#ผู้บริหารผู้ไม่ยอมเสียหน้า
ผมเคยมีเจ้านายคนหนึ่งที่แกพร้อมจะทำทุกอย่างโดยแกต้องไม่เสียหน้า แกไม่สนอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง หรือลูกค้า แต่แกสนใจอยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือทำให้นายของแกพอใจ
นายผมคนนี้ไม่เคยคิดอะไรไกล แกเก่งแต่เรื่องเอาตัวรอดไปวันๆ กะล่อนปลิ้นปล้อนเก่ง มักจะไม่ยอมรับผิดหากไม่มีหลักฐานว่าแกเป็นคนสั่งการ และแกพร้อมจะโบ้ยความผิดไปให้ลูกน้องอยู่เสมอ
นายคนนี้มีพื้นฐานทางด้านการตลาด แกเติบโตมาได้เพราะช่วงที่สินค้ากำลังขายดี แกก็รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าแบบไม่สนว่าต้นทุนของบริษัทจะเป็นอย่างไร แกรับคำสั่งซื้อแบบขาดทุนมาเสมอๆ แล้วก็มาบังคับให้ผมที่ดูแลด้านบัญชีทำอย่างไรก็ได้ที่จะแสดงผลประกอบการให้ออกมาเป็นกำไร
ผมโชคดีนิดหน่อยตรงที่ช่วงที่แกเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ตอนนั้นยอดขายน้อย ยอดขายต่ำกว่าจุดคุ้มทุน นั่นหมายถึงผลประกอบการก็ควรจะออกมาเป็นขาดทุน แต่นายคนนี้ไม่ยอมให้ขาดทุนเด็ดขาด เพราะแกกลัวหมดอนาคตกับการเป็นลูกจ้างในตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ผมถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่สมควร ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งสร้างความอึดอัดใจอย่างมาก
ช่วงที่ผลประกอบการควรจะขาดทุนแต่ต้องแต่งบัญชีให้เป็นกำไร ผมก็แค่เลื่อนบันทึกการตั้งสำรองต่างๆ ออกไปในเดือนที่มียอดขายสูงๆ ก็แค่ปรับปรุงวิธีการบันทึกบัญชีที่ไม่ให้กระทบต่อระบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ ทรัพย์สิน รวมทั้งรายการที่จะมีผลกระทบไปถึงสรรพากรและผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ ผมยอมไม่ปฏิบัติตามหลักสม่ำเสมอในการบันทึกรายเดือน แต่รายไตรมาส รายครึ่งปี หรือรายปีผมต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานเสมอ ซึ่งไม่มีความผิดทางกฏหมาย ทางวิชาชีพ หรือศีลธรรมอันดี เวลาถูกตรวจสอบก็จะไม่เจอสิ่งที่ผิด เพราะยังไงก็แล้วแต่ บทสรุปจะถูกต้องตามมาตรฐาน ทางกฏหมาย และกฏข้อบังคับต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์เสมอไป ตรวจอย่าไรก็ไม่เจอความผิด เพียงแต่รายงานภายในจำเป็นต้องปรับแต่งเพื่อสนองตอบนายผู้ไม่ยอมเสียหน้าแค่นั้น
เมื่อเจอนายแบบนี้ผมก็รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรสำหรับเหตุการณ์ภายหน้า ผมเป็นคนทำแผนธุรกิจ ทำแผนการเงิน ผมรู้ว่าช่วงไหนจะกำไรมาก ช่วงไหนจะกำไรน้อย การบันทึกการตั้งสำรองต่างๆ จึงต้องปรับแต่งไปบันทึกมากๆ ในช่วงที่มีกำไรมากๆ และบันทึกน้อยๆ หรือไม่บันทึกเลยในช่วงที่ยอดขายไม่ค่อยดี สรุปโดยรวมก็คือทุกเดือนจะไม่มีผลขาดทุน ทุกไตรมาส หรือทุกรอบบัญชีที่ต้องรายงานตลาดหลักทรัพย์ การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ทำบัญชีก็จะเป็นไปตามมาตรฐานบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปอย่างถูกต้อง
เมื่อเจอนายแบบนี้การวางแผนทางการเงินต้องปรับเปลี่ยนประมาณการทางบัญชี หรือการตั้งสำรองต่างๆ ให้ใช้ผลประกอบการเป็นเกณฑ์ในการกำหนด ซึ่งก็จะตั้งสำรองมากๆ เวลากำไรมากๆ และตั้งสำรองน้อยๆ หรือไม่ตั้งเลยเวลาที่มีผลขาดทุนหากยังตั้งสำรองทุกเดือนๆ อย่างที่เคยทำมา
แต่ช่วงที่กำไรมากๆ จริงๆ ผมก็ไม่ได้รายงานผลประกอบการทั้ง 100% หรอกนะครับ แต่จะกันเอากำไรส่วนหนึ่งเอาไว้สำหรับช่วงที่ตัวเลขผลประกอบการจะต่ำกว่าประมาณการที่เจ้าของกิจการอนุมัติงบประมาณเอาไว้ ซึ่งมันก็คือการบริหาร KPI ของเราให้บรรลุเป้าหมายได้ตลอดเวลาอย่างสบายๆ
เจอนายแบบนี้จะเหนื่อยมากในช่วงเวลาที่ตัวเลขไม่ค่อยดี แต่พอช่วงเวลาดีๆ ก็สบายใจหน่อยเพราะนายพวกนี้จะไม่ค่อยอยู่ให้เห็นหน้า เพราะมักจะไปสอพลอเจ้าของบริษัทตัวจริงโน่น
อาชีพผมมันเหมือนเป็นดาบสองคม ถ้าเจอคนดีๆ ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าเจอคนชั่วๆ เจ้าของบริษัทอาจจะหมดตัว หรือถูกฮุบกิจการเอาได้ง่ายๆ ส่วนคนที่หลงเชื่อว่าตัวเลขรายงานทางบัญชีถูกต้องเสมอไปนั้นก็ต้องขอเรียนให้ทราบว่า "ตัวเลขบัญชีไม่ได้เชื่อถือได้ทั้ง 100%" เวลาอ่านงบการเงินก็อย่าเชื่อให้มากนัก แต่ที่ควรเชื่อก็คือ "งบกระแสเงินสด" ที่มีหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้เวลาอ่านงบการเงินว่าผลประกอบการที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นายแบบนี้มักจะอยู่ได้ไม่ค่อยนาน เพราะพวกนี้เขามีเป้าหมายที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่อยากให้นายแบบนี้อยู่นานๆ ก็ทำตัวเลขออกมาให้สวยๆ ทำให้นายเป็นจุดเด่นในการประชุมบอร์ดบริหารในแต่ละครั้ง ให้เขาหลงระเริงไปกับสิ่งที่เขาอยากให้เป็น ถ้าเจ้าของบริษัทเชื่อว่าผู้บริหารคนนี้เก่ง ก็จะย้ายให้ไปดูแลกิจการที่ใหญ่กว่า แล้วก็จะไปตกเหวตาย ณ จุดนั้น
อาชีพลูกจ้างอย่างเราคงไม่มีปัญญาไปคัดง้างกับนายประเภทนี้ ทางที่ดีเราก็ต้องเอาตัวรอดแบบเราก็ไม่เสียจะดีกว่า หากจะเดินหน้าชนเราเองต่างหากที่จะกลายเป็นคนเสีย
ด้วยความเคารพ
ศราวุู สุ
ปล. ระลึกถึงอดีตนายคนหนึ่งที่เป็นแบบนี้ วันนี้ท่านตกงานแล้ว และชื่อเสียงต่างๆ ที่เคยมี วันนี้ก็ไม่เหลือความดีอะไรอีกแล้ว