Group Blog
 
 
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 กันยายน 2549
 
All Blogs
 

...สามัญนคร...


โมเดิร์นยอร์ค, สหรัฐอเมริกา

8 กันยายน ค.ศ.2051

ช่องว่างกลางอากาศระหว่างตึกสูงในนครแห่งนี้ คลาคล่ำไปด้วยยานพาหนะลอยฟ้าที่เริ่มที่ใช้มาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
เชื้อเพลิงที่ใช้กลับไม่ได้เป็นก๊าซเอ็นจีวี, ไม่ใช่พลังงานไฟฟ้า, และไม่ใช่ไฮโดรเจนเหลว เหมือนที่คาดการณ์ไว้
หากแต่เป็นเชื้อเพลิงที่ถูกพัฒนามาจากขี้เถ้าเปลือกสายไฟที่เผาแล้ว... เพื่อนบ้านเก่าของผมหลายคนที่มีอาชีพ
ขายทองแดงในสายไฟร่ำรวย พัฒนาจากมนุษย์เศษสายไฟ กลายเป็นมนุษย์เศษถีไปหลายคน...
ทั้งที่เมื่อ 50 ปีก่อนหน้านี้ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้สร้างมลพิษให้กับโลก...

ผมมีอาชีพเป็นนักข่าว มีออฟฟิศเล็กๆบนชั้น 13 ของอาคารเกรด C ตึกเดียวในย่านนั้น ที่ยังไม่ตกแต่ง
ยังไม่ยกระดับขึ้นชั้น เป็นเกรด B หรือเกรด A
ไม่ rebuild reconstruct refurbish re-engineering revolution...
ไม่ re อะไรทั้งนั้น... ผมจึงชอบตึกนี้... เพราะการไม่ re อะไรเลยกลายเป็นของสงวน เอ๊ะ...ใช้คำนี้ถูกมั๊ยนะ
ผมหมายถึง ของเก่า ของที่ควรแก่การอนุรักษ์สงวนไว้... ได้อารมณ์ classic ดี...
ที่สำคัญค่าเช่าราคาถูก...

จอรับภาพรายการจากเน็ตเวิร์คนำเสนอรายงานรำลึกเหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเมื่อ 50 ปีที่แล้วในช่วงข่าวภาคค่ำ
พนักงานในออฟฟิศนั่งพูดคุยกัน หากจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก คงเป็นรถลอยฟ้าที่วนเวียนไปมาระหว่างตึกสู่ตึก
โดยคนขับที่เมาแล้วขับแทน แต่ความเสียหายก็จะไม่มากมาย เพราะรถถูกจำกัดความเร็วไว้ไม่ให้เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และกระจกหน้าต่าง ผนังอาคารก็ถูกผลิตจากปิโตรเคมีที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนแรงกระแทกได้ดีกว่าในอดีต
...ทุกชีวิตปลอดภัยในโมเดิร์นยอร์ค...
ผมแอบตั้งชื่อเมืองของผมเองไว้เรียกขานพูดคุยในกลุ่มเพื่อนๆว่า "สามัญนคร"
ผมชอบชื่อหลังนี้มากกว่า...

...

เย็นวันนั้นผมไม่ได้ขับรถมาทำงาน เพราะหวังจะไปดื่มด่ำบรรยากาศแห่งค่ำคืนให้ช่ำปอด ไม่อยากขับรถเอง...
จึงใช้บริการของรถเมล์ลอยฟ้าร่วมบริการ เพื่อเดินทางไปยังร้านที่นัดหมายกับเพื่อนฝูงไว้

ผมขึ้นรถพร้อมกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เด็กพวกนี้มักจับกลุ่มกันที่ชั้นล่างของอาคาร
ผมไม่ค่อยสนใจว่าพวกเขาจะทำอะไรกัน... เพราะคิดว่าเราไม่ใช่พ่อแม่ของเขา...
เพราะคิดว่า... มันไม่ใช่เรื่องของเรา... เรื่องของเราคือไปหาเพื่อนให้ทันเวลาดีกว่า...

บนรถมี MYP นอกเครื่องแบบสองนาย... ผมจำเขาได้ภายใต้เครื่องแบบโมเดิร์นยอร์คโปลิศมากกว่า...
เขามีสถานีย่อยบนชั้นที่ 30 และดูแลความสงบเรียบร้อยอาคารแถบนี้หลายตึก... เห็นแบบนี้เลยดูไม่ค่อยคุ้นตานัก...
" เขาคงทำภารกิจพิเศษ "

ที่เบาะหลังมีพี่คนหนึ่งนั่งสายตาเหม่อลอยในมือถือขวดที่หุ้มด้วยถุงสีกากีไว้ มีหลอดดูดโผล่ออกมาจากปากขวด
ไม่อยากจะเดาว่า แกนั่งดูดเหล้าจากขวดเนี่ยอ่ะนะ... แต่ก็พอรู้ได้จากอาการกึ่มๆของเขาก็น่าจะใช้...
ใช้เวลาเกือบนาที กว่าจะนึกขึ้นได้ว่า เขาเป็นลูกจ้างอู่ซ่อมรถที่บล็อคใกล้เคียงนี่เอง...

คุณลุงคนขับรถดูสูงวัยเกินกว่าจะมาทำหน้าที่นี้ ผมนึกภาพตัวเองถ้าต้องมาขับรถในวัยขนาดนี้คงรู้สึกแย่น่าดู
สังเกตุจากจังหวะลีลาการขับ ก็อยากจะมอบเพลงนี้ให้คุณลุงเหลือเกิน...
" ไม่รู้ไปโกรธใครมา ไม่พูดไม่จา ทำหน้าบึ้งตึง... "

ผมเลือกนั่งท้ายรถกับพี่ที่นั่งดวดอยู่คนเดียว
กลุ่มวัยรุ่นนั่งกันอยู่หน้ารถปล่อยหมาออกมาจากปากวนเวียนกันกัดจิกคุณลุงคนขับรถ
ผมไม่สนใจว่าเป็นเรื่องอะไร... ผมไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน...
จนกระทั่ง......คุณลุงก็ปรอทแตก...

รถเมล์ลอยฟ้าถูกลุงพาให้พุ่งลงไปที่สระน้ำหน้าอาคารแห่งหนึ่ง...
ก่อนจะถูกยับยั้งความระห่ำเลยเถิดโดยบันไดทางขึ้นอาคารนั้นอย่างแรง...

ตัวผม พี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ และขวดเหล้าของเขาไหลไปกองรวมกับกลุ่มวัยรุ่นที่หน้ารถ
MYP นอกเครื่องแบบสองนายกระแทกกับที่นั่งและกระจกรถ... คนหนึ่งหัวแตกเลือดอาบ...
เขาไม่ได้หัวแตกเพราะกระจกรถ... มันทำจากปิโตรเคมี...
แต่หัวแตกเพราะขวดเหล้าของพี่ที่นั่งข้างๆผมละมั๊ง... ผมเดาเอาเอง...

...

ระหว่างที่ผมค่อยๆแกะตัวเองออกมาจากรถ...
กลุ่มวัยรุ่นลากตัวคุณลุงออกมาแล้ว... เหยียบๆๆ...MYP ตามเข้าไปสมทบ...
พี่ขี้เมาออกมานั่งกุมแขนที่เจ็บ... เขานั่งซึมเป็นนกป่วยเลย...แต่ยังปากดี...
ผมนั่งฟังจับความได้ว่าถ้าเขาเดินไหวจะเข้าไปร่วมสหบาทาด้วยอีกคน...

รถเกิดอุบัติเหตุทำไม่เราไม่แจ้ง... เออ มีแล้วสองคน...
กำลังกระทืบเขาอยู่เลย...

ผมลุกขึ้นไปจะห้ามปรามกลุ่มที่รุมทำร้ายลุงคนขับรถ... แต่ก็ไม่ได้ถึงไหน...
ผมเปลี่ยนใจนั่งดู... " อย่าเลยว่ะ ไม่ใช่เรื่องเรา... เดี๋ยวโดนไปด้วย..."

เมื่อฝนจางนางหาย สลายตัวกันไปหมด ผมเข้าไปดูคุณลุง...
เขาไม่ปริปากพูดสิ่งใด... ได้แต่จ้องหน้าผม...
ในใจผมคิดว่า "คงไม่พาลุงไปโรงพยาบาลหรอกนะ ผมมีนัดกับเพื่อนไว้..."
เมื่อเห็นคุณลุงพอจะประคองตัวเดินไปได้...
ผมปล่อยพี่นกป่วยให้เกาะคอนอยู่แถวๆนั้นแหละ...
ก่อนจะรีบจับรถเมล์ลอยฟ้าคันใหม่ไปหาเพื่อน...

คืนนั้น...
ผมและเพื่อนๆร่วมกันแปรรูปแอลกอฮอล์ผสมกับแกล้มให้เป็นอาหารสุนัขตุหรัดตุเหร่แถวๆร้านเหล้า
ก่อนจะแยกย้ายกันเก็บอาหารสุนัขบางส่วนที่ออกมาไม่หมดติดท้องกลับไป
เผื่อแผ่สุนัขแถวๆที่พักของแต่ละคน

...

11 กันยายน ค.ศ. 2051

เช้าวันนี้ตึกที่อยู่ถัดออกไปในถนนอีกสายมีงานฉลองเปิดตัวใหญ่โต
ผมมองเห็นได้ผ่านหน้าต่างอาคารที่นั่งทำงานอยู่
มีทีมงานแห่มังกรทองปีนขึ้นสู่ยอดตึก เข้าใจว่าถูกยึดโยงโดยสลิง และรอก...
คาดว่าเสียงกลอง เสียงฉาบคงดังกึกก้องตลอดถนนสายนั้น...
การจราจรทางอากาศที่บล็อคนั้นถูกปิดชั่วคราว และ...
รถรารถลอยทั้งหลายก็มาขวักไขว่กันแถวๆอาคารสำนักงานที่ผมนั่งอยู่

" พี่ๆ มีคนมาหา..." เสียงเบนความสนใจของผมจากภาพแห่มังกรที่กำลังจะถึงยอดตึกอยู่แล้ว
เป็นทีมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง
ยังไม่ทันที่จะได้เชิญให้สาวๆทีมงานประชาสัมพันธ์นั่ง คนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาว่า
" นั่น เค้ามีงานอะไรเหรอคะ..."
" อ๋อ... เค้าเปิดตัวอาคารที่เพิ่งตกแต่งใหม่น่ะ... อัพเกรด แล้วก็ขึ้นค่าเช่า..."
ไม่ทันไร สาวๆก็ส่งเสียงตกอกตกใจ ว๊ายยย กรี๊ดดด...

ผมหันไป มีประกายไฟที่ยอดอาคาร และเห็นภาพทีมแห่มังกรกำลังร่วงหล่นลงมาเริ่มจากส่วนหัว...
" คงเป็นการแสดงน่ะ... เขามีสลิง..."
ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น...
เศษคอนกรีตจากอาคารค่อยๆทะลายลงกลืนกินซากมังกรที่ลอยละลิ่วลงมา...
ยังไม่ทันที่จะเห็นฝุ่นควันฟุ้งกระจายบริเวณอาคารหลังนั้น

แรงอัดที่รุนแรงจากการระเบิดส่งผลให้รถลอยฟ้าหลายๆคัน ลอยมา ๆ...
ปะทะอาคารที่เราอยู่ ผมคิดว่าอาคารของเรา แม้จะเป็นเกรด C ก็คงไม่เป็นอะไรแต่...
เสียงระเบิดอีกครั้งดังขึ้นใกล้เรามากกว่าครั้งแรกมาก...
มันอยู่บนอาคารของเรานี่เอง...น่าจะประมาณชั้น 20 ขึ้นไป
" จะระเบิดเรา ทำไมไม่เอารถขนระเบิดมาจ่อที่ชั้น 13 ฟระ?..." ผมคิดในใจ ก่อนจะบอกกับสาวๆไปคำนึงว่า...
" วิ่ง.!!!.."

ไม่มีใครทำตามที่บอก แม้กระทั่งตัวผมเอง... สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...
เรายืนตัวสั่น อกสั่น ขวัญหาย... หลายคนร้องไห้ หลายคนกรีดร้องเสียงดัง...
เมื่อผมตั้งหลักได้หายจากอาการช็อค ก็วิ่งตรงไปที่บันไดหนีไฟ...
" ตึกนี้กำลังจะถล่ม... เราต้องโดนกองคอนกรีตพวกนี้ทับ... เราต้องตายแน่ๆ.."
" ไม่ใช้ลิฟท์ ไม่ใช้ลิฟท์... ใช้บันได ใช้บันได..."

" จะทิ้งสาวๆไปได้ยังไง... กลับไปก่อน...กลับไป.. "
ผมกลับไปไล่ต้อนสาวๆ ชี้ทางให้วิ่งลงบันไดหนีไฟลงไป...
และคนที่อกสั่น... ผมต้องจูงมือเธอวิ่งไปด้วยตัวเอง...
เพราะเธอยังไม่หายจากอาการช็อค....

" แค่ 13 ชั้นเอง... วิ่งเต็มที่เลยนะ... "
ผมปล่อยมือให้เธอวิ่งลงไปก่อน... ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรเช่นนี้...
ความจริง ผมเหลือบไปเห็นตู้สายดับเพลิง...
และเชื่อว่ามันจะพาผมลงไปชั้นล่างได้เร็วกว่าการวิ่งลงบันได...

ผูกเอวแบบในหนังฝรั่ง...วิ่งฝ่ากระจก...และ...
" พลั่ก..!!!..."
ลืมไปกระจกทำจากลามิเนตชั้นดี ผลิตผลจากปิโตรเคมี...
ที่ตอนนี้มันกำลังจะทำให้เราซวยแล้วล่ะสิ....
หัวก็โน ไหล่แทบหลุด...

เสียงสะเทือนเลื่อนลั่น เริ่มดังมาจากชั้นบน และดังขึ้นๆเรื่อยๆ...
ในระหว่างที่ผมกำลังแกะสายดับเพลิงที่มัดไว้อย่างแน่นหนา... เกินไป...

เมื่อหลุดจากพันธนาการสายดับเพลิง ผมก็โกยเถอะกรู...ตามเขาลงบันไดมา...
" แค่ 13 ชั้นเอง... " ครั้งนี้ผมปลอบใจตัวเอง หวังจะรอดไปถึงชั้นล่างให้ได้...

" ชั้น 12 "
" ชั้น 11 "
" ชั้น 10 " ผมนับชั้นลงไปเรื่อยๆ

ระหว่างทางลงผมเห็น MYP คนหนึ่งเดินลงมาจากสถานีย่อยที่ชั้น 30 ท่าทางจะเริ่มหมดแรง
" ระเบิดที่ชั้นไหนอ่ะพี่ " ผมลองถามเค้าดู
" ชั้นไม่รู้... ชั้นโคดจะเหนื่อยเลย..."
" ไปๆ ผมช่วยพยุงนะ..." ผมกึ่งลากกึ่งพยุง MYP คนนั้น...
เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมทุบคุณลุงคนขับรถนั่นแหละ

" อีกกี่ชั้นวะเนี่ย?... นี่ชั้นอะไรแล้ว?..." พี่ MYP ถามผมเสียงอ่อยๆ...
" ชั้นไม่บอก ไม่บอก ไม่บอก... ถึงรู้ก็ม่ายบอก ม่ายบอก..." ผมเลยร้องเพลงนึงขึ้นมา...
เขาละมือที่ผมพยุงเขาไว้ ให้ระยะห่างพอ... แล้วก็ถีบผมลงบันไดลงมา...
มันเร็วขึ้นกว่าเดิมหน่อย... แต่น่วมไปหมดทั้งตัวเลย... โชคดีนะที่มันเป็นชั้นสุดท้ายพอดี...

...

เมื่อแลนดิ้งเรียบร้อย ก็ต้องรวบรวมพลังอึดวิ่งต่อให้ใกล้จากอาคารนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะมันกำลังจะถล่มลงมา... ผมไปต่ออีกประมาณ 200 เมตรจึงหันกลับมาดู...
อาคารสำนักงานของเรายังไม่ถล่ม... มีแต่กลุ่มควันจากไฟไหม้... น่าจะเป็น...เอ่อ...
" ชั้นไหนก็ช่างมันเหอะ... ชั้นไม่อยากรู้ละ..."

ผมคิดว่าจะกลับไปหิ้วปีกพี่ MYP คนนั้น เพราะท่าทางแกคงจะวิ่งต่อไม่ค่อยไหว...
แต่ยังไม่ทันจะเข้าถึงตัวก็เห็นเพื่อน MYP มาช่วยเขาแล้ว...และ...
ผมยังเหลือบไปเห็นคุณลุงคนขับรถเมล์...
เขาล้วงอะไรออกมาจากกระเป๋าย่าม ก่อนจะขว้างใส่ MYP และ...
" ตูม...!!! "

" อิ๊บอ๋ายยย... ระเบิดนี่หว่าาา...!!! "
คุณลุงคนขับรถเมล์เงยหน้าขึ้นมามองผม... ก่อนที่จะวิ่งหนีไป
เพราะเสียงของ MYP อีกหลายสิบนายที่ลงบันไดมา กรูเข้าหาคุณลุง...
ผมได้ยินเสียงระเบิดอีกหลายตูม ดังขึ้นแถวๆนั้น...

เสียงไซเรนแผดดังรอบข้าง ผสานเสียงหวีดร้องอย่างหวาดผวาของผู้คนรอบกาย...
ต่างคนต่างวิ่งไปหลากหลายทิศทาง...
" ไปไหนดี ไปไหนดี.?..." ยังไม่ทันจะได้คำตอบ... กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็วิ่งมาทางผม...
และแน่นอน... คุณลุงสะพายย่ามติดตามมาใกล้ๆ...
ผมวิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง และคุณลุงเลือกจะติดตามกลุ่มวัยรุ่นนั้นไปอย่างไม่ลดละ...

และด้วยความอยากรู้อยากเห็นเป็นนิสัยพื้นฐานของมนุษย์...ผมจึง...ตามไปดู...

กลุ่มวัยรุ่นที่วิ่งหนี และเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องน้ำโรงภาพยนต์แห่งหนึ่ง นึกว่าจะพ้น...
ความบังเอิญมักเกิดขึ้นเสมอๆในชีวิตประจำวัน... คุณลุงเข้าไปฉิในห้องน้ำนั้นพอดี...
แล้วก็เดินออกมาตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น... สอดส่ายสายตามองหาทิศทางที่จะไปต่อ...
กลุ่มวัยรุ่นนึกว่ารอดตัวแล้ว...

คนทำความสะอาดเห็นคุณลุงวิ่งตามกลุ่มวัยรุ่นมา และท่าทางจะหาไม่เจอจึงหวังดี
ตะโกนบอกออกไป... " ลุง ๆ... ในห้องน้ำ ในห้องน้ำ..."
เหมือนผึ้งกำลังจะแตกรัง... แต่ก็ช้าเกินกว่าที่คุณลุงกลิ้งระเบิดเข้าไป...
มันกลิ้งผ่านไปทีละห้อง ทีละห้อง ทีละห้อง...
กลุ่มวัยรุ่นหน้าซีด เหงื่อแตก และคิแตก นัยว่าพวกเขาได้ใช้ห้องน้ำกันเป็นครั้งสุดท้าย... ทุกคน...
และ... " ตูมมม...!!!..."

" ช่วยด้วยยยย...!!!..." คนทำความสะอาดร้องเสียงหลง วิ่งไปไร้ทิศทาง....

ยังไม่ทันที่ผมจะออกวิ่งก็แว่วๆเสียง... ตูมมม !!!....

...

" เจ้าของตึกนั่น...มันยึดบ่อน้ำมันของฉัน...
หนีไปทำนา มันก็ยึดที่ดินของฉัน...
หนีไปขับแท็กซี่ มันก็ยึดแท็กซี่ของฉัน...
รถเมล์ลอยฟ้านั่น ปกติลูกสาวฉันเป็นคนขับ...
หลังจากที่เธอติดยา ก็ไม่เป็นผู้เป็นคน เพราะคบหาไอ้กุ๊ยพวกนั้น...
เธอเป็นไงต่อฉันไม่อยากเล่า...
MYP สถานีย่อยที่ตึกของแกไม่เคยพึ่งพาอะไรได้เลย...เพราะฉันมันจน...
แถมวันนั้นมันยังมาช่วยพวกกุ๊ยรุมยำฉันอีก...
ส่วนแก...นั่งทนดูคนถูกกระทืบได้ไง...ต่อหน้าต่อตา..."

การ์ดใบนี้เสียบอยู่บนช่อดอกลิลลี่ที่มาเยี่ยมไข้ผมที่โรงพยาบาล

ด้านหลังการ์ดเขียนว่า
" หายป่วยไวๆ... แล้วพบกันใหม่..."
ลงชื่อ นคร สามัญ

ผมเหงื่อแตกท่วมตัว...
แต่ทำไม...ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บจากอะไรเลย...
ไม่ใช่โรงพยาบาล... นี่มันบ้านเรานี่หว่า...เอ๊ะ...ปฏิทิน...

มันเป็นวันที่ 11 กันยายน ค.ศ.2006

" เมื่อคืนก็ดูหนังตลก ไหงฝันได้เป็นตุเป็นตะขนาดนี้วะ?..."

...











 

Create Date : 11 กันยายน 2549
6 comments
Last Update : 12 กันยายน 2549 2:23:36 น.
Counter : 676 Pageviews.

 

...

ถ้ารักแปะ แปะก็รักเธอด้วยจ้า...

...

 

โดย: loykratong 11 กันยายน 2550 2:22:20 น.  

 

เรื่องนี้เขียนมานานแล้วน่ะ
อ่านสนุก มีมุขขำๆๆดี หัวเราะเป็นระยะๆๆ
เล่นคำได้ดี หักมุมจบแหล่มชอบอีกแร่ะ

ตาแปะเอ๊ยย

 

โดย: ป้าซ่าส์ 26 กันยายน 2550 4:20:23 น.  

 

ตามคนข้างบนมาอีกค่ะ

คุณลอยมีอารมณ์ขันจังนะคะ น่าจะทำหนังสือรวมเล่มไปเลย ดีไหมคะ

ต้องฝากไว้พิจารณาแล้วหล่ะค่ะ

ชอบมากๆๆๆ

ตรงที่บอกว่า

"ไปชั้นไหนวะ"


"ชั้นไม่รู้"

นึกถึงตอนงานบวชญาติของบีค่ะ
โยมก็เรียกร้องเอาโน่นเอานี่มากมาย
ขอไอ้โน่น ไอ้นี่ ไอ้นั่น กับหลวงพี่

"หลวงพี่คะ ขอชามค่ะ"
"หลวงพี่คะ ขอหม้อกับช้อนซ้อมเพิ่มค่ะ"
ฯลฯ

หลวงพี่ไม่ว่าอะไรเลย
สงบนิ่งสำรวมกิริยา

จวบจนภารกิจซาซาลง
หลวงพี่หันมาถามว่า

"เรียบร้อยนะโยมนะ"
"โยมจะขออะไรอีกไหม"

"ไม่หรอกค่ะหลวงพี่"

"ถ้างั้น อาตมาขอบ้างนะ"

"อาตมา ขอตัว"


อิอิอิ

นี่เรื่องจริงนะคะ
เรื่องพระเรื่องเจ้าไม่เอามาหลอกค่ะ

 

โดย: rendezvous (be-oct4 ) 26 กันยายน 2550 15:53:25 น.  

 

 

โดย: เรือรักแล่นลิ่วเริงร่า 19 พฤศจิกายน 2550 4:50:02 น.  

 

done !!!

 

โดย: โม้_ศาสตร์ 16 มกราคม 2551 17:52:30 น.  

 

แอบมาดู โฮๆๆๆ

 

โดย: be-oct4 16 สิงหาคม 2552 0:01:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.