"ที่ว่างของงานเขียน..เล็กๆแต่อบอุ่น [Love&Warmth]"
Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
11 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
จดหมายรักกับกระท่อมน้อยริมทะเล



จดหมายรักกับกระท่อมน้อยริมทะเล

ลุงรัน




“ว่าแต่ว่า แล้วมึงไม่คิดจะมีลูกมีเมียกับเขาบ้างหรือยังไงวะ”

เสียงพูดของแสน ดังเคล้าไปกับเสียงคลื่นทะเลที่ขับกล่อมอยู่นอกกระท่อมน้อยทรุดโทรม ผมนิ่งอึ้งไปนานพอดูกับคำพูดนั้น พลันภาพดวงหน้าของสาวน้อย- ข้าราชการบรรจุใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่กี่วัน จึงพลิ้วไหวขึ้นในหัวสมอง เพราะรอยยิ้มสวยใสเมื่อบ่ายวันนี้แท้ๆ ที่ทำเอาผมเดินสะดุดขาตัวเอง ล้มกลิ้งลงกับพื้นห้องทำงาน จนได้อายคนไปทั่วทั้งแผนก แต่ทันใดนั้น เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ยังมีเรื่องราวในชีวิตอีกมากมายที่ผมจะต้องทำ ผมจึงตอบแสนไป

“ไร้สาระว่ะ เฉพาะเรื่องงานอย่างเดียว ไม่นับเรื่องเรียนปริญญาโท กูก็แทบไม่มีเวลาพอจะทำอะไรอีกแล้ว ไม่อยากเอาเรื่องบ้าๆ อย่างนี้ มาคิดให้รกสมองอีก” จากนั้น ผมจึงก้มหน้าก้มตาเขียนถ้อยคำหวานลงบนกระดาษเขียนจดหมายสีชมพูแผ่นนั้นต่อไป
“เรื่องบ้าๆ” แสนทวนคำผมเบาๆ สีหน้าทอประกายความสงสัย

1

เมื่อเช้านี้เอง แสนมาที่บ้านของผมซึ่งอยู่ถัดไปจากกระท่อมของเขา ลงไปทางทิศใต้ของหาดทรายสีทอง แสนขอให้ผมช่วยเขียนจดหมายรักไปถึงผกา-หญิงสาวผู้งดงามราวดอกไม้แห่งท้องทุ่งทะเล ชื่อเสียงความงามฟุ้งกระจายเกลื่อนกล่นไปตามแนวยาวของหาดทราย หนุ่มๆ แห่แหนมาติดพันเธอ ราวกับหมู่ปลาหลงแสงไฟเรือประมงยามค่ำ

จนบัดนี้…เป็นเวลาดึกโขแล้ว กว่าจดหมายรักที่แสนปรารถนา ให้ใช้ถ้อยคำเป็นสำนวนลูกทุ่งอย่างที่เขาชื่นชอบ จึงแล้วเสร็จ จากนั้น ผมจึงมานั่งปล่อยควันบุหรี่หย่อนใจอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อม พลางทอดสายตาไปยังแสงไฟวับแวมของเรือประมงกลางทะเล ชั่วอึดใจ แสนจึงตามมารบเร้าให้ผมอ่านทวนซ้ำข้อความในจดหมาย ให้เขาฟังใหม่อีกรอบ…

เขียนที่กระท่อมน้อยคอยรักริมทะเล ในวันที่เหงา เดือนที่ว้าเหว่ ปีพ.ศ.ที่วังเวง

ผกาจ๋า...เจ้าจำพี่คนนี้ได้ไหม พี่แสน-ผู้หลงใหลเสียงขลุ่ยมากกว่าเสียงเพลงร็อคแอนด์โรลและรักทะเลดุจชีวิต พี่แสนอยากบอกผกาว่า แรกที่ได้พบเห็นผกา เมื่อตอนที่ผกายังหัวเท่ากำปั้น วิ่งแก้ผ้าโทงๆ ลงเล่นน้ำทะเล ยามที่พี่ออกทะเลหาปลา พี่ก็ปักใจรักผกามาตั้งแต่วันนั้น พี่ได้สาบานกับผืนฟ้าและท้องทะเลว่า จะต้องเอาผกามานอนข้างๆ กายของพี่ให้จงได้ สุดท้ายนี้ พี่แสนคนนี้ขอสัญญาว่า จะรักและไม่ทำให้ผกาต้องได้รับความทุกข์ลำบาก หากผกาตัดสินใจรับรักพี่แสนคนจน คนซื่อ คนเดิม คนนี้

จากชายเลือดทะเลที่ชื่อ “พี่แสนดี”
P.S. I LOVE U.



2

“ฮ่า ฮ่า แหม มีหยอดท้ายภาษาประกิตเสียด้วยโว้ย เจ๋งว่ะ ข้าชอบ ว่าแต่ว่า มันแปลว่าอะไรว้า” แสนตบมือเปาะแปะเคล้าไปกับเสียงหัวเราะชอบใจ

“P.S. I LOVE U ก็แปลว่า ป.ล. ผมรักคุณ ไงวะ” ผมตอบแสนไป

“อืม... ไอ้ตรงมึงเขียนตรงเนี้ยนะ กู ก็ช๊อบ ชอบ เขียนที่กระท่อมน้อยคอยรักริมทะเล แหม... มันฟังดู เหมือนยี่เกที่เพิ่งมาเล่นในงานบวชลูกน้าแจ้ง เมื่อสองสามวันก่อนนี้เลยนิ ช่างน่าสังเวชดีแท้ เอ๊ย ไม่ใช่! ช่างออดอ้อนดีแท้ ” แสนหัวเราะแหง่เห็นฟันขาวเรียงกัน ตัดกับผิวหน้าคมคายสีดำแดง กร้านแดดลม
“อะ แฮ่ม ตรงไอ้วันที่เหงา เดือนที่ว้าเหว่ นี่ก็ดีเน๊าะ แหม จะเสียอยู่บ้างก็ตรง ไอ้ ปี พ.ศ.ที่วังเวง เนี่ยนะซิ กูว่า มันฟังดูทะแม่งๆ ยังไงๆ อยู่นา ออกจะน่ากลั๊ว น่ากลัวไปหน่อยหรือเปล่าว้า กูว่ามึงลองเขียนใหม่อีกสักฉบับ จะดีไหมวะเพื่อน? ”

“อ้าว ! เมื่อตะกี้ ตอนกูอ่านให้ฟังเมื่อเขียนเสร็จแล้ว ไม่เห็นมึงว่าอะไร แล้วตอนนี้จะมาอะไรวะเนี่ย” ผมพูดขัดขึ้นอย่างฉุนๆ

“ก็ตอนนั้นกูยังไม่ทันได้คิดนี่หว่า เขียนใหม่อีกเถอะน่า เพื่อนรัก” แสนพูดอ้อนๆ ท่าทีประจบประแจง

ผมอัดบุหรี่ลงปอดเพื่อดับอารมณ์ขุ่นมัว แต่กระนั้นก็ยังระงับอารมณ์พลุ่งพล่านไม่อยู่ โพล่งพูดขึ้นมาว่า
“โหย ! ไม่เอาแล้ว นี่ ไอ้แสน มึงรู้ไหมว่า ฉบับนี้นะมันฉบับที่ 22 แล้วนะโว้ย มึงให้กูเขียนแล้วเขียนอีก จนกระดาษเขียนจดหมายจะหมดอยู่แล้วมั้งเนี่ย” ผมหยุดนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “แล้วหนอยแน่ ตัวมึงเองก็ยังอ่านหนังสือไม่ออก แต่ริมาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งจดหมายของกูอีกหรือ”

ทันทีที่พูดจบ ประกายตาของแสนวูบไหว แววตาคล้ายมีความเจ็บช้ำเจือปนอยู่ ผมนึกตำหนิคำพูดของตัวเองขึ้นมาทันที ด้วยทุกคนในหมู่บ้านชายทะเลแห่งนี้รวมทั้งผม ต่างรู้ดีว่าแสนมีชีวิตที่ลำเข็ญเพียงใด เพียงจบชั้นประถม 4 เด็กชายแสนดีก็ต้องสลัดชุดนักเรียนประถม บอกลาเสียงหัวเราะเริงร่าในวัยเยาว์ มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว นับจากนั้น คืนวันของแสนหมดไปกับการคบหากับหมู่ปลาแทนหมู่เพื่อนนักเรียน มันนานเกินไปเสียจนกระทั่งแสนลืมเลือนตัวหนังสือไปจากความทรงจำ

ส่วนผมโชคดีกว่าแสนมาก ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีอันจะกิน อีกทั้งยังเป็นคนเรียนเก่งระดับ TOP 5 ของโรงเรียนมาตลอด เมื่อเรียนจบมัธยมปลายในโรงเรียนประจำจังหวัด จึงมีโอกาสไปเรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ และสอบเข้ารับราชการกลับมาบรรจุที่บ้านเกิด และขณะนี้ ผมยังมีสถานภาพเป็นนักศึกษาปริญญาโทของมหา’ลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯอีกด้วย

3

ไม่กี่วันต่อมา ในวันที่ท้องฟ้ามีเมฆก้อนใหญ่ลอยเกลื่อนฟ้า เหนือหมู่บ้านชายทะเลของเรา แสนมาหาผมที่บ้านอีกครั้ง ยื่นซองจดหมายมาให้ --จดหมายของผกา แสนเร่งเร้าให้ผมอ่านจดหมายฉบับนั้นให้เขาฟัง...

เขียนที่บ้านของผกาจ๊ะ
พี่แสนจ๋า ผกาไม่เคยคิดจะรังเกียจพี่แสนเลย หากพี่แสนจะคิดรักผกาล่ะก็ ผกาขอให้พี่แสน
หมั่นขยันออกทะเลหาเงินสักก้อน เพื่อเป็นค่าน้ำนมให้พ่อแม่ของผกา แล้วจึงค่อยมาพูดจาสู่ขอกับแกทั้งสอง ตอนนี้ ขอให้พี่แสนอย่าเพิ่งมาเกาะแกะเกะกะ หรือแสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวของผกา เพราะจะทำให้พ่อแม่ไม่ชอบพี่แสนไปเสียก่อน ผกาขอสัญญาว่า ในชาตินี้ จะขอเป็นเมียพี่แสนแต่เพียงผู้เดียว พี่แสนนี่เท่ห์ ไม่เบาเลยนะจ๊ะ นอกจากจะจับปลาเก่งแล้วแหม …. ยังเดาะรู้ภาษาอังกฤษกับเขาด้วย แต่ที่หลัง พี่แสนอย่าเขียนภาษาอังกฤษอย่างนี้มาอีกเลย ผกามันคนความรู้น้อยอ่านไม่ออกหรอกจ้ะ

ด้วยรัก
จาก ผกา



เมื่อผมอ่านจบ แสนก็วิ่งปร๋อออกไปที่ชายหาด ตะโกนโวกเวกไม่ได้ศัพท์ บอกความดีใจของเขากับริ้วคลื่นและผืนน้ำทะเล ผมมองตามไปด้วยหัวใจที่เป็นสุข

4

นับจากวันนั้น แสนก็ออกทะเลเป็นบ้าเป็นหลัง หวังเก็บเงินมากำนัลพ่อแม่ของคนรักให้ได้เร็วที่สุด แม้แต่ในวันที่มีสายฝนโปรยปรายลงมา แสนยังคงดื้อรั้นพาเรือฝ่าคลื่นลมออกไป ไม่ไยดีกับคำทัดท้านของผู้ใด มรสุมและฝนเทถล่มใส่ เรือของแสนที่ลอยลำอยู่กลางทะเลคลั่งจนจมดิ่งลงสู่ใต้ท้องทะเลลึกในที่สุด ลูกเรือหนีตายกันอลหม่านไปคนละทิศละทาง แสนอาศัยเศษไม้ลอยคลออยู่กลางทะเล ตากแดดตากลมเป็นเวลาหลายวัน กว่าจะมีเพื่อนเรือประมงไปพบและช่วยนำส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด สภาพของเขาตอนนั้น ไม่ต่างอะไรไปจากคนตาย

“มึงมันโง่ ทำไมต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงถึงขนาดนั้น หน้าฝนหน้าพายุใครเขาออกเรือกัน ” ผมพูดกับแสนที่นอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ ร่างกายที่เคยใหญ่โตผ่ายผอมจนผิดรูป ผิวหนังไหม้เกรียมไปทั่วตัว จะยกเว้นก็เฉพาะลูกนัยน์ตา

“กู ไม่โง่หรอก มึงก็รู้ว่า กูต้องการหาเงินให้ได้เร็วที่สุด ”
ในตอนนั้น ผมให้รู้สึกแปลกใจกับน้ำเสียงของแสนที่ฟังดูก้องกังวานแจ่มใส ผิดวิสัยของคนที่เพิ่งรอดพ้นความตายมาอย่างฉิวเฉียด

“หากย้อนเวลากลับไปได้ กูก็จะยังคงจะทำเช่นนั้นอยู่ดี” ประโยคสุดท้ายของแสน- เจ้าคนไม่รู้หนังสือเหมือนสะกดข้าราชการอนาคตไกลว่าที่มหาบัณฑิตเช่นผม ให้ยืนงงเหมือนต้องมนต์

ค่ำแล้ว ในยามที่ผมดุ่มเดินออกมาจากโรงพยาบาลเพื่อไปขึ้นรถสองแถวที่ตลาดกลับบ้าน ก้อนสมองของผมครุ่นคิดถึงแต่เรื่องของแสน ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่า ไอ้เจ้าความรักนี่ มันจะมีค่า มีความหมาย ดลบันดาลให้คนเราเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ความรักที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมมองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี

เพราะแต่ไหนแต่ไรมา สำหรับผม คตินิยมความเชื่อที่ว่า “การได้เป็นเจ้าคนนายคน” “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข” หรืออะไรทำนองนั้น มันถูกฝังแน่นอยู่ในหัวมาตั้งแต่อ้อนแต่ออด สิ่งนี้ทำให้เมื่อความรักมาทักทาย ผมกลับขับไสไล่ส่งมันไปทุกที แต่ผมกลับยินดีที่จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับการแข่งขัน เพื่อความเป็นหนึ่ง ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน ครั้งใดที่ผมพ่ายแพ้ ความอิจฉาริษยาจะคอยเผาผลาญหัวใจผม ให้รุ่มร้อนเดือดดาล และหากครั้งใดผมชนะ ความโลภก็ไม่เคยอนุญาตให้ผมหยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นั้น บอกตามตรงครับว่า เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมคิดถูกหรือคิดผิดกันแน่ ?

5

และก่อนที่ผมจะคิดอะไรฟุ้งซ่านมากไปกว่านั้น ทันใด สิ่งมหัศจรรย์บางอย่างก็ได้เกิดขึ้น จู่ๆหูของผมก็แว่วได้ยินเสียงประหลาดลอยออกมาจากอกด้านซ้าย เสียงนั้นมันสั่งให้ผมวิ่ง และวิ่งไปอย่างสุดแรงเกิด!

ระหว่างที่วิ่งอยู่นั้น ผมให้รู้สึกว่าร่างกายคล้ายเบาหวิวดุจปุยนุ่น ผมรู้สึกโล่ง โปร่ง เบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิต นั่นเองที่ทำให้ตอนนี้ ผมวิ่งได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ตะกี้นี้เองครับ ในขณะที่ผมกำลังวิ่งแซงรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง ผมเผลอเหลือบมองไปที่แผงหน้าปัดของมัน แล้วผมก็ต้องร้องอุทานออกมาเสียงดังลั่น “พระเจ้าช่วย !” เมื่อมองเห็นเข็มไมล์ชี้ไปที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง !

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร จากโรงพยาบาลประจำจังหวัดมาสู่หมู่บ้านชายทะเลของผม ผมใช้เวลาวิ่งไม่ถึง 5 นาที พลันกระท่อมน้อยของแสนก็มายืนรางเลือนอยู่หว่างความมืดมิดตรงหน้า ดวงดาวเหนือกระท่อมน้อยส่งแสงกระพริบวิบวับสะท้อนเข้าดวงตา ขณะที่ร่างค่อยๆ เคลื่อนที่เข้าไปใกล้ทุกทีๆ แต่แล้วผมก็ต้องร้องเสียงหลงขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่สองขาหยุดนิ่งอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่หน้ากระท่อมพอดี เมื่อหวนนึกขึ้นมาได้ว่า

“ตายละ ! นี่ถ้าเกิดในกระท่อมของเจ้าแสน ไม่มีกระดาษเขียนจดหมายเหลืออยู่เลย แล้วเราจะเขียนจดหมายรักถึงสาวน้อยคนนั้นได้อย่างไร ค่ำมืดดึกดื่นป่านนี้แล้วด้วย จะไปหาซื้อได้ที่ไหนหนอ ? ”


Create Date : 11 มกราคม 2550
Last Update : 11 มกราคม 2550 14:59:07 น. 15 comments
Counter : 1277 Pageviews.

 
ห่างหายไปนาน หลังจากหลบระเบิดในช่วงปีใหม่
เข้าไปดูผลประกาศการประกวดบลอค ดูไปดูมาอ้าว มีบลอคเราไปติดอยู่ในเสี้ยวนึงของผลงานโดดเด่นด้วยเหรอ ใครโหวตให้บลอคเราหว่า
*ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังในบลอคนี้เสมอมา ในปีนี้เราจะมีเรื่องราวใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง และอยากให้ผู้อ่านทุกท่านได้ติดตามบลอคเล็กๆนี้กันกันต่อไป อย่าเพิ่งรีบทิ้งกันไปไหนละครับ "สวัสดีปีใหม่ 2550 ครับ"


โดย: เจ้ากอล์ฟ (ChronoCross ) วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:17:47:51 น.  

 
ไหน ไหน ก้อเข้ามาแล้ว ทิ้งรอยเอาไว้ให้เจ้าของบล้อกเขาสักหน่อย

เห็นชื่อเรื่องสั้น แล้วมันคุ้น มันคุ้นนะ

พอเข้ามาก็จริงดังว่า เป็นเพราะไม่คุ้นชื่อเป็นภาษาอังกฤษของเข้าของบล็อกนั่นเอง

ทั้งเนื้อเรื่อง ทั้งภาพประกอบ ทั้งเพลง เหมาะสมครับ เข้ากั้น เข้ากัน

สวัสดีปีใหม่เจ้ากอล์ฟ อย่างที่ลุงรันเรียกนะครับ


โดย: อนงค์นาง วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:19:07:40 น.  

 
ยังคงผลิตผลงานที่สุดยอดเหมือนเดิมของ หนุ่มชื่อรัน สมกับที่เป็นหัวหน้าแก็งค์ของเราจริงๆ ฮิฮิฮิ


โดย: คนธรรมดา IP: 58.9.106.81 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:21:20:42 น.  

 

ไอ้กอล์ฟ ...แหม ทำงงนะ ว่า ใครโหวตให้บลอคเราหว่า อาจารย์ก็เห็นเอ็งนั่งกดโหวตอยู่ทุกวัน ร้ายนะ ไอ้เวรรรรรรรร

ส่วนไอ้โอม ทะลึ่งละ ๆ

อนงค์นาง ก็ตามมาเฝ้าคุณรันถึงนี่เลยนะ

ป.ล. ไม่มีใครเม้นท์ เมนท์กันเองก้อได้เนอะ ชงเอง กินเอง


โดย: รัน IP: 124.121.183.178 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:21:43:41 น.  

 
มาตามที่แนะนำไว้

เรื่องนี้ ชีวิตใครหรือเปล่าครับ


โดย: กาแฟสอง (กาแฟสอง ) วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:0:14:50 น.  

 
แหมลุงรันก็ เข้าให้โหวตให้ตัวเองได้ที่ไหนล่า ถ้าโหวตให้ตัวเองได้คงได้ที่ 1 ไปแล้วล่ะ

**คนธรรมดา ทางเรารอเรื่องใหม่นายอยู่นะ ขอแบบว่ามาแล้ว โจ๊ะ!!เลยนะ


โดย: เจ้ากอล์ฟ (ChronoCross ) วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:1:14:57 น.  

 
อ้าว คุณกาแฟสองมาเหรอ ขอบคุณครับ
อ่อ เรื่องนี้นะเหรอครับ ส่วนหนึ่งของชีวิตจริงไอ้กอล์ฟมันครับ


โดย: รัน IP: 124.121.189.223 วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:9:22:08 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องสั้นน่ะ

มันโรแมนติคดี เขียนจดหมายให้คนรัก

สะท้อนให้ความละเอียดอ่อน ลึกซึ้ง

ของความรู้สึก ที่อดทนรอ.....

แต่เดี๋ยวนี้ เปลี่ยนไปแล้ว

ความรู้สึกเช่นที่ว่า แทบไม่หลงเหลือ

เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามามีบทบาท

ต่อการดำรงชีวิตประจำวันของเรา..........

แล้วจะแวะมาอ่านอีกน่ะ


โดย: Link_conner55 (Link_conner55 ) วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:13:48:26 น.  

 

ชอบเขียนจดหมายรัก...

แต่ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านหรือเปล่า


โดย: น้องเจ้าค่ะ (blue mint ) วันที่: 12 มกราคม 2550 เวลา:15:58:04 น.  

 
ลุง นางแค่ผ่านมาเองนะ ไม่ได้มาเฝ้าใครสักหน่อย

แล้วนี่ก้อผ่านมาอีกรอบ


โดย: อนงค์นาง IP: 203.188.27.52 วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:11:23:49 น.  

 
มาตามจดหมายรักที่ส่งไปหานะคะ ไม่มีเรื่องใหม่มานานเลยนะ


โดย: Wind IP: 124.157.174.79 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:18:29:01 น.  

 
หา....คุณกอล์ฟ มีการแอบส่งจดหมายรักด้วยรือ
แหมร้ายนะ ๆ


โดย: รัน IP: 124.121.198.101 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:21:14:54 น.  

 
เมื่อไหร่จะมีคนส่งจดหมายหวานๆ อย่างนี้ให้บ้างนะ


โดย: คนธรรมดา IP: 58.9.94.186 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:22:31:37 น.  

 
เพิ่งรู้นะว่าพี่เรา ก้อหวานเป็นเหมือนกันนะเนี่ยะ


โดย: นู๋เกด IP: 61.19.220.192 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:45:34 น.  

 
โอ้นึกย้อนอดีตค่ะเคยเขียนจม.รักนานมากๆเป็นความทรงจำที่ดีค่ะ ยังไงจะติดตามผลงานของอาจารย์ต่อไปนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ


โดย: snoopykung IP: 125.25.199.233 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:08:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ChronoCross
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










Friends' blogs
[Add ChronoCross's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.