เพ็ญ จะใช้ นาง หรือ นางสาว ดี
วันก่อน ฉัน ฟัง คุณอัญชลี พูดที่ เวที มหาวิทยาลัยราชดำเนิน ถามว่า เพ็ญ จะใช้ นางหรือ นางสาว ดี ฉัน ก็ คิดว่า เอ๊ะ พี่เขารู้จักฉันด้วยหรือนี่ อิ อิ ล้อเล่นค่ะ พี่เขาหมายถึงอีกเพ็ญ นึง ที่เขาไม่ได้มีสิทธิ์ มาใช้หรอก นางหรือนางสาวหน่ะ
ตัวฉัน ก็ มีคนมาถามเหมือนกัน เพราะฉัน ใช้คำนำหน้า ว่า นาง แต่ มีใบหย่า แนบมาด้วย ว่า จะกลับไปใช้นางสาว หรือเปล่าเพราะฉัน ไม่มีลูก พี่เขาให้เหตุผลว่า ฉัน ยังมีโอกาส ที่จะได้แต่งงานใหม่ ฉัน ก็ไม่ได้ ตอบอะไร เขาไปหรอกค่ะ ก็ได้แต่ยิ้มแล้วขอบคุณในความระลึกถึงที่เขาให้ความสนใจใยดีในตัวฉัน แต่พอรายที่สอง ฉัน ก็ให้เหตุผลว่าฉันขี้เกียจ เพราะ การเปลี่ยนหลักฐาน แต่ครั้งมันไม่สนุกเลย แต่รายนี้ช่างคุยแฮะ พี่เขา บอกว่า ยอมเหนื่อยหน่อยเถอะน้อง พี่เขาบอกว่ามันคุ้มกับที่จะเสียเวลา ไปเปลี่ยนบัตร และหลักฐานต่างๆ จริงๆแล้ว ก่อนนี้ มีคนมาชวนฉันเปลี่ยนบัตรประชาชน เป็น สมาร์ทการ์ด ฉันก็ถามเขาว่า เปลี่ยนเพื่ออะไร แล้วตอนนี้ มีใคร หรือหน่วบงานไหนได้ใช้ประโยชน์ จากสมาร์ทการ์ดแล้ว บ้าง แล้วเราไปเปลี่ยนให้เปลืองงบประมาณทำไม เขาก็หัวเราะ แล้ว ก็เลิกชวนฉันอีก
ฉันก็เลยมาถามตัวเอง ว่า ฉัน มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เพื่ออะไร ฉันก็ตอบตัวเอง ว่า ฉัน ไม่ได้คิดที่จะแสวงหา โอกาส ที่จะแต่งงานใหม่ ดังนั้น ไม่ว่าฉัน จะใช้นาง หรือ นางสาว นำหน้า ฉัน ก็ คือ คนเดิม แต่ถ้า ฉันใช้นาง เวลา ยื่นหลักฐาน ต้องแนบใบหย่าด้วยทุกครั้ง แต่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
มาดูรายละเอียด ของ พ.ร.บ. กันค่ะ
พ.ร.บ.คำนำหน้านามหญิง พ.ศ. 2551 ประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551ซึ่ง จะทำให้หญิงซึ่งแต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสแล้ว สามารถที่จะเลือกใช้ 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ และหญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว หากต่อมาการสมรสได้สิ้นสุดลงจะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาหรือ วันที่ 4 มิถุนายน 2551
ส่วนเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ โดยที่การใช้คำนำหน้านามของหญิงที่จดทะเบียนสมรสแล้วต้องใช้คำนำหน้านามว่า'นาง'คำเดียว โดยมิอาจเลือกได้ตามความสมัครใจ ทำให้เกิดผลกระทบต่อหญิงดังกล่าวในการดำรงชีวิตประจำวันอาทิ การประกอบอาชีพ การศึกษาของบุตร และการทำนิติกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้การใช้คำนำหน้านามในลักษณะดังกล่าวของหญิงมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างทางเพศ สมควรกำหนดให้หญิงมีทางเลือกในการใช้คำนำหน้านามตามความสมัครใจซึ่งเป็นการสอดคล้องกับการเลือกใช้นามสกุลตามกฎหมายว่าด้วยชื่อบุคคล
สำหรับรายละเอียดของพ.ร.บ.ฉบับนี้มีดังนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า 'พระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ พระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบการใช้คำนำหน้านามหญิงเป็นอย่างอื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติ มาตรา ๔ หญิงซึ่งมีอายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้ใช้คำนำหน้านามว่า นางสาว มาตรา ๕ หญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว จะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว มาตรา ๖ หญิงซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว หากต่อมาการสมรสได้สิ้นสุดลงจะใช้คำนำหน้านามว่า 'นาง' หรือ 'นางสาว' ได้ตามความสมัครใจ โดยให้แจ้งต่อนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว มาตรา ๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รักษาการตามตามพระราชบัญญัติ
แต่อย่างไร ก็ตาม คนที่มีสิทธิ์ เปลี่ยน ก็ มีเวลาตัดสินใจ อีก 3 ปี หลังจาก พ.ร.บ.นี้ บังคับใช้
Create Date : 09 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 8:18:19 น. |
|
4 comments
|
Counter : 674 Pageviews. |
|
|
|
โดย: rainfull วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:19:46:11 น. |
|
|
|
โดย: BUATALAY IP: 203.156.36.30 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:10:31:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|