ถนนสายนี้มีตะพาบ 192/193/194
น้ำไหลออกตา+วางแผนวันหยุด+
เป้าหมายในปี (2561) นี้
ตะพาบรอบนี้มาทีเดียว 3 โจทย์ค่ะ
2 โจทย์เก่าของปี (2560) ที่กำลังผ่าน
และอีก 1 โจทย์ของปี (2561) ที่กำลังมา
เรื่องแรก
ปีเก่าและปีใหม่
เทศกาลปีใหม่แล้วเพื่อนๆ คงวางแผนวันหยุดไปเที่ยวกันแล้ว
ปีนี้ จขบ.วางแผนจะอยู่บ้านค่ะ
มีคิวปาร์ตี้เย็นวันที่ 29 กับบุฟเฟต์กลางวันวันที่ 30
ส่วน 31-1 อยู่บ้านไม่ไปไหน
เพราะว่ารถติดมาก ติดตั้งแต่ 2-3 วันก่อนแล้ว
นักท่องเที่ยวมาเลเซีย สิงคโปร์ ยังคงมาเที่ยวมาชิมอาหารไทยอยู่
ปลายปีโรงแรมแต่ละแห่งห้องเต็ม การท่องเที่ยวไทยยังไปได้
แต่เสียงบ่นระงมจากคนในพื้นที่ก็ยังคงอยู่
ปี 2560 กิจการขนาดเล็กผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด
ร้านค้าแผงลอยขายอาหาร ขนม เปิดตัวกันคึกคัก
โดยเฉพาะซุ้มน้ำชากาแฟขายแฟรนไชด์กันหลายแบรนด์
นอกจากเปิดแล้วปิดก็คึกคักพอกัน
หลายกิจการทยอยปิดตัวไป
ร้านใหญ่ที่ยังคงอยู่ก็ลดขนาดลงไปมาก
ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่บางแห่งปิดตัวไปอย่างไม่น่าเชื่อ
และหลายแห่งมีเคาน์เตอร์นั่งดื่มกินเพิ่มมาแทนชั้นหนังสือซีดีหายไป
หลายเสียงจากคนในพื้นที่ที่ไม่รู้จะส่งถึงหรือไม่อย่าง
เจ้าของบ้านเช่าเล่าว่าบ้านไม่เคยว่างร้างคนเช่านานขนาดนี้มาก่อน
มอเตอร์ไซค์รับจ้างเล่าว่าวันนึงวิ่งได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องกลับบ้าน
คนขายขนมตามบ้านเล่าว่าขายไม่ออกต้องเปลี่ยนสินค้าบ่อยๆ
แต่ละคนก็ต้องปรับตัวกันไปตามสภาพ
เรื่องที่ 2
ตลาดนิยาย
เป็นคนเขียนนิยายแล้วก็ต้องเล่าเรื่องนิยาย
เห็นแววหนังสือเล่มยังคงขายได้ คนไปงานหนังสือยังคึกคัก
แล้วเงินในกระเป๋ากับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จะมีผลกับการซื้อมากเท่าไหร่
ถึงแม้หนังสือจะยังไปได้
แต่สิ่งที่ได้เห็นคือตลาดอีบุ๊กรุ่งเรืองถึงขีดสุด
นิยายไม่จำเป็นต้องมาในรูปเล่มเช่นแต่ก่อน
ใครๆ ก็ทำอีบุ๊กขายเองได้
นอกจากนี้ราคาต่อเล่มก็มีส่วนในการตัดสินใจซื้ออย่างมาก
ไม่เพียงแต่ราคา
แนวนิยายยิ่งมีส่วนในการตัดสินใจซื้อที่สำคัญอันดับต้นๆ
นิยายไทยยังเป็นของขายได้ แต่ขายได้ไม่เท่านิยายจีน
นิยายวาย ไปต่างโลก เกิดใหม่ ขายดิบขายดี
นิยายรักโรมานซ์ อีโรติก
ยังแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดไปได้มากกว่านิยายรักทั่วไป
งานวรรณกรรมก็ยังขายได้ แต่ดีไหมไม่รู้
รู้แต่ปีนี้ซีไรต์ได้นักเขียนหญิงเป็นปีที่ 2 แล้ว
มีร้านหนังสืออิสระ อินดี้ เกิดขึ้นเยอะมาก
คอหนังสืออิสระก็มีเยอะ แต่ราคาต่อเล่มก็ไม่ได้น้อยเสียทีเดียว
คนซื้ออาจจะจำกัดเฉพาะกลุ่มยิ่งกว่าตลาดนิยายรัก
แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยก็ยังได้เป็นหนังสือเล่ม
เรื่องที่ 3
มีนิยายเป็นของตัวเอง
หลังจากนิยายผ่านพิจารณาจากสำนักพิมพ์เมื่อปลายปี 2559
ก็รอเวลาเห็นหนังสือออกมาเป็นรูปเล่ม
ระหว่างนั้นก็ทดลองวางนิยายขายในตลาดอีบุ๊กดูหนึ่งเรื่อง
การลงขายเองโดยไม่มี บก. นั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก
เห็นถึงความผิดพลาด
รู้สึกว่าตัวเองใจร้อนเกินไป เห็นเพื่อนลองก็อยากลองบ้าง
นิยายพอขายได้ ยอดขายดีทีเดียว แต่ไม่มากเท่าแนวโรมานซ์
ก็ถือว่าเป็นงานลองที่ได้ประสบการณ์ดีๆ
ทีนี้ก็เลยลองส่งงานประกวด
ผลคือตกรอบแรกแล้วก็เลยไม่อยากขาย
เอาไปปล่อยโหลดฟรีในเม็บ
ปรากฏว่ายอดโหลดสะพรั่งมาก
ถ้างานขายได้เท่างานฟรีคงรวยไปแล้ว
พอวางขายอีบุ๊กไม่นานก็ได้รู้ข่าวว
นิยายเล่มแรกกับสำนักพิมพ์กำลังจะมา
ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เห็นปกแรกที่สำนักพิมพ์โปรโมตในเพจ
น้ำไหลออกตาโดยไม่ต้องบิวต์
เป็นความดีใจ ปลื้มปริ่มและลุ้นที่สุดในปีนี้แต่...
ห่วงแรกคือ
จะขายได้ไหม คนอ่านจะชอบรึเปล่า
จะมีคนซื้อไหม ผลตอบรับจะเป็นยังไง
คนเขียนรับได้หมดทุกอย่างขอให้มีฟีดแบ็กกลับมา
ที่ว่ากันว่าเป็นนักเขียนต้องรับได้หมดทั้งดอกไม้และก้อนหิน
ได้รู้ซึ้งเห็นจริงตามนั้นเลย
หวังว่าในหนังสือ 1 เล่มที่เขียนมานานเป็นปีนั้น
จะไม่ทำให้คนอ่านต้องเสียเวลามากจนรู้สึกไม่คุ้มค่า
ห่วงต่อมาคือ
สำนักพิมพ์จะขายได้ไหม
ในภาวะที่ธุรกิจสิ่งพิมพ์ซบเซาขนาดนี้
หลังจากวางแผงเมื่อสัปดาห์หนังสือเดือนตุลาที่ผ่านมา
เห็นคนเดินงานเยอะๆ ก็น่าดีใจ
แต่ซื้อไหมก็แล้วแต่คนอ่านจะเปิดใจให้นักเขียนหน้าใหม่แค่ไหน
สำนักพิมพ์อาจจะเหนื่อยมากกับการเลือกเฟ้นต้นฉบับ
คนเขียนก็ไม่ต่างกัน เขียนยังไงให้โดนใจก็ไม่ง่าย
นอกจากงานขายก็มีร่วมเขียนเรื่องสั้นอีบุ๊กการกุศล
เพื่อโรงพยาบาลและผู้ป่วยยากไร้
เป็นโครงการของคุณหมอวี่ นักเขียนนิยายอีกท่าน
โดยได้แรงบันดาลใจจากก้าวคนละก้าวของพี่ตูน
งานนี้ได้รวมอยู่ในเล่มกับพี่ๆ นักเขียนดังหลายท่าน
โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
และรอบแรกก็บริจาคเข้าโครงการก้าวคนละก้าวแล้ว
เป็นเรื่องดีๆ อีกเรื่องที่แม้ไม่ได้ช่วยกาย ไม่ได้บริจาคเงินมากมาย
แต่ได้ช่วยด้วยงานเขียนที่รักก็ยังดี
ในขณะที่ตลาดนิยายยังลูกผีลูกคน ตลาดนิตยสารยิ่งซบเซาหนักกว่า
หลายเล่มปิดตัวไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นปีที่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการพัฒนาของโลกโซเชียล
การตามเกมช้าเป็นความพลาดอย่างร้ายกาจ
ใครปรับตัวก่อนได้ไปก่อน
คอนเทนต์บนเฟซบุ๊กกลายเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการเปิดอ่านนิตยสาร
ที่กว่าจะออกแต่ละเล่มข้อมูลล่าช้าจนกลายเป็นล้าสมัย
โฆษณาไม่กระจายมายังสื่อสิ่งพิมพ์
แต่ไปใช้บริการสื่อโซเชียลแทน
เพราะประหยัดงบกว่า ราคาถูกกว่า เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย
ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก
เราอาจจะได้เห็นการล้มหายตายจากของสื่ออื่นๆ เพิ่มขึ้น
หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เรื่องที่ 4
กลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง
ปีนี้กลับมาเล่นภารกิจพิชิตกองดองอีก
หลังจากว่างเว้นไปเกือบสองปี
เห็นเพื่อนๆ เล่น+อ่านกันแล้ว อารมณ์อยากอ่านก็มาเต็ม
เอาเข้าจริงๆ สกิลการอ่านกับการดองและซื้อ
แปรผกผันกันอย่างสิ้นเชิง
แต่ก็ยังดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย
เรายังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ได้พูดคุยกับคนคอเดียวกัน
สนิทกันบ้างไม่สนิทกันบ้าง
แต่เราต่างรักในการอ่านเหมือนกัน
นับว่าเป็นปีที่ไม่เลวสำหรับการอ่าน
เล่นกองดองมาครึ่งปี ได้ทลายไปห้าสิบกว่าเล่มก็นับว่าคุ้มแล้ว
เรื่องที่ 5
เป้าหมายในปี 2561
นอกจากชีวิตประจำวันที่ต้องดำเนินไปแล้ว
ปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเขียนนิยายให้จบอย่างน้อย 2 เรื่อง
รักดราม่า 1 เรื่อง
จีน 1 เรื่อง
รักดราม่าใกล้จบแล้ว เหลือขั้นตอนรีไรต์
ว่าจะส่งสำนักพิมพ์แต่จะผ่านหรือไม่ก็ยังไม่รู้
ส่วนงานจีนนั้นคือความสนุก
เริ่มจากภาพของฝากจากเวียดนามที่เพื่อนนักเขียนมอบให้แท้ๆ
เกิดเป็นไอเดียแล้วพล็อตก็มา เป็นครั้งแรกที่เขียน
ไม่คิดว่าจะทำได้แต่พอได้ลองแล้วสนุกมาก
เปิดโลกทัศน์ตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หวังว่าจะจบได้ในปีนี้
อาจลงขายอีบุ๊กเพราะไม่น่าจะส่งสำนักพิมพ์
เรื่องที่ 6
จะไม่สัญญา
ปีนี้ห่างหายการเขียนบล็อกไปมาก
มากจนรู้สึกว่าปีนี้ สายสะพายปลิวแน่นอน
แต่ไม่เป็นไร มีได้มีไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ที่ไม่ได้แน่ๆ คือปีนี้อดได้ 1000 จากบล็อก
เกิดจากผลของการไม่ได้เข้าบล็อก เขียนบล็อก
เป็นปีที่น้อยที่สุดตั้งแต่เขียนมา
เพื่อนบางคนห่างหายไปจากบล็อกเลยก็มี
ก็ยังนับว่าดีเพราะไม่ว่ายังไง
เพื่อนบล็อกก็ยังได้เจอกันในเฟซ ทักทายกัน คุยกัน
ถึงไม่ได้มากมายเหมือนเวลาไปเยี่ยมบล็อกต่างๆ
แต่มิตรภาพของเรายังคงอยู่เสมอ
เพราะที่นี่คือบ้านที่อบอุ่น
จะไม่สัญญาแล้วว่าจะทำให้ได้เท่านั้นเท่านี้
แต่ที่ได้แน่นอนคือถึงจะยุ่งมากแค่ไหน
ถนนสายนี้มีตะพาบก็ยังเขียนได้ครบทุกตอนอีกปี
ถึงแม้ปีนี้จะมีรวบรัด ตัดตอน
เขียนคร่อมในบล็อกเดียวก็ยังถือว่าได้ครบ
ส่วนปีใหม่นี้คงไม่ได้ส่งการ์ดเหมือนปีก่อนๆ
เพราะที่สะสมมาเอาไปแจกคนอ่านในงานหนังสือประมาณ 100 ชิ้น
สะสมไม่ทันแล้ว
ได้แต่ขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ดลบันดาลให้
เพื่อนๆ พี่ๆ พบแต่ความสุขความเจริญ
คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนา ร่ำรวยเงินทอง สุขภาพดีถ้วนทั่ว
มีสุขตลอดปี ทุกข์ภัยอย่าได้มี
สวัสดีปีใหม่ 2561 ค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆ จากคุณยายเก๋าและคุณญามี่ค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ