BlogGang.com : : ยมทูตสีแดง : สังขยาชาไทย สูตรชาวบล๊อก

สังขยาชาไทย สูตรชาวบล๊อก

5-12-2008

นั่งอ่านบล๊อกของคนอื่นอยู่ พอดีไปเจอสูตรวิธีการทำสังขยาชาไทยของ

คุณ aitai ซึ่งก็เป็นสูตรประยุกต์มาจากคุณ Clayann อีกที

v

ดูภาพแล้วน่าทานมากครับ แถมทำก็ง่าย เลยลองทำออกมาดูบ้าง

ปรากฏว่าอร่อยใช้ได้จริงๆ ครับ ลองทำไปแจกเพื่อนทานกัน

หลายคนก็บอกว่าอร่อยเหมือนกับร้านที่เขาขายเลย

ไม่รูชมจริงป่ะ แต่เห็นกินกันเป็นจริงเป็นจังมาก

v

ผมก็เลยนำมาเขียนเผื่อเพื่อนๆ ท่านอื่นอยากจะลองทำดูบ้างครับ

และขอยืนยันว่าง่ายจริงๆ ไม่เสียเวลามากเลย

แต่สูตรของผม จะปรับสัดส่วนของส่วนผสมเพิ่มขึ้นนิดหน่อย

ให้เข้มข้นมากขึ้น ใครจะลองไปทำตามก็เชิญครับ

แต่ถ้าทำเสร็จแล้ว รบกวนมาบอกด้วยครับ ว่าอร่อยหรือเปล่า 555

ส่วนผสม

1. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ

2. น้ำตาลทราย 8 ช้อนโต๊ะ

3. นมสด 300 กรัม (ในรูปก็ประมาณ 1 1/3 กล่อง)

4. ไข่ไก่ฟองใหญ่ 1 ฟอง

5. เกลือป่น 1 ช้อนชา

6. ชาไทยผงละลายน้ำ 5-6 ช้อนโต๊ะ (แล้วแต่ความเข้มข้นของรสชา)

7. นมข้นจืดคาเนชั่น ใช้ตอนราดเวลาจะรับประทาน

วิธีทำ
1. นำส่วนผสมทั้งหมดมาใส่ลงในชาม หรือหม้อที่เตรียมไว้

แต่อย่าพึ่งใส่ชาละลายน้ำน่ะครับ

2. ตีส่วนผสมทั้งหมดด้วยตะกร้อ ให้น้ำตาลและไข่ละลายเข้ากัน

3. เมื่อทุกอย่างละลายแล้่ว ให้ใส่ชาละลายน้ำลงไปทีละช้อนโต๊ะ

คนสลับไปจนน้ำชาหมด คนให้เข้ากันจนส่วนผสมกลายเป็นสีชา

ระหว่างนี้ถ้ามีเศษแป้งหรือไข่ที่ไม่ละลาย ให้ตักออกครับ

4. ตั้งกะทะใส่น้ำไว้ เปิดไฟให้น้ำเดือนก่อน

จากนั้นเอาหม้อตุ๋นส่วนผสมวางลงไป คนไปในทิศทางเดียวกัน

คนไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้ส่วนผสมจะเริ่มเหนียวและข้นขึ้น

(ส่วนตัวผมเท่าที่จับเวลา ใช้ไปประมาณ 10-15 นาทีครับ)

5. พยายามคนส่วนผสมให้ทั่วๆ สังเกตุว่าส่วนผสมเนียนข้นเข้ากันดีแล้ว

ให้ยกหม้อออกจากกะทะ แล้วคนต่ออีกสักพัก เพื่อให้ความร้อนระอุทั่วกัน

6. ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วค่อยแบ่งใส่ถ้วยแช่เย็นไว้ก็ได้ครับ

หรือจะทานแบบร้อนๆ ก็ดีเหมือนกัน แต่ระวังจะปากพองน่ะครับ 555

เพิ่มอีกนิดเวลาจะทาน ให้ราดนมข้นจืดเพิ่มลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ

พอจะตัดความหวานลงบ้างครับ

จากรูปสุดท้าย ผมราดลงไปเยอะหน่อย เพราะชอบครับ หวานมันดี

ทำออกมาแล้ว ได้ประมาณสองกล่องเล็กครับ ก็ทานกันได้ประมาณ 4-5 คน

เพิ่มเติมหน่อยว่า ถ้าชอบแบบข้นๆ ก็ใส่แป้งข้าวโพดเพิ่มอีกนิดหน่อยครับ

แต่สูตรนี้จะหวานพอดีน่ะครับ ถ้าชอบมากก็เพิ่มน้ำตาลไปอีก

ขอให้เพื่อนๆ ทานกันให้อร่อยน่ะครับ

และทั้งหมดนี้ขอยกความดีความชอบให้กับผู้แนะนำสูตรทั้งสองท่านข้างบน

ขอบคุณครับ