สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

ความรู้เกี่ยวกับการทำดีท๊อกซ์







ปัจจุบันนี้การทำดีท็อกซ์เป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วไป
ทั้งในหญิงและชาย บ้างก็ว่าสามารถรักษาโรคภัย
ไข้เจ็บต่างๆ ได้โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหา
เกี่ยวกับการขับถ่าย จึงใช้กันแพร่หลายทั่วไป
ก็เลยอยากนำสาระความรู้มาเผยแพร่สำหรับเป็น
ความรู้หากมีผู้ใดสนใจอยากจะทำดีท็อกซ์


DETOX (ดีท็อกซ์) ล้างลำไส้ คือ อะไร


Detox....คือ วิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากๆ ในการทำความ สะอาดและกำจัดของเสียต่างๆ ออกจากลำไส้ ด้วยการใช้น้ำอุ่นปริมาณ 25 ลิตร โดยวิธีการปล่อยให้น้ำไหลช้าๆ เข้าไปทางทวารหนักทีละน้อยๆ ผ่าน หลอด สวนที่สอดเข้าทางทวารหนักลึกเพียง 2 นิ้วในขณะเดียวกันผู้ป่วยก็จะ ถ่ายเอา ของเสียและน้ำออกจากลำไส้ด้วยการเบ่งเหมือนกับการถ่ายอุจจาระ ตามปกติ ซึ่ง ปริมาณของน้ำที่ไหลเข้าไปในลำไส้แต่ละครั้งไม่ถึง 1 ลิตร ก็จะ ถูกขับออกมาพร้อม กับของเสีย ผ่านทางทวารหนักและผ่านออกข้างๆหลอด สวน โดยไม่ต้องถอดหลอด สวนออก ทำหมุนเวียนเช่นนี้จนน้ำหมด 25 ลิตร ลำไส้จะสะอาดขึ้นและรู้สึกโล่ง ขึ้นในทันที


การล้างลำไส้จะไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย แต่อาจมีบ้างในบาง กรณีที่เป็นผลมาจากการบีบรัดของลำไส้ที่ออกมาในลักษณะของการปวดเบ่ง หรือปวดถ่ายมากกว่า โดยมากแพทย์ที่ทำการรักษาจะมีความชำนาญสูง จน ผู้ป่วยไม่ค่อยรู้สึกถึงอาการเจ็บที่อาจเกิดขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกพอใจการรักษาที่ เต็มไปด้วยความสะอาดและปลอดภัย บางครั้งระหว่างทำการรักษา กล้าม เนื้อลำไส้อาจจะหดเกร็งอย่างทันทีทันใด อันเนื่องมาจากการกระตุ้นของน้ำ เกลือแร่ หรือกาแฟ อาการที่เกิดตามมาอาจจะเป็นอาการตึงที่บริเวณ ช่องท้อง หรือเกิดลมในช่องท้อง อย่างไรก็ดีอาการเหล่านี้จะเป็นไม่ค่อย มากและเป็นอยู่เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น


ระบบทางเดินอาหารภายในร่างกายอาหารจะถูกส่งจากปากถึง
ทวารหนักโดย ทั่วไปลำไส้ใหญ่จะมีขนาดยาวประมาณ 5 ฟุต
(150เซนติเมตร)


การสวนล้างลำไส้ ควรต้องรักษาอย่างต่อเนื่องหรือไม่นั้น ต้องดูวัตถุประสงค์ ของการรักษาของผู้ป่วยก่อน เช่น ถ้ามาทำการรักษาเพื่อให้อาการโรคเรื้อรัง ดีขึ้น เพื่อลดไข้ เพื่อลดอาการปวดหลังหรือปวดศีรษะ จำเป็นจะต้องทำหนึ่ง ครั้งต่อสัปดาห์จนอาการดีขึ้นและถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาอาการท้อง ผูกอย่างถาวร ทำให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวตามปกติและเพื่อให้ร่างกาย สดชื่น ก็ควรล้างลำไส้ทุก 1 เดือน จนกว่าอาการท้องผูกจะดีขึ้นพร้อมทั้งต้อง ดูแลเกี่ยวกับอาหารที่รับประทานมีการออกกำลังกายเปลี่ยนวิถีการดำเนิน ชีวิต มีการสวนล้างลำไส้อย่างสม่ำเสมอส่วนว่าจะบ่อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับ ภาวะร่าง กายของแต่ละบุคคลและผลการรักษาอย่างไรก็ตามแพทย์เชื่อว่า การสวนล้างลำไส้อย่างต่อเนื่องจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยในการรักษาและ ป้องกันโรคต่างๆ


Detox... 5 วิธี ล้างพิษเสริมสุขภาพ

ล้างพิษ คืออะไร ? ดีอย่างไร ?

ในยุคที่รอบๆ ตัวเรากลายเป็นสังคมของความเร่งด่วน เวลากินก็ต้องเป็นอาหารจานด่วน แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มไปหมด คนเราจึงเคลื่อนไหวน้อยลงทุกที ควันเสียจากรถยนต์ ความเครียดจากการทำงาน ทำให้วิถีชีวิตของเราเต็มไปด้วยพิษค่ะ ภายนอกก็มีมลพิษ ภายในร่างกายก็มีคอเลสเตอรอล น้ำตาลในเลือด สารพิษที่เกิดจากการบูดเน่าของไขมันและโปรตีนที่อยู่ในลำไส้ของคนเรา ฟังแล้วสยองไหมคะคุณๆ


กระบวนการล้างพิษ จึงเกิดขึ้นมาเพื่อล้างพิษในร่างกายของคนเราค่ะ โดยอยู่ภายใต้ความเชื่อว่า การมีสุขภาพดีที่จำเป็นต้องบำรุงรักษาทั้งร่างกายและจิตใจเราจึงควรล้างพิษผ่านวิธีทั้ง 5 ได้แก่ กินเพื่อล้างพิษ อดเพื่อล้างพิษ ฝึกลมปราณเพื่อล้างพิษ ฝึกสมาธิเพื่อล้างพิษทางจิตใจ และสวนลำไส้เพื่อล้างพิษ เพื่อให้กระบวนการฟื้นฟูสุขภาพเป็นไปอย่างครบถ้วนค่ะ


อด...ล้างพิษ

มีคำกล่าวว่า "คนกินมากก็ป่วยมาก" ทำให้ Audrey ย้อนคิดว่า คนเราป่วยเพราะกินมีเพิ่มขึ้นจริงๆ ค่ะ การล้างพิษวิธีที่สองจึงชักชวนให้หันมาอดล้างพิษกันดูบ้าง ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่า มนุษย์เราสะสมพลังงานในรูปไขมันและพลังงานไว้เพียงพอต่อการอดอาหารประมาณ 1-2 วัน ได้โดยไม่เจ็บป่วยเชียวนะ

ข้อดีของการอด คือลดการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น กระเพาะก็ไม่ต้องย่อยอาหาร ลำไส้ก็ไม่ต้องดูดซึม อวัยวะภายในอื่นๆ ก็จะทำงานน้อยลง ซึ่งหากคนเราใช้งานกระเพาะหรืออวัยวะภายในส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ร่างกายก็จะสร้างสารพิษที่เรียกว่ามะเร็งนั่นเองค่ะ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มอดอาหาร สามารถเริ่มต้นด้วยการกินผลไม้ หรือน้ำผลไม้ตลอดทั้งวันก่อนก็ได้ แต่ก่อนการอด ควรจะให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อน และในวันที่อดอาหารก็ไม่ควรทำงานหนักด้วยค่ะ


กิน...ล้างพิษ

สามารถหลีกเลี่ยงอาหารมีพิษได้ง่ายๆ โดยงดเว้นอาหารหมักดอง อาหารขัดขาวหรือฟอกสี รวมไปถึงอาหารสำเร็จรูป แล้วเลือกกินผักสด เลือกแบบไม่มีสารปนเปื้อนหรือล้างเอายาฆ่าแมลงออกให้หมดยิ่งประเสริฐ กินข้าวกล้อง ข้าวมันปูแทนข้าวขาว น้ำตาลทรายแดงแทนน้ำตาลขัดขาว ที่สำคัญกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยที่ไม่เลือกกินเนื้อสัตว์ แป้ง น้ำตาล มากจนเกินไป

แต่สำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย ไม่สามารถเลือกกินอาหารได้ครบ 5 หมู่ หรือวิตามินที่จำเป็น มีทางเลือกง่ายๆ คือปั่นน้ำผัก น้ำผลไม้ดื่มเป็นประจำ ก็ช่วยล้างพิษได้ค่ะ


ฝึกสมาธิ... ล้างพิษในใจ

คนที่ฝึกสมาธิได้ระดับหนึ่งร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมาค่ะ และเมื่อร่างกายสงบ เกิดสมาธิ หัวใจจะเต้นช้าลง ลมหายใจที่เคยสั้นเพราะเครียดก็จะยาวขึ้น เมื่อควบคุมลมหายใจได้ทำให้ปอดขยาย ร่างกายก็สามารถปรับออกซิเจนได้มากขึ้น เกิดกระบวนการเผาผลาญไขมัน ลดการอักเสบในระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดขาวที่เป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้มากขึ้น แถมทำให้คลื่นสมองเป็นระเบียบ ช่วยให้มีความจำดีขึ้น ข้อดีมีมากมายจน Audrey จาระไนไม่หมดของอย่างนี้ไม่เชื่อต้องพิสูจน์ด้วยตนเองนะคะ


สวนลำไส้...ล้างพิษ

ฟังชื่อแล้วอย่างเพิ่งเสียวลำไส้กันไปนะคะ การสวนล้างลำไส้เกิดขึ้นเพราะพฤติกรรมการกินอาหารของคนปัจจุบัน อาทิ การกินอาหารขัดสี หรือมีกากใยน้อย ส่งผลให้ลำไส้ทำงานไม่ดีเพิ่มสารพิษให้ร่างกาย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาการเจ็บป่วย


ปัจจุบัน วิธีการทำความสะอาดลำไส้ มี 3 วิธี

1. การสวนลำไส้ใหญ่ระดับบน เน้นการสวนด้วยน้ำอุ่น คือการใช้น้ำอุ่น 5 แกลลอน ทำความสะอาดตลอดทั้งลำไส้ เพื่อล้างอุจจาระที่ตกค้าง เมือกที่เป็นอาหารบูดเน่าเกาะอยู่ตามผนังลำไส้
วิธีทำ : เครื่องสวนลำไส้ใหญ่มีชื่อว่า colontheraphy ที่ปัจจุบันมีบริการตามโรงพยาบาลหลายแห่ง ใช้เวลาทำประมาณ 30-40 นาที ควรทำประมาณปีละ 4-5 ครั้ง
ค่าใช้จ่าย : ครั้งละ 1,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการแต่ละแห่ง


2. การสวนล้างลำไส้ใหญ่ระดับกลางด้วยกาแฟ การสวนกาแฟทำได้ง่ายและสามารถทำเองที่บ้านได้ ประโยชน์คือ ชำระอุจจาระที่ตกค้างในลำไส้ ที่สำคัญคือ ฤทธิ์กาแฟจะซึมเข้าทางผนังลำไส้ เส้นเลือดและตับ ซึ่งช่วยให้ตับซึ่งทำหน้าที่กรองของเสียให้ร่างกาย สะอาด และกลับมาทำงานได้ดีขึ้น
วิธีทำ : เตรียมอุปกรณ์ได้แก่ หม้อ หรือถุงสำหรับทำ DETOX สายยาง กาแฟคั่วบดทั่วไป 1 ช้อนโต๊ะ น้ำอุ่นประมาณ 1,000-1,500 มิลลิลิตร เมื่อเตรียมน้ำกาแฟเสร็จแล้ว วางหม้อไว้สูงกว่าร่างกายประมาณ 3 ฟุต นอนลง (ตะแคงขวา ดึงขาซ้ายชิดขึ้นไปทางหน้าอกเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดท่อได้ง่าย) ทาวาสลินที่ปลายท่อส่วนที่จะสอดเข้าไป ในทวารหนักแล้วจึงค่อยๆ สอดท่อไปที่ทวารหนักลึกประมาณ 2 นิ้ว ปล่อยกาแฟในหม้อจนหมด ขมิบก้นให้กาแฟ ค้างในลำไส้ประมาณ 5-10 นาที จากนั้นปล่อยกาแฟให้ไหลออกมา จะสังเกตได้ว่ามีเศษอาหารออกมาด้วย
ความเชื่อของคนส่วนใหญ่มักคิดว่า การสวนกาแฟจะช่วยให้หายท้องผูกได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นค่ะ ค่าใช้จ่าย : (กรณีไม่ได้ทำเอง) ครั้งละ 500-1,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานที่ให้บริการแต่ละแห่ง
สวนกาแฟด้วยตนเอง

ดังนั้นการทำดีท็อกซ์จึงควรทำตอนเย็นก่อนนอนเพราะตื่นเช้าจะถ่ายตามปกติได้ค่ะ และควรทำเดือนละ 1-2 ครั้ง จะได้ไม่เสียสุขนิสัยในการขับถ่ายนะคะ

3. การล้างสำไส้ด้วยการชงดื่ม ง่าย และปลอดภัย ไฟโต ไฟเบอร์ ผลิตภัณฑ์ ดีท๊อกซ์ (ล้างลำไส้) ด้วยไยอาหาร ไม่ต้องสวนทวาร ผลิตจากธรรมชาติ 100% มีคุณสมบัติช่วยให้ ผนังลำไส้ขับเมือกไขมัน และ สารพิษที่เกาะติด บน ผนังลำไส้ การทำดีท็อกซ์ มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อกำจัดพิษ (ท็อกซิน) ออกจากร่างกาย โดยการล้างสารพิษ ใน ลำไส้ และช่วยลดอาการท้องผูก และ การช่วยให้การเคลื่อนตัวของตะกรันอุจจาระ ที่ตกค้าง เคลื่อนตัวออกมาเร็วขึ้น ปรับสมดุลให้ระบบ การทำงานของร่างกาย ลดความเสี่ยง จากการ เกิด "มะเร็งลำไส้" มีประสิทธีภาพสูงกว่าการ ดีท็อกซ์ สวนทวารทั่วไป เพราะสามารถล้างสารพิษได้ ทั้งระบบทางเดินอาหาร นอกจากนั้นยัง สามารถทดแทนการขาดใยอาหาร ในเด็ก และ ผู้ขราได้ปลอดภัย ทานง่าย เพียงเช็คกับน้ำเย็น 250 ml. ดี่มวันละครั้ง ใช้ได้ 3 วัน เห็นผลชัดเจนภายใน 6 -12


ประโยชน์ของการ DETOX สวนทวาร

การล้างลำไส้ (DETOX) จะช่วยทำความ สะอาดและขจัดสิ่งสกปรกของเสีย กาก อาหาร รวมทั้งสารพิษที่ตกค้าง อยู่ในลำไส้ให้หมดไป เนื่องจากของเสียเหล่านี้ มักถูกขับถ่ายออกได้ไม่หมดจึงตกค้างอยู่ ในลำไส้ บางครั้งจะเกาะติดอยู่ตามผนัง ของลำไส้เป็นตะกรัน เป็นอุจจาระ เนื้อเยื่อของเซลล์ที่ตาย พยาธิและน้ำ เมือกที่ถูกสะสมไว้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นผล ร้ายต่อร่างกายจนทำให้เกิดอาการต่างๆ ของโรค


การทำดีท็อกซ์ มีจุดประสงค์สำคัญเพื่อกำจัดพิษ (ท็อกซิน) ออกจากร่างกาย โดยการล้างสารพิษ ใน ลำไส้ และช่วยลดอาการท้องผูก และ การช่วยให้การเคลื่อนตัวของตะกรันอุจจาระ ที่ตกค้าง เคลื่อนตัวออกมาเร็วขึ้น ปรับสมดุลให้ระบบ การทำงานของร่างกาย ลดความเสี่ยง จากการ เกิด "มะเร็งลำไส้"

1. ช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป ซึ่งในระยะยาวร่างกายก็จะไม่เกิด การสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะ สามารถทำงานได้ตามปกติ

2. เป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อน แอลงและทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริม กล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดยปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสีย ก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ

3. ทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผล ให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตัน บริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียง ระยะสั้นเท่านั้น

4. กระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
ซึ่งอวัยวะทุก ส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียน ของเลือด เป็นต้น

5. ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น


สารพิษที่ตกค้างสะสมในร่างกาย มักจะเกิดอาการดังต่อไปนี้

-ปวดศีรษะบ่อย หงุดหงิด ปวดเมื่อยหลัง ไหล่ และคอ

-มีแผลร้อนใน ในปากเป็นประจำ และระบบเผาผลาญทำงานได้น้อย ทำให้ร่างกายอ้วน

-อ่อนเพลีย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม

-ประสาทตึงเครียด ร่างกายไม่แข็งแรง เซ็กซ์เสื่อม

-หน้าตาหมองคล้ำ ผิวพรรณหยาบกร้าน

-ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก หรือถ่ายไม่ออก

-เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ และผายลมบ่อย

-ปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นประจำ

-ปวดศีรษะ คลื่นเหียนอาเจียน เวียนศีรษะ และมีไข้ต่ำตลอดเวลา

-เหนื่อยง่าย ปากเหม็น ปากเปื่อย มีกลิ่นตัวแรง

-เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง มีผื่นคันขึ้นตามตัว เป็นแผล และเป็นฝีบ่อยๆ

-มีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษได้ง่าย

-ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อตามกระดูก ตลอดจนรูมาตอยด์

-มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ

-เป็นริดสีดวงทวาร


ขอขอบคุณข้อมูลจาก detox4myhealth.com และ detox.tht.com






 

Create Date : 10 มีนาคม 2552
2 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2552 10:48:59 น.
Counter : 13405 Pageviews.

 

ขอบคุณนะค่ะ

 

โดย: meku 10 มีนาคม 2552 19:45:15 น.  

 

เป็นความรู้มากเลยค่ะ

ปอลอ คุณกบไปชมบีจีที่บล็อก แต่ยังไม่เห็นคุณกบใช้บีจีที่นั่นบ้างเลยเน้อ

 

โดย: fleuri 11 มีนาคม 2552 6:57:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.