า รวมทั้ง ใช้ช่วยในการออกเสียงสำเนียงต่างๆ ในการพูดจาด้วย ฉะนั้น ฟันจึงเป็นอวัยวะที่จำเป็น ที่ควรจะได้รับการดูแล และระวังรักษาให้เป็นพิเศษ

มนุษย์เรามีฟันด้วยกันทั้งหมด 2 ชุด ฟันชุดแรกเรียกว่าฟันน้ำนมมีอยู่ 20 ซี่ ซึ่งจะเริ่มเห็นในช่องปาก เมื่อเด็กเกิดแล้วประมาณ 6 เดือน และจะครบ 20 ซี่ เมื่อเด็กอายุประมาณสองขวบครึ่ง โดยอยู่ที่ขากรรไกรบน 10 ซี่ และขากรรไกรล่าง 10 ซี่ เด็กจะใช้ฟันน้ำนมเต็มที่ ประมาณ 3 ถึง 6 ขวบ จากนั้นฟันแท้จะทยอยกันขึ้นมา แทนที่ฟันน้ำนม โดยธรรมชาติ ฟันน้ำนมจะค่อยๆ โยกและหลุดไปเอง ฟันแท้ซี่แรก จะเป็นฟันกรามใหญ่ ขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 ขวบ จนถึงอายุประมาณ 12 ปี เด็กควรมีฟันแท้อยู่ในปาก ประมาณ 28 ซี่ ส่วนอีก 4 ซี่ที่เหลือ เป็นฟันกรามซี่สุดท้าย จะขึ้นระหว่างอายุประมาณ 18-25 ปี การขึ้นของฟันซี่นี้ อาจเร็วหรือช้า ยากง่ายต่างๆ กัน เมื่อขึ้นมาครบในขากรรไกร ทั้งบนและล่าง ซ้ายและขวาแล้ว จะทำให้เรามีฟันครบ 32 ซี่





เราสูญเสียฟันไปได้อย่างไร

โรคใหญ่ๆ สองโรคที่เป็นเหตุ ให้เราต้องสูญเสียฟันของเราไปคือ โรคฟันผุ และโรคเหงือก หรือโรครำมะนาด คนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับโรคฟันผุ และคิดว่าเป็นสาเหตุเดียว ที่ทำให้เราต้องสูญเสียฟัน แต่โรคเหงือกนั้น เป็นโรคของเนื้อเยื่อรอบๆ ฟันและอวัยวะที่รองรับฟัน ซึ่งอาการของโรค จะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ ซึ่งมักจะไม่ค่อยก่อให้เกิดความเจ็บปวดเท่าใดนัก ในระยะเริ่มแรก แต่จะมีอาการมากขึ้น เมื่อเป็นมากแล้ว

มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อกันว่า ฟันผุมีสาเหตุจากตัวแมง เข้ามาเจาะไชกินฟันทำให้เป็นโพรง แต่ที่จริงแล้ว ฟันผุ จะเกิดจากแผ่นคราบของเชื้อโรค สะสมอยู่บนผิวเคลือบฟัน ซึ่งมองดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น แผ่นคราบนี้ จะทำให้อาหารจำพวกแป้ง และน้ำตาลที่รับประทานเข้าไปกลายเป็นกรด ซึ่งจะทำลายผิวฟัน นานๆ เข้าฟันจะเป็นรูลึกขึ้นทุกที ถ้าไม่ได้รับการบำบัดจากทันตแพทย์ จะทำให้ฟันผุนั้นลุกลามจนถึงโพรงประสาท เกิดการปวดฟันอย่างรุนแรง ซึ่งระยะนี้เป็นระยะที่คนส่วนมากจะนึกถึงหมอฟัน แต่บางคนมีความสามารถทนต่อการเจ็บปวดได้สูง ยอมทนเจ็บโดยไม่ได้รับการบำบัดใดๆ เลย จนโพรงประสาทฟัน มีอาการอักเสบเน่าเปื่อย เชื้อโรคต่างๆ ก็สามารถเข้าไปภายใน จะทำให้เกิดหนองขึ้นภายในฟัน และรุกลามไปจนถึงปลายราก ฟันที่มีการผุพังเช่นนี้ เมื่อมาหาหมอฟันแล้ว น่าเสียดายที่ว่าส่วนใหญ่ จะต้องถูกถอนเสีย

ส่วนโรคเหงือกหรือโรครำมะนาดนั้น จะมีอาการเริ่มแรก ซึ่งเราจะสังเกตได้คือ จะมีเลือดออกจากเหงือกง่ายกว่าปกติ เหงือกจะมีสีแดงจัดและบวมเป่ง เหงือกปกติจะมีสีชมพูและแน่นแข็ง แต่เหงืออักเสบ จะบวมไม่แนบสนิทกับตัวฟัน จะมีเลือดออกทุกครั้งที่แปรงฟัน หรือกัดอาหาร ถ้าไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เหงือกเป็นหนอง ฟันโยกมากกว่าปกติ และไม่สะดวกในการเคี้ยวอาหาร

ข้อปฏิบัติเพื่อทันตสุขภาพ

1. แปรงฟันให้ถูกวิธีทันที ภายหลังกินอาหารทุกมื้อ ก่อนนอนและตื่นนอน การแปรงฟันทำให้ฟันสะอาด ป้องกันฟันผุ และเหงือกแข็งแรงสมบูรณ์
2. กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารที่ช่วยทำความสะอาดฟัน และเหงือขณะเคี้ยวอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ นม ผัก และผลไม้ ควรหลีกเลี่ยงการกินขนมหวาน เช่น ลูกกวาด ท้อฟฟี่ ลูกอม น้ำอัดลม เป็นต้น
3. เพิ่มความแข็งแรงให้ฟับฟันโดยใช้ฟลูออไรด์ โดยการรับประทานยาฟลูออไรด์ในสภาพยาเม็ด หรือยาน้ำ อาหารประเภทชา หรือเคลือบผิวฟัน ด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ผสมอยู่
4. บำรุงสุขภาพให้สมบูรณ์อยู่เสมอเพื่อต้านทานโรค





แปรงสีฟันที่ดีควรมีลักษณะดังนี้

1. ด้านตรงไม่โค้งงอ
2. ขนแปรงหน้าตัดเรียบสม่ำเสมอกัน
3. ขนแปรงมีสองหรือสามแถว ไม่แข็งมากเกินไป
4. ขนาดของแปรงควรเหมาะกับปาก และเด็กควรเล็กกว่าของผู้ใหญ่

วิธีแปรงฟันให้ถูกวิธี

ควรจับแปรงให้ถูกต้อง สอดเข้าไปในปาก ให้ขนแปรงเอียงประมาณ 45 องศา จดที่คอฟัน และขอบเหงือก ฟันบนให้ปัดลง ฟันล่างให้ปัดขึ้น ทั้งด้านนอกและด้านใน ด้านบดเคี้ยวให้ถูเข้าออกไปมา


ยาสีฟันที่ดีควรมีลักษณะดังนี้

1. มีฟอง สี กลิ่น รส เป็นที่พอใจของผู้ใช้
2. มีฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ
3. ไม่มีเนื้อหยาบหรือเป็นผง เพราะทำให้ฟันสึกเร็ว
4. ไม่มีพิษ หรือก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต

ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกเมื่อไหร่

ผู้ปกครองส่วนมาก มักจะไม่ค่อยเห็นความสำคัญ ในการพาบุตรหลานของตน ไปหาทันตแพทย์ จะพาไปก็ต่อ เมื่อเด็กปวดฟัน อันที่จริงผู้ปกครอง ควรพาเด็กไปหาทันตแพทย์ครั้งแรก เมื่อเด็กมีฟันน้ำนมขึ้นครบแล้ว 20 ซี่

1. ทันตแพทย์จะได้ตรวจฟัน และช่องปากของเด็กว่า มีความผิดปกติหรือไม่ จะได้ทำการแก้ไขเสียแต่แรก
2. เด็กจะได้มีความคุ้นเคยกับทันตแพทย์ ไม่กลัวเวลามาหา เพราะการรักษาในระยะแรกของโรค ทำได้โดยเด็กไม่ค่อยเจ็บ จะได้ไม่มีอคติต่อหมอ
3. ทันตแพทย์จะได้นำความรู้ ในการระวังรักษา การแปรงฟัน อาหาร การใช้ยาฟลูออไรด์ของเด็ก

ในกรณีที่เด็กฟันผุ มีอาการปวดเสียวหรือเกิดอุบัติเหตุล้มกระแทก ควรรีบพาไปหาทันตแพทย์ทันที





โรคฟันผุ

การเกิดโรคฟันผุ มาจากปัจจัย 4 ประการ ซึ่งมีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ แผ่นคราบจุลินทรีย์ อาหารประเภทแป้งน้ำตาล ตัวฟัน และเวลา โดยแบคทีเรีย ที่มีอยู่ตามปกติในช่องปาก จะทำปฏิกิริยากับคราบ (Plaque) ที่ติดค้างอยู่ตามซอกฟัน และผิวเคลือบฟัน ซึ่งเราขจัดออกไปได้ไม่หมด เกิดเป็นกรดขึ้น ซึ่งกรดสามารถทำลายผิวเคลือบฟัน ก่อให้เกิดโรคฟันผุขึ้นได้หาก pH ในปาก มีค่าต่ำกว่า 5.5 บ่อยๆ และเป็นเวลานาน

อาการ

การผุของฟัน จะเริ่มขึ้นที่ชั้นผิวเคลือบฟันก่อน โดยจะเห็นเป็นจุดดำเล็กๆ หรือเป็นเส้นดำ ตามร่องฟันด้านบดเคี้ยว หรือเนื้อฟันมีสีขาวขุ่นผิดปกติ ระยะนี้มักไม่พบอาการเสียวฟัน หรือปวดฟันแต่อย่างใด ซึ่งการทำความสะอาดฟันที่ดี สามารถชลอการลุกลามของโรคฟันผุได้ แต่หากเราปล่อยไว้ไม่ดูแล ฟันผุลุกลามไปถึงขั้นเนื้อฟัน จะมีอาการเสียวฟัน เมื่อเคี้ยวอาหาร หรือเมื่อกระทบของเย็น บางครั้งอาจมีอาการปวดได้ แต่หากเรายังปล่อยทิ้งไว้ จนฟันผุลุกลามไป ถึงขั้นโพรงประสาทฟัน ซึ่งมีเส้นเลือดและเส้นประสาท จะทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้น อาจถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับก็มี แม้ได้รับยาแก้ปวด บางครั้งก็อาจไม่ทุเลาอาการปวดได้ และถ้าผุลุกลามมาก อาจทำให้รากฟันอักเสบ และเป็นหนอง เหงือกบวม หรือแก้มบวมได้ ซึ่งระยะนี้ ไม่สามารถอุดฟันด้วยวิธีปกติทั่วไปได้ ต้องรักษาครองรากฟัน ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้เวลารักษานาน และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย บางครั้งอาจต้องสูยเสียฟัน เนื่องจากผุลุกลามมาก ไม่สามารถเก็บรักษาฟันซี่นั้นไว้ได้ ซึ่งจะมีผลกระทบด้านการบดเคี้ยว จะมีประสิทธิภาพลดลง และต้องใช้ฟันเทียม ซึ่งมีค้าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นโดยไม่จำเป็น

การป้องกัน

โรคฟันผุ เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษา และป้องกันได้ โดยวิธีการกินยา เมื่อมีฟันผุ ก็ต้องรักษาด้วยการอุดฟัน หรือถอนฟันเท่านั้น ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคฟันผุ เรามีวิธีปฏิบัติได้ด้วยตนเองอย่างง่ายๆ ดังนี้

1. รักษาสุขภาพอนามัยช่องปากให้สะอาด ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน ควรแปรงฟัน หลังรับประทานอาหารเสร็จทุกครั้ง หรือถ้าทำได้ไม่สะดวก ก็ใช้วิธีบ้วนน้ำแรงๆ หลายๆ ครั้ง
2. รับประทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ต่อฟัน เช่น อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ซึ่งเป็นอาหาร ที่ส่งเสริมให้ฟันผุได้ง่าย
3. ไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุกๆ 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง
4. ใช้ฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ และทำให้ฟันแข็งแรง ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ร่วมกับการรับประทานยาน้ำ/ยาเม็ดฟลูออไรด์ (ในเด็ก) การอมน้ำยาฟลูออไรด์ ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้





การเสียวฟัน

ถ้าหากคุณรับประทานไอศกรีม หรือจิบกาแฟแล้วมีอาการเสียวแปลบที่ตัวฟัน นี่เป็นสัญญาณเตือนแล้วว่า ฟันของคุณต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน ปกติแล้วโครงสร้างของฟันที่มีสุขภาพดีนั้น ตัวฟันจะมีเปลือกฟัน (Enamel) ซึ่งเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของร่างกายหุ้มอยู่ และรากฟันเองก็มีส่วนที่เป็นเปลือกรากฟัน (Cementum) หุ้มอยู่ ส่วนที่เป็นเนื้อฟัน (Dentine) จะประกอบไปด้วยท่อเล็กๆ หลายๆ ท่อ หากท่อเหล่านี้ไม่มีอะไรมาหุ้มจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็สามารถทำให้ความร้อน ความเย็น กรดจากอาหาร สามารถส่งต่อผ่านท่อนี้ไปที่ประสาทฟัน ทำให้เราสะดุ้งทุกทีไปเวลารับประทานอาหารต่างๆ

ถามว่าอาการเสียวฟัน อันตรายมากไหม ? จริงๆ แล้วมันคือสัญญาณเตือนคุณว่าถ้าไม่รีบแก้ไขก็จะมีเรื่องต่อเนื่องที่ทำอันตราย
กับฟันมากขึ้น อีกอย่างก็จะทำให้คุณหมดความสุขในการรับประทานอาหาร ทุกครั้งที่จะเอาอะไรใส่ปากก็ขยาดทุกที

อะไรบ้างที่ควร หรือไม่ควรในการป้องกันการอาการเสียวฟัน

DO'S

• การทำความสะอาดฟัน ควรเลือกแปรงที่ขนแปรงนิ่มไม่แข็งเกินไป เพราะทำให้คอฟันสึกง่าย
• แปรงให้ถูกวิธี แปรงผิดวิธีทำให้เหงือกร่น คอฟันสึก รากฟันโผล่ ทำให้เสียวฟันมาก
• พบทันตแพทย์ตรวจฟันทุก 6 เดือน หากมีฟันผุอุดเสีย มีโรคเหงือกอักเสบก็จัดการเลย อย่าปล่อยให้กระดูกถูกทำลายมีช่องว่างระหว่างเหงือกกับฟัน ซึ่งทั้งฟันผุและโรคเหงือกเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการเสียวฟันมาก
• หากมีฟันสึกจากการบดเคี้ยวก็ควรให้ทันตแพทย์ครอบฟันด้วย

DON'TS

• อย่าใช้ฟันผิดประเภท จริงอยู่ธรรมชาติของฟันเป็นอวัยวะที่แข็ง แต่มีข้อจำกัดถ้าใช้อย่างไม่ทะนุถนอม หากฟันแตก หัก ฟันร้าว ก็ทำให้เกิดอาการเสียวฟันมาก
• การแปรงฟันเน้นแปรงถูกวิธี แต่ไม่ใช่แปรงแรงๆ แล้วฟันจะสะอาด ไม่ต้องแรงแต่แปรงถูกวิธี
• หากนอนกัดฟัน มีฟันสึกมากต้องแก้ไขหรือใส่เครื่องมือป้องกัน
• อย่าผัดวันประกันพรุ่ง หากมีสัญญาณอาการต่างๆ ที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับฟันเตือน ให้รีบพบทันตแพทย์ หรือพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก 6 เดือน

ต้องหมั่นดูแลสุขภาพฟันเป็นสำคัญ แปรงฟันอย่างถูกวิธี และอมน้ำยาบ้วนปากช่วยกำจัดแบคทีเรียในส่วนที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง ขอให้คุณทุกคนมีความสุขกับการรับประทานอาหารอร่อยๆ นะครับ อย่าทนทุกข์ทรมานกับอาการเสียวฟันอยู่เลย










ขอขอบคุณข้อมูลจาก HealthToday , //www.yourhealthyguide.com
//www.ku.ac.th/e-magazine, //www.si.mahidol.ac.th




 

Create Date : 08 เมษายน 2552
11 comments
Last Update : 8 เมษายน 2552 8:32:30 น.
Counter : 2364 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะค่ะ

 

โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ 8 เมษายน 2552 11:56:19 น.  

 

ข้อมูลแน่นเปรี๊ยะเลยค่ะ
ครบถ้วนกระบวนความกันเลยทีเดียว
ขอบคุณค่ะ
รักษาสุขภาพนะคะ มีความสุขค่ะ

 

โดย: busabap 8 เมษายน 2552 12:53:09 น.  

 

สวัสดีครับคุณกบ

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 8 เมษายน 2552 13:19:00 น.  

 

w0w!!! บล็อกสวยจังเลยค่ะ แต่งบล็อคเก่งจังนะคะ

 

โดย: the river of Aquarius 8 เมษายน 2552 13:20:11 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมุลดี ๆ ค่ะ

 

โดย: ความเจ็บปวด 8 เมษายน 2552 15:28:16 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีค่ะ

 

โดย: i-pinkberriiz 8 เมษายน 2552 19:34:48 น.  

 

Photobucket

สวัสดีค่ะคุณกบ

เรารักฟันเรามากเลย เพราะเป็นคนชอบกิน ชอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

Photobucketมีถังน้ำไว้เล่นสงกรานต์หรือยังคะ เรามีบริการในราคาย่อมเยาว์ คลิกตรงนี้ค่ะแผ่นรองกระดาษบันทึก & bg - สีสันซัมเมอร์ & icon ห่อของขวัญ

 

โดย: fleuri 9 เมษายน 2552 4:15:53 น.  

 

Comment Hi5 Glitter
Comment Hi5 Glitter

สวัสดียามสายค่ะ..คุณกบ
แจนมาทักทาย พร้อมอ่านข้อมูลดีดีค่ะ
วันนี้อากาศดี ขอให้มีความสุขสดชื่นทั้งวันนะคะ

 

โดย: JJ&TheGang 9 เมษายน 2552 11:02:32 น.  

 

ลุงกล้วยก็มีปัญหาครับเรื่องฟัน
ถอนฟันล่างแล้วไม่ใส่ฟันบน คุณหมอบอกกลัวว่าฟันบนจะงอกยาวลงล่างแนะนำให้ใส่ฟัน แต่กระดูกฟันล่างของลุงกล้วยโปนมาก ต้องตัดกระดูก แค่ฟังก็หวาดเสียวแล้วครับ เลยปล่อย ทุกวันนี้ดีที่ฟันไม่ล้ม แต่ก็คอยระวังอยู่ครับ

 

โดย: ลุงกล้วย 9 เมษายน 2552 13:50:30 น.  

 

สวัสดีบ่ายที่ร้อนๆๆค่ะ อิอิ ร้อนใจไหมคะ?คุณกบ อิอิ


 

โดย: ญามี่ 9 เมษายน 2552 15:33:12 น.  

 






แคนาดาก็หยุดสี่วันเช่นกันค่ะ

วันหยุดทางศาสนา

"สุขสันต์วันสงกรานต์"

.....ไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม

ขอให้มีความสุข สนุกสนาน

เย็นกาย เย็นใจ

และเดินทางปลอดภัยค่ะ



 

โดย: fleuri 10 เมษายน 2552 7:14:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.