สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

พรรณไม้น้ำและวิธีการบำรุงรักษา







cabomba

พรรณไม้น้ำหรือพืชน้ำ (Aquatic plants) หมายถึงพืชที่อยู่ในน้ำโดยอาจจะจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมดหรือ โผล่บางส่วนขึ้นมาอยู่เหนือน้ำ หรือเป็นพืชที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ ชายตลิ่ง นอกจากนี้ก็ยังรวมถึงพืชที่เจริญเติบโตอยู่ในบริเวณที่ลุ่มน้ำขังหรือที่ชื้นแฉะอีกด้วย


การจัดตู้ปลาในปัจจุบันนั้นมักจะมีการตกแต่งด้วยพรรณไม้น้ำควบคู่กันไปกับการเลี้ยงปลาจึงจะจัดว่าเป็นตู้ที่ทันสมัยและมีความงามในธรรมชาติมากที่สุด เนื่องจากในสภาพแวดล้อมธรรมชาตินั้น พรรณไม้น้ำและปลาจะอาศัยอยู่ร่วมกัน การปลูกประดับพรรณไม้น้ำในตู้ปลาออกจากจะเพิ่มความสวยงามความมีชีวิตชีวาให้กับตู้ปลาแล้ว พรรณไม้น้ำและปลายังเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน โดยพรรณไม้น้ำจะช่วยขจัดของเสียที่ขับถ่ายออกจากตัวปลา ใช้เป็นปุ๋ยสำหรับการเจริญเติบโตและนำแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเกิดจากการหายใจของปลา ไปใช้ในการสังเคราะห์แสง ดังนั้น การปลูกพรรณไม้น้ำในตู้ปลาจะช่วยลดปริมาณของเสีย และแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งปลาไม่ต้องการ ผลจากการสังเคราะห์แสงของพรรณไม้น้ำจะได้แก๊สออกซิเจนซึ่งปลานำไปใช้ในการหายใจได้ต่อไป จากจุดเริ่มต้นที่ใช้พรรณไม้น้ำประดับตู้ปลาให้ความสวยงามเพิ่มขึ้น พัฒนาไปจนกระทั่งเป็นงานศิลปการจัดสวนใต้ ซึ่งจัดเป็นงานอดิเรกชนิดใหม่เกิดขึ้น และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก



Egeria

พรรณไม้น้ำที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อใช้ประดับตู้ปลา และจัดชนิดพรรณไม้น้ำมีมากกว่า 250 ชนิด พรรณไม้น้ำสวยงามที่นิยมส่วนใหญ่มักมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศในเขตร้อน เช่น ประเทศในทวีปอัฟริกา ทวีปอเมริกาใต้ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดพรรณไม้น้ำสวยงามที่นิยมหลายชนิดอีกทั้งภูมิประเทศของประเทศไทยมีความเหมาะสมสำหรับการแพร่ขยายพันธุ์ของพรรณไม้น้ำหลายชนิด เพราะไม่เพียงแต่เฉพาะพรรณไม้น้ำของไทยเท่านั้นที่สามารถแพร่พันธ์ได้ พรรณไม้น้ำต่างประเทศอีกหลายชนิดที่นำเข้ามาก็สามารถเจริญเติบโตแพร่ขยายพันธุ์ได้ดีในประเทศไทยซึ่งสามารถแบ่งกลุ่มของพรรณไม้น้ำตามลักษณะการเกิดของใบดังนี้


ROSETTE PLANTS เป็นพรรณไม้น้ำกลุ่มที่มีใบแตกออกจากรอบ ๆ โคนต้น ชนิดที่นิยมและปลูกได้ดีในตู้ได้แก่ สกุล Aponogeton, Anubias, Cryptocoryne, Crinum, Nymphea, Echinodorus, และ Vallisneria เป็นต้น

STEM PLANT เป็นพรรณไม้น้ำกลุ่มที่มีใบเกิดตามข้อ ชนิดที่นิยมและปลูกได้ดีในตู้ ได้แก่ สกุล Cabomba, Hygrophila, Atternanthera, Nomaphila, Egeria, Ludwigia, Bacopa, Myriophyllum, Rotala และ Ammannia เป็นต้น

กลุ่มอื่น เช่น พวกลอยน้ำ ได้แก่ กระจับ จอก แหน กลุ่มของเฟิร์นที่นิยมมากคือ รากดำใบยาว และกลุ่มของมอส ที่นิยมมากคือ ชวามอล


ในปัจจุบันมีการพัฒนาวิธีการเพาะเลี้ยงพรรณไม้น้ำ และการปรับปรุงพันธุ์ ทำให้เกิดพรรณไม้น้ำที่มีลักษณะรูปร่าง และมีสีสันแตกต่างกันมากมาย การผลิตพรรณไม้น้ำนั้นมีทั้งแบบดั้งเดิม คือ ปลูกบนดินในที่โล่ง และแบบพัฒนาในโรงเรือนปิด มีการนำเทคโนโลยีการขยายพันธุ์ของพืชบกมาใช้เช่นวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และได้ปริมาณมาก ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ปัจจุบันสถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำได้นำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาใช้ในการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำสกุล Cryptocoryne บางชนิดซึ่งมีการเก็บรวบรวมจากธรรมชาติ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศเป็นจำนวนมาก


การเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำ

พรรณไม้น้ำสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธีคล้ายพืชบกดังนี้

การขยายพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยการใช้เมล็ด เช่น สันตะวา, ชบา, แอมมาเนีย, อเมซอน และทับทิม

การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ
ขยายพันธุ์โดยการเกิดสปอร์ เช่น รากดำใบยาว และเฟิร์นน้ำ
ขยายพันธุ์โดยใช้ส่วนต่าง ๆ ของต้นพืช ได้แก่
ลำต้น โดยการตัดลำต้นระหว่างข้อปักลงบนดิน หรือพื้นกรวดขนาดเล็ก เช่น แอมมาเนีย, โรทาล่า หรือทับทิม, ขาไก่, สาหร่ายฉัตร, สาหร่ายเดนซ่า, สาหร่ายหางกระรอก, หลิวน้ำ, น้ำตาเทียน และลานไพลิน เป็นต้น
หน่อ ไหล เหง้า โดยการแยกต้นอ่อนที่เกิดขึ้นจากหน่อ ไหล เหง้า ไปปลูกบนพื้นดินหรือพื้นกรวด เช่น อะนูเบียส, แซกจิทาเรีย, เทป, โลบิเลีย และบัวชนิดต่าง ๆ



Rotala

การปลูกพรรณไม้น้ำในแปลงเพาะขยายพันธุ์

การปลูกแบบครึ่งน้ำ โดยทั่วไปพรรณไม้น้ำส่วนใหญ่จะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดีในที่ชื้นแฉะ พรรณไม้น้ำสวยงามส่วนมากเป็นพืชชายน้ำ การเพาะขยายพันธุ์จะปลูกในแปลงที่มีวัสดุปลูกเป็นดินหรือกรวดขนาดเล็ก มีน้ำท่วมแค่โคนต้น บ่อปลูกอาจเป็นบ่อซีเมนต์เตี้ย หรือกระบะ มีตาข่ายพรางแสงประมาณ 40-60% ขึ้นกับชนิดของพรรณไม้น้ำ มีระบบน้ำหยดสปริงเกอร์ หรือใช้ฝักบัวรดน้ำเป็นระยะ ช่วยให้ความชุ่มชื้น ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์

การปลูกพรรณไม้น้ำแบบไร้ดิน ได้แก่การปลูกในกระถางคล้ายตะกร้าพลาสติกขนาดเล็ก โดยใช้วัสดุปลูกเป็นแร่ใยหิน (Rock wool) ซึ่งมีคุณสมบัติอมน้ำ นุ่มไม่เปื่อยง่าย ไม่เกาะกันเป็นก้อน พรรณไม้น้ำที่ปลูกในกระถางจะแช่ไว้ในบ่อหรือกระบะที่มีน้ำ มีการให้ปุ๋ยโดยเติมลงไปกับน้ำ

การปลูกพรรณไม้น้ำแบบใต้น้ำในบ่อดิน วิธีนี้จะใช้ในการเพาะขยายพันธุ์พรรณไม้น้ำจำพวกสาหร่าย เช่น การปลูกสาหร่ายฉัตร สาหร่ายหางกระรอก และสาหร่ายเดนซ่า โดยการตัดลำต้นมาปักชำในวัสดุปลูกที่เป็นดิน แล้วจึงเด็ดยอดไปจำหน่าย หรือการปลูกต้นเทป ในบ่อน้ำที่มีกรวดเป็นวัสดุปลูก เทปจะขยายออกทางด้านข้างแตกออกเป็นไหลเกิดต้นใหม่

การปลูกพรรณไม้น้ำแบบพัฒนา ส่วนใหญ่เพาะเลี้ยงกันในโรงเรือน (Green house) ซึ่งควบคุมความชื้น แสงสว่าง และปุ๋ยได้โดยอัตโนมัติ สามารถป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ ระบบการปลูกมักจะใช้วิธีการปลูกแบบไร้ดินในกระถางขนาดเล็กคล้ายตะกร้า ใช้ Rock wool เป็นวัสดุปลูก พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เนื่องจากสะดวกต่อการทำงาน สามารถกำหนดปริมาณได้แน่นอน และมีความสะอาด


การปลูกพรรณไม้น้ำในบ่อหรือการชำน้ำ

พรรณไม้น้ำที่ได้จากแปลงเพาะปลูกครึ่งบกครึ่งน้ำส่วนใหญ่จะต้องนำมาปักชำในน้ำเพื่อให้ลำต้นและใบมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสีสันให้มีความอ่อนช้อยสวยงามยิ่งขึ้น ในการปลูกพรรณไม้น้ำในบ่อน้ำ หรือที่เรียกว่าการชำน้ำ มีขั้นตอนดังนี้



Echinodorus

การเตรียมบ่อ

ใส่กรวดขนาดเล็กประมาณ 2- 3 มิลลิเมตร ที่ล้างสะอาดลงในบ่อที่เก็บกักน้ำได้ ถ้ากรวดไม่สะอาดจะทำให้น้ำขุ่น ตะกอนดินจะจับที่ใบทำให้ไม่สวยและไม่สามารถนำไปจัดในตู้ปลาได้ ใส่กรวดหนาประมาณ 3-4 นิ้ว
เติมน้ำระดับสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สูงจากกรวด และน้ำต้องใสสะอาด


การปลูก

นำพรรณไม้น้ำที่เด็ดยอดออกมาจากต้นแม่ ขนาดความยาวตามต้องการแต่ต้องมีข้ออย่างน้อย 2-3 ข้อ เช่นตัดมาประมาณ 5-6 ข้อ
เด็ดใบที่ข้อด้านล่างสุดออก เพื่อให้เกิดรากที่ข้อ ถ้าหากไม่ได้เด็ดใบออก ใบที่ข้ออยู่ใต้กรวดจะเน่าทำให้น้ำเสียหรือเกิดความสกปรก
ปลูกพรรณไม้น้ำลงในกรวดให้ห่างกันพอประมาณ เพื่อให้มีเนื้อที่ในการเจริญเติบโตของใบจากนั้นเติมน้ำที่ใสสะอาดลงไปอีกจนกระทั่งระดับน้ำสูงจากกรวด 50-60 เซนติเมตร
ทิ้งไว้ประมาณ 7-15 วัน เมื่อใบมีการเจริญเติบโต เปลี่ยนแปลงรูปร่างและมีสีสันสวยงาม ตลอดจนมีรากงอกดีแล้วจึงนำไปจำหน่าย หรือปลูกประดับในตู้ปลา


การถ่ายเทน้ำและการใส่ปุ๋ยในบ่อพรรณไม้น้ำ

ถ่ายน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างน้อยในปริมาณ 30 % เพื่อให้น้ำใสสะอาดและพรรณไม้น้ำได้รับแร่ธารตุอื่น ๆ ที่ไม่มีในปุ๋ยแต่มีในน้ำ นอกจากนี้การปลูกพรรณไม้น้ำใหม่ทุกครั้งควรล้างกรวดให้สะอาดก่อนใส่น้ำใหม่ลงไป
ใส่ปุ๋ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ได้แก่ปุ๋ย NPK ชนิดละลายน้ำสูตร 25-5-5 หรือ 30-20-10 ในปริมาณ 5-15 ppm. (5-15 กรัม/น้ำ 1,000 ลิตร) การใส่ปุ๋ยจะใส่หลังจากเติมน้ำใหม่แล้ว 2-3 วัน เช่น ถ่ายน้ำทุก ๆ วันจันทร์ และใส่ปุ๋ยทุก ๆ วันพุธ

เติมแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อให้พืชได้นำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยการเติมลงไปในกล่องกักคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใส่ไว้ในบ่อ



Hygrophila

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพรรณไม้น้ำ

วัสดุปลูก (ดินหรือกรวดขนาด 2-3 มิลลิเมตร)
แสงสว่าง (40-60%)
แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำ (5-15 มิลลิกรัม/ลิตร)
ธาตุอาหารหรือปุ๋ย (ได้แก่ ปุ๋ย NPK สูตร 25-5-5, 30-20-10 หรือ 27-17-10 อัตราความเข้มข้น 5-15 ppm. ขึ้นกับชนิดของพรรณไม้น้ำ ความถี่ของการใส่ปุ๋ย 1-2 สัปดาห์ต่อครั้ง)
ความขุ่นใสของน้ำ (น้ำต้องใสสะอาด)
อุณหภูมิของน้ำ (25-29 องศาเซลเซียส)
ความกระด้างของน้ำ (75-150 มิลลิกรัม/ลิตร)
ความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำ (pH 6.5-7.4)
ความชื้น (เจริญดีในความชื้นสูง)




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Nicaonline.com





 

Create Date : 10 มีนาคม 2552
1 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2552 9:20:49 น.
Counter : 10855 Pageviews.

 

โห ไม่เคยเห็นเลยแฮะ ไม้น้ำพวกนี้ แล้วจะไปหาซื้อที่ไหนหว่า

 

โดย: ภูมิ (<Teppeikung..> ) 10 มีนาคม 2552 15:47:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.