~* พิธีเปิดสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม *~...กับอีกค่ำคืนที่แสนสุขของช้านนน.... ^_^
วันนี้มาพาเพื่อนๆ ไปชมภาพพิธีเปิดสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมกันค่ะ ู^__^ วันนี้ยังคงควงเพื่อนคนเดิมไปด้วยกันค่ะ (น้องลาเต้นั่นเอง) เราเริ่มขึ้นจากจุดพระราม 3 ค่ะ ไปถึงสะพานค่อนข้างสาย (เหตุเพราะอีช้านเอง T_T) จึงทำให้พลาดนัดกับเพื่อนท่านอื่น ไปถึงก็ตั้งตาตั้งตาเดินเลยค่ะ เพื่อจะขึ้นไปให้ถึงจุดบนกลางสะพาน ว่าแล้วก็ชมภาพแรกเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยดีกว่า...อิอิ...
กว่าจะเดินขึ้นมาถึงจุดนี้ก็ฟ้ามืดพอดี (เดินเยอะและนานมากๆ) นัดเพื่อนไว้อีกฟากนึงแต่ถึงตรงนี้การแสดงเริ่มขึ้นแล้ว จึงถูกสะกัดไว้ไม่ไห้ผ่านไป เราจึงจำต้องติดอยู่กับหลังเวทีการแสดงนั่นเอง (มุมดีชิบ..) แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ก็ถ่ายมันหลังเวทีนี่แหละ (การแสดงเริ่มแล้ว)
เป็นการแสดงโขนของโรงละครโจหลุยส์ค่ะ แต่ส่วนมากจะเห็นแต่เบื้องหลังซะมากกว่า พอน้องๆ เค้าแสดงเสร็จเลยขอถ่ายรูปน้องเค้าหน่อย...(น้องๆ น่ารักมาก) ยืนโพสท่าให้ถ่ายอยู่นานเหมือนกัน (ไม่มีท่าทีเบื่อ) ทั้งๆ ที่น่าจะเหนื่อยและร้อนน่าดู
หลังจากการแสดงบนเวทีจบ ก็จะเริ่มการแสดงด้านนอกของพลุแล้วค่ะ ก่อนจะดูของสวยๆ งามๆ ก็ต้องมีการเรียกน้ำย่อยกันก่อน ด้วยพลุไฟเล็กๆ
เริ่มแล้วๆ ของจริงมาแย้วววว...นัดแรกตกใจแทบตาย (ดังมากๆ) รูปแรกๆ ดูไม่จืดเลย เพราะมือเปล่าเอาไม่อยู่ (ขาตั้งที่เอาไปมันเตี้ยเกินและโดนชนตลอด) จนมีคุณพี่ผู้ชายใจดี 1 ท่าน สละที่ VIP ชิดขอบให้เข้าไป ถึงได้เอามือไปพาดไว้ตามเสา ตั้งเวลาล่วงหน้า 2 วินาที (เพราะไม่มีสายลั่นกล้อง) แล้วหลับหูหลับตากดมันลูกเดียว 555 ขออภัยที่ถ่ายมาไม่ค่อยดี (นี่ถือเป็นครั้งแรกของการลองถ่ายพลุและแสงไฟยามค่ำคืน)
เริ่มมันแล้วซิทีนี้ 555 กดไม่ยั้ง รอจังหวะแล้วกะๆ เอา (ไม่มีทฤษฎีอะไรเลยตู T_T) เพิ่งรู้ว่ามันถ่ายยากจัง แต่ตอนนั้นรู้สึกสนุกแล้วมีความสุขมากๆ เลยค่ะ ^_^
รูปสุดท้ายของพลุแล้วค่ะ (เท่าที่ความสามารถจะถ่ายมาแล้วดูเป็นพลุ) ตอนถ่ายเพลินมาก ลืมเหนื่อย ลืมเมื่อย ลืมมันทุกอย่าง แม้กระทั่งเพื่อนที่อยู่ข้างๆ 5555
พอการแสดงพลุจบก็เป็นอันเสร็จสิ้น ผู้คนก็เริ่มทยอยเดินลงกัน ส่วนเรากับคุณเพื่อนต้องเดินไปลงที่ทางสุขสวัสดิ์ (ซึ่งไกลโคตรๆ) ก็เก็บภาพไปเรื่อยเปื่อย รูปนี้ลองแหงนขึ้นข้างบนดูบ้าง ดูซิว่าบรรยากาศด้านบนเป็นยังไง...อิอิ..
ระหว่างทางเดินลงที่แสนจะยาวไกลนี่เอง มาถึงตอนนี้.... สังขารของเรามันเริ่มออกอาการแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มันลิงโลดมากๆ แต่ตอนนี้มันมาแล้วครับ (โคตร)เหนื่อย เมื่อย ปวดขา คอแห้ง(เพราะไม่มีน้ำขาย) ปวดไหล่มากๆ เพราะว่าไม่ได้ใช้ขาตั้ง จึงต้องอาศัยวางกับเสาแล้วประคองให้นิ่งที่สุด หนำซ้ำแขนก็ยังต้องคล้องไว้ด้วยกระเป๋าสะพายและขาตั้งกล้อง (เอามาทำไมฟ่ะ) แต่ก็ยังคงทำหน้าที่เก็บภาพไปเรื่อยๆ ระหว่างทางเดินค่ะ
ถึงแม้จะเหนื่อยแทบตายก็ตาม..อิอิ..ตอนนี้คิดถึงไอ้คนที่ลิงโลดบนสะพานจังเลย ตอนนั้นไม่เหนื่อย ไม่เมื่อย ไม่หิวอะไรทั้งนั้น แต่ตอนนี้โคตรหิวเลย หลายชั่วโมงบนนั้นไม่มีอะไรเข้าปากเลยนอกจากลม คอแห้งสุดๆ
ถึงปลายสะพานเจอเค้าขายน้ำอัดลม....เรา 2 คนปรี่เข้าไปเลยค่ะ เหลือแค่แป๊บซี่ 2 ป๋อง (คิดในใจตูตายแน่ ไอก็จะแย่อยู่แล้ว ยังจะเอาแป๊บซี่ไปบาดคออีก) แต่ตอนนั้นมันหิวน้ำมากแล้ว (หิวข้าวด้วย..อดมาตั้งแต่กลางวัน) ดึงห่วงได้ 2 คน ซัดโฮกเข้าไปเลยค่ะ เอิ๊กๆๆๆๆๆ ...ผลคือจุกอ่ะ (แต่นิ่งไว้รักษาฟอร์ม) คุณเพื่อนหันมามองหน้าแล้วพูดว่า "จุกอ่ะ" เราหันไปสวนทันทีว่า "เออ..เหมือนกันเลย" 55
สุดท้ายก็ต้องขอบคุณเพื่อนลาเต้มากๆ เลยน๊า (จุ๊บๆ) ที่ชวนอีช้านไปปลดปล่อยและทดสอบสมรรถภาพร่างกาย...อิอิ...
Create Date : 12 กันยายน 2549 |
|
42 comments |
Last Update : 12 กันยายน 2549 16:54:07 น. |
Counter : 1108 Pageviews. |
|
|
|